“พวกคุณมาหาใครเหรอคะ”
หญิงสาวรีบก้าวออกมาหน้าบ้าน เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสั่น
“มาหาผู้หญิงที่ชื่อรวิ อยู่ที่นี่ใช่ไหม” หนึ่งในชายชุดดำถามเสียงเรียบ
“น้าวิไม่ได้กลับมาบ้านนานแล้วค่ะ มีเรื่องอะไรหรือเปล่า” เธอตอบตามตรง แต่แววตาเริ่มไม่สบายใจ
“อย่ามาโกหก เรารู้ว่าเธออยู่ที่นี่ เรียกออกมาเดี๋ยวนี้” น้ำเสียงแข็งกร้าว พร้อมกับสายตาที่กวาดมองทะลุเข้ามาในบ้านราวกับไม่เชื่อคำพูดของเธอ
อีกคนพูดขึ้นสั้นๆ
“บุกเข้าไปเลย ถ้าไม่อยู่บ้านนี้แล้วจะไปอยู่ที่ไหนได้”
ไม่พูดเปล่า แต่ทั้งสองพยักหน้าให้กันแล้วผลักประตูเข้ามาอย่างถือวิสาสะ
“เดี๋ยว! พวกคุณจะทำอะไรน่ะ เข้ามาไม่ได้!” เธอร้องห้ามแต่ไม่ทัน ชายชุดดำสองคนดันประตูเปิดเข้ามาอย่างไม่สนใจ
“กรี๊ด! หยุดนะ! พวกคุณไม่มีสิทธิ์ ฉันจะแจ้งตำรวจเดี๋ยวนี้!”
เสียงฝีเท้าหนักๆของชายชุดดำดังไปทั่วบ้าน พวกเขาเปิดประตูเข้าออก เดินตรวจทุกห้องอย่างไม่สนใจเสียงห้าม
“เฮ้ย! จะทำอะไรกันน่ะ! บ้านฉันนะ!” อำนาจตะโกนลั่น พยายามจะกันไม่ให้พวกนั้นเดินต่อ
นับตังค์ตกใจร้องไห้เสียงดัง โผมากอดเอวพี่สาวแน่น “พี่นับผมกลัว ฮึกๆ”
นับดาวใจสั่น กอดน้องแน่นทั้งที่ตัวเองก็หวาดกลัวไม่ต่าง
“ไม่เป็นไรนะ ไม่ต้องกลัว”
ไม่นาน ชายชุดดำคนหนึ่งก็เดินกลับมา ยืนกอดอกตรงหน้าทั้งสาม แล้วเอ่ยเสียงเรียบ
“พวกคุณฟังให้ดี ผู้หญิงที่ชื่อรวิ ไปกู้เงินเจ้านายเรา แล้วเอาบ้านหลังนี้ไปจำนองไว้”
ทุกคนเงียบกริบ นับดาวเบิกตาหันไปหาพ่อทันที “พ่อคะ โฉนดบ้านเป็นชื่อน้าวิเหรอคะ ”
อำนาจรีบส่ายหัว
“ไม่ใช่ลูก โฉนดยังเป็นชื่อพ่ออยู่”
ชายชุดดำแค่นเสียงในลำคอ
“หึ เธอบอกว่าจดทะเบียนสมรสกับคุณ แล้วก็ใช้เอกสารนั้นไปกู้เงินแปดแสน ตอนนี้เลยกำหนดแล้วพวกเราต้องมายึดบ้านตามข้อตกลง”
นับดาวหน้าเสียทันที น้ำตาคลอเบ้า มันร้ายแรงจนพวกเธอถึงกับจะโดนยึดบ้าน
“ไม่ได้นะคะ ถ้าพวกคุณเอาบ้านไป แล้วพวกเราจะไปอยู่ที่ไหน…”
“เรื่องนั้นไม่เกี่ยวกับเรา”
ร่างใหญ่เอ่ยขึ้นน้ำเสียงเย็นเฉียบ
“เจ้านายให้เวลาแค่สามวัน หาเงินมาใช้หนี้ ถ้าไม่ได้ก็เก็บของออกไป”
“สามวัน!”
อำนาจโพล่งขึ้น
“ เงินเยอะขนาดนี้ จะให้ไปหาที่ไหนทัน!”
“ หาจากไหนก็ไม่เกี่ยวกับเรา นั่นเป็นปัญหาของพวกคุณเอง”
ชายชุดดำสวนขึ้นทันควัน
“หน้าที่เราคือเอาเงินคืนเจ้านาย เข้าใจตรงกันนะ”
นับดาวพยายามกลั้นสะอื้นก่อนพูดเสียงสั่น
“ช่วยบอกเจ้านายพวกคุณให้หน่อยได้ไหม ขอเวลาเพิ่มอีกนิดก็ยังดี”
“ได้โปรดเถอะค่ะ”นับดาวพูดต่อ น้ำตาไหลไม่หยุด
“พ่อฉันพิการเดินไม่ได้ น้องก็ยังเด็ก ส่วนฉันก็ยังเรียนอยู่ คนที่เอาโฉนดไปจำนองก็หนีไปแล้ว พวกเราไม่รู้เรื่องเลย ช่วยเห็นใจเราหน่อยนะคะ”
บรรยากาศเงียบจนได้ยินเสียงสะอื้น นานหลายนาทีชายชุดดำอีกคนก็เอ่ยเสียงอ่อนลง
“ถ้าอยากมีเงินไปใช้หนี้ ก็ไปสมัครเป็นพีอาร์ที่ผับของเจ้านายสิ จะได้คุยเรื่องข้อตกลงกับเขาเองด้วย สวยแบบนี้นายรับอยู่หรอก เราช่วยได้แค่นี้”
เขาควักนามบัตรวางลงบนโต๊ะอาหาร
“ถ้าไม่มีเงินมาใช้หนี้ พวกเราก็ต้องทำตามหน้าที่”
พูดจบเขาหันหลังเดินออกไป พร้อมควบบิ๊กไบค์แล้วขับออกไปอย่างเร็ว
“เราจะทำยังไงกันดี พ่อผิดเองพ่อไม่น่าไว้ใจวิเขาขนาดนี้เลย ”
อำนาจพูดอย่างรู้สึกผิด เขาไว้ใจรวิมากจนเกินไป นับดาวหยิบนามบัตรขึ้นมาดูก่อนตัดสินใจทำอะไรบางอย่าง
“หนูจะลองไปสมัคงานที่นี่ดูค่ะ และจะไปขอร้องเจ้าหนี้ด้วย ”
เธอตัดสินใจอย่างเด็ดขาด ไม่สู้ก็ไม่มีที่ซุกหัวนอน
“นับดาว พ่อทำลูกเดือนร้อนจริงๆ”
“พ่อเลิกโทษตัวเองนะคะ คนผิดคือน้าวิ ”
เธอเองก็ไม่อยากพูดอะไรมาก สงสารน้องชายด้วย ยังไงน้าวิก็คือแม่ของนับตังค์
“ค่ะ วันนี้หนูลานะคะพี่ปุ๊ก แล้วยังไงพรุ่งนี้หนูก็จะไปทำเหมือนเดิมค่ะ ”
ในช่วงเย็นเธอตัดสินใจโทรไปลางานกับผู้จัดการร้านสะดวกซื้อ รอให้ได้งานใหม่ก่อนถึงค่อยลาออก
{จ๊ะ แต่พรุ่งนี้ห้ามหยุดแล้วนะ }
“ไม่หยุดแล้วค่ะพี่ปุ๊ก”
หลังวางสายจากผู้จัดการร้าน เธอยืนมองตัวเองหน้ากระจก เพื่อเรียกความมั่นใจอีกครั้ง วันนี้เธอแต่งหน้าให้สวยและดูดีรับกับเดรสสีดำตัดกับผิวขาวเนียน เธอสวยและดูดีไม่ต่างจากลูกคุณหนูบ้านรวยเลยแม้แต่น้อย เธอเรียกความมั่นใจให้ตัวเองอีกครั้ง ก่อนเรียกแท็กซี่ไปยังผับตามนามบัตร
“เอ๊ะ!! ที่นี่มันผับนั้นหนิ”
เธอลงจากรถพร้อมยืนพึมพำที่หน้าผับ หวนนึกไปถึงเรื่องคืนนั้น
“คงไม่ใช่หรอกมั้ง ”
ใจเธอคิดเตลิดไปไกลแล้ว ผู้ชายในคืนนั้นอาจจะเป็นแค่ลูกค้า เธอออกมาอยากรีบๆด้วย เลยไม่ได้สังเกตอะไรซักอย่าง แต่ถ้าเจอหน้าเขาอีกครั้ง เธอคิดว่าเธอน่าจะจำได้ เพราะตอนแรกเธอยังสติดีอยู่ และเขาหล่อมากจะว่าไปเสียตัวให้คนหล่อในคืนนั้น ดีกว่าเสียตัวให้ไอ้เสี่ยแก่ปรีชาเยอะ
“คิดบ้าอะไรนับดาว มันคงไม่บังเอิญอะไรขนาดนั้นหรอก ”
เธอรีบสลัดความคิดในหัว มือกำสายสะพายกระเป๋าไว้แน่น สาวเท้าเล็กบนส้นสูงที่ไม่ถนัดนักเข้าไปประตูผับ
“สวัสดีค่ะ คือฉันมาสมัคงาน ไม่ทราบว่าติดต่อที่ไหนคะ
นับดาวตรงไปยังการ์ดที่กำลังยืนดูแลความเรียบร้อยด้านหน้านับสิบคน
“สมัคส่วนไหนครับ ”
การ์ดมองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า ไม่ใช่แค่คนเดียวนะ แต่มองทุกคนจนเธอประหม่าเผลอกัดปากตัวเองเบาๆ
“พะ พีอาร์ค่ะ ”
เธอตอบตะกุกตะกัก ไม่เคยเจอผู้ชายมองตาเป็นมันส์ขนาดนี้ หรืออาจเป็นเพราะเธอแต่งตัวเซ็กซี่ด้วยมั้ง ตัวเล็กๆแบบนี้แต่หน้าอกหน้าใจใช่ย่อยที่ไหน
“ตามพี่เสือมาเลยครับน้องสาวคนสวย ”
หนึ่งในการ์ดรีบอาสา คราวนี้ถึงหายใจโล่งหน่อย
“ไอ้เชี้ยเสือ มึงอย่านะเว้ย ”
เสียงการ์กลุ่มใหญ่ตะโกนตามหลังมา
“อย่าถือพวกนั้นเลยนะครับ พวกมันเห็นคนสวยๆไม่ได้ พี่ชื่อเสือนะ แล้วน้องชื่ออะไร ”
ในระหว่างทาง พี่เสือการ์ดหล่อหน้าตาดีก็ชวนเธอคุยไปด้วย
“ชื่อนับดาวค่ะ ขอบคุณพี่เสือมากนะคะ ”
เห็นคนมีน้ำใจแบบนี้ เธอก็ไม่ลืมที่จะขอบคุณ
“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวเดินเข้าไปด้านในนะครับ เป็นห้องผู้จัดการ แจ้งว่ามาสมัคงาน สวยๆแบบนี้พี่มั่นใจว่าต้องได้ ”
คำพูดของเสือทำให้เธอยิ้มกว้าง มั่นใจในตัวเองขึ้นมาอีกระดับ
“งั้นฉันไปนะคะ ”
“ครับ แล้วเจอกัน ”
เสือยิ้มให้ก่อนเดินกลับไปทำหน้าที่
ฟุ้ววว
หลังจากที่เสือไปแล้ว เธอพ่นลมหายใจอีกครั้ง
ก่อนยกมือขึ้นเคาะเบาๆหน้าห้องผู้จัดการ
ก๊อกๆๆ
“เข้ามา ”
เสียงทุ้มด้านในเอ่ยอนุญาต
พลัก!!
พร้อมมือเล็กที่ผลักเข้าไปด้านใน ตาคมละสายตาจากงานตรงหน้าแล้วมองตรงมาที่เธอ
ร่างใหญ่วัยกลางคนในชุดสูทภูมิฐาน ในหัวของเธอตอนนี้มีแต่คำว่าน่ากลัวน่าเกรงขามเต็มไปหมด แต่ก็ดีหน่อยที่ไม่ใช่คนที่เธอไม่อยากเจอ พยายามปลอบใจตัวเองว่าต้องไม่ใช่
“หนูมาสมัคงานค่ะ ตำแหน่งพีอาร์ ”
ร่างเล็กรวบรวมความกล้าแล้วตอบอย่างฉะฉาน
ผู้จัดการมองเธออย่างพิจารณา แล้วสั่งให้เธอหมุนตัว
“ไหนลองหมุนตัวช้าๆซิ ”
นับดาวหมุนตัวช้าๆตามที่ผู้จัดการสั่ง
“อืม ใช้ได้ ลองยิ้มหรือลองพูดเอนเตอร์เทนลูกค้าดูสิ ”
เธอยิ้มตามผู้จัดการบอกทันที และลองพูดกับลูกค้า ซึ่งไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลย เพราะเธอทำงานที่ร้านสะดวกซื้อมาก่อน
“เฮียดื่มอะไรดีคะ เดี๋ยวหนูชงให้ ”
เธอพูดเสียงอ้อน
“เฮียแก่แล้วนะ หนูยังอยากเอาใจอยู่ไหม ”
ผู้จัดการลองพูดทดสอบ
“แก่อะไรกันคะ หล่อขนาดนี้ไม่แก่เลยซักนิด ”
ผู้จัดการพยักหน้าเบาๆ
“ใช้ได้ ว่าแต่อยากเป็นพีอาร์ดูแลแขกทั่วไป หรืออยากเป็นพีอาร์ดูแลแขกวีไอพีล่ะ”
“ แล้วต่างกันยังไงคะ หนูไม่ค่อยเข้าใจค่ะ”
แค่เขาแนะนำมา เธอก็พอเข้าใจอยู่บ้างว่างานพีอาร์ต้องทำอะไร แต่ไม่เข้าใจว่าแขกธรรมดากับแขกวีไอพี จะได้ค่าตอบแทนที่ต่างกันยังไง
“ ถ้าดูแลแขกธรรมดาทั่วไป เธอก็สามารถเริ่มงานได้เลย เพราะเธอผ่านสัมภาษณ์ แต่ถ้าเป็นพีอาร์ดูแลแขกวีไอพี ต้องให้นายสัมภาษณ์อีกที
แต่ค่าตอบแทนก็จะสูงกว่า แต่ต้องยอมรับว่าคนที่จะได้ไปดูแลแขกวีไอพี ก็คือจะต้องสวยและผ่านการทดสอบจากนายเท่านั้น ”
นับดาวเม้มปากแน่นตัดสินใจไม่ถูก คำว่าค่าตอบแทนที่สูงกว่า มันช่างยั่วใจเธอเหลือเกิน