บทที่ 6 ‘ให้เป็นเมียไม่ใช่น้อง’

3042 คำ
หลังจากที่ทามไทเดินเข้าไปในห้องน้ำแล้ว น้ำพิ้งค์ก็ค่อยๆพยุงตัวขึ้นมาจากเตียงมองเขม็งไปที่ประตูห้องน้ำที่คนตัวสูงเดินเข้าไปก่อนหน้านี้อย่างขุ่นเคือง เธอไม่รู้ว่าเรื่องที่เขาพูดก่อนหน้านี้เขาทราบมาจากไหน แต่ก็สืบได้ไม่ยากเพราะเรื่องที่เธอประกาศว่าทามไทเป็นเกย์มีแค่กลุ่มเธอกับเพื่อนร่วมรุ่นสองคนนั้นเท่านั้นที่รับรู้ แต่ก็ช่างเถอะ...ถึงทามไทจะรู้ว่าเธอเป็นคนปล่อยข่าวนั้นเธอก็ไม่ตกใจเท่ากับเรื่องตกหลุมรักผู้ชายที่ชื่อภีมแล้วสามีที่คุณแม่ของเธอจัดมาให้อย่างทามไทมองออกว่าเธอแอบปิ๊งผู้ชายคนนั้นอยู่ แล้วที่สำคัญเธอก็ดันโป๊ะแตกเลิ่กลั่กพูดออกไปแล้วด้วย คราวนี้แหละ เธออาจจะโดนจำกัดอิสระขึ้นกว่าเดิมแน่ถ้าเขาเอาเรื่องนี้ไปฟ้องแม่เธอจริง ๆ เฮ้อ~ "ไม่น่าโป๊ะแตกเลยพิ้งค์...ไม่น่าเลยจริง ๆ" น้ำพิ้งค์พึมพำกับตัวเองสายตาละห้อยอย่างหมดแรงก่อนจะถอนหายใจเดินคอตกออกไปนั่งโซฟาข้างนอกแทน หลายนาทีต่อมา... ร่างสูงโปร่งของทามไทเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยเสื้อคลุมอาบน้ำหลังจากที่อาบน้ำเสร็จ กำลังจะเดินไปทางห้องครัวแต่สายตาดันเหลือบไปเห็นน้ำพิ้งค์ออกมานั่งคอตกยัดขนมเข้าปากเหมือนคนหมดอาลัยตายอยากอยู่บนโซฟาหน้าทีวีสะก่อน เขาก็เลยหยุดเดินแล้วหันไปถามเธอ... "เป็นอะไร” “...เปล่า” “เหรอ...แค่ฉันรู้ว่าเธอชอบไอ้ภีมถึงกับนั่งหงอยคอตกเลยเหรอ" ขวับ! "เหอะ!...เปล่าเถอะ พี่อย่าคิดเองเออเองขอร้อง แล้วที่สำคัญพิ้งค์แค่มองเฉยๆพี่อย่ามาใส่ร้ายพิ้งค์ได้ปะ" ร่างเล็กบนโซฟาว่าด้วยสีหน้าบูดบึ้งออกไปก่อนจะตะปบขนมในถุงกินอย่างขึงขังในเวลาต่อมาเมื่อเห็นคนตัวสูงดูจะมีความสุขกับการได้คุมความสุขของเธอแบบนั้น แค่มองผู้ชายนิดๆหน่อยๆเองทำไมต้องทำให้เป็นเรื่องใหญ่ด้วย ทำอย่างกับตัวเองไม่เคยมองผู้หญิงสวยๆแล้วปลื้ม "หึ ถ้าไม่อยากให้ฉันใจร้ายกับเธอก็เลิกชอบไอ้ภีมสิ อีกอย่างที่แม่เธอยอมให้เธอมาอยู่ตรงนี้ก็เพราะฉัน ถ้าเธอไม่เชื่อฟังฉัน ฉันจะรายงานเรื่องวันนี้ของเธอทุกอย่าง รวมถึงเรื่องขับรถด้วย" นั้นไงเห็นไหมว่าเขาใจร้ายและขี้ฟ้องด้วย "พี่ทาม! นี่พี่กลายเป็นคนขี้ฟ้องไปแล้วเหรอ" "เขาเรียกว่ารายงาน" “เหอะ!” น้ำพิ้งค์กระแทกลมหายใจออกไปอย่างฉุนเฉียวหลังจากที่ทามไทว่าด้วยสีหน้านิ่งๆจบเขาก็เดินไปทางห้องครัวทันที ปล่อยให้เธอที่เด้งตัวจากโซฟานั่งทำหน้าบูดบึ้งไม่สบอารมณ์ต่อไปที่โดนเขาตอบกลับมาแบบนั้น แต่ไม่วายยังไม่ทันจะได้พิงโซฟากลับตามเดิมก็ได้ยินเสียงคนตัวสูงตะโกนแว่วออกมาอีกครั้ง... "รีบไปอาบน้ำสะถ้าอยากไปกินหมูกระทะ" พรึบ! "พี่ว่าอะไรนะ" จากที่ทำหน้าบูดบึ้งก่อนหน้านี้พอได้ยินประโยคมีอิทธิพลปุ๊บ....น้ำพิ้งค์ก็หูผึ่งเด้งตัวลุกออกจากโซฟาพร้อมยิ้มแฉ่งทันทีที่ได้ยินคนตัวสูงในห้องครัวตะโกนออกมาว่าจะพาเธอไปกินหมูกระทะตามที่เธอเคยบ่นกับแม่ไปเมื่อคืนนี้ โดยที่ลืมเรื่องที่มีปากเสียงกับคนตัวสูงในครัวก่อนหน้านี้ไปชั่วพริบตา "ถ้าขี้หูเยอะก็ไปหาที่แขะหูมาแขะออกไป" แต่ก็ไม่วายโดนคนปากร้ายอย่างทามไทตอบกลับมาด้วยความกวนโอ้ยจนได้เมื่อเธอทวนคำพูดของเขา... แต่ไม่เป็นไรเธอจะทำเป็นไม่สนใจละกันเพราะเธอมีสิ่งที่น่าสนใจมากกว่าอย่างหมูกระทะรออยู่ ฟึบ! เธอจึงรีบก้มลงกอบโกยพวกถุงขนมต่าง ๆ ที่อยู่บนโต๊ะขึ้นมาไว้ในอ้อมอกอย่างไวก่อนจะเดินลั้ลล้าไปเก็บในห้องครัวที่มีคนตัวสูงยืนดื่มน้ำเปล่าอยู่ที่เคาน์เตอร์ครัว เก็บเสร็จเธอก็ไม่ลืมที่จะเชิดหน้าใส่คนที่ดื่มน้ำอยู่อย่างทามไทก่อนเดินออกมาจากห้องครัวด้วย @ร้านหมูกระทะ96 อร่อยสดขี้ไม่รั่วยินดีคืนเงิน “อร่อยสดขี้ไม่รั่วยินดีคืนเงิน” อึกอึก หลังจากที่มาถึงร้านหมูกระทะและได้ลงจากรถของทามไทเรียบร้อยแล้ว น้ำพิ้งค์ก็ยืนกลืนน้ำลายตัวเองลงคอดังอึกทันทีที่เห็นป้ายหน้าร้านที่ช่างโปรโมทได้น่าสยดสยองสำหรับกระเพาะอาหารและทวารหนักของเธอเหลือเกิน จนเธอต้องแอบจับก้นกับหน้าท้องด้วยความหวั่นใจ “เป็นไรจับก้นปวดขี้หรือไง” ทามไทที่เดินลงมาจากรถเดินมาหยุดข้างๆน้ำพิ้งค์ ก่อนจะเอ่ยถามเธอออกไปเมื่อเห็นเธอยืนทำหน้าไม่สู้ดีนัก “...พี่พาพิ้งค์มาฆ่าหรือเปล่าเนี่ย ดูป้ายโปรโมทนั้นสิ” น้ำพิ้งค์พยักพเยิดหน้าไปที่ป้ายโปรโมทหน้าร้านที่ทำเธอกลัวจนไม่กล้าขยับเท้าเข้าไปในร้านให้ทามไทดู “มันก็แค่ป้ายจะไปกลัวอะไร หรือเธอไม่อยากกินแล้วถ้าไม่อยากกินจะกลับก็ได้นะ” “เปลี่ยนร้านได้ไหม” “ไม่เปลี่ยน ให้เลือกแค่จะกินกับจะกลับเท่านั้น” คนบ้าเอ้ย เขาเป็นคนที่ใจร้ายและใจร้ายกับเธอได้เสมอต้นเสมอปลายจริง ๆ ก่อนหน้านี้อุตส่าห์ดีใจที่บอกว่าจะพามากินหมูกระทะ แต่ดูตอนนี้สิ....แล้วก็ดูร้านที่พามาสิ ขี้ไม่รั่วยินดีคืนเงินใครมันจะกล้าเข้าไป “ว่าไง จะกินหรือจะกลับ” “กิน” ใช่ เธอจะกินและถ้าเธอกินไปแล้วเกิดท้องเสียขึ้นมาละก็คนที่ต้องรับผิดชอบและดูแลเธอก็คือเขานั้นแหละ เพราะฉะนั้นไปค่ะ เดินเข้าร้านไปด้วยความมั่นใจเหมือนพริกไทยเมื่อเช้านี้ “เอ้าเห้ย! ไอ้ทาม! ทางนี้เว้ย ตรงนี้ๆ” ผู้ชายหน้าตาดีท่าทางกวนหน่อยๆนั่งโบกไม้โบกมือเรียกคนตัวสูงข้างๆเธอด้วยหน้าระรื่นตรงบริเวณโต๊ะตรงกลางของร้าน ซึ่งในโต๊ะนั้นมีผู้ชายที่นั่งด้วยกันอีกอยู่ประมาณสามสี่คนด้วยกัน ประกอบด้วย... ผู้ชายหน้าตาหล่อเหลาแต่ดูท่าทางกวนๆที่นั่งโบกไม้โบกมือแล้วหนึ่ง ผู้ชายหน้าตาหล่อเหลาดูรวยมีสกุลรุนชาติแต่แอบเท่ห์อีกหนึ่งซึ่งนั่งอยู่ข้างๆผู้ชายคนแรก ถัดมาผู้ชายหน้าตาหล่อเหลาดูอบอุ่นเปรียบเสมือนตู้ไมโครเวฟที่ขนาดยืนอยู่ห่างกันหกเมตรยังสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นของเขาอีกหนึ่งนั่งอยู่ข้างๆคนที่สอง และสุดท้ายผู้ชายหน้าตาหล่อเหลาแต่ดูนิ่งๆดูสุขุมไม่ค่อยพูดค่อยจาดูๆแล้วบุคลิกก็จะคล้ายๆกับคนข้างๆเธอตอนนี้ที่กำลังเดินไปหาเพื่อนๆที่นั่งอยู่ที่โต๊ะอีกหนึ่ง ซึ่งนั่งถัดมาเป็นลำดับที่สี่ สรุปแล้วเขาพาเธอมากินหมูกระทะเนื่องในโอกาสต้องการต้อนรับเธอหรือเขาพามากินหมูกระทะเพราะนัดกับเพื่อนไว้แล้วกันแน่ เฮ้อ~ อุตส่าห์คิดดีนึกว่าจะใจดีพามาให้ แต่ที่ไหนได้มาเพราะนัดกับเพื่อนไว้อยู่แล้ว... “ไงมึง นัดมาสองทุ่มแต่มาสองทุ่มครึ่งไม่สมกับเป็นเฮดว้ากที่สอนเรื่องเวลากับน้องๆเลยนะไอ้ทาม” คนที่นั่งเก้าอี้ตัวแรกซึ่งมีชื่อว่าแปลนเอ่ยขึ้นทันทีที่ทามไทดึงเก้าอี้ลงไปนั่งฝั่งตรงข้าม เมื่อเขาซึ่งเป็นคนนัดกับเพื่อนๆว่าจะมาถึงร้านตอนสองทุ่มแต่ความเป็นจริงแล้วสองทุ่มเขายังนั่งรอน้ำพิ้งค์แต่งตัวอยู่ที่ห้องอีก ใช่ เขาไม่เคยรู้ว่าผู้หญิงจะใช้เวลาในการแต่งตัวได้นานขนาดนั้น เขาคิดแค่ว่าเธออาบน้ำเสร็จก็แต่งตัวออกมาได้เลยแต่เปล่า...เธออาบน้ำเสร็จเธอยังไม่สามารถเลือกชุดได้ว่าจะใส่ชุดไหนออกมา ซึ่งนั้นก็ทำให้เขาที่นั่งรออยู่ข้างนอกเมื่อหลายนาทีที่แล้วถึงกับเซ็ง “โทษทีมีคนไม่รู้จักเวลาพ่วงท้ายมาด้วย” ขวับ! “พี่เป็นคนชวนพิ้งค์มาเถอะ” น้ำพิ้งค์ที่รู้ตัวว่าโดนแขวะรีบหันขวับไปแก้ทันทีที่โดนคนข้างๆเม้าท์ว่าเหมือนเธออยากตามเขามาแถมยังว่าเธอไม่รู้จักเวลาอีกด้วย ก็ใครมันจะไปรู้ละว่าเขาจะนัดเพื่อนๆมากินด้วยเธอก็เลยไม่ได้สนใจเวลาที่จะออกมา รู้แต่ว่าออกจากห้องแล้วคนที่นั่งอยู่ข้างๆตอนนี้ก็ทำหน้านิ่งบอกบุญไม่รับแล้ว แต่เธอก็ไม่ได้สนใจอยู่ดี จนกระทั่งตอนนี้นี่แหละที่รู้ว่ามีเพื่อนมาด้วย “แล้วนี่มึงไม่คิดจะแนะนำคนที่มึงพามาด้วยเหรอวะไอ้ทาม” คนที่นั่งเป็นลำดับที่สองที่ดูเท่ห์ๆหน่อยมองไปที่น้ำพิ้งค์นิ่งๆ ...ซึ่งนั้นก็คือตฤณ... เมื่อตอนเที่ยงเขาเห็นหญิงสาวคนนี้ที่เพื่อนลากไปนั่งที่โต๊ะแล้วแต่ก็ไม่ได้สนใจถามเพราะคิดว่าเป็นผู้หญิงทั่วไปที่ชอบเรียกร้องความสนใจกับเพื่อนเฉยๆ แต่พอเห็นเพื่อนพามากินหมูกระทะตอนนี้ด้วยแล้วคงไม่ใช่ผู้หญิงทั่วไปที่ชอบมาเรียกร้องความสนใจกับเพื่อนแน่นอนเพราะมันผิดปกติ ใช่ ทามไทเพื่อนของเขาถือว่าฮอตมากในหมู่สาวๆ ฮอตชนิดที่ว่าสาวล้อมหน้าล้อมหลังเลยทีเดียว แต่เสียดายเพื่อนเขาไม่ยุ่งกับใครสักคนเพราะเป็นคนเย็นชากับสิ่งมีชีวิตทุกอย่างบนโลกใบนี้ เขาก็เลยเกิดความสนใจใคร่อยากรู้มาก ๆว่าสาวสวยหน้าตาน่ารักคนนี้เกี่ยวข้องอะไรกับเพื่อน เพื่อนถึงได้พามานั่งตรงนี้ด้วยกันได้ “นี่น้ำพิ้งค์” ทามไทแนะนำน้ำพิ้งค์ให้เพื่อนๆทั้งสี่คนรู้จักด้วยสีหน้าเรียบนิ่งหลังจากที่โดนตฤณทวงถาม ซึ่งน้ำพิ้งค์ก็ยกมือไหว้รุ่นพี่ทันทีที่ถูกแนะนำ “สวัสดีค่ะ” “หวัดดีครับพี่ชื่อแปลน” แปลนรับไหว้แล้วแนะนำชื่อตัวเองด้วยรอยยิ้ม “พี่ชื่อตฤณ” “พี่ชื่อโยธาครับ” เมื่อทุกคนแนะนำตัวกันเป็นทอดๆแล้วต่อมาสายตาเธอก็ไปสะดุดกับคนสุดท้ายที่นั่งกินหมูกระทะอยู่เงียบๆคนเดียว “...” “ส่วนไอ้นั้นมันชื่อเธียร” เป็นทามไทที่แนะนำชื่อเพื่อนคนสุดท้ายที่นั่งคีบหมูกระทะเข้าปากแทน ซึ่งเขาเป็นคนนิ่งๆที่ไม่ค่อยพูด ง่ายๆคือพูดน้อยต่อยหนักและมีตำแหน่งเป็นรองเฮดว๊ากคณะด้วย “ค่ะ” “แล้วพวกมึงสองคนเป็นอะไรกันวะ” ยังคงเป็นตฤณที่ตั้งคำถามต่อมากับเขา เขาจึงจ้องไปที่เพื่อนซึ่งนั่งตรงข้ามกับเขาพอดีด้วยความเบื่อหน่ายที่เพื่อนมาตั้งคำถามปัญญาอ่อนนั้นกับเขา และที่สำคัญเขาก็ดูออกว่าเพื่อนอย่างตฤณนั้นกำลังสนใจเรื่องของเขากับน้ำพิ้งค์ตอนนี้มาก มากชนิดที่เรียกว่าเสือกได้เลย และรอยยิ้มที่มุมปากนั้นก็ทำให้เขาเกิดความรำคาญมากเช่นกัน จนโพล่งบางอย่างที่ทำให้ทุกคนช็อกออกไป “...ผัวเมีย พอใจมึงยังไอ้ตฤณ” ขวับ! “O_O” น้ำพิ้งค์ “ !!! ” แปลน และคนอื่น ๆ “O_O” ทุกคนต่างเบิกตาโตและช็อกไปตามๆกัน ทันทีที่ได้ยินประโยคแสนช็อกจนเส้นเลือดในสมองเกือบจะแตก เมื่อคนที่เย็นชาและแสนหวงตัวอย่างเฮดว้ากคณะวิศวะประกาศกร้าวว่ามีเมียแล้ว ยกเว้นแต่น้ำพิ้งค์ที่ตกใจเพราะไม่คิดว่าเขาจะเปิดเรื่องสถานะให้เพื่อนๆรับรู้ ในขณะที่ตอนเที่ยงเธอพยายามปกปิดเรื่องนี้จากเพื่อนๆแทบตาย “..เอ๋อ...แล้วพวกมึงเป็นผัวเมียกันได้ไงวะ แต่งงานกันหรือปักๆกันทั่วไปอย่างไอ้ตฤณ” ผัวะ! “โอ้ย!” “อย่าโยงเก่งเป็นแกทแพทไอ้สัสแปลน” ตฤณที่นั่งอยู่ข้างๆแปลนยกมือขึ้นไปผัวะเข้าให้ ทันทีที่แปลนโยงเขาเรื่องของตนเองอย่างเนียนๆ ส่วนคนที่ถูกโยงอย่างน้ำพิ้งค์ก็ได้แต่นั่งบีบมือตัวเองบนตักเงียบๆอย่างเดียวเพราะตกใจจนทำอะไรไม่ถูกที่คนข้างๆเปิดเผยสถานะแบบโจ่งแจ้งขนาดนั้น เธอไม่เคยคิดว่าคนที่ดูจะต่อต้านการถูกบังคับให้แต่งงานอย่างทามไทจะมาเปิดโปงสถานะอันลับสุดยอดแบบนี้กับเพื่อน และตอนนี้เธอก็งงไปหมดแล้วด้วย ว่าจริง ๆแล้วควรจะเป็นยังไง ควรจะทำเป็นแต่งแล้วเงียบหรือแต่งแล้วประกาศกันแน่ “เรื่องมันยาว” ทามไทตอบแปลนกลับไปแบบชิว ๆ แล้วคีบหมูกระทะที่โยธานั่งย่างให้ใส่จานน้ำพิ้งค์ที่นั่งเงียบกริบหลังจากที่เขาเผยสถานะออกไปพร้อมกับเหลือบมองเธอเล็กน้อย “แต่พวกกูมีเวลาฟัง เล่ามาเลย” “มึงไม่ค่อยอยากจะเสือกเรื่องของมันเลยนะไอ้แปลน” “มีใครที่ไม่อยากเสือกเรื่องของเฮดว้ากคณะวิศวกรรมศาสตร์ผู้เงียบขรึมอย่างไอ้ทามที่แม่งไม่เคยมีข่าวว่าควงผู้หญิงมาก่อนเลยบ้างวะ? แต่จู่ๆ แม่งมีเมียเฉย” !!! ไม่เคยควงผู้หญิง? น้ำพิ้งค์เบิกตาโตสะดุดกับคำว่าไม่เคยควงผู้หญิงของแปลนทันทีที่บอกว่าคนข้างๆเธอที่สุดแสนจะหล่อเท่ประเสริฐศรีขนาดนี้ไม่เคยควงผู้หญิง เป็นไปได้เหรอ? หรือว่าเขา.... “ฉันไม่ได้เป็นเกย์อย่างที่เธอไปบอกเพื่อนนะยัยตัวแสบ หยุดมองฉันแบบนั้นสักทีเดี๋ยวแม่งก็จิ้มตาให้หรอก” ทามไทรีบเอ่ยดักทางด้วยความฉุนเฉียวทันทีเมื่อน้ำพิ้งค์มองหน้าเขาแล้วทำหน้าเหมือนคิดอะไรอยู่คนเดียวแล้วก็ทำหน้าตกใจภายหลัง “ฮาร์ดคอกับเด็กปีหนึ่งไม่พอแม่งยังฮาร์ดคอกับเมียด้วยวะ มึงนี่มันสุดยอดจริง ๆเลยไอ้ทาม” ตฤณหัวเราะเบาๆในลำคอหลังจากที่ดูเพื่อนทำหน้าดุใส่คนที่ได้ชื่อว่าเป็นเมียอย่างน้ำพิ้งค์ “น้องไม่ต้องกลัวมันหรอก กินหมูนี่ดีกว่า” โยธาที่เป็นคนรู้เรื่องคร่าวๆของเพื่อนมาบ้างแล้วยิ้มอบอุ่นให้น้ำพิ้งค์ก่อนจะคีบหมูกระทะให้ “อ้าวเปลี่ยนเรื่องกันง่ายแบบนี้เลยเหรอวะ กูยังไม่ได้รู้เลยนะเว้ยว่าไอ้ทามได้กับเมียมันยังไง” แปลนที่เห็นเพื่อนๆกำลังจะเปลี่ยนเรื่องคุยโวยขึ้นมาอย่างไม่ยอม “มันจะได้กับเมียมันยังไงมึงจะไปเสือกอะไรกับมันวะไอ้แปลน แดกหมูไปเถอะมึงอะ” ตฤณว่าพร้อมกับตักเนื้อหมูใส่จานตรงหน้าแปลน จากนั้นทุกคนก็นั่งกินต่อไปโดยพูดเรื่องสัพเพเหระของเด็กปีหนึ่งที่นัดเจอวันนี้แทนการพูดคุยเรื่องส่วนตัวของทามไท จนกระทั่งที่กินเสร็จและบนโต๊ะก็ไม่เหลืออะไรนอกจากจานและเศษอาหารบางส่วนที่เหลือไว้แค่นั้น 5นาทีต่อมา... “โคตรอิ่มเลยวะ” แปลนพูดพร้อมกับลูบหน้าท้องด้วยความอิ่ม “มึงไม่อิ่มก็แปลกแล้วไอ้แปลน หมูที่ไอ้โยย่างเสร็จมึงก็เอาไปแดกหมด” “โทษทีวะกูอดมื้อเย็นมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ” “สัส...เอองั้นก็แยกย้ายตรงนี้เลยนะ กูกลับละแม่งอิ่มเหมือนท้องจะแตกเลยวะ ไปไอ้เธียร” ตฤณว่า “เคกลับบ้านดีๆ” หลังจากที่ทานกันเสร็จแล้วเดินออกมาจากร้านตฤณกับเธียรก็ขอแยกตัวกลับก่อน โยธากับแปลนก็เลยหันมาบอกลาเพื่อนอย่างทามไทเช่นเดียวกัน... “งั้นกูกับไอ้แปลนกลับก่อนนะ” “อืม ขับรถดีๆ” ใบหน้าหล่อเหลาของทามไทพยักหน้ารับรู้ให้เพื่อนทั้งสองคนที่เตรียมหมุนตัวเดินไปขึ้นรถที่จอดอยู่ไม่ไกลเป็นคู่ต่อไป และทันทีที่ทุกคนขึ้นรถกลับไปหมดแล้ว น้ำพิ้งค์ก็หันขวับจ้องตาเขียวใส่ทามไททันที “พี่ทาม! เมื่อกี้พี่พูดบ้าอะไรของพี่ พี่ไปบอกเพื่อนๆพี่ว่าเราเป็นผัว...เอ๋อ..สามีภรรยากันทำไม” “เธอยังบอกเพื่อนเธอว่าฉันเป็นเกย์ได้เลย” “แต่มันไม่เหมือนกันนะ พิ้งค์ทำเพราะไม่อยากให้สวยมันชอบพี่” “แต่เธอก็บอกเพื่อนเธอว่าฉันเป็นพี่เธอ” “แล้วมันไม่ดีหรือไงที่พิ้งค์บอกว่าเป็นน้องพี่อะ” “ฉันยอมแต่งงานกับเธอเพื่อให้เธออยู่ในสถานะเมียไม่ใช่น้อง! อย่าโง่” !!! ว่าจบทามไทก็เดินล้วงกระเป๋าไปขึ้นรถอย่างฉุนเฉียวปล่อยให้น้ำพิ้งค์ยืนช็อกที่โดนด่าว่าโง่ทั้ง ๆที่ยังงงงวยต่อไป จนกระทั่ง... ปี๊น!!!!!!! เฮือก! “จะกลับไหมบ้านอะ ถ้าไม่กลับฉันจะได้กลับคนเดียว” หลังจากที่กดบีบแตรจนน้ำพิ้งค์ที่ยืนหน้ารถขวัญกระเจิงไปแล้วเขาก็ชะโงกหัวตะโกนถามเสียงหงุดหงิดต่อ จนน้ำพิ้งค์รู้สึกโมโหกระทืบเท้าเดินไปขึ้นรถในที่สุด ปึก! “ถ้าเห็นพิ้งค์เป็นเมียรบกวนช่วยอ่อนโยนหน่อย เพราะพิ้งค์เปราะบางด่าโง่แล้วรู้สึกเจ็บ” “...งั้นก็อย่าฉลาดน้อย กินปลาเยอะๆจะได้ฉลาดว่าเธอไม่ได้แต่งมาเป็นน้องฉัน” “...”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม