“พี่พิมพ์วันนี้แต่งตัวสวยจังเลยค่ะ” เด็ก ๆในร้านปากหวานกันทุกคน ทักทายเจ้านายพร้อมรอยยิ้มสดใสเสมอ ทั้งนุกนิก อินดี้และธนา
“ใช่จ๊ะ พี่ยอมรับ เพราะพี่คือผู้หญิงที่สวยและรวยมากไงล่ะ”
“ครับ ผมก็ว่าอย่างนั้นแหละ นี่ถ้าผมแก่กว่านี้นะผมจะจีบพี่พิมพ์”
“นี่แกว่าพี่พิมพ์แก่เหรอธนา”
“เปล่า ก็พี่พิมพ์เลขสามแล้วใช่มั้ย แต่ยังไม่มีแฟนไง เลยแบบไม่เข้าใจ พี่พิมพ์ออกจะน่ารัก”
“เออเนอะ” อินดี้สัมทับต่อ “ผมว่าพี่พิมพ์น่ารักกว่าหมอเดียร์ตั้งเยอะ ทำไมผู้ชายรุมจีบแต่หมอ...”
“พอ ๆ ๆ ๆ ๆ หยุดวิพากวิจารณ์กันได้แล้วย่ะ ยิ่งพูดฉันยิ่งแก่ ไป ๆ เข้าประจำตำแหน่งกันได้แล้ว ก่อนจะถูกหักเงินเดือน!!!”
สามซ่าส์เลยหายวับอย่างกับเสกได้ พิมพ์ใจอดยิ้มไม่ได้ เธอตัดสินใจถูกแล้วที่รับเด็กชาวเขาทั้งสามคนมาทำงานด้วย เพราะเด็กพวกนี้ขยันขันแข็งและเป็นเพื่อนที่ดีของเธอเสมอ
“เฮ้อ...ความสุขอยู่รอบตัวเรานี่เอง” แต่แล้วความสุขของเธอก็ถูกแบรคเอี๊ยดดดด...เพราะโทรศัพท์จากหมอเดียร์ที่โทรเข้ามาก่อนเที่ยง
“พิมพ์....” เจ้าหล่อนชวนเธอออกไปรับประทานอาหารเที่ยงที่ร้านโปรดด้วยกัน “ร้านอาหารญี่ปุ่นนะ”
“โอเค...เดี๋ยวเจอกันที่ร้านเลยนะ”
และเมื่อเธอไปถึงร้านอาหารที่นัดหมายไว้ นาเดียร์นั่งรออยู่ก่อนแล้ว หมอสาวมีสีหน้าซึ่งไร้ซึ่งความสุขโดยสิ้นเชิง
“ทำไมเดียร์...เกิดอะไรขึ้นเหรอ?”
“นั่งก่อนสิพิมพ์” น้ำเสียงของนาเดียร์สั่นเครือเล็กน้อย สีหน้าสีตาเหมือนผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก
“ร้องไห้เหรอ?”
“เปล่าหรอก...” การที่เจ้าหล่อนปฏิเสธ ก็แปลว่ามีปัญหาจริง ๆ หากให้เธอเดาก็น่าจะเกิดจากแฟนเก่านั่นแหละ “ก็แค่...รู้สึกนอยด์ ๆ ไม่ได้มีปัญหาอะไรหรอก”
“เรื่องผู้ชายคนนั้นอีกแล้วเหรอ”
การที่เธอเงียบก็เท่ากับยอมรับ
“แกตั้งสตินะเดียร์ แล้วเดินหน้าต่อให้ได้ ชีวิตเราต้องสดใสและมีความสุขสิ อย่าไปจมปรักกับอดีตที่ผ่านมาแล้ว มันไม่ได้ทำให้ชีวิตเราดีขึ้นเลย”
“ฉันรู้...ฉันพยายามอยู่ ขอบใจนะที่แกอยู่ข้างๆฉันมาตลอด คอยปลอบฉัน ให้กำลังใจฉัน ทนกับความนอยด์ความเครียดของฉันมาตลอด”
“แหมก็เราเป็นเพื่อนกันนี่ ถึงเราจะเรียนคณะเดียวกันแค่ตอนปีหนึ่ง แล้วฉันลาออกซะก่อน แต่เราก็เป็นเพื่อนเมทกันนะ หนึ่งปีที่เราอยู่ด้วยกัน เราก็เหมือนครอบครัวเดียวกันแหละเดียร์”
หมอเดียร์วางมือลงบนหลังมือของพิมพ์ใจแล้วบีบเบา ๆ สายตาบ่งบอกถึงการวางใจ
“แกอยากรู้มาตลอดใช่มั้ยว่าแฟนเก่าของฉันคือใคร”
“แกจะยอมบอกฉันแล้วเหรอ”
“แกจำอาชวินได้มั้ย”
เมื่อนาเดียร์เอ่ยชื่อนี้ขึ้นมาก็ทำให้เธอตาโต เพราะเขาคือดาวมหาวิทยาลัย เป็นหนุ่มฮอตลูกไฮโซที่ผู้หญิงทั้งมหาวิทยาลัยคลั่งไคล้
เป็นรุ่นพี่คณะวิศวะ เรียนเก่งมากถึงมากที่สุด เป็นนักกีฬา เป็นนายแบบ เป็นคนที่สมบูรณ์แบบอย่างที่ไม่เคยเห็นมนุษย์หน้าไหนเป็นมาก่อน...
“อย่าบอกนะ”
หมอเดียร์พยักหน้า “อืม...เขานั่นแหละ”
“โอ้โห...นี่แก...” เธออยากจะบ้าตาย ถึงว่าเพื่อนรักทำใจให้ลืมเขาไม่ได้ซะที แม้จะผ่านมานานหลายเดือนแล้วก็ตาม “เอาอย่างนี้ คิดบวกเข้าไว้ ว่าแกเอาชนะผู้หญิงทุกคนในมหาวิทยาลัยได้เลยนะโว๊ย แกจงภูมิใจและเดินหน้าต่อไป”
คำปลอบของพิมพ์ใจทำให้นาเดียร์หัวเราะออกมาได้
“ใช่...มันคงถึงเวลาที่ฉันต้องเดินหน้าต่อไปแล้วล่ะ เพราะตอนนี้เขาหมั้นกับผู้หญิงที่พ่อแม่เลือกให้แล้ว”
“ว่าไงนะ!!!” พิมพ์ใจอ้าปากค้าง...ที่แท้เพราะเรื่องนี้นี่เองที่ทำให้ทั้งคู่เลิกกันและทำให้นาเดียร์ร้องไห้ “หมายความว่าถูกผู้ใหญ่กีดกันเหรอ โหละครน้ำเน่ายังสู้ชีวิตของแกไม่ได้เลยเดียร์”
“อืม...น้ำเน่าอย่างที่แกว่าจริง ๆ แล้วแกอ่ะ ทำไมไม่ยอมมีแฟนกับเขาซะที แล้วผู้ชายที่แกเคยมาเล่าว่าโดนสุดๆ จะใช้มารยาเอามาทำสามีให้ได้....”
“พอ ๆ ๆ ๆ อย่าพูดถึงผู้ชายคนนั้นเลย...มัน...มันไม่ว่างแล้ว” เธอพูดพร้อมจิ้มอาหารเข้าปากแล้วเคี้ยวตุ้ยๆ “กินดีกว่า แกก็กินสิ กินเยอะๆ จะได้แข็งแรง ๆ ไง”
“พิมพ์...แกไม่คิดจะเปิดใจบ้างเหรอ”
“เฮ่อ...เดียร์...สาบานเลย ฉันไม่เคยปิดใจ ฉันเปิดตลอด 24 ชั่วโมงด้วยเลยนะ แต่ความจริงก็คือ...ผู้ชายของฉันอาจยังไม่เกิด หรือไม่ก็ตายไปแล้ว”
“แกจะบ้าเหรอ คิดอะไรเพี้ยน ๆ” นาเดียร์หัวเราะเสียงใส ก่อนพูดจริงจังขึ้น “ถ้าเกิดเจอผู้ชายที่ชอบ แกก็หัดยั่วยวนบ้างสิ ทอดสะพานอ่ะ ทำเป็นมั้ย???”
พิมพ์ใจกลืนน้ำลายเอื๊อก...
“ทอดสะพาน...ทำไงอ่ะ???”
เธออยากรู้จริง ๆนะ แต่หมอเดียร์ไม่ยอมตอบเธอ เอาแต่ยิ้มและกินอาหารเพื่อสุขภาพย้อมใจ
เธอจึงไม่ได้เคล็ดลับจากคุณหมอทรงเสน่ห์ที่มีผู้ชายล้อมหน้าล้อมหลังมาเลยสักข้อ
เมื่อกลับมาทำงานที่ร้านกาแฟในตอนบ่าย เธอเอาคำพูดของหมอเดียร์กลับมาคิดจนวุ่นวายในหัวไปหมด แล้วเธอก็ได้คำตอบว่า...
“ลองถามอากู๋ดูดีกว่า เหอ ๆ”
หญิงสาวเลือกนั่งที่โต๊ะสามเพราะลูกค้าไม่เยอะ และช่วงบ่ายแบบนี้ ส่วนมากจะเป็นลูกค้าที่สั่งไปกินที่ทำงานหรือที่บ้าน
ผู้จัดการร้านคนสวยจึงหมกมุ่นอยู่กับหน้าจอโน้ตบุ๊คโดยไม่สนใจใคร ปล่อยให้ลูกน้องทำงานไป ส่วนเธอทำเรื่องส่วนตัว ควานหาข้อมูลเทคนิคพิชิตใจชายจากอินเทอร์เน็ตจนเพลิน
“หืม...ต้องขนาดนั้นเลยเหรอ โห...ลีลาต้องเด็ด เด็ดยังไงอ่ะ...ต้องรู้จักรุก อุ๊ย!” อ่านพลางหัวเราะคิก ๆ กระทั่งเสียงกระแอมของผู้ชายดังขึ้นด้านหลัง
“ฮะแฮ่ม!”