มหาวิทยาลัย
โทมัสขับรถมาจอดที่หน้าคณะของมารีน่า ชายหนุ่มมักจะมารอที่นี่เป็นประจำเพื่อที่จะได้เจอกับหญิงสาว ทั้งสองคนรู้จักกันครั้งแรกในงานเลี้ยงวันเกิดรุ่นพี่ของเธอ ซึ่งรุ่นพี่คนนั้นเป็นเพื่อนกับโทมัสนั่นเอง
"มื้อเย็นวันนี้คุณโทมัสมีนัดทานข้าวกับลูกค้านะครับ" 'ไมเคิล'บอดี้การ์ดหนุ่มช่วยทบทวนตารางงานของเจ้านาย
"ฉันไปทันอยู่แล้วน่า อีกอย่างนายไม่ต้องมาเพ่นพ่านอยู่แถวนี้กลับไปได้แล้ว จะให้มารีรู้ไม่ได้เด็ดขาดว่าฉันมีบอดี้การ์ดคอยตามประกบอยู่แบบนี้" โทมัสพูดพลันชะเง้อมองไปยังตึกคณะ เพราะเกรงว่ามารีน่าจะเดินออกมาเสียก่อน
"ถ้าคุณโทมัสคิดจะจริงจังกับคุณมารี วันหนึ่งเธอก็ต้องรู้เรื่องธุรกิจของเรา แล้วเธอก็ต้องเข้าใจด้วยว่าคุณจำเป็นที่จะต้องมีบอดี้การ์ดคอยดูแล"
"นั่นมันก็เรื่องในอนาคต ตอนนี้ให้ฉันทำให้มารียอมมีลูกให้ฉันก่อน พอฉันได้ขึ้นเป็นหัวหน้ากลุ่มมาเฟียเมื่อไหร่ ฉันจะบอกความจริงกับมารีเอง"
"แล้วเธอจะยอมมีลูกให้ง่ายๆ เหรอครับ?" โทมัสยกยิ้มมุมปากเมื่อบอดี้การ์ดหนุ่มถามเช่นนั้น ความจริงเขาไตร่ตรองเรื่องนี้มาอย่างดีแล้ว
"ฉันรู้จักมารีมาเกือบปีแล้ว ฉันพอจะมีข้อเสนอดีๆ ให้เขาอยู่บ้าง นายกลับไปได้แล้ว" ไมเคิลมีสีหน้าหนักใจ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยอมทำตามคำสั่งของเจ้านาย เขาเดินกลับไปขึ้นรถของตนเอง และขับออกจากหน้าคณะของมหาวิทยาลัยไป
เป็นจังหวะที่มารีน่าเลิกเรียนพอดี หญิงสาวเดินลงมาจากตึกพร้อมกับเพื่อนสนิทอีกสองคน โทมัสจึงเอ่ยเรียก
"มารีครับ..."
"อ้าว คุณโทมัส มาทำธุระแถวนี้เหรอคะ?" มารีน่าทักทายชายหนุ่ม เขายิ้มกริ่มขณะที่กำลังยืนพิงประตูรถอยู่
"เปล่าครับ ผมตั้งใจมาหามารีโดยเฉพาะ ว่าจะชวนไปทานข้าวแล้วก็ไปส่งที่บ้านครับ" เสียงนุ่มนวลรวมถึงคำพูดหว่านเสน่ห์ทำให้มารีน่าฉีกยิ้มกว้าง เธอหันไปหาเพื่อนสนิททั้งสอง
"คุณโทมัสน่าจะโทรมาก่อนนะคะ วันนี้มารีต้องไปงานเลี้ยงวันเกิดเพื่อน ขอโทษด้วยนะคะที่ไม่ได้ไปด้วย" มารีน่าปฏิเสธออกไป ตอนนี้เธอยิ่งรู้สึกดีใจที่ต้องไปงานเลี้ยง เพราะความจริงแล้วตนไม่อยากไปไหนมาไหนกับโทมัสตามลำพัง
"แย่จังเลยนะครับ งั้นต่อไปผมจะจองคิวมารีไว้ล่วงหน้าเป็นเดือนเลย" เขาพูดติดตลก
"แหม ก็ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกค่ะ"
"ผมล้อเล่นครับ แต่ก่อนที่คุณจะไปกับเพื่อน ผมขอคุยธุระส่วนตัวสักครู่ได้ไหมครับ?"
"เอ่อ..." มารีน่าหันไปหาเพื่อนทั้งสอง
"ตามสบายเลยมารี เดี๋ยวเพียวกับทามจะไปนั่งรอที่ม้านั่งตรงนั้น แต่ให้แค่ห้านาทีนะคะคุณโทมัส" เพียวไม่ลืมที่จะพูดหยอกโทมัส หล่อนส่งยิ้มให้ชายหนุ่ม จากนั้นจึงเดินไปพร้อมกับทาม
"มีอะไรหรือเปล่าคะ?"
"มีเรื่องสำคัญมากครับ" เขาแสดงสีหน้าจริงจัง และจ้องมองคนตรงหน้าด้วยแววตาที่กำลังบ่งบอกความรู้สึกมากมาย
"แล้วคุยตรงนี้ได้ไหมคะ?"
"ได้สิครับ คุยตรงไหนก็ได้ขอแค่มีมารี" โทมัสหยอดคำหวานอีกครั้ง แววตาของเขาเอาแต่จ้องมองจนมารีน่ารู้สึกประหม่า
"งั้นก็พูดได้เลยค่ะ"
"มารีครับ...เรารู้จักกันมาเกือบปีแล้ว ผมคอยแวะมารับมาส่งมารีตลอด แล้วผมก็เชื่อว่ามารีคงจะรู้ว่าผมรู้สึกยังไงกับมารี เมื่อคืนผมนอนคิดทั้งคืนเลยนะครับ ผมไม่อยากคุยทางโทรศัพท์ก็เลยมาคุยกับมารีที่นี่" ดวงตาสีเขียวมรกตจ้องมองใบหน้าสวยด้วยอารมณ์เสน่หา
"คุณโทมัสจะพูดอะไรกันแน่คะ?" มารีน่ารู้สึกประหม่า เธอก้มหน้าเล็กน้อยเพื่อหลบสายตาเขา
"มารีครับ...เป็นแฟนผมนะครับ" และแล้วหญิงสาวก็อึ้งไป ดวงตากลมโตเบิกกว้าง ยืนตัวแข็งทื่อ ไม่คิดว่าอยู่ๆ โทมัสจะพูดเรื่องความสัมพันธ์ขึ้นมา ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ทั้งสองไม่ได้พูดคุยเรื่องการเป็นแฟนกันเลย
"..." หญิงสาวครุ่นคิด เพราะไม่รู้ว่าควรจะตอบออกไปอย่างไร แต่ที่แน่ๆ เธอจะไม่มีทางตอบตกลงเป็นแฟนเขา เพราะไม่ได้มีความรู้สึกรักใคร่โทมัสเช่นคนรักเลย
"แต่ผมไม่ได้เร่งรัดอะไรขนาดนั้นนะครับ หมายถึงว่าผมก็ต้องการคำตอบนั่นแหละ แต่ผมให้เวลามารีคิดสักสองสามวัน หรือมากสุดก็อาทิตย์หนึ่งก็ได้ แล้วมารีค่อยให้คำตอบกับผม"
"มันไม่เกี่ยวกับเวลาในการตัดสินใจหรอกนะคะ" ใบหน้าสวยราบเรียบ ลึกๆ ยิ่งลำบากใจ
มารีน่าคิดมาตลอดว่าโทมัสเป็นเพื่อนที่ดีคนหนึ่ง และหากเธอปฏิเสธออกไปตอนนี้ อาจจะทำให้ความสัมพันธ์แบบเพื่อนต้องสั่นคลอน
"ถ้าเราเป็นแฟนกัน ผมจะเล่าเรื่องธุรกิจครอบครัวของผมให้มารีฟังมากกว่านี้ ผมจะซื้อรถให้ขับ ผมจะให้มารีอยู่อย่างสบาย ให้ทุกอย่างที่มารีต้องการ ไม่ต้องทำงานให้เหนื่อย ผมจะเป็นแฟนที่ดีแล้วก็ดูแลมารีให้ดีที่สุด"
มันช่างเป็นคำพูดหว่านล้อมที่น่าติดกับดัก แต่ก็ใช่ว่าผู้หญิงทุกคนจะต้องการสิ่งนี้มากกว่าความรัก มารีน่ารู้สึกหนักใจ
"มารีคงต้องขอเวลาคิดดูก่อน แต่คุณโทมัสอย่าคาดหวังอะไรมากเลยนะคะ เพราะมารีเห็นคุณเป็นเพื่อนที่ดีตลอดมา" โทมัสมีสีหน้าที่เปลี่ยนไป เขาเสียใจเล็กน้อยกับคำพูดของหญิงสาว แต่ก็ยังคงคาดหวังว่าเธอจะตอบตกลงเป็นแฟนกัน
"ผมหวังว่ามารีจะตอบตกลงนะครับ"
"มารีต้องไปแล้ว ขอตัวนะคะ" เพราะไม่อยากพูดอะไรมากกว่านี้ มารีจึงตัดบทและหมุนตัวเดินไปหาเพื่อนทั้งสองคน
โทมัสมองตามหลังร่างกะทัดรัดด้วยแววตาผิดหวัง จากนั้นชายหนุ่มจึงเปิดประตูขึ้นรถและขับออกไปทันที
ภาพที่มารีน่าและโทมัสยืนคุยกันเมื่อครู่อยู่ในสายตาของเซบาสเตียนตั้งแต่เริ่มต้นจนกระทั่งถึงตอนนี้ ชายหนุ่มตั้งใจมาหาหญิงสาวแต่กลับต้องเจอเรื่องที่น่าทึ่ง
เซบาสเตียนไม่เคยรู้มาก่อนว่ามารีน่าและโทมัสรู้จักกัน และดูเหมือนทั้งสองคนจะสนิทสนมกันมากด้วย ชายหนุ่มกำมือแน่นเพราะความโกรธแค้น ขณะที่สายตาจับจ้องไปยังมารีน่าที่กำลังพูดคุยกับเพื่อน ก่อนที่ทั้งสามคนจะเดินไปขึ้นรถคันหนึ่งและขับออกไป
"คุณเซบครับ ถ้าสองคนนั้นสนิทสนมกันถึงขั้นเป็นแฟนกัน..."
"ไม่ต้องพูด! ขับรถตามไป ฉันอยากรู้ว่ามารีจะไปไหน" เซบาสเตียนพูดเสียงดุ เจมส์จึงทำตามคำสั่งของเจ้านาย โดยขับตามรถยนต์คันนั้นไป
@ร้านอาหาร
มารีน่าเดินเข้ามาภายในร้านอาหารพร้อมกับเพียวและทาม ขณะที่รถของเซบาสเตียนขับเข้ามาจอดภายในบริเวณลานจอดรถของร้านอาหารเช่นเดียวกัน
"คุณเซบจะทำอะไรครับ?" ชายหนุ่มก้าวลงจากรถและเดินเข้าไปในร้านอาหารพร้อมกับเจมส์
"หิวไง วันนี้ยังไม่ได้กินอะไรเลย กินข้าวเป็นเพื่อนฉันหน่อยนะ" เซบาสเตียนเดินเข้าไปในร้านอาหาร
ชายหนุ่มเลือกโต๊ะที่อยู่ห่างจากโต๊ะของมารีน่ามากพอสมควร จึงเห็นว่าเธอมาเลี้ยงฉลองอะไรสักอย่างกับกลุ่มเพื่อนนักศึกษา
"จะนั่งเฝ้าจนเขาทานเสร็จเลยเหรอครับ?" เจมส์ขมวดคิ้วถาม
บอดี้การ์ดหนุ่มถามด้วยความแปลกใจ เพราะเซบาสเตียนไม่เคยใช้เวลาอันมีค่าไปกับเรื่องไร้สาระ อย่างเช่นการที่กำลังนั่งเฝ้ารอผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ตอนนี้
"ใช่ พอมารีแยกออกจากเพื่อนคนอื่นๆ ฉันจะเอาตัวเธอกลับบ้านด้วย"
"นายครับ จะฉุดเธออีกเหรอครับ?"
"ครั้งแรกนายฉุดต่างหาก แต่ครั้งนี้ฉันจะฉุดเอง" เซบาสเตียนพูดเสียงเรียบ เจมส์ขมวดคิ้วยุ่ง
"คุยกันดีๆ ไม่ดีกว่าเหรอครับ ฉุดเธอไปแบบนั้นอีกเดี๋ยวเธอจะโกรธ"
"ทีแรกก็ไม่ได้คิดว่าจะทำอะไรแบบนี้หรอก แต่พอเห็นมารีอยู่กับไอ้โทมัสแล้วมันก็อดไม่ได้ เรื่องอะไรฉันจะยอมให้มันได้ผู้หญิงคนนี้ไป โทมัสจะไม่มีทางได้อยู่ใกล้มารีอีก"
เซบาสเตียนพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง ขณะที่สายตายังคงจ้องมองไปยังมารีน่า ขณะที่หญิงสาวกำลังพูดคุยสนุกสนานกับเพื่อนๆ ของเธอ...