“ถึงแล้วครับคนสวย ลงไปจัดกันเหอะ”
เขาดับเครื่องรถแล้วลงจากรถอย่างสบายอารมณ์ หญิงสาวเป่าปากมองบนก่อนจะลงตามเขาไปโดยไม่มีข้อแม้ ไม่ว่ายังไง เธอคงกลับตัวตอนนี้ไม่ได้แล้ว เธอพลาดแล้ว เธอถูกเขาหลอกมางานแต่งเพื่อน!!!
“อ้าวเฮ๊ย...ไอ้ทัด!” เจ้าบ่าวเข้ามาทักทายทัดเทพทันทีที่เห็นเขาเดินเข้างาน ก่อนจะหันมามองพิมพ์ใจด้วยสายตาสงสัย “แล้วนี่ใครเอ่ย...”
“ดีใจด้วยนะโว๊ยเพื่อน” เขาตบบ่าเจ้าบ่าวอย่างสนิทสนมก่อนหันไปยิ้มกับเจ้าสาว “ดีใจด้วยนะครับ ขอให้มีความสุขมากๆ มีตัวน้อยเร็ว ๆนะ”
“ขอบคุณจ้ะทัด ทัดพาแฟนเข้าไปที่โต๊ะเพื่อน ๆสิ นั่งอยู่ที่โต๊ะริมสระน่ะ”
“เฮ๊ย...ไม่ใช่แฟน เพื่อนน่ะ” เขาแนะนำเธอให้บ่าวสาวรู้จักเช่นนั้น ก่อนจะเดินนำเธอเข้าไปในงานแต่งงานแบบบ้าน ๆที่กำลังสังสรรค์กันอย่างสนุก
“ไอ้ทัด! ทางนี้โว๊ย” กลุ่มเพื่อนของเขาซึ่งเป็นชายล้วนประมาณห้าหกคนส่งเสียงโหวกเหวกเรียกเขามาแต่ไกล เขาเองก็โบกมือทักทายเพื่อนกลับไปอย่างกับนักเลงโต
“นี่คุณ! พาฉันมางานแต่งเพื่อนคุณทำไมเนี่ย”
“อ้าว...ก็อยากกินบุพเฟ่ห์ไม่ใช่เหรอ”
“อยาก...แต่ไม่ใช่แบบนี้” โอ๊ย...เธออยากจะกรี๊ด โดนเขาแกล้งจนได้ ไม่น่าเปิดช่องว่างให้เลย
“ก็นั่นไงบุพเฟ่ห์ นั่นไงครับคุณ” เขาชี้ไปที่โต๊ะวางอาหารยาวยืดซึ่งเนืองแน่นไปด้วยอาหารคาวหวาน “เพื่อนผมสั่งอาหารมาจากโรงแรมห้าดาวเลยนะคุณ คุณอยากกินอะไรก็ตักได้เลย หรือจะให้ตักให้เอามั้ยล่ะ”
“ไม่ต้อง ๆ โอเค ๆ” ไหน ๆ ก็ไหน ๆแล้ว เธอพยายามตั้งสติและควบคุมต่อมโมโหไว้ “คุณไปหาเพื่อนของคุณเหอะไป๊ เดี๋ยวฉันนั่งแถว ๆนี้ก็ได้”
เจ้าหล่อนพูดพลางหันมองหาโต๊ะเหมาะ ๆ
“ไปนั่งกับเพื่อนผมดีกว่า”
“ไม่เป็นไร คุณจะได้คุยกับเพื่อนสนุก ๆไง ไม่ต้องห่วง ฉันดูแลตัวเองได้ คุณไปเหอะ”
เธอแทบจะดันหลังเขาเลยทีเดียว ไม่สิ แทบจะถีบเขาไปต่างหาก ชายหนุ่มจำใจทิ้งเธอไว้ที่โต๊ะหนึ่งซึ่งอยู่ใกล้กับโต๊ะวางอาหาร มีป้าแก่ ๆ กับหลานสาวยังกินอาหารอยู่
“เอาวะ หิวไส้จะขาดแล้ว” หญิงสาวไม่รอช้า เดินไปที่โต๊ะวางอาหาร คว้าจานใบใหญ่ จัดการตักอาหารที่ชอบอย่างมีความสุข
ทัดเทพทักทายเพื่อน ๆอย่างเฮฮาปาร์ตี้ ตามประสาหัวโจกของกลุ่ม พวกนี้เป็นเพื่อนสมัยมัธยมที่สนิทสนมคุ้นเคยกันมาตลอด
“เฮ๊ย...พาเมียมาด้วยเหรอ ทำไมไม่พามาแนะนำให้เพื่อน ๆรู้จักวะ” เพื่อนคนหนึ่งถามขึ้น
“ไม่ใช่โว๊ย...เพื่อนน่ะ”
“อะไรวะ มึงคบผู้หญิงเป็นเพื่อนด้วยเหรอ แล้วเพื่อนสมัยไหนวะ ทำไมพวกกูไม่เห็นรู้จักเลย”
“ไม่ต้องมายุ่งเรื่องของกู พวกมึงอยากแดกเหล้าก็แดกไป”
“โอเค ถ้าเป็นแค่เพื่อน งั้นกูขอเบอร์ได้เปล่า”
เพื่อนคนหนึ่งเอ่ยขึ้นในวง เขาถึงกับสะอึก ก่อนจะหัวเราะออกมา
“ฮ่า ๆ ๆ ! ยัยอ้วนขายออกแล้วโว๊ย ได้ ๆ เดี๋ยวกูถามมันก่อนนะว่ามันให้ได้มั้ย แต่กูขอเตือนเลยนะ แม่งกินดุฉิบหาย ไม่เชื่อก็หันไปมองดู แล้วเห็นหน้าติ๋ม ๆนะโว๊ย ด่าไฟแลบ ตามเช็คตามเช็ดผัวตลอด งี่เง่าง๊องแง๊งจนผัวคนก่อนแม่งทนไม่ไหวเลยทิ้งแม่งเลยกูล่ะสงสาร”
“เหรอวะ”
“เออสิ เฮ๊ย! แต่คนเราเปลี่ยนกันได้โว๊ย ลองจีบดู”
ทัดเทพยังท้า เพราะเขาเห็นแล้วว่าสีหน้าเพื่อนเจื่อนไปถนัดตา
“งั้นกูขอเบอร์ด้วย” เพื่อนตัวอ้วนๆคนหนึ่งยังใจกล้า “กูอยากลองดีโว๊ย กูชอบผู้หญิงกินเก่งแบบนี้แหละ เรื่องขี้ด่านี่ถ้าด่าน้อยกว่าแม่กู กูให้ผ่าน ส่วนเรื่องงี่เง่าผู้หญิงก็เป็นกันทุกคน”
คราวนี้คนที่หน้าเจื่อนคือทัดเทพ
“เออ...เดี๋ยวกูขอให้”
ชายหนุ่มชนแก้วกับเพื่อน ๆ ต่ออีกครู่หนึ่ง ก่อนจะขอตัวออกมาหาหญิงสาวที่กำลังนั่งกินไม่หยุด
“อาหารอร่อยมากเลยอ่ะ สมราคาคุยจริงๆเลยคุณ จะกินอะไรมั้ย เดี๋ยวไปตักให้”
“ไม่เอา”
“หือ...นี่ดื่มเหล้าเหรอ” เธอสูดจมูกฟุดฟิดใกล้ๆเขา “แล้วจะขับรถกลับบ้านยังไงเนี่ย”
“กินมั่ว ๆ ไม่ถึงแก้วหรอก ขับได้น่า”
“ไม่ได้ ห้ามขับ เดี๋ยวฉันขับเอง”
“นี่” อยู่ ๆเขาก็พูดจริงจัง “ไม่เคยมีแฟนจริงเหรอ”
“ถามทำไม”
“ก็...แค่อยากรู้เฉย ๆ ไม่ได้จะทำไม”
“งั้นก็ไม่ต้องรู้หรอก ไม่มีประโยชน์ คุณเอาสมองไว้จำเรื่องหมอเดียร์เหอะ จำได้รึยังว่าเธอชอบกินอะไร ชอบสีอะไร ชอบดูหนังแบบไหน อยากได้กุหลาบสีอะไรในวันวาเลนไทน์”
“แล้วคุณล่ะอยากได้สีอะไร” เขาสวนมา ทำเอาเธออึ้ง เขาจะถามเธอทำไม...
“ก็...ฉันชอบกุหลาบ...”
“ดำ! สีดำใช่มั้ย เหมาะกับคุณเลย”
หญิงสาวกรอกตามองบน ทำหน้าเซ็ง ก่อนจะจิ้มอาหารเข้าปากแล้วเคี้ยวอย่างไร้อารมณ์
“งั้นผมเดาเอาว่าหมอเดียร์ต้องชอบกุหลาบขาวแน่ เพราะเป็นผู้หญิงที่สวยทั้งภายนอกและภายใน”
“เอ่อ...” เธอเรอออกมาอย่างไม่เกรงใจใคร ก่อนจะคว้าน้ำขึ้นมาดื่มอั่ก ๆ เขามองเธอตาขวาง ก่อนยกมือขึ้นอุดจมูก
“ทำไปได้ยังไง”
“อิ่มแล้ว จะกลับกันได้รึยัง”
ที่เขาปลีกตัวจากกลุ่มเพื่อน ก็เพราะตั้งใจจะกลับนี่แหละ เขารู้สึกเซ็งขึ้นมาอย่างไม่รู้สาเหตุ