รักไม่ได้เพราะ...? (2.2)

1248 คำ
“แต่ฉันไม่เคยรักใคร เพราะฉะนั้นเลิกคิดซะ” “ก็ไม่ได้หวังจะได้รับรักตอบอยู่แล้ว แค่บอกให้ฟังเฉยๆ” น้ำที่รื้นตรงหางตาถูกปัดออกอย่างรวดเร็ว “ฝนขอถามได้ไหมคะ มันคาใจมากเลยว่าเพราะอะไรพี่ถึงไม่คิดจะรักใคร อย่ามาอ้างว่าเด็กอย่างฝนไม่เข้าใจ คนที่ไม่เข้าใจในความรักน่ะคือพี่ต่างหาก ฝนบรรลุนิติภาวะและเสียตัวให้ผู้ชายไปแล้ว เพราะฉะนั้นอย่ามาเรียกว่าเด็ก” คำถามของฝนแก้วดึงปมบางอย่างที่ปรวีร์เรียกมันว่า ‘ความไม่สมบูรณ์แบบ’ ออกมาจากกล่องความทรงจำที่ลั่นดาลไว้จนสนิมเขรอะ ปรวีร์เกิดมาอย่างพรั่งพร้อมเรียกว่าคาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิดก็ไม่ผิดอะไร เติบโตภายใต้ครอบครัวมหาเศรษฐีที่มีธุรกิจอสังหาฯ หมื่นล้านในการครอบครอง มีเงินทอง มีสมองอันเป็นเลิศไม่เคยเรียนสะดุดหรือสอบตกเลยสักครั้ง ชีวิตที่ผ่านมาของปรวีร์เพียบพร้อมสมบูรณ์แบบเกือบทุกประการ ยกเว้นก็แต่บิดามารดาที่เป็นความทุกข์อันไม่ใกล้เคียงคำว่าสมบูรณ์แบบ ปรวีร์เติบโตมาพร้อมภาพจำของคนเป็นพ่อที่นอกใจแม่ครั้งแล้วครั้งเล่า ทะเลาะเบาะแว้งขึ้นเสียงใส่กันลั่นบ้านนั่นคือภาพที่เขาเห็นแทบทุกคืนก่อนนอนหรือตอนเช้าก่อนไปโรงเรียน เช่นเดียวกับการให้อภัยที่จารีย์มอบให้ผู้เป็นสามีหลายต่อหลายครั้ง ปรวีร์คงบาปหนักที่นึกเวทนากับความอ่อนแอเจ็บแล้วไม่เคยจำของมารดา และกว่าจารีย์จะชินชาสามารถทำใจปล่อยวางกับความมักมากของสามีได้ก็ปล่อยเวลาล่วงเลยไปนานหลายสิบปี “เงียบทำไมคะ หรือกำลังคิดถึงอดีตคนรัก คนที่เคยทำให้พี่เจ็บจนไม่คิดจะให้หัวใจใครอีก” “เอาอะไรมาพูด ฉันไม่เคยมีคนรัก ไม่คิดจะรัก มีแต่เซ็กซ์เพื่อระบายอารมณ์เท่านั้น” “แล้วเพราะอะไรล่ะคะ ไหว้ล่ะช่วยตอบให้ฝนหายคาใจทีเถอะ” ฝนแก้วยกมือพนมท่วมหัว “บางทีเหตุผลของพี่อาจทำให้ฝนมูฟออนได้ทันทีทันใดก็ได้นะคะ” มูฟออนที่แปลว่าจะลืมเขางั้นเหรอ? ปรวีร์ฟังแล้วรู้สึกระคายอกระคายใจอย่างบอกไม่ถูก “ก็แค่ไม่อยากได้ความไม่สมบูรณ์แบบในชีวิตอีก ไม่อยากแต่งงาน ไม่อยากมีชีวิตคู่ที่ Toxic ตลอดทั้งชีวิตมานี้พ่อแม่คือความไม่สมบูรณ์แบบของพี่ พี่ไม่อยากเจอความรู้สึกพวกนี้อีก ความสัมพันธ์ของคนรัก การแต่งงานหรือสร้างครอบครัวคือความไม่สมบูรณ์แบบที่สุด” ฝนแก้วรับฟังพร้อมหัวคิ้วที่ขมวดยุ่ง เอียงหน้าไปซ้ายทีขวาทีอยู่สามตลบกว่าจะเอ่ยออกมา “เป็นความคิดที่...ลงความเห็นยากจัง อาจจะโง่มั้ง เห็นแก่ตัว คิดตื้นๆ ไม่มองสัจธรรมชีวิต ต่อให้ต้องการความเพอร์เฟกต์แค่ไหนก็ไม่มีอยู่จริงบนโลกใบนี้ ต่อให้ชีวิตคุณปรวีร์ดีพร้อมทุกอย่าง ร่ำรวยเงินทอง ธุรกิจไปได้สวย แต่ชีวิตมันต้องมีจุดดำสักจุดที่ทำให้พี่เป็นทุกข์” “ก็ไม่ได้บอกว่าจะสุขทุกชั่วโมง หรือไม่มีเรื่องให้เครียดเลย ธุรกิจพี่ตั้งกี่หมื่นกี่ล้านที่ต้องประคอง” “แบบนั้นมันก็ความทุกข์ทั่วไปป่ะ แล้วนี่มาเสวนาธรรมกันทำไม ที่ฝนจะบอกก็คือพี่จะไม่มีวันรู้จักความทุกข์ที่สุด ตราบใดที่ไม่รู้จักความสุขที่สุด การได้รักใครสักคนและได้รับรักตอบมันคือความรู้สึกที่พิเศษ เหมือนใจล่องลอย เหมือนอะไรก็สดใส ที่เขาพูดกันว่าความรักทำให้โลกหยุดหมุนมันไม่เกินจริงเลยนะ พูดไปก็ฟังดูเว่อร์ ของแบบนี้ต้องเจอกับตัว” อย่างเช่นเจ็ดวันที่ผ่านมา เป็นช่วงเวลาแสนพิเศษที่ฝนแก้วไม่เคยมีมาก่อนในชีวิต รู้สึกสุขใจอย่างท่วมท้นและอยากให้ความสุขคงอยู่เช่นนี้ตราบนานเท่านาน ทว่าน่าเสียดายที่มันกำลังจะจบ อีกทั้งยังเป็นเธอที่รู้สึกพิเศษอยู่ฝ่ายเดียว “ไม่หรอก ไม่คิดจะเอาใครอยู่แล้ว ก็ไม่ได้อยากมีความสุขที่สุด แค่สุขกลางๆ ไม่ทุกข์ก็พอ” “เป็นการใช้ชีวิตที่ไร้รสชาติดีนะคะ” มนุษย์แบบปรวีร์จะเกิดแก่เจ็บตายโดยระวังไม่ให้ชีวิตไร้ความทุกข์ได้จริงเหรอ ฝนแก้วฟังอย่างไรก็มองไม่เห็นความเป็นไปได้ อาจเพราะเธอกับเขาต่างกันทั้งอายุและฐานะ แม้ฝั่งเธอไม่ขัดสนแต่ก็ไม่ใช่มหาเศรษฐีหมื่นล้านเช่นเขา เพียงวันแรกที่ทารกปรวีร์ลืมตาดูโลกก็มีความสุขจ่อรออยู่ตรงหน้า ฐานะชาติตระกูลก็ดีเลิศ ร่ำรวยเป็นมหาเศรษฐีอันดับต้นๆ ของไทย อย่างที่ที่อาศัยอยู่นี้เรียกได้ว่าทั้งตึกคอนโดฯ ของเพนต์เฮาส์อยู่ภายใต้โครงการของบริษัทปรวีร์ทั้งสิ้น ด้วยชีวิตที่ราบเรียบมาตลอดก็คงไม่แปลกนักที่เขามีแนวคิดอยากให้ชีวิตเพอร์เฟกต์ตลอดไป ฝนแก้วส่ายหน้าระอา ประกายตาแฝงเยาะหยันในขณะสาวเท้าเข้าไปชิด “แล้วฝนจะคอยดูค่ะ พี่วีร์จะต้องเป็นทุกข์เพราะรัก ทรมาน อกหัก ร้องไห้เหมือนหมา พี่จะเข้าใจว่าการเสียใจจริงๆ มันเป็นยังไง” “อันนี้แช่ง?” “ค่ะ และถ้าเป็นไปได้ฝนอยากเป็นความเสียใจที่สุดในชีวิตพี่ ตอนเด็กๆ พี่ชอบเรียกฝนแก้วว่าฝนกรด งั้นฟังไว้นะคะฝนจะเป็นฝนกรดที่กัดกร่อนใจพี่ไปจนตาย” “ร้องไห้ทำไมเนี่ย” ทั้งที่เธอพูดด้วยอารมณ์โมโห น้ำเสียงสะกดหนักแน่นในทุกถ้อยคำ แต่น้ำตากลับไหลพรากออกมาเสียอย่างนั้น ปรวีร์หมายเช็ดให้แต่ใบหน้างามเบี่ยงหลบ “ควันธูปเข้าตามั้งคะ” “ไม่มีใครจุดธูปซะหน่อย” “ก็นั่นแหละค่ะ ไม่ต้องสนใจฝนหรอก ในเมื่อไม่คิดจะสนกันอยู่แล้วเพราะฉะนั้นก็ไม่ต้องแคร์ ไม่ต้องทำให้รู้สึกอ่อนไหวไปมากกว่านี้ หลังจากพรุ่งนี้ไปหวังว่าเราจะไม่เจอกันอีก” ปรวีร์เองก็โมโหไม่เบา รู้สึกเหมือนเป็นคนเขลาหน้านิ่วคิ้วขมวดฟังเด็กอมมือสอนวิชาสัจธรรม “เออ! ไม่สนไม่แคร์อยู่แล้ว ครอบครัวฉันก็คงไม่คิดญาติดีกับเธออีก เธอก็แค่นางบำเรออ่อนประสบการณ์ อ่อนต่อโลก แต่ทำเหมือนรู้จักโลกรู้จักความรัก” “ไม่ต้องมาสมเพชฝนหรอกค่ะ สมเพชตัวเองเถอะที่ปิดกั้นความรักโดยที่ไม่เคยสัมผัสมันเลย จงเป็นคนไร้หัวใจแบบนี้ไปตลอดชีวิตนะคะ อย่าให้ฝนเห็นนะว่าวันหนึ่งพี่แต่งงานมีครอบครัว” “ไม่มีวันนั้นหรอก” “จะคอยดูค่ะ และก็คอยดูความสุขของฝนด้วยนะคะ ฝนตั้งใจจะมีชีวิตคู่ที่ดี มีสามีที่เขารักและดีกับฝนมากๆ มีครอบครัวมีลูกที่สมบูรณ์แบบ” “แล้วไง? คิดว่าจะอิจฉาเหรอ” ไม่ทำให้อิจฉาหรอก แต่เธอจะทำให้เขาเจ็บ ฝนแก้วเด็กกว่าเขาถึงแปดปี แต่แล้วยังไง เธอจะทำให้เขาเห็นว่าการเป็นคนไร้หัวใจมันไม่ใช่เรื่องง่าย
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม