Ep.9
Jaokhun talk.
07.30 น.
แอดดดดด~
"เฮียยยยย!! เห็นเสื้อแขนยาวเจ้าขาที่แม่ซื้อให้ตอนไปเที่ยวเกาหลีป่ะ? "
"เจ้าขา เฮียบอกกี่ครั้งแล้วว่าก่อนจะเข้าห้องคนอื่นให้เคาะประตูก่อน-_-" ผมกำลังจะใส่นาฬิกาข้อมือก็ต้องหยุดชะงักแล้วหันหน้าไปดุน้องสาวตัวแสบของตัวเอง ที่เปิดประตูเข้าห้องผมมาโดยที่ไม่ได้เคาะขออนุญาตเจ้าของห้องก่อน เพราะผมเคยสอนเจ้าขาหลายครั้งแล้วไอ้เรื่องมารยาทเนี่ย แต่ก็ไม่เคยจำสักที-_-
"ก็คนมันลืม!! ตกลงเฮียเห็นปะ? เร็วๆ เจ้าขารีบ" เจ้าขาบอกผมก่อนจะถามผมอีกครั้ง แล้วสีหน้าของเจ้าขาไม่ได้สำนึกกับสิ่งที่ผมพึ่งพูดไปเลยสักนิด แถมยังพูดเร่งเอาคำตอบกับผมอีก-_-
"อยู่ในตะกร้าผ้า แล้วนี่เราแอบเข้ามาเล่นในห้องเฮียตอนเฮียไม่อยู่อีกแล้วใช่มั้ยเจ้าขา? -_-" เข้ามาเล่นเฉยๆ ผมจะไม่บ่นเลยครับ แต่เจ้าขาเข้ามาทีไรต้องหยิบของในห้องผมติดไม้ติดมือออกไปหรือไม่ก็ทำห้องผมรกตลอด
นี่ล่าสุดน่าจะเข้ามานอนเล่นหรืออะไรก็ไม่รู้ทำเตียงนอนผมยับยู่ยี่ไปหมด และของหลายๆ อย่างถูกเอาออกมาวางเต็มเตียง แล้วก็ถอดเสื้อผ้าไว้เกลื่อนพื้นห้องอีกต่างหาก
ผมกลับบ้านมาเมื่อคืนหลังจากไปส่งฟ้าใสเสร็จ พอเห็นสภาพห้องผมแทบอยากกลับไปนอนคอนโดเลยทันที แต่ผมก็ได้เข้าบ้านมาแล้ว ถ้ากลับออกไปเดี๋ยวแม่ก็บ่นเพราะมันก็ดึกแล้ว อีกอย่างแม่ผมยิ่งอยากให้ผมนอนที่บ้านมากกว่าคอนโดด้วย
"อะไร? เฮียอย่ามั่วดิ! มากล่าวหาเจ้าขาแบบไม่มีหลักฐานงี้ได้ไง!? " เจ้าขาพูดพร้อมกับทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้เดินผ่านหน้าผมไปคุ้ยตะกร้าผ้าที่ใส่แล้วของผม เพื่อหาเสื้อแขนยาวที่ผมพึ่งโยนลงตะกร้าไปเมื่อคืน
"เจ้าขา-_-" ผมกดเสียงต่ำเรียกเจ้าขาที่ไม่ยอมรับกับสิ่งที่ตัวเองทำ แล้วยังมาว่าผมกล่าวหาเฉย
ในบ้านนี้ก็ไม่มีใครเข้าห้องผมบ่อยเท่าแม่กับเจ้าขาแล้ว แต่จะให้ผมคิดว่าแม่เป็นคนเข้ามาทำห้องผมรกหรอ? ไม่มีทาง! แม่มีแต่จะมาทำให้สะอาดน่ะสิ ก็เหลือแค่ยัยน้องตัวแสบของผมนี่แหละ ที่ไม่รู้จักโตสักที เรียนจนจะจบมหาฯลัยอยู่แล้วแท้ๆ
"เออๆ เจ้าขาขอโทษ ต่อไปจะไม่ทำรกแล้ว! " สีหน้าโคตรสำนึกผิด! (ประชด)
"-_-" ผมเหนื่อยใจกับน้องสาวของตัวเองจริงๆ
"สายแล้ว! เจ้าขาไปก่อนนะเฮีย! จุ๊บ! " พูดจบเจ้าขาก็กระโดดขึ้นมาจุ้บแก้มผมทีนึงก่อนจะรีบวิ่งออกจากห้องผมไป
":) " พอเห็นแบบนี้แล้วผมก็อดยิ้มเอ็นดูน้องตัวเองไม่ได้ทุกครั้ง ไม่ว่าจะโตแค่ไหนเจ้าขามันก็ยังเป็นเจ้าขาน้องสาวตัวแสบของผมอยู่ดี แถมยังชอบหอมแก้มผมเหมือนตอนเด็กๆ อยู่เหมือนเดิม
"อ่าวเจ้าขุนลงมาแล้วหรอลูก? วันนี้แม่ทำข้าวต้มกุ้งใส่เห็ดหอม ของโปรดเจ้าขุนด้วยน้า~" แม่ทักขึ้นมาทันทีที่เห็นผมเดินเข้ามาให้ห้องอาหาร ทำให้ผมยิ้มออกมาทันทีกับความน่ารักของแม่
":) "
"ถึงว่าสิทุกครั้งไม่เห็นใส่เห็ดหอม...พอลูกกลับบ้านทีนี่ใส่เอาอกเอาใจกันใหญ่เลยนะ-_-" พ่อที่นั่งกินอยู่ก่อนแล้วบ่นแม่ขึ้นมาเบาๆ แต่จงใจให้ผมกับแม่ได้ยิน
"ก็ลูกกลับบ้านทั้งทีนี่นา~ มานั่งเร็วเจ้าขุน บอกเลยว่าวันนี้แม่ตั้งใจทำสุดฝีมือเลยน้าา"
"ครับ :) " ผมยิ้มให้แม่แล้วเดินไปนั่งลงข้างๆ พ่อที่นั่งอยู่กินข้าวอยู่หัวโต๊ะ ช่วงนี้คุณปู่กับคุณย่าไม่ได้อยู่บ้านหรอกครับ ตอนนี้น่าจะเที่ยวกันอยู่ยุโรปนู้นแหละ
"เป็นไงบ้างลูก? ทำงานเหนื่อยมั้ย? ป๊าเราใช้งานเราหนักหรือเปล่า? " แม่ถามผมขึ้นมาระหว่างที่เรากินข้าวกันได้สักพัก
"ไม่หนักเลยครับแม่ สบายมาก :) " ผมบอกแม่ไป ถึงแม้บางวันงานจะเยอะมาก แต่ผมก็ไม่อยากพูดให้แม่เป็นห่วง เพราะมันก็ไม่ได้หนักหนาอะไร ที่แม่ถามเพราะว่าแม่ไม่ได้ทำงานที่บริษัทใหญ่แล้ว เพราะพ่อไม่ยอมให้แม่ทำ กว่าจะพ่อจะพูดให้แม่ยอมได้ก็ทะเลาะกันจนบ้านเกือบจะแตกเลยล่ะครับ
"ป๊าบอกแม่ว่าที่ประชุมเมื่อวานเราทำได้ดีมากแถมบอร์ดบริหารยังชมลูกกันเกือบทุกคน เก่งมากเลยเจ้าขุน^^"
"อะไรเจน!? ฉันพูดแบบนั้นตอนไหน!? " อ่า...นี่พ่อแอบมาชมผมให้แม่ฟังอีกแล้วสินะ เพราะตั้งแต่ผมโตขึ้น ต่อหน้าผมพ่อไม่เคยชมไม่เคยพูดว่าเป็นห่วงสักครั้ง แต่จะแอบมาพูดกับแม่ตลอด
"นายพูดเมื่อวานไง นี่นายจำไม่ได้'อีกแล้ว'หรอว่าพูดชมลูกไป? " แม่พูดแซวพ่อไปโดยเน้นคำว่าอีกแล้ว แบบชัดๆ เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พ่อเป็นแบบนี้น่ะสิ
"=_="
"ที่ผมทำได้ดีก็แบบนี้เป็นเพราะป๊านั่นแหละครับแม่ ถ้าไม่ได้ป๊าคอยแนะนำคอยสอน ผมก็คงทำไม่ได้ขนาดนี้ :) "
"เห็นมั้ยเจน ที่ลูกทำได้ก็เพราะฉัน" พ่อพูดขึ้นอย่างภูมิใจ ขี้อวดจังเลยนะพ่อผมเนี่ย55
"จ้าาาาาา! ~ รีบๆ กินข้าวทั้งพ่อทั้งลูกเลย เดี๋ยวไปทำงานสาย" จากนั้นเราทั้งสามคนก็ตั้งใจกินข้าวตามที่แม่บอก ระหว่างที่กินก็มีพูดคุยกันบ้างนิดหน่อยตามประสาพ่อแม่ลูก
วันนี้เจ้าขาต้องรีบไปมหาฯ ลัยเพราะมีควิซเช้า ไม่งั้นในโต๊ะคงคุยสนุกกว่านี้แน่ เรากินไปคุยไปจนกระทั่งกินอิ่ม แล้วแม่ถามผมขึ้นมาประโยคนึงที่...
"ลูกกับฟ้าใสนี่...มีอะไรกันยัง? "
"อึก! แค่กๆ มะ แม่ครับ!? " ผมแทบจะสำลักน้ำที่กำลังกินอยู่เมื่อได้ยินประโยคที่แม่ถามผม คำถาม18+ชัดๆ แม่ผมจะถามตรงไปไหมเนี่ยย? ผมไม่คิดว่าแม่จะถามผมตรงขนาดนี้= =
"ฮ่าๆๆๆ ตอนนี้ให้ลูกได้เป็นแฟนกันก่อนเถอะเจน เรื่องนั้นอย่าพึ่งไปคิดถึงเลย55" ส่วนพ่อก็ระเบิดหัวเราะออกมาพร้อมกับพูดออกมาทันทีเมื่อได้ยินคำถามของแม่
"สมัยนี้ไม่ต้องเป็นแฟนก็มีอะไรกันได้ปะ? "
"ว่าไงไอ้เสือตอบแม่ของเราไปสิว่าถึงไหนละ" พ่อหันมาถามผมด้วยสายตากรุ่มกริ่ม ตอนแรกก็เหมือนพ่อจะช่วยผมนะ แต่ไหงเป็นแบบนี้ได้-_-?
"โอ๊ยไม่ต้องตอบแม่แล้ว! ดูจากสีหน้าแม่ก็รู้แล้วว่ายังไม่ได้..."
"..." ผมไม่รู้จะพูดอะไรเลยจังหวะนี้
"แต่แม่ขอเตือนเราด้วยความหวังดีเลยนะเจ้าขุน...ยิ่งเราช้าโอกาสของเราก็จะยิ่งน้อยลง ความอดทนน่ะมันมีขีดจำกัดนะ ถ้าเราไม่ทำอะไรให้มันชัดเจนสักที ฟ้าใสอาจจะไปหาคนอื่นที่ให้ความชัดเจนกับเธอมากกว่าก็ได้! "
"!!! " แม่พูดแค่นั้นแล้วก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ เพราะแม่น่าจะปล่อยให้ผมได้คิดเองมากกว่า ผมก็ไม่ได้คิดจะปล่อยให้มันนานกว่านี้แล้วล่ะ ผมว่าผมใจเย็นมานานเกินพอแล้ว และต่อไปนี้ฟ้าใสเตรียมตัวรับมือกับผมได้เลย
หนึ่งสัปดาห์ต่อมา~
09.00 น.
XX. Company
วันนี้ช่วงเช้าผมไม่เข้าไปทำงานที่บริษัท เพราะผมมีธุระบางอย่างที่ต้องมาจัดการที่บริษัทโฆษณาชื่อดังแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ย่านใจกลางเมือง หลังจากที่ผมได้อ่านข้อมูลที่ผมให้คนไปสืบมาให้เรียบร้อยแล้ว นี่เป็นแค่หนึ่งในบริษัทที่ผมได้ข้อมูลมาและเป็นบริษัทที่ใหญ่และมีชื่อเสียงมากที่สุดของวงการโฆษณา ผมเลยเลือกที่จะมาบริษัทนี้ด้วยตัวเอง ส่วนที่เหลือผมก็ให้คนของผมไปจัดการ
"มันคืออะไรครับ? " ผู้จัดการบริษัทโฆษณาชื่อดังแห่งนี้ถามผมอย่างไม่เข้าใจทันทีที่ผมหยิบเอกสารออกมาวางตรงหน้าตัวเองก่อนจะใช้มือเลื่อนไปตรงหน้าเขา
"เปิดดูสิครับ" ผมพูดออกมาอย่างสบายๆ พร้อมกับลอบมองพฤติกรรมของคนตรงหน้าที่กำลังเปิดซองเอกสารที่ผมบอกให้เปิดดู
"!!! " เขามีสีหน้าตกใจทันทีที่ได้อ่านข้อมูลในเอกสารนั้นคร่าวๆ
":) " ผมยิ้มออหมาอย่างพอใจที่เห็นสีหน้าของคนที่นั่งอยู่ตรงข้าม เป็นอย่างที่ผมคิดจริงๆ สินะ
"ผะ ผมไม่เข้าใจ คุณเอามาให้ผมดูทำไม? " ผู้จัดการพูดด้วยสีหน้าเลิกลั่กพร้อมกับพยายามทำหน้าเสียงให้ดูปกติ
"ก็...ให้ดูเพื่อเป็นช่องทางชีวิตคุณไงครับ ผมคิดว่าคุณน่าจะอยากเปลี่ยนงาน? ไม่สิ...บางทีคุณอาจจะอยากว่างงาน! " ผมพูดพร้อมกับจ้องหน้าผู้จัดการบริษัทคนนี้ไปด้วยสีหน้านิ่งๆ ที่พร้อมจะเชือดเฉือน
"!!! นี่คุณขู่ผมหรอ!? " ผู้จัดการบริษัทโมโหขึ้นมาทันทีที่ผมพูดจบ แต่คนอย่างผมไม่เคยขู่ใคร! เพราะถ้ามันไม่เดินตามเกมส์ของผม ผมทำจริงแน่!
"คุณคิดแบบนั้นหรอครับ? ...แต่ผมว่าผมไม่ได้ขู่นะครับ จากข้อมูลที่ผมเห็นในเอกสารนั้น เลยทำให้ผมคิดว่าชีวิตคุณต่อจากนี้มันก็น่าจะเป็นแบบที่ผมพูด...ก็แค่นั้นเอง" ผมชี้ไปที่เอกสารที่อยู่ในมือของผู้จัดการบริษัทและไหวไหล่เบาๆ เหมือนมันเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้
"!!! "
"..." ผมนั่งเงียบเพื่อดูท่าทางของมันและประเมินสถานการณ์ตรงหน้า
"คุณ...เอาข้อมูลพวกนี้มาได้ยังไง!? " ผู้จัดการบริษัทตั้งสติแล้วถามผมออกมาด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ พร้อมกับลอบมองผมไปด้วย หึ!
"คุณคิดว่าเงินทำอะไรได้บ้างล่ะ?" บนโลกใบนี้อำนาจเงินมันทำได้มากกว่าที่ทุกคนคิดอีกนะครับ และคนมีเงินมากกว่าย่อมได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการอยู่แล้ว และก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่ผมจะใช้เงินซื้อข้อมูลพวกนี้มา
"..." มันเม้มปากตัวเองเข้าด้วยกันและนั่งคิดด้วย
"จริงๆ ผมจะไม่เอาเรื่องคุณก็ได้นะครับ ถ้าคุณยอมทำตามที่ผมบอก...? " ผมพูดพร้อมกับเอนหลังพิงโซฟามองมันด้วยท่าทีสบายๆ เพราะยังไงงานนี้ผมก็มาเหนือกว่าอยู่แล้วสีหน้าเครียดๆ
"คุณเป็นใคร!!? ต้องการอะไร!? " หึ! คำถามนี้แหละคือสิ่งที่ผมต้องการสำหรับวันนี้
"ผมว่าคุณคงหาประวัติผมได้ไม่ยากหรอก...หึ! " มันไม่ใช่เรื่องยากเลยครับที่ใครจะหาประวัติผมได้ แต่จะหาได้มากแค่ไหนก็แล้วแต่ความสามารถ และประวัติผมมีมากกว่าคนทั่วไปจะหาเจอแน่นอน!!
"..."
"แต่ตอนนี้...ผมต้องการให้คุณและทีมงานของคุณแก้ไขงานโปรโมทง่อยๆ นี้ของคุณซะ! "
"ได้! ไม่มีปัญหา :) " มันรีบพูดแล้วยิ้มออกมาทันทีที่ผมพูดจบ หึ! แต่อย่าคิดว่าผมต้องการแค่นี้ล่ะ เพราะว่ามันยังมีอีกเรื่องที่ผมยังไม่รู้ และผมคิดว่ามันต้องรู้แน่ๆ ...
"แล้วก็...บอกผมว่าใครอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้!! "
"!!! "
Jaokhun talk end.