ตอนที่ 5
คิดถึงพี่มั้ย
“อ่าส์ ออมๆๆ”เขาครางเรียกชื่อเธออยู่ซ้ำๆ มือสาวท่อนของตัวเองถี่เร็ว ภาพมากมายของร่างขาวเล็กนั้น ผุดขึ้นมาหัวเขา
อยากจะกดเธอลงบนพื้นแล้วอยากกระแทกตัวตนเข้าไปนัก เขาครางลั่นห้องก่อนสมองเริ่มจะขาวโพลน ก่อนที่ร่างจะกระตุกแรงและน้ำขาวขุ่นก็พุ่งออกมาจนเลอะเปรอะเปรื้อนไปหมด
“ไอ้ครามเอ้ย”
เขาสบถด่าตัวเองในใจ ขณะเช็ดทำความสะอาดตัวเองในห้องน้ำ และเมื่อเดินออกมาก็พบกล่องเค้กกล้วยหอมวางอยู่บนโต๊ะด้านล่าง
เจ้าของเค้กกล้วยหอมจะรู้ตัวมั้ย ว่าเขาครางชื่อเธอซ้ำๆไม่รู้กี่ครั้ง ที่เขาช่วยตัวเองยามต้องการปลดปล่อย
เธอคงไม่รู้ ...และเขาก็ไม่มีวันจะให้เธอรู้
.
“อ้าวคราม ยืนอยู่นี่เองกูนึกว่ามึงเข้าบ้านไปแล้ว”
เจตต์ ทักเมื่อเดินออกมาสูบบุหรี่ด้านหน้า
“เปล่า กูแค่มาสูดอากาศแล้วคิดอะไรหน่อย” เขาตอบเบาๆ มือรับบุหรี่ที่จุดแล้วจากเพื่อนมาจรดปาก ตาเปรยขึ้นมองชั้นบนของบ้านที่เปิดไฟสว่าง แสงเลือนลางจากม่านทำให้เขารู้ว่าเธอขึ้นไปบนห้องนอนแล้ว
“เดี๋ยวอีกสักพักกูจะกลับละ พรุ่งนี้ว่าจะพาแม่ไปตรวจสสุขภาพหน่อย”
“เออๆ ตามสบาย”
ทั้งสองยืนคุยกันอยู่เพียงครู่ ก่อนจะหายเข้าไปหลังบ้านอีกครั้ง และนั่งดื่มกันต่อไม่นาน ก็เริ่มทยอยกลับ
อรวรรณ เงี่ยหูฟังและพยายามชะโงกโดยแง้มม่านหน้าต่างไปดู ก็พบว่าเจตน์ และเพื่อนพี่ชายสองสามคนเดินไปยังรถที่จอดหน้าบ้านและทยอยกลับ
...พี่คราม ก็น่าจะเดินกลับไปบ้านเขาแล้ว
ตากลมโตเบิกโพลงมองเพดาน เมื่อคิดถึงเหตุการณ์เมื่อสักครู่ ปลายนิ้วเรียวไล้แตะริมผีปากตัวเองช้าๆ มืออีกข้างไล้ยังเนินเนื้ออวบอิ่มที่ชื้นแฉะ
คิดถึงพี่มั้ย
เคยมีอะไรกับแฟนมั้ย
คำถามของเขาดังแว่วเข้ามาในโสตประสาท พร้อมสัมผัสจากปลายลิ้นสากร้อนที่บดขยี้จูบ และพรมดูดเม้มไปทั่วร่าง นิ้วเรียวแข็งเขาบดคลึงจุดกระสันต์จนร่างของเธอบิดเกร็ง
น้ำหวานเธอทะลักล้นออกมาด้วยแรงปราถนา
“อื้อ เฮือก!”
เธอสะดุ้งตื่นมากลางดึก มองนาฬิกาข้างผนังพบว่าเป็นเวลาตีหนึ่งยี่สิบห้านาที จึงพยุงกายลุกขึ้นเพื่อควานหาขวดน้ำดื่มเพื่อดับกระหาย ด้วยรู้สึกลำคอแห้งผากยิ่ง
ฝันบ้าบอ! ยิ่งคิดยิ่งฝัน จนกระหายน้ำ
ไปเอาน้ำเย็นข้างล่างดีกว่าจะได้ชื่นใจ
คิดได้ดังนั้นจึงเปิดประตูห้องย่องลงมาด้านล่าง ห้องพี่ชายปิดเงียบ คงน่าจะหลับไปแล้ว ส่วนพ่อกับแม่น่าจะกลับค้างที่โรงแรมที่ไปสัมมนา
เธอจึงค่อยๆ ย่องลงมาด้านล่างอย่างระมัดระวัง และไม่เปิดไฟ ด้วยคุ้นชินกับทุกมุมในบ้านอยู่แล้ว
กึกๆ
ประตูตู้เย็นถูกเปิด ก่อนที่เธอจะส่องเข้าไปด้านในและหยิบขวดน้ำเปล่าและน้ำส้มคั้น เปิดดื่มอย่างหิวกระหาย
ฟู่ๆ
“อะ”
ลมหายใจอุ่นร้อนที่รวยรดรินอยู่ด้านหลัง พร้อมมือหนาที่โอบมาจากด้านหลัง ทำให้ อรวรรณ ขนอ่อนด้านหลังลุกชูชัน และเริ่มร้อนผ่าวไปทั่วร่าง
“พี่คราม!!!”
เธออุทานอย่างตระหนก เมื่อวงแขนแข็งแรงโอบรอบร่างบางของเธอจนลอยละลิ่วจนดันไปชิดไอซ์แลนด์ของห้องครัว
“นอนไม่หลับเหรอ”
เขาถามเสียงอ่อนโยน ซุกหน้าลงใกล้และสูดดมกลิ่นหอมจากเรือนผมสีคาราเมล ก่อนจะไล้สันจมูกโด่งยังปรางแก้มเนียนอย่างหลงไหล
“ปะ..ปล่อยออมก่อน เดี๋ยวพี่อัฐมาเห็น”
“อัฐเมาหลับไปแล้ว ช้างมาฉุดก็ไม่มีทางตื่น”
เขากระซิบบอกข้างหู มือล้วงเข้ายังชุดนอนลายหมีพูว์ไล้ยังแผ่นหลังนวลเนียนอย่างเพลิดเพลิน
“ละแล้ว ทำไมพี่ครามถึงมาอยู่นี่”
เธอถามอย่างสงสัย พยายามดันกายเขาออกห่าง เมื่อเห็นว่าร่างชิดกับผนังเย็นของห้อง และอกหนาของเขาเบียดเสียดจนอารมณ์เริ่มพลุ่งพล่าน
“ไอ้อัฐมันเมาเลอะเทอะ พี่ต้องหามมันขึ้นนอน..มันเลยขอให้นอนเป็นเพื่อน”
เธอเพิ่งสังเกตว่า เขาใส่เสื้อยืดตัวใหญ่ของพี่ชายเธอและกางเกงนอนลายช้างที่พี่ชายชอบใส่
พี่อัฐใส่ก็งั้นๆ ..แต่พอมาอยู่ในตัวพี่ครามทำไมดูหล่อจัง
แค่คิดไว้ในใจอย่าได้พูดออกไปเชียว เดี๋ยวจะเป็นเรื่องวุ่นวายเหมือนที่ผ่านมา
“ปล่อยออมก่อนได้มั้ย”
สุดท้ายเธอก็ต้องเอ่ยเสียงหวาน แกมข้อร้อง ด้วยกลัวใจตัวเองจะเตลิดไปมากกว่านี้
“ไม่อยากปล่อยเลย ..พี่คิดถึงออม”
ไม่อยากจะเชื่อ ว่านี่คือคำพูดจากปากพี่คราม คนที่ไล่ตะเพิดเธอจากห้อง ไม่รู้กี่ครั้งก่อนที่เขาไปโครงการต่างจังหวัด
“อย่ามาหลอกเด็กเลยค่ะ”
“ออมไม่ใช่เด็กแล้วนิ”
เขากระซิบเบาๆ มือไล้ยังทรวงอกนิ่มที่ไร้ชุดชั้นใน ก่อนจะบีบเคล้นเต้างามอย่างแรง “เต็มไม้เต็มมือขนาดนี้ จะเด็กได้ไง”
“พี่ครามกำลังรังแกออม”
เธอตัดพ้อ ปากเริ่มสั่นระริก
..ความจริงเธอชอบที่เขาสัมผัส แต่หัวใจตัวเองก็ค้านว่าไม่ควรจะล้ำเส้นเหมือนที่ผ่านมา ด้วยพอทราบว่าคนอย่าง พี่คราม แทบจะไม่เคยจริงจังกับใคร แม้แต่กับ พี่ปิ่น คนสวยคนนั้น
“พี่อยากได้ยินคำตอบ”
เขาซุกหน้าลงเนินเนื้ออวบอิ่มของเธอ และขบเม้มเบาๆฝากรอยกุหลาบสีจางๆบนเนื้อสาว มืออีกข้างดันกายเธอให้ชิดกับผนังและแทรกตัวเข้ามาระหว่างขาเรียวที่แยกออก
“คำตอบอะไร”
“คิดถึงพี่มั้ย”
“.....”
“คิดถึงมั้ยครับ”
เสียงนุ่มเริ่มจะเข้มขึ้น ลิ้นร้อนตวัดเม้มอกอวบอิ่มและดูดเม้มเสียงดังจ๊วบจ๊าบลั่นห้องครัว
“มะ..ไม่”
“ปากแข็งจัง”
“ทำไมต้องคิดถึง พี่ครามเองก็หายไปเป็นเดือน”
เธอจับหน้าเข้าไว้ให้เงยขึ้นมาสบตา พลันน้ำตาก็เหมือนจะเริ่มไหลรื้น แต่เธอก็กลืนมันลงคออย่างรวดเร็ว
“พี่ไปทำงานกลางทะเลครับ”
เขาบอกเสียงสั่น ความจริงเขาก็สามารถหาเวลาติดต่อเธอได้ แต่ลึกๆเขาอยากจะทบทวนหัวใจและความต้องการของตัวเองที่สับสนหลายอย่าง
“แต่พี่ก็ยังติดต่อแฟนได้นิ”
เธอเบือนหน้าไปอีกทาง เมื่อรู้สึกว่าแก่นกายของเขาเริ่มแข็งชูชันจนดันร่างกายส่วนล่างของเธอ
“พี่ไม่ได้คบใครแล้ว”
เชื่อได้แค่ไหน ..เมื่อกี้ก็เห็นยืนคุยโทรศัพท์นานสองนาน
“...ออมอย่ามีแฟนได้มั้ย”