bc

รังรักมาเฟียร้าย

book_age18+
2.6K
ติดตาม
23.9K
อ่าน
วันไนท์สแตนด์
ครอบครัว
จบสุข
มาเฟีย
ผู้สืบทอด
คนใช้แรงงาน
ดราม่า
หวาน
สาสมใจ
friends with benefits
like
intro-logo
คำนิยม

'ทีแรกฉันแค่คิดว่าจะเอาเธอมาอุ้มบุญ แต่ตอนนี้ฉันเปลี่ยนใจแล้ว ทำให้เธอท้องเองมันง่ายกว่าให้หมอทำตั้งเยอะ เผื่อมันจะทำให้เธอเลิกปากดีแล้วก็ดื้อน้อยลงบ้าง!'

'เซบาสเตียน วอห์น' มาเฟียหนุ่มวัยสามสิบสองปี และ'โทมัส วอห์น' ลูกพี่ลูกน้องของเขา ทั้งสองกำลังแย่งชิงตำแหน่งประธานบริษัท โดยมีคำพิพากษามาจากบิดาของเซบาสเตียน ว่าหากใครมีทายาทไว้สืบทอดธุรกิจก่อน คนนั้นจะได้เป็นผู้นำคนถัดไป

แต่เรื่องนี้กลับกลายเป็นเรื่องยากที่สุดในชีวิตสำหรับเซบาสเตียน เพราะเขาไม่เคยปรารถนาคู่ครอง ไม่คบหาหญิงใด แม้จะเป็นหนุ่มเพอร์เฟคเจ้าของนิยามคำว่าหล่อเหลาราวเทพบุตร แต่กลับไม่เคยชายตามองสตรีใด

และแม้เซบาสเตียนจะมีบุคลิกน่ายำเกรง แววตาแสนดุดัน โหดเถื่อนเมื่อถึงคราว แต่ก็ยังมีสาวสวยมากมายหมายปองเขา

'นิสัยใจคอแตกต่างจากลูกพี่ลูกน้องโดยสิ้นเชิง'

โทมัสในวัยสามสิบปี เขากำลังตามจีบนักศึกษาสาวปีสุดท้ายคนหนึ่งด้วยความรักใคร่ โดยใช้ความอ่อนโยนและความเป็นสุภาพบุรุษเข้าหา แต่เธอคนนั้นดันเป็นหญิงสาวคนเดียวกันกับที่เซบาสเตียนต้องการ...

'แต่เพียงต้องการให้เธอมาอุ้มบุญลูกของเขาก็เท่านั้น'

และเธอคนนั้นก็คือ... 'มารีน่า เก็ตซ์'

chap-preview
อ่านตัวอย่างฟรี
ตามหาผู้หญิงคนหนึ่ง
กรุงเทพมหานคร ภายในร้านอาหารหรูหราของค่ำคืนวันศุกร์ที่มีผู้คนคลาคล่ำ เซบาสเตียนกำลังจิบไวน์หลังจากรับประทานอาหารเสร็จ ดวงตาประกายสีฟ้าหม่นเหม่อลอย เพราะกำลังนึกหาผู้หญิงสักคนหนึ่งเพื่อมาเป็น'แม่อุ้มบุญ' "ฉันต้องการหาใครสักคนมาอุ้มท้องลูกของฉัน" เซบาสเตียนพูดขึ้น พลันนึกไปถึงคำพูดของบิดา 'ถ้าใครสามารถมีลูกก่อน คนนั้นจะได้ขึ้นเป็นหัวหน้ากลุ่มและได้ตำแหน่งประธานบริหาร เพราะผู้นำกลุ่มมาเฟียของเราจำเป็นต้องมีทายาทไว้สืบทอดธุรกิจเสมอ' 'แต่ตำแหน่งหัวหน้ากลุ่มและประธานบริหารมันเป็นของผมโดยชอบตั้งแต่ผมเกิดไม่ใช่เหรอครับคุณพ่อ โทมัสเป็นแค่หลานชาย ทำไมมันถึงมีสิทธิ์ที่จะขึ้นมาเป็นหัวหน้ากลุ่มมาเฟียของเรา?' 'เพราะตอนนี้พ่อยังเป็นหัวหน้า พ่อจึงมีสิทธิ์ที่จะตัดสินว่าใครจะได้ขึ้นมาเป็นหัวหน้ากลุ่มคนถัดไป และที่พ่อจำเป็นต้องทำแบบนี้ก็เป็นเพราะแกนั่นแหละเซบ แกไม่เคยคิดจะมีผู้หญิงคนไหน แล้วแบบนี้จะมีทายาทได้ยังไง?' ยิ่งเซบาสเตียนนึกถึงคำพูดของวิคเตอร์ผู้เป็นบิดา มันยิ่งทำให้เขารู้สึกไม่สบอารมณ์ แม้จะรู้ดีมาตลอดว่าคนเป็นพ่อรักหลานชายไม่ต่างจากตน อาจจะรักมากกว่าลูกในไส้เสียด้วยซ้ำ แต่ก็ไม่คิดว่าจะถึงขั้นยอมให้สิทธิ์โทมัสเข้ามาแย่งชิงตำแหน่งหัวหน้ากลุ่มมาเฟียกับตนเช่นนี้ เซบาสเตียนไม่เคยน้อยอกน้อยใจ เพราะเรื่องความรักในทุกรูปแบบสำหรับชายหนุ่มนั้นเป็นเรื่องไร้สาระ แต่การถูกแย่งชิงอะไรที่เป็น'ของของตน'นั้นเป็นสิ่งที่รับไม่ได้และจะไม่มีวันยอม "เรื่องใหญ่มากเลยนะครับ" เจมส์ บอดี้การ์ดมือขวาของเซบาสเตียนขมวดคิ้วยุ่ง เขาไม่เคยจินตนาการไว้เลย ว่าวันหนึ่งเจ้านายจะกลายมาเป็น'พ่อ'ผู้เลี้ยงลูกน้อยคอยป้อนนมเปลี่ยนผ้าอ้อม "ใช่ ตอนนี้การมีลูกสำหรับฉันเป็นเรื่องใหญ่มาก แต่ฉันจะไม่มีวันยอมให้โทมัสขึ้นมาเป็นหัวหน้ากลุ่มมาเฟียอย่างแน่นอน" เซบาสเตียนพูดเสียงดุดัน ขณะที่สายตากำลังจ้องมองไปยังหญิงสาวคนหนึ่ง เธอนั่งอยู่คนเดียว ท่าทางชะเง้อมองราวกับกำลังรอใครคนหนึ่ง "แล้วคุณเซบอยากให้ใครมาอุ้มบุญครับ?" เจมส์ถามอีก เซบาสเตียนยังคงเงียบและเอาแต่จ้องมองผู้หญิงคนนั้น ราวกับมีความพิเศษบางอย่าง ที่ดึงดูดให้มองไม่ยอมละสายตา "ผู้หญิงคนนั้นไง" ชายหนุ่มพูดเสียงเบาราวกับไม่ได้ตั้งใจ เขาพเยิดหน้าไปยังเธอคนนั้น เจมส์จึงมองไปยังคนที่เจ้านายกำลังจ้องมองอยู่ "นักศึกษานี่ครับ เธอยังเป็นนักศึกษาอยู่เลย" บอดี้การ์ดหนุ่มทำหน้าตื่น เพราะเห็นว่าหญิงสาวคนนั้นยังคงสวมชุดนักศึกษาอยู่ "ฉันไม่สนใจหรอก แต่เธอหน้าตาสวยน่ารัก ถ้าได้เป็นแม่ของลูกฉันก็คงจะดี" "อย่าบอกนะครับว่าคุณเซบ..." "จัดการให้ด้วย สองทุ่มพาไปเจอฉันที่บ้าน" เจมส์ยังพูดไม่จบเสียด้วยซ้ำ เซบาสเตียนพูดแทรก แล้วจึงกระดกไวน์เข้าปากรวดเดียวจนหมดแก้ว จากนั้นเขาจึงลุกเดินออกจากร้านอาหารไป โดยมีบอดี้การ์ดอย่างอีกสองคนรออยู่ด้านนอก เจมส์จึงหันไปมองนักศึกษาคนนั้นอีกครั้ง ชายหนุ่มรู้สึกไม่สบายใจ ที่เจ้านายอยากได้นักศึกษาไปเป็นแม่อุ้มบุญ แต่ในฐานะลูกน้องผู้ภักดี ตนก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากทำตามคำสั่งของเจ้านายเท่านั้น มารีน่าชะเง้อมองไปทางประตูร้านอาหารเป็นระยะ เพราะวันนี้มีนัดทานมื้อค่ำกับเพื่อนสนิทของตน หญิงสาวยิ้มร่าดีใจ เมื่อในที่สุดก็เห็นว่าเพียวและทามกำลังเดินตรงมาหาตน "มารี วันนี้พ่อคุณทูนหัวไม่มาเหรอ?" เพียวแซวเสียงใส หล่อนหมายถึงโทมัส หนุ่มฝรั่งตาน้ำข้าวที่คอยแวะเวียนมาขายขนมจีบมารีน่าเป็นระยะ "ไม่เห็นก็ไม่ต้องไปถามหา ไม่มาก็ดีแล้ว มารีเบื่อหน้าไอ้คุณโทมัสจะตาย ใช่ไหมครับมารี?" ทามนั่งลงและหันมาคุยกับมารีน่า เธอเอาแต่ยิ้มเพราะไม่อยากตอบเรื่องของโทมัสมากนัก ความจริงแล้วความสัมพันธ์ของทั้งสองก็แทบไม่มีอะไร ไม่มีความคืบหน้าตั้งแต่แรกแล้ว แม้มารีน่าจะรู้ดีว่าโทมัสมาจีบ แต่ตนก็ใช่ว่าจะสนใจเรื่องความรักในตอนนี้ เพราะอีกสองเดือนก็จะเรียนจบแล้ว จึงต้องการเวลาในการหางานทำเป็นหลักเป็นแหล่งให้ได้เสียก่อน "แต่เพียวได้ยินประวัติคร่าวๆ ของคุณโทมัสมานะ" "ได้ยินมาหรือไปสืบมากันแน่?" ทามดักคอ "หุบปากไปเลยไอ้ทาม มารีฟังนะ คุณโทมัสเขาเป็นถึงหลานชายของเจ้าของบริษัทผลิตอะไหล่เครื่องบินที่มาเปิดโรงงานในประเทศไทย เขารวยมากนะมารี" เพียวนำเสนอด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น "เอาน่าเพียว เลิกพูดถึงเขาเถอะนะมารีขอ เขาไม่ได้สำคัญอะไรกับมารีหรอก เรามาสั่งอาหารกันดีกว่า หิวจะแย่อยู่แล้ว" มารีน่าตัดบทสนทนาเรื่องโทมัส จากนั้นทั้งสามคนจึงสั่งอาหารมารับประทาน จนกระทั่งเวลาผ่านไปราวหนึ่งชั่วโมงกว่า เจมส์ยังคงรอหญิงสาวที่เจ้านายต้องการพบอยู่บริเวณหน้าร้านอาหาร และตอนนี้ก็สังเกตเห็นแล้วว่าทั้งสามคนกำลังเดินออกมา เจมส์เห็นหญิงชายสองคนขึ้นรถแท็กซี่ไปด้วยกัน ส่วนเป้าหมายของตนกำลังยืนรอรถแท็กซี่อีกคันอยู่คนเดียว จึงเป็นโอกาสประจวบเหมาะที่จะเข้าไปพาตัวหล่อนไปหาเจ้านาย "คุณครับ" ร่างสูงกำยำเดินตรงเข้ามาหามารีน่า เธอหันขวับไปมองชายหนุ่มฝรั่งรูปร่างสูงใหญ่กำยำด้วยสีหน้าตกอกตกใจ "คะ เรียกฉันเหรอคะ เรารู้จักกันด้วยเหรอ?" หญิงสาวถามกลับไปเป็นภาษาอังกฤษ "ไม่รู้จักหรอกครับ แต่พอดีเจ้านายผมมีเรื่องอยากจะคุยกับคุณ ดังนั้นช่วยกรุณาขึ้นรถไปกับเราหน่อยนะครับ" เป็นจังหวะที่รถยุโรปคันหนึ่งวิ่งเข้ามาจอดพอดี เจมส์มองซ้ายมองขวา ก่อนจะกึ่งฉุดกึ่งประคองร่างเล็กให้เข้าไปนั่งในรถ โดยที่มารีน่าไม่มีโอกาสได้ร้องขอความช่วยเหลือจากใครเลย "ปล่อยนะ! พวกคุณเป็นใคร! จะพาฉันไปไหน? ปล่อยฉันลงไปเดี๋ยวนี้นะ!" เธอโวยวายเสียงดังลั่นรถ หัวใจดวงน้อยกำลังเต้นตึกตักเพราะความหวาดกลัว สถานการณ์ตอนนี้มันเหมือนกับว่าตนกำลังถูกลักพาตัวจากคนแปลกหน้า "ไม่ต้องตกใจกลัวหรอกครับ ผมไม่ได้จะทำร้ายอะไรคุณ เพียงแค่ว่าเจ้านายของผมมีธุระสำคัญจะคุยกับคุณก็เท่านั้น เสร็จแล้วเราจะไปส่งคุณที่บ้านเอง" เจมส์อธิบาย มารีน่าพิจารณาในหัวว่ามันไม่สมเหตุสมผล "ต้องเป็นเรื่องเข้าใจผิดแน่ๆ ค่ะ ฉันไม่รู้จักเจ้านายคุณอย่างแน่นอน" "ใจเย็นๆ นะครับ เดี๋ยวพอถึงบ้านเจ้านายของผมจะอธิบายทุกอย่างให้คุณฟังเอง" "จะบ้าเหรอให้ฉันใจเย็นๆ คุณเล่นฉุดฉันขึ้นรถมาแบบนี้ อีกอย่างพวกคุณก็ไม่ใช่คนไทยด้วย เราไม่เคยรู้จักมาก่อนด้วยซ้ำ คนดีๆ ที่ไหนเขาทำกันแบบนี้" มารีน่าโวยวายอีก เจมส์จึงเลือกที่จะไม่อธิบายอะไรต่อ ขณะที่รถยนต์กำลังเร่งความเร็วขึ้นอีก มารีน่าแทบควบคุมอารมณ์หวาดกลัวไม่ไหว เธอกำมือแน่น เนื้อตัวสั่นเทา แต่ใช้เวลาไม่ถึงยี่สิบนาทีรถก็ขับมาจนถึงบ้านหลังใหญ่โตหลังหนึ่ง ซึ่งถือว่าตั้งอยู่ใจกลางกรุงเทพมหานคร เจมส์เปิดประตูลงจากรถ และรั้งข้อมือเล็กของมารีน่าให้เดินตามหลังตนเข้าไปในบ้าน หญิงสาวกวาดสายตามองไปรอบๆ จึงเห็นว่ามีผู้ชายในชุดสูทสีดำราวห้าหกคนยืนเฝ้าอยู่ตามจุดต่างๆ ของบ้าน ยิ่งทำให้เธอรู้สึกหวาดกลัว จนกระทั่งเจมส์พามารีน่าเดินเข้ามาถึงโถงกลางบ้าน เซบาสเตียนกำลังนั่งรออยู่บนโซฟา เขาชำเลืองมองนาฬิกา เห็นว่าเลยเวลาสองทุ่มมาเกือบยี่สิบนาทีแล้ว "ผมขอตัวนะครับ" เจมส์เดินออกไป เซบาสเตียนกำลังจ้องมองมายังหญิงสาวร่างกะทัดรัดในชุดนักศึกษา ตอนนี้ชายหนุ่มมีโอกาสได้เห็นใบหน้าสวยสง่างามอย่างชัดเจนยิ่งกว่าตอนที่อยู่ในร้านอาหารแล้ว เขาหยัดกายลุกขึ้นและเดินเข้ามาใกล้มารีน่า...

editor-pick
Dreame - ขวัญใจบรรณาธิการ

bc

อ้อนรักพ่อผัว

read
1K
bc

สอนรัก ลูกสาวท่านประธาน

read
1K
bc

นางสาวอินทุอรณ์

read
11.8K
bc

ซาตานร้ายเดิมพันรัก

read
10.8K
bc

ไฟรักซาตาน

read
50.6K
bc

ปราบพยศรักยัยรุ่นพี่

read
1K
bc

วิวาห์(ไม่)ไร้รัก

read
9.2K

สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook