จีบครั้งที่ 6

2083 คำ
ใบหน้าสวยขึ้นสีระเรื่อยามนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืน เข่าที่ยกขึ้นตั้งชันถูกใบหน้าเนียนซุกเข้าหา ราวกับไม่ต้องการให้ใครได้เห็นใบหน้าของตนที่แดงก่ำเหมือนลูกมะเขือเทศ ยิ่งคิดก็ยิ่งหน้าร้อน หน้าร้อนที่ไม่ได้หมายถึงฤดูกาล แต่หมายถึงหน้าของเขาเนี่ย ฮื่อออ “ทำไมไม่เนียนนอนต่อยันเช้า” “คิดอยู่” “…” “แต่พี่ตฤณเดินเข้ามาปลุกก่อน” “โธ่เอ๊ยนายตฤณภพพพ” เหมยตบหน้าผากตนเสียงดังป๊าบด้วยความปลง ทอดสายตามองเพื่อนตัวน้อยข้างกายด้วยแววตาที่แสดงออกมาว่าสงส๊ารสงสาร มีโอกาสได้นอนเตียงเดียวกับคนที่ชอบทั้งที แต่พี่ชายก็ดันไม่รู้เรื่องไม่รู้ราวเดินเข้ามาปลุกน้องซะได้ ต้องพายัยเหมียวเล็กไปทำบุญวัดไหนดีเนี่ย เฮ้อ “ฮื่ออ พี่พอร์ชตัวหอมมากเลยเหมย” หวนนึกไปถึงเมื่อคืนที่ไปคอนโดพี่พอร์ช จำได้ว่าหลังจากที่คุยกับคนพี่ที่ระเบียงเสร็จ นับตะวันก็เข้ามานั่งจุ้มปุ๊กบนโซฟา จากนั้นภาพก็ตัดไปเลย... มารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ขยับกายซุกเข้าหาไออุ่นพร้อมกับกลิ่นหอมที่ทำให้รู้สึกดี ไหนจะสัมผัสที่โอบล้อมรอบกาย ในตอนนั้นเองเจ้าลูกแมวน้อยที่เผลอหลับไปอย่างสบายใจก็ตื่นขึ้นมาพบกับความจริง แผงอกที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อเรียงสวยปรากฏสู่สายตา ดวงตากลมช้อนขึ้นเล็กน้อยก็สบเข้ากับลูกกระเดือกเด่นชัด ลมหายใจร้อนที่เป่ารดอยู่บนเรือนผมทำให้รู้ว่าเจ้าของห้องกว้างกำลังอยู่ในห้วงนิทรา แต่นั่นก็ดีแล้วล่ะ เพราะถ้าพี่พอร์ชตื่น...นับตะวันก็ไม่รู้ว่าจะเอาหน้าไปไว้ตรงไหน ใบหน้าเห่อร้อนเมื่อรู้ว่าบริเวณที่ตนซุกกายเข้าหาคือร่างกายสมส่วนที่ท่อนบนเปลือยเปล่า ขาวจนนับตะวันตาพร่า ฮืออออ ไม่อยากให้โอกาสครั้งนี้หลุดมือไปเลย เด็กน้อยหวังจะหลับต่อในอ้อมกอดของคนที่ตนแอบหลงรัก...ถ้าพี่ชายไม่เปิดประตูเข้ามาก่อนอ่านะ นับตะวันเซ็งเลย แต่ก็ยังเขินอยู่ดี แอบเห็นว่าพี่พอร์ชสักตัวอักษรเล็กๆ บริเวณแผ่นอกด้วยนะ Porshe “อุ้มมานอนบนเตียงแบบนี้แถวบ้านเรียกมีใจนะ” “เหมยอย่ามั่วสิ” “เอ้า จริงๆ” นับตะวันย่นจมูกใส่เพื่อนสาวไปหนึ่งที เมื่อคืนหลังจากกลับจากคอนโด พี่พอร์ชเขาก็รีบโทรมาเล่าทุกอย่างให้เหมยฟัง นับตะวันบอกทุกอย่างกับเหมยมาตลอด “ไม่มีใจแล้วจะใส่ถุงเท้าให้ทำไม” “…” กว่าจะรู้ว่าตัวเองสวมถุงเท้าอยู่ก็ตอนที่กลับถึงบ้านแล้ว ก็มีแค่คนเดียวแหละที่สวมมันให้ พี่พอร์ชไง ราวกับมีผีเสื้อนับพันตัวโบยบินอยู่ในท้อง ดวงตากลมทอประกายแห่งความสุขเมื่อรู้ว่าคนพี่ยังไม่ลืมว่าเขาต้องสวมถุงเท้านอนทุกครั้ง แต่ว่า...ทำไมพี่พอร์ชมีถุงเท้าน่ารักแบบนี้ในห้อง? “มะ เหมย” เสียงหวานสั่นพร่า “เฮ้ยย อย่าเบะดิ เป็นอะไร ไม่ร้องๆ” “ทำไมพี่พอร์ชมีถุงเท้าน่ารักแบบนี้ในห้อง พี่พอร์ชมีคนจุ๊บจิ๊บแล้วใช่ไหมเหมย เหมยยย” “บ้าน่าา ของน้องสาวพี่สาวหรือเปล่า” “พี่พอร์ชเป็นลูกชายคนเดียวนะ” “งั้นๆ ของเพื่อน” “เพื่อนจริงหรือเพื่อนปลอม” “เพื่อนกูรักมึงว่ะมั้ง เอ้าา อย่าเบะสิโว้ยย” “โป้งเหมยแล้ว! โทนี่! ตะวันไปนั่งด้วยนะ” คนตัวเล็กโป้งใส่เพื่อน ก่อนจะกวาดเอากระเป๋าที่วางไว้ใส่อ้อมแขนแล้ววิ่งดุ๊กดิ๊กไปหาเพื่อนชายตัวสูงที่มองด้วยใบหน้างุนงง แต่ก็ตบที่นั่งว่างข้างๆ เป็นเชิงให้เพื่อนตัวน้อยนั่งลง เหมยส่ายหัวน้อยๆ ให้กับการกระทำนั้น ก็เนี่ยยย งอนยังน่ารักขนาดนี้ ใครบ้างจะไม่เอ็นดู คนเขาโอ๋กันทั้งคณะแล้ว นับตะวันไม่เคยรู้ตัวเองเลยว่าถูกคนในคณะตั้งฉายาให้ว่า เหมียวน้อย 3 เซน “ถูกเหมยแกล้งมาเหรอ” โทนี่ลูบหัวเพื่อนตัวเล็กข้างกายอย่างเอ็นดู นับตะวันพอถูกโอ๋เข้าหน่อยก็รีบฟ้องทันที “ตะวันโป้งเหมย 10 นาที โทนี่ไปจัดการเหมยเลยนะ เหมยแกล้งตะวัน” “จริงหรือเปล่า ไม่ใช่ว่าตะวันแกล้งเหมยนะ” ดวงตากลมเลิ่กลั่กไปมา ก่อนจะพองแก้มใส่อย่างไม่พอใจที่ถูกโทนี่คาดคั้น แต่ทว่าก่อนจะได้เอ่ยท้วง แก้มกลมๆ ก็ถูกจิ้มโดยฝีมือของกลุ่มรุ่นพี่ปี 2 เสียก่อน “เหมียวๆ ทำไมแก้มฟู” “หวัดดีค้าบบ/ค่ะ” เพราะนั่งเล่นกันอยู่ที่ลานหน้าคณะทำให้มีรุ่นพี่บางส่วนแวะเข้ามาคุยเล่นด้วย แล้วคนที่จิ้มแก้มนับตะวันก็คือปิงปอง รุ่นพี่ปี 2 ที่ถือว่าสนิทกับกลุ่มของนับตะวันมากๆ “คืนนี้ไปไหนกันไหมเด็กๆ” ปิงปองเอ่ยถาม “พี่มีไรหรือเปล่า จะเลี้ยงหนมเหรอ” “เลี้ยงเหล้าจ้า” “โหหห ที่ไหนๆ ไปๆ” “อย่างไวกันเลยนะไอ้พวกนี้” “ก็ของฟรี” หูหางกระดิกกันอย่างพร้อมเพรียงเมื่อได้ยินคำว่าของฟรี อีกอย่างก็มีหลายคนที่ยังไม่เคยเข้าร้านเหล้าเลยสักครั้ง เช่น นับตะวัน ดวงตากลมโตแสดงออกมาว่าตื่นเต้นอย่างปิดไม่มิด เขาไม่เคยเข้าร้านเหล้าเลยสักครั้ง เคยเห็นในอินเทอร์เน็ตแล้วดูน่าจะสนุกดี นับตะวันอยากไปๆ “ไปไหมเราอะ” ปิงปองยืดแก้มเด็กน้อยด้วยความเอ็นดู ก่อนจะยีกลุ่มผมนุ่มสีน้ำตาลจนเส้นผมชี้ฟู แต่ทว่าก็ยังดูน่ารักอยู่ดี “ไปอยู่แล้ว” แต่ต้องโทรไปบอกพี่ตฤณก่อนนะ “กี่โมงครับ” “สามทุ่มที่ร้าน...” นับตะวันรู้สึกตื่นเต้นจนเผลอยิ้มจนดวงตาเหลือแค่เสี้ยว หูหางทิพย์โบกสะบัดไปมาราวกับลูกหมาลูกแมว ในหัวกำลังจินตนาการไปถึงตอนที่ตัวเองกระดกน้ำสีอำพันลงคอไปแบบเท่ๆ ดวงตากลมโตวิบวับจนเหมยทนไม่ไหวเดินเข้ามาเอามือปิดหน้าเพื่อนไว้ “เหมยยย” คนตัวเล็กปัดมือเพื่อนทิ้ง ก่อนจะลุกขึ้นวิ่งไล่ทุบเหมยจนอ้อมลานหน้าคณะ ดูยังไงก็เหมือนแมววิ่งไล่หมาจิ้งจอกอยู่ดี ร้าน X เวลา 21.00 น. คนที่ดูตื่นเต้นที่สุดก็คงหนีไม่พ้นนับตะวัน คนตัวเล็กหันมองซ้ายมองขวาอยู่แทบจะตลอดเวลาแม้ว่าตอนนี้จะยืนอยู่เพียงแค่หน้าร้าน เพื่อนๆ มากันเยอะพอสมควร อาจจะเพราะว่างานนี้กินฟรีด้วยมั้ง ร้านที่มาบรรยากาศรอบๆ ค่อนข้างดูดี ดูหรูหรา ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด ด้านนอกมีพี่การ์ดชุดดำยืนประจำจุดต่างๆ เพื่อคอยอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการที่ร้าน นับตะวันเหลือบตามองเหมยที่แต่งตัวสวยแบบจัดเต็ม ทำเอาหนุ่มๆ ที่เดินผ่านไปมาต้องเหลียวหลังมอง ช่างต่างจากนับตะวันที่อยู่ในเสื้อเชิ้ตตัวโคร่งสีขาว ยังดีที่เนื้อผ้าบางเบา เวลาเข้าไปเบียดกันข้างในจะได้ไม่ร้อนมาก นับตะวันอยากแต่งตัวแซ่บๆ แบบเหมยบ้าง แต่พี่ตฤณน่ะสิไม่ยอม ตอนนี้ก็เลยอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตกับกางเกงขาสั้นสีดำ อ้อ...รองเท้าผ้าใบสีขาวด้วย ริมฝีปากสวยขยับยิ้มให้กับคนที่ส่งรอยยิ้มมาให้ บางคนก็คุ้นหน้า บางคนก็ไม่รู้จัก แต่เขายิ้มให้ก่อน นับตะวันเลยส่งยิ้มตอบกลับไป “ไหนพี่ปิงปอง เบี้ยวเราหรือเปล่าเนี่ย” โทนี่พูดขึ้นขำๆ “เฮ้ยยย ไม่ได้นะเว้ยยย” กลุ่มเพื่อนเริ่มโวยวายออกมาเมื่อถึงเวลาที่นัดหมายแต่ยังไม่เห็นกลุ่มพี่ปิงปองแม้แต่คนเดียว แต่นับตะวันรู้ว่าเพื่อนๆ ก็แค่แกล้งโวยวายไปงั้นแหละ ดูหน้าแต่ละคนก็รู้ว่าไม่ได้จริงจังกันมาก นี่เป็นการมาร้านเหล้าหรือผับบาร์ครั้งแรกของนับตะวันตัวน้อยเลยนะ ดวงตากลมโตทอประกายตื่นเต้นอย่างปิดไม่มิด แม้ว่าจะประหม่าแต่นับตะวันสู้ขาดใจ! กว่าจะขอพี่ตฤณมาได้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ “ตะวันแต่งตัวน่ารักจัง” ใครสักคนพูดขึ้นมา ซึ่งแน่นอนว่าทุกคนพร้อมใจกันพยักหน้าเห็นด้วย แม้ว่าบุคลิกของคนตัวเล็กจะขัดกันกับสถานที่ก็ตามที ลูกแมวตัวน้อยไม่ควรมาร้านเหล้า แต่ควรไปกินนมนอนมากกว่า “ตะวันไม่น่ารักหรอก” เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงอ้อมแอ้ม ซึ่งการกระทำนี้น่ารักจนเหมยมันเขี้ยว ไม่วายต้องยื่นมือมายืดแก้มกลม นับตะวันถลึงตาใส่เพื่อนสาว แต่เหมยหาได้กลัวไม่ นับตะวันที่ขู่ฟ่อๆ ก็ไม่ต่างจากลูกแมวหรอก พระเจ้าขี้โกงมากๆ เหมือนใส่ความนุ่มฟูมาให้นับตะวันจนเต็มพิกัด เพื่อนเธอถึงทำอะไรก็ดูน่ารักไปหมด น่ารักทั้งการกระทำและนิสัย “ไอ้เด็กกก!!” เสียงคุ้นหูที่ตะโกนมาแต่ไกลทำให้ทุกคนที่ยืนออกันอยู่หน้าร้านหันขวับไปมองด้วยความพร้อมเพรียง ร่างสูงโปร่งดูสมส่วนของพี่ปิงปองคือภาพที่นับตะวันเห็น คนน่ารักโบกมือไปมาทักทาย ก่อนจะถูกคนเป็นพี่พุ่งเข้าฟัดแก้มอย่างทุกที “งื้ออ แก้มตะวันจะช้ำ” “ใจเย็นกับเพื่อนหนูหน่อย” “มันเขี้ยววว ทำไมน่ารักจังวะหืมม” หญิงสาวที่มีนามว่าปิงปองเอ่ยขึ้นด้วยความมันเขี้ยว เธอแพ้ของอะไรที่มันน่ารักๆ ซึ่งไอ้รุ่นน้องตัวเล็กตากลมโตนี่ก็คือหนึ่งในนั้น รู้สึกเอ็นดูตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เห็น อยากอุ้มกลับไปเลี้ยงแมวเลียที่บ้าน แต่กลัวพี่ตฤณมาทุบหัวเอาน่ะสิ ตอนเธอเห็นนามสกุลไอ้เด็กน่ารักนี่ถึงกับผงะ ใครบ้างจะไม่รู้จัก ตฤณภพ หัสวอนันต์ แต่ความจริงแก๊งนี้ก็เป็นที่รู้จักของคนในมหาลัยทั้งนั้นแหละ พวกเด็กปี 1 เดี๋ยวอยู่ๆ ไปก็ได้ยินชื่อเสียงเรียงนามแก๊งนี้เอง นับตะวันที่ถูกบู้บี้จนแก้มแดงใช้สองมือแนบแก้มไว้ เพื่อหวังว่ามันจะปกป้องแก้มหอมๆ ของตนจากมือของรุ่นพี่ตรงหน้า เด็กน้อยรีบใช้จังหวะที่พี่ปิงปองเผลอวิ่งไปหลบหลังโทนี่จนมิด ก่อนจะโผล่ใบหน้าออกมามองเพียงแค่เสี้ยว “งดบู้บี้แก้มตะวันนะ” เด็กน้อยเอ่ยต่อรอง “ไม่รอดหรอก เข้าไปในร้านเดี๋ยวเพื่อนพี่ก็บู้บี้แก้มหนู” “ฮื่อออ” “ฮ่าๆๆ” นับตะวันถือได้ว่าเป็นขวัญใจพวกรุ่นพี่เชียวนะ อาจจะเพราะบุคลิกและการกระทำเหมือนลูกแมวนี่ละมั้งที่ทำให้รุ่นพี่รู้สึกเอ็นดูจนอดใจไม่ไหวต้องบู้บี้แก้มอยู่ทุกครั้ง ก็ทำไงได้ รุ่นน้องผู้หญิงปีนี้ส่วนมากก็แนวห้าวๆ ทั้งนั้น มีนับตะวันนี่แหละที่เหมือนลูกแมวที่สุดแล้ว ปิงปองรีบพารุ่นน้องเข้าไปในร้าน และตรงดิ่งขึ้นไปยังชั้น 2 ซึ่งเป็นโต๊ะใหญ่ที่ตอนนี้เต็มไปด้วยเด็กปี 2 บรรยากาศภายในร้านเต็มไปด้วยแสง สี เสียง อย่างที่ นับตะวันไม่เคยเห็นมาก่อน ด้านในคนเยอะจนบางครั้งนับตะวันถูกเบียดจนเกือบล้ม แต่ยังดีที่ได้โทนี่ช่วยประคองไว้ และอาสาเดินตามหลังเพื่อกันไม่ให้นับตะวันล้มเพราะถูกจำนวนคนในร้านเบียด เสียงเพลงจังหวะ EDM ที่ดีเจเปิดดังจนนับตะวันหูอื้อ แต่ทว่าดวงตากลับเบิกกว้างอย่างตื่นเต้นกับบรรยากาศแปลกใหม่ที่ได้สัมผัส เมื่อมาถึงชั้น 2 พวกรุ่นพี่ต่างพร้อมใจกันส่งเสียงเฮออกมาดังลั่น เมื่อเห็นรุ่นน้องเดินเข้ามาใกล้ๆ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์และของกินเล่นถูกวางไว้เต็มโต๊ะ เอาล่ะ คืนนี้นับตะวันจะดื่มสัก 3 แก้วก็แล้วกัน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม