ก๊อก ๆ
“เข้ามาเลยค่ะประตูไม่ได้ล็อก”
พอได้รับเสียงตอบรับจากด้านในแม่บ้านก็เปิดประตูเข้าไปทันทีและเห็นร่างเล็กของเจ้าของห้องคนใหม่ปัจจุบันกำลังนั่งอ่านเอกสารบางอย่างอยู่
“มีอะไรหรือเปล่าคะ” อันนาถามป้าแม่บ้านที่เดินมาพร้อมกับผู้ชายอีกคนแบกกล่องขนาดใหญ่มาด้วย
“คือคุณพอร์ชให้ป้าเอาเครื่องฟอกอากาศมาติดตั้งให้คุณหนูอันค่ะ”
“ขอบคุณมากนะคะ” อันนายิ้มกว้างขอบคุณทั้งสองคนหลังตากติดตั้งเครื่องเสร็จ
“ถ้าอย่างนั้นป้าไม่รบกวนแล้วนะคะ”
แม่บ้านบอกเสร็จก็เดินออกมาจากประตูทันทีและไม่นานเธอก็ต้องกลับมาอีกครั้งเพื่อเรียกคนในห้องลงไปกินข้าวตามคำสั่งเจ้าของบ้าน
“โอ้โห~น่ากินจังเลยยยย” พอเดินมาถึงเธอก็มองอาหารบนโต๊ะแล้วเอ่ยชมไม่หยุดปาก ทำให้คนที่ลงมือทำต้องส่ายหน้าไปมา
“จะกินเลยไหม”
“กินเลยสิตอนนี้อันจะกินช้างได้ทั้งตัวแล้ว อาหารบนเครื่องก็ไม่อร่อยเลย”
พอร์ชเดินมาเลื่อนเก้าอี้ให้อันนา แล้วยิ้มอย่างขำขันกับคำเปรียบเปรยของเธอ
“ตัวเล็กขนาดนี้เหรอจะกินช้างได้...เอาล่ะกินข้าวกันเถอะ” เขาเดินกลับมานั่งที่ของตัวเองแล้วมองคนกำลังตักอาหารตัวเองทำกินอย่างเอร็ดอร่อย “เป็นไงอร่อยไง”
“อือออ....อร่อยไม่เปลี่ยนเลยพอร์ชนี่เก่งที่สุด” อันนาพูดชมคนที่ทำอาหารทั้งที่ข้าวยังเต็มปาก
“เคี้ยวเสร็จค่อยพูดเดี๋ยวข้าวก็ติดคอหรอก”
“ก็มันอร่อยจริงนิ”
“อร่อยก็กินเยอะ” พอร์ชเอื้อมมือไปเช็ดคราบที่เปื้อนมุมปากของเธอเบาๆ “กินข้าวเสร็จอยากไปสำรวจมหาลัยไหม พรุ่งนี้จะเข้าเรียนวันแรกไม่ใช่เหรอ”
“พอร์ชจะพาอันไปด้วยเหรอ?” ข้อเสนอของเพื่อนทำให้อันนาอดแปลกใจไม่ได้
“อันอยากไปไหมล่ะ พอดีพอร์ชต้องเอารายงานไปส่งอาจารย์”
“ไปสิ อันเข้าเรียนกลางเทอมไม่รู้จะหาเพื่อนได้หรือเปล่า ต้องศึกษาเส้นทางไว้ก่อน”
“กลัวแต่เพื่อนจะเยอะจนลืมพอร์ชนะสิ” พอร์ชยิ้มขำท่าทางคิดมากของคนที่นั่งด้วยว่าจะไม่มีเพื่อน คนที่ทั้งน่ารักน่าเอ็นดูแบบนี้ใครมันจะใจร้ายไม่เป็นเพื่อนด้วยได้