“เชิญเข้าไปเลยค่ะ ท่านประธานรออยู่” เมื่อทั้งสองมาถึงที่หน้าห้องของเชน เลขาหน้าห้องของเขาก็เชิญลภิสราเข้าไปในห้องทันที ทำให้หญิงสาวรีบเดินเข้าไปด้วยความหวั่นใจ
“มีธุระอะไร ทำไมถึงโผล่มาที่นี่ได้” เชนหมุนเก้าอีกลับมา พร้อมกับประสานสายตากับเธอ แววตาของเขามันเยือกเย็นจนไม่เหลือบอสคนเก่าที่เธอเคยรู้จักสักนิด แต่ก็นั่นแหล่ะ จะหวังอะไรได้กับผู้ชายคนที่บอกให้เธอไปเอาลูกออก ทั้งที่ลูกไม่มีความผิดเลยสักนิด
“ฉันเดือดร้อนอยากจะมาขอยืมเงินคุณ” ลภิสราไม่เยิ่นเย้อ เธอตอบออกไปตามตรง
“ยืมเงิน? จะเอาไปทำอะไรล่ะ” เชนค่อนข้างแปลกใจกับสาเหตุที่ลภิสรามาขอยืมเงินเขา เพราะคนอย่างเธอไม่ใช่คนที่ฟุ่มเฟือยจนเดือดร้อนเรื่องเงิน
“ไม่บอกเหตุผลได้มั้ยคะ บอกได้แค่ว่ามีความจำเป็นต้องใช้จริงๆ และฉันจะทยอยคืนให้ทุกบาททั้งต้นทั้งดอกเลย” ตอนนี้ลภิสรารู้สึกว่าตนเองตัวลีบขึ้นมาทันที
“มีใครเขาให้คนที่มายืมเงินโดยไม่บอกเหตุผลยืมเงินบ้างล่ะ” เชนเอ่ยถามอย่างขบขัน การกลับมาครั้งนี้ของลภิสรามาแปลกเหลือเกิน เธอจะเอาเงินไปทำอะไร ไม่เข้าใจจริงๆ
“ไม่มีค่ะ แต่เหตุผลมันบอกไม่ได้จริงๆ” ลภิสราเอ่ยเสียงสั่น เธอไม่อยากบอกเขาเรื่องลูก เพราะไม่ต้องการให้เขารู้ว่าลูกของเขายังมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้
“งั้นก็กลับไปเถอะ ผมคงไม่ช่วยคนที่ไม่จริงใจกับผมหรอก แค่จริงใจที่จะบอกความเดือดร้อนยังทำไม่ได้เลย” เชนแกล้งไล่หญิงสาว ด้วยรู้ดีว่าหากเธอจนตรอกจริงๆ เธอคงต้องยอมบอกเขามาจะเอาเงินไปทำอะไร มันคงสำคัญมากจนทำให้คนที่หนีเขามาตลอด กลับมาหาเขาได้
“ฉันกลับไม่ได้จริงๆ ค่ะ เงินก้อนนี้สำคัญกับฉันมาก และคุณก็เป็นเพียงคนเดียวที่จะช่วยฉันได้” ลภิสราเอ่ยออกมาด้วยความหวั่นใจ เธอกลัวเขาจะไล่จริงๆ เพราะเขาคือความหวังสุดท้ายของเธอ
“งั้นก็บอกมาสิว่าเรื่องอะไร ผมจะได้รู้ว่าผมจะช่วยคุณมั้ย” เชนเอ่ยถามเสียงเย็น ถ้าเธอไม่บอกเขา เขาไม่มีวันช่วยเธอแน่ๆ ถ้าจะช่วยเขาก็ขอแค่เธอจริงใจที่จะเล่าความเดือดร้อนของเธอให้เขาฟัง
“มันเป็นเรื่องที่คุณไม่รู้จะดีกว่าค่ะ เพราะมันอาจจะกระทบกับครอบครัวคุณ” ลภิสราเอ่ยออกมาจริงจัง เธอไม่อยากเล่า เพราะเธอไม่รู้ว่าจริงๆ แล้ว เขามีครอบครัวหรือยัง
“ยิ่งพูดก็ยิ่งอยากรู้แฮะ จะเล่าหรือไม่เล่า ถ้าไม่เล่าก็กลับไปเถอะ ผมไม่ชอบคนมีความลับ” เชนเอ่ยจริงจัง คราวนี้เขาต้องต้อนเธอจนจนมุม ไม่อย่างนั้นเธอก็จะโยกโย้ไปมาไม่ยอมเล่าสักทีว่าเธอจะเอาเงินไปทำอะไร