bc

ให้ใจแล้วไม่รับคืน Love for you

book_age18+
555
ติดตาม
2.3K
อ่าน
ครอบครัว
จบสุข
หวาน
ชายจีบหญิง
สยองขวัญ
ขี้แพ้
witty
มัธยมปลาย
ปิ๊งรักวัยเด็ก
like
intro-logo
คำนิยม

‘หัวใจให้ไปแล้ว ใครเขาเอาคืนกันวะ’

นิยายรักฟีลกู๊ดที่แอบหื่น พระเอกนางเอกรักและคบกันมาตั้งแต่มัธยม เรียนมหาวิทยาลัยด้วยกัน และจบลงด้วยการแต่งงาน ที่สำคัญคลั่งรักกันมากๆ

ภีม ภูรินทร์

ลูกแพร์ ลลินดา

ตัวอย่าง

“สวยมั้ย?”

“หือ? บอกแล้วไม่ใช่เหรอ?”

“ไม่ใช่แพร์” สายตาของภีมที่มองสบตาทำให้ลูกแพร์ต้องรีบพูด “สาวชุดแดงโต๊ะซ้ายมือไง? มองมาสี่รอบแล้วนะ”

รอบที่หนึ่งอาจจะไม่แน่ใจ รอบที่สองขอมองซ้ำเพราะความชัวร์ รอบที่สามคือเริ่มอ่อย ส่วนรอบที่สี่คือตั้งใจอ่อย

“จำไม่ได้เหรอว่าเราสายตาสั้น?”

“อือ? ไม่สั้นนะ สายตาภีมปกติ” ก็เพิ่งไปวัดสายตากันมาเมื่อเดือนก่อน ร้านที่ไปก็เป็นร้านที่พี่ลูกหม่อนแนะนำ ก็ไม่น่าจะผิดพลาด

หรือเธอจะจำตัวเลขผิด

“ใครบอกว่าปกติ สั้นมาหกปีแล้ว”

“จริงเหรอ ทำไมแพร์ไม่รู้ล่ะ” ใบหน้าจริงจังของคนพูดทำให้ลูกแพร์ลังเล หรือว่าเธอจะจำผิดจริงๆ “สายตาภีมสั้นอยู่เท่าไหร่? ต้องตัดแว่นมั้ย?”

“...”

“ว่าไง? สายตาภีมสั้นอยู่เท่าไหร่?” ลูกแพร์ถามซ้ำเมื่อคนที่บอกว่าตัวเองสายตาสั้นไม่ยอมตอบ

“สายตาฉัน(สั้น)อยู่ที่เธอ ต้องตัดแว่นมั้ย?”

chap-preview
อ่านตัวอย่างฟรี
ตอนที่ 1 ช่วยคบเราเป็นเพื่อนด้วยนะ
08.05 นาที อาจจะเป็นเวลาที่ทำให้ใครหลายคนเดือดเนื้อร้อนใจ ทว่ากับไม่มีผลต่อเจ้าของรถบิ๊กไบค์สีดำพาดเขียวที่เพิ่งขับผ่านหน้าโรงเรียนที่ตัวเองเรียนอยู่ ทั้งที่เวลานี้เป็นเวลาที่ถูกขีดเส้นใต้ว่า ‘สาย’ ซึ่งมีผลต่อคะแนนจิตพิสัยและคะแนนความประพฤติของนักเรียนทุกคน หรือถ้าใครที่มาสายบ่อยๆ ก็อาจจะถูกทางโรงเรียนส่งหนังสือรายงานถึงผู้ปกครองและเชิญผู้ปกครองมาพบ แน่นอนว่ามันเป็นเรื่องที่นักเรียนทุกคนต้องกลัว รวมถึงนักเรียนชาย ‘คนนั้น’ ที่รู้ดีว่าตัวเองคือหนึ่งคนที่มาสาย ถ้าเขาคนนั้นเดินเข้าทางประตูด้านหน้าโรงเรียน ผ่านจุดตรวจที่มีครูเวรประจำวันยืนทำหน้าที่อย่างขยันขันแข็ง แต่เมื่อเขามีอีกเส้นทางที่สามารถเข้าไปในโรงเรียนได้โดยไม่ต้องถูกบันทึกชื่อ แล้วทำไมเขาจะต้องกังวลหรือกลัว การมาสายที่หลายคนกังวลหรือกลัวเลยไม่มีผลอะไรกับเขา ความเร็วของรถบิ๊กไบค์ถูกลดลงเรื่อยๆ ก่อนจะหยุดนิ่งเมื่อเจ้าของพามันเข้าไปจอดยังที่ประจำ หมวกกันน็อคสีดำถูกถอดออกจากศรีษะวางไว้บนถังน้ำมัน ตามด้วยถุงมือหนังสีเดียวกัน ก่อนที่ขายาวๆข้างขวาจะยกตวัดข้ามตัวรถลงมายืนด้วยท่าทางสุดเท่ห์อย่างเป็นธรรมชาติ ก่อนออกเดินก็ไม่ลืมหยิบเอากระเป๋าเป้ที่แขวนอยู่กับแฮนด์รถติดมือไปด้วย ร่างสูงที่กำลังก้าวเดินไปที่รั้วกำแพงด้านหลังของโรงเรียนถึงกับชะงัก มุมปากระตุก ดวงตาหรี่นิ่งมองดูจุดที่ตัวเองกับเพื่อนใช้เป็นทางลัดเพื่อหลีกหนีการถูกบันทึกชื่อด้วยสายตาเซ็งจัดเมื่อเห็นร่างสูงใหญ่ของครูฝ่ายปกครองยืนเป็นยักษ์ปักหลั่นอยู่ไม่ไกล เวรแล้วไง... นั่นคือคำที่เขาสบถในใจ ดวงตาเรียวก้มมองนาฬิกาสีดำราคาแพงที่อยู่บนข้อมือซ้ายอย่างหงุดหงิด อีกไม่ถึงยี่สิบนาทีก็จะถึงชั่วโมงโฮมรูม ซึ่งเป็นชั่วโมงที่เขาจะขาดไม่ได้เพราะครูที่ปรึกษารู้จักกับมารดาของเขา ถ้าเขาขาดคาบนี้แม่ก็ต้องรู้ว่าเขาขับบิ๊กไบค์มาเรียนเอง ไม่ยอมให้ลุงมนตรีคนขับรถของที่บ้านมาส่งอย่างที่รับปากท่านเอาไว้ ตอนนี้แม่อาจจะยังทำอะไรเขาไม่ได้เพราะยังฮันนีมูนรอบที่ยี่สิบอยู่ที่อิตาลี ทว่าพอท่านกลับมารถเขาจะถูกยึดทันที และไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่เขาจะได้มันคืน ดีไม่ดีอาจจะถูกยึดถาวรไปเลย แน่นอนว่าเขายอมไม่ได้ กว่าจะได้มันมาไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องพูดขออยู่เป็นเดือนกว่ามารดาจะยอมใจอ่อนซื้อให้ “เอาลัมโบร์กีนี เฟอร์รารี่ หรือมัสแตงค์มั้ยลูกเดี๋ยวแม่ให้พ่อพาไปซื้อพรุ่งนี้เลย บิ๊กบงบิ๊กไบค์แม่ไม่อยากให้ขับมันอันตราย” “ผมอายุยังไม่ถึงสิบแปด ซื้อมาก็ขับไม่ได้” “ก็ซื้อมาไว้ก่อน อายุถึงก็ค่อยขับ แม่ไม่สบายใจจริงๆที่ภีมจะขับรถแบบนั้น ถ้าเกิดภีมเป็นอะไรขึ้นมาแล้วแม่จะทำยังไง” “ผมรับปากว่าจะไม่ขับเร็ว” “มันก็ยังอันตรายอยู่ดี ระบบเซฟตี้อะไรก็ไม่มี ภีมเองก็ยังเป็นนักเรียน” “ผมจะไม่ขับไปโรงเรียน' “แน่นะ?” “ครับ” “ก็ได้ แต่ถ้าภีมผิดคำพูดแม่จะยึดรถทันที ภีมรู้ใช่มั้ยว่าแม่พูดจริงทำจริง” “ครับ” คนผิดคำพูดแต่ไม่อยากให้มารดารู้เพราะกลัวจะถูกยึดรถถอนหายใจออกมาอย่างหงุดหงิด ก่อนจะเดินย้อนกลับไปยังประตูด้านหน้าโรงเรียนอย่างเลี่ยงไม่ได้ เมื่อเดินไปถึงก็ตรงเข้าไปลงชื่อกับครูเวรประจำวัน ก่อนจะเดินเข้าไปรวมกลุ่มกับนักเรียนคนอื่นๆอีกประมาณสิบกว่าคนที่มาสายเหมือนกัน ยืนฟังครูเวรอำนวยการอีกคนสั่งลงโทษให้เก็บขยะและเศษใบไม้แห้งตามทางเดินไปจนถึงอาคารเรียนด้วยท่าทางเซ็งหนักกว่าเดิม ช่างเป็นการลงโทษที่... ทว่าเขาก็ทำอะไรไม่ได้ เก็บขยะกับให้มารดารู้เรื่อง แน่นอนว่าเขาเลือกเก็บขยะ ร่างสูงที่กำลังจะเดินไปรับเอาถุงพลาสติกสีดำจากรุ่นพี่คณะกรรมการถึงกับหยุดเดินเมื่อสายตาหันไปเห็นใครบางคนที่เดินเก็บขยะอยู่ไม่ไกล ‘ใคร’ ที่เขาเห็นผ่านสายตามาตลอดสองสัปดาห์นับตั้งแต่เปิดเรียนมา “ให้ช่วยถือถุงปะ?” เสียงทักที่ดังมาจากด้านหลังทำให้ลูกแพร์ที่กำลังก้มเก็บกล่องนมเปล่าตรงริมทางเดินเงยหน้าหันไปมอง ก่อนที่คิ้วเรียวสวยจะเลิกขึ้นเมื่อเห็นว่าคนที่พูดกับตัวเองคือใคร “ภีม...ก็สายเหมือนกันเหรอ?” ‘ภีม’ คือเพื่อนร่วมห้องเรียนของเธอ เมื่อก่อนลูกแพร์ไม่ได้เรียนที่นี่ เธอเพิ่งจะย้ายมาหลังจากที่เรียนจบมัธยมต้นหรือว่า ม.3 ภีมหรี่ตามองอย่างแปลกใจไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะรู้จักชื่อตัวเอง “รู้จักชื่อฉะ...เราด้วยเหรอ?” ลูกแพร์ยิ้ม พยักหน้าขึ้นลง ก็ไม่แปลกที่ภีมจะสงสัยในเมื่อสองสัปดาห์ที่ผ่านมาเธอกับเขายังไม่เคยพูดคุยกันเลยแม้แต่คำเดียว “เราอยู่ห้องเดียวกัน แต่ภีมน่าจะจำเราไม่ได้ เรานั่งอยู่ด้านหน้าภีมขึ้นมาสองแถว เรานั่งข้างหยกน่ะ ส่วนข้างหลังเราเป็นลูกเกดกับมีน” หยกที่ลูกแพร์พูดถึงก็คือผู้หญิงตัวเล็กๆหน้าหวานๆเพื่อนร่วมห้องที่เพิ่งย้ายมาเรียนที่นี่เหมือนเธอ ด้วยความที่เป็นเด็กใหม่เหมือนกันทำให้ลูกแพร์กับหยกสนิทสนมกันตั้งแต่วันมอบตัว ส่วนลูกเกดกับมีนเป็นนักเรียนเก่าของโรงเรียนที่รู้จักกันและเข้ามาอยู่ในกลุ่มเดียวกันหลังจากที่มีการแนะนำตัวในคาบโฮมรูมแรกของการเปิดเรียน ซึ่งคาบโฮมรูมนั้นที่ทำให้ลูกแพร์รู้จักชื่อเพื่อนทุกห้องในห้องรวมถึงชื่อของภีม ทว่าเมื่อบอกไปแล้วก็ไม่รู้ว่าคนตรงหน้าของเธอจะนึกออกหรือเปล่า เพราะเขายังทำหน้านิ่ง เธอเองก็แทบจะไม่เคยเห็นเขาพูดคุยกับเพื่อนคนอื่นนอกจากเพื่อนทั้งสองของตัวเอง พอหมดคาบเรียนก็พากันออกจากห้องทันที กลับเข้ามาในห้องอีกทีก็ขึ้นคาบใหม่แล้ว หยก ลูกเกด มีนเขาอาจจะไม่รู้จัก แล้วถ้าเป็น... “อ่อ ที่นั่งข้างหน้าเราเป็นมอสที่เป็นหัวหน้าห้องน่ะ ภีมน่าจะรู้จัก ตอนแนะนำตัวเราจำได้ว่ามอสกับภีมมาจากห้องเดียวกัน” ลูกแพร์ยังไม่ละความพยายามที่จะบอกว่าตัวเองนั่งอยู่ตรงไหน โดยไม่ได้สังเกตมุมปากที่ยกขึ้นยิ้มของคนตรงหน้า “อื้ม เราจำได้แล้ว” “หมายถึงจำมอส? หรือจำเรา?” “ก็...ทั้งสอง” “อ่อ เราชื่อลูกแพร์นะ” ภีมพยักหน้า หรี่ตามอง ก่อนจะถามต่อ “เธอเพิ่งย้ายมาเรียนที่นี่ใช่มั้ย?” ลูกแพร์ยิ้ม พูดอย่างผูกมิตร “อืม เราเพิ่งย้ายมายังไงก็ช่วยคบเราเป็นเพื่อนด้วยนะ” กับเพื่อนคนอื่นเธอก็เคยพูดด้วยเกือบจะทุกคน เหลือก็แต่คนตรงหน้ากับเพื่อนทั้งสองของเขาที่เธอยังไม่เคยพูดด้วยเป็นกิจจะลักษณะ “เอามาสิ” "หือ?" ลูกแพร์มองมือหนาของภีมที่ยื่นออกมาตรงหน้าอย่างสงสัย ไม่เข้าใจสิ่งที่ภีมกำลังสื่อ "เอา? ภีมหมายถึงอะไร?" ดวงตากลมใสกระพริบถี่ก้มมองมือหนาสลับเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าหล่อเหลาของคนพูด ที่ก้มเพราะมือของภีมอยู่ระดับอกของเธอ ที่เงยหน้าเพราะภีมสูงกว่าเธอมาก เธอที่สูงหนึ่งร้อยหกสิบสองแต่ต้องเงยหน้าคุยกับเขา คิดดูเอาเองว่าคนตรงหน้าเธอจะสูงแค่ไหน ถ้าให้เธอเดาภีมน่าจะสูงประมาณหนึ่งร้อยเจ็ดสิบห้า? หรือไม่ก็หนึ่งร้อยเจ็ดสิบแปด ที่แน่ๆ ก็คือไม่ต่ำกว่าหนึ่งร้อยเจ็ดสิบห้า อายุสิบหกเขายังสูงขนาดนี้ไม่อยากจะคิดว่าถ้าอายุครบยี่สิบเขาจะสูงขึ้นขนาดไหน "โทรศัพท์? จะให้คบเป็นเพื่อนไม่ใช่เหรอ?" "อ่อ" คนยืนงงถึงบางอ้อ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาปลดล็อคหน้าจอ ทว่ายังไม่ทันจะถามเบอร์ก็ถูกขัดขึ้นด้วยเสียงแหบห้าวของคนตรงหน้า "เดี๋ยวเราบันทึกเอง" พูดจบก็หยิบเอาโทรศัพท์จากมือเรียวไปกดบันทึกเบอร์ตัวเอง ก่อนจะส่งโทรศัพท์คืนเจ้าของหลังจากที่บันทึกทุกอย่างเสร็จ "เบอร์โทรเชื่อมต่อกับไลน์ " ลูกแพร์มองชื่อล่าสุดที่กดโทรออกบนหน้าจอโทรศัพท์ของตัวเอง 'ภีม' มันคือชื่อที่เพิ่งถูกเพิ่มเข้ามา โดยคนเพิ่มก็คือเจ้าของชื่อที่เป็นคนบันทึกเองกับมือ "ปกตินอนกี่ทุ่ม?" คำถามของภีมทำให้ลูกแพร์เงยหน้าขึ้นมอง "หื้อ? ก็ประมาณห้าทุ่ม หรืออาจจะเร็วกว่านั้น แต่ก็ไม่เกินชั่วโมง" พูดง่ายๆ ก็คือสี่ถึงห้าทุ่ม "แล้วจะโทรไป" ลูกแพร์ชะงักมือที่กำลังเก็บโทรศัพท์ใส่ลงในกระเป๋า ภีมก็คงเห็นถึงได้ถามซ้ำ "โทรไปได้ใช่มั้ย?" "ได้สิ แต่ถ้าเราไม่รับก็แปลว่าเรานอนแล้วนะ" "อืม จะโทรไปไม่เกินสี่ทุ่ม" เป็นอีกครั้งที่ลูกแพร์ต้องเงยหน้ามองคนพูดตาปริบ ก่อนจะพยักหน้าขึ้นลงเป็นการตอบ เรียนร่วมห้องกันมาครึ่งเดือนไม่เคยคุยกัน ทว่าพอได้คุยก็คุยเหมือนคนสนิทกันซะงั้น

editor-pick
Dreame - ขวัญใจบรรณาธิการ

bc

หวานใจยัยขี้อ่อย

read
8.1K
bc

ห้ามรัก Forbidden Love

read
3.5K
bc

อ้อนรักหนุ่มบริหาร R18+

read
23.8K
bc

Bad love Mafai รักร้ายนายมาเฟีย

read
15.3K
bc

ฮูหยินแม่ทัพมากวาสนา

read
10.5K
bc

My virgin guy! ภารกิจอันตรายท้าชนหัวใจนายเวอร์จิ้น

read
5.1K
bc

JUST A TOY จะร้ายหรือจะรัก

read
3.5K

สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook