แกร๊ก...
เสียงเปิดประตูดังขึ้นภายในห้องที่เงียบสงัด มีกลิ่นอายความอ้างว้างโดดเดี่ยวห่อหุ้มตัวหญิงสาวที่นั่งเหม่อลอยอยู่บนเตียงกว้าง ในมือเธอถือสร้อยคอล็อกเก็ตไว้ ลูบไล้มันไปมาอย่างทะนุถนอม
ลัลล์นลินรับรู้ได้ว่ามีใครบางคนกำลังเข้ามาหา ไม่ต้องมองก็รู้ว่าเป็นใคร มีแค่คนเดียวเท่านั้นที่ชอบถือสิทธิ์แสดงอำนาจเหนือเธอ เขาเก็บกุญแจห้องเธอไว้โดยไม่ขออนุญาตจากเธอสักคำ ซ้ำยังเดินเข้าออกห้องเธออย่างสบายๆ ทำราวกับทั้งเธอและห้องนี้เป็นของๆ เขา นึกอยากจะทำอะไรก็ทำตามอำเภอใจ
เธอปรายมองเขาเพียงแวบเดียวก็ละความสนใจ ก้มหน้ามองสร้อยล็อกเก็ตอีกครั้ง ทำเหมือนกับว่าเขาไม่มีตัวตนยืนอยู่ตรงนี้
เดิมทีเจษณะค่อนข้างอารมณ์ดี เขาอยากแบ่งปันเรื่องดีๆ ให้ลัลล์นลินดีใจ ต่อไปนี้เธอไม่ต้องรู้สึกผิดเพราะเรื่องของอมลฉวีอีกแล้ว แต่พอเห็นเธอเมินเขา ไม่สนใจมองกันแม้แต่หางตา รอยยิ้มบนใบหน้าหล่อเหลาที่ยากจะได้เห็นสักครั้งก็พลันบึ้งตึงดังเดิม
เขาเกลียดท่าทางแบบนี้ของเธอที่สุด!
“เป็นอะไร?”
เขากระชากเสียงถาม พร้อมกับปะตบบีบปลายคางเธอให้หันหน้ามาสบตากับเขา เจ้าของร่างสูงยืนตระหง่านค่ำหัวเธออยู่ราวกับเป็นจักรพรรดิ ดวงตาเย็นชาจ้องมองเธอเหมือนจะแช่แข็ง ปากเม้มแน่นอย่างไม่พอใจ
“เปล่า” เธอตอบเสียงห้วน ยังคงหลุบตาไม่ยอมมองหน้าเขา
เจษณะยิ่งโมโห เขาลงน้ำหนักมือบีบแรงขึ้นจนปลายนิ้วบุ๋มลงไปในแก้มของเธอ ความเจ็บปวดแล่นผ่านมาเป็นริ้วๆ เหมือนจะบดขยี้ขากรรไกรเธอให้แหลก
ลัลล์นลินข่มความเจ็บที่กลั่นออกมาเป็นหยาดน้ำตาคลอเบ้า ยกมือปัดมือเขาออกเต็มแรง เอ่ยถามเสียงแข็ง
“คุณมีอะไรก็ว่ามา”
เจษณะเห็นรอยนิ้วแดงเป็นปื้นบนใบหน้าสวยหวานก็ขมวดคิ้ว พยายามระงับโทสะลง ก่อนที่เขาจะทำให้เธอเจ็บมากไปกว่านี้ แล้วเอ่ยตรงประเด็น
“ฉันจะส่งออมไปรักษาตัวที่อเมริกา”
ลัลล์นลินชะงักนิดหนึ่ง
เขาใส่ใจอมลฉวีขนาดนี้เชียวหรือ?
หญิงสาวกระตุกยิ้มเยาะ ใช่สิ... ตั้งแต่ต้นจนจบคนที่เขาสนใจมีแต่หล่อนคนเดียวเท่านั้น ไม่เคยมีเธออยู่เลยแม้แต่เศษเสี้ยว
ในใจรู้สึกถึงความขื่นขมอีกครั้ง ทั้งที่เธอต้องใช้เวลาตลอดทั้งบ่ายนี้เพื่อสลัดภาพที่เห็นเขากับอมลฉวีเดินคลอเคลียกันอยู่ภายในสวน
ที่แท้พวกเขาก็พูดคุยกันถึงเรื่องนี้นี่เอง...
เจษณะคงอยากให้หล่อนเดินได้มากกว่าใคร เขาคงตื่นเต้นจนอดใจไม่ไหวที่จะแต่งงานกับอมลฉวี ถึงได้ตัดสินใจส่งหล่อนไปรักษายังโรงพยาบาลที่ดีที่สุดในโลก แล้วก็เลยมาบอกเธอ คงหวังให้เธอรู้ตัวว่าเป็นก้าวขวางคอพวกเขาอยู่ใช่ไหม
ต้องการให้เธอหลีกทางให้พวกเขาสินะ?
“ยินดีด้วยนะคะ ในที่สุดพวกคุณก็จะได้รักกันอย่างเปิดเผยสักที”
เจษณะนิ่วหน้า ไม่ชอบน้ำเสียงที่เธอใช้ ยิ่งไม่ชอบสีหน้าไร้อารมณ์ราวกับเรื่องนี้ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเธอเลย
เธอเป็นคนผิด!
เธอทำให้เพื่อนสนิทบาดเจ็บจนเกือบจะพิการ เขารึอุตส่าห์ช่วยเธอไถ่บาป เพียรเสาะแสวงหาหมอกระดูกที่ดีที่สุดเพื่อให้อมลฉวีกลับมาเดินได้อีกครั้ง ลัลล์นลินจะได้หลุดพ้นจากข้อกล่าวหาเสียที
แต่เธอ... กลับมาประชดเขา!
แบบนี้มันใช้ได้ที่ไหน?
“เหรอ? ฉันนึกว่า ‘เรา’ เปิดเผยกันมาตลอดเสียอีก” เจษณะเลิกคิ้ว จงใจประชดเธอกลับด้วยการเน้นให้เห็นถึงความสนิทแน่นแฟ้นระหว่างเขากับอมลฉวี
เขาคงไม่รู้หรอกว่า... คำพูดของเขานั้นเสียดแทงกรีดลึกใจเธอมากแค่ไหน?
“มันคงจะดีกว่านี้ถ้าพวกคุณได้แต่งงานกันสมใจ”
ลัลล์นลินกำมือที่ซ่อนอยู่ใต้กระโปรงแน่น ปลายเล็บแหลมคมจิกเข้าเนื้อจนเลือดซิบ แต่เธอกลับไม่รู้สึกเจ็บเลยสักนิด นอกจากความขื่นขมในหัวใจ ต้องใช้ความพยายามอย่างมาก แทบจะเค้นพลังชีวิตทั้งหมดของเธอออกมา ตอนที่ต้องตัดใจเอ่ยปากปล่อยเขาไป
เจษณะกระชากตัวเธอเข้ามาหาแล้วผลักล้มบนเตียง แรงกระแทกทำให้เธอมึนหัวเล็กน้อย แต่ไม่เจ็บเท่าข้อมือที่ถูกเขาบีบจนแทบจะหักคามือเขา ดวงตาวาววับเหมือนมีไฟลุกท่วมมองเธอราวกับจะแผดเผาให้เป็นจุณ น้ำเสียงเย็นชาถูกเค้นออกมาจากริมฝีปากบางเฉียบทีละคำ
“เธอพูดแบบนี้หมายความว่ายังไง”
“ยังไม่ชัดเจนพอเหรอคะ ฉันกำลังแนะนำให้คุณเปลี่ยนตัวคู่หมั้นอยู่ไงละ”
รูม่านตาของเขาหดเกร็ง ดวงตาที่สงบนิ่งเหมือนทะเลสาบไม่สะท้อนคลื่นจ้องเขม็งหญิงสาวที่ตอบเขาอย่างไม่สะทกสะท้าน เขาไม่เห็นอะไรในแววตาของเธอเลยนอกจากความเฉยเมย ไม่มีความรัก ความหลงใหลเหมือนที่ผ่านมา ยิ่งมองลึกเข้าไปกว่านั้น เขาสัมผัสได้เพียงความสิ้นหวังและหมดใจ
หมดใจ?
เธอตัดใจจากเขาแล้วหรือ!?
ชั่วขณะหนึ่งความคิดที่หนักแน่นก็สั่นคลอน ในอกของเขากระเพื่อมเกิดเป็นคลื่นที่รุนแรง ความตื่นกลัวที่ไร้ที่มาถาโถมเข้าสู่หัวใจเขา เป็นความกลัวที่หลายปีมานี้เขาไม่เคยรู้สึกมาก่อน
ไม่! เป็นไปไม่ได้!
เจษณะปฏิเสธทันควัน เขาไม่เชื่อในสิ่งที่เห็น ความรู้สึกของคนเราจะบางเบามากขนาดนี้เลยหรือ บอกว่าจะเลิกก็เลิกได้ในทันที
ลัลล์นลินจะเลิกรักเขาได้ยังไง?
เขาไม่ยอม!
เจษณะรู้สึกตลกตัวเอง เป็นไปได้อย่างไรที่เขาจะกังวลกับเรื่องของลัลล์นลิน...
แต่เขาหัวเราะไม่ออก ซ้ำในอกยิ่งร้อนรุ่มสับสนทนไม่ได้ เขาก้มหน้าฉกริมฝีปากอิ่มบางทันที จูบเคล้าบดขยี้ด้วยแรงโทสะล้วนๆ ไม่มีความอ่อนโยนเลยแม้แต่น้อย เขาฝังรอยฟันกัดปากเธออย่างลงทัณฑ์ ปลายลิ้นของลัลล์นลินรับรู้รสสนิมและกลิ่นคาวเลือดได้ทันที
เสื้อยืดของเธอถูกเขาฉีกกระชากทีเดียวก็ขาดวิ่น ไม่อาจปกปิดเรือนร่างอรชรได้ เขาตะโบมบีบเคล้นเนินเนื้อทั่วทุกตารางนิ้วบนตัวเธอ ลงแรงจนเกิดเป็นรอยมือ แต่เขายังไม่หนำใจ ยังจงใจกัดเธอซ้ำ ย้ำคมเขี้ยวเหมือนหมาป่าขย้ำเหยื่อด้วยความกระหายเลือด ลมหายใจที่พลุ่งพล่านร้อนผ่าวยังตามมาแผดเผาให้เธอปวดแสบปวดร้อนไปทั้งตัว
“ปล่อยฉัน! คุณมีสิทธิ์อะไรมาทำกับฉันแบบนี้”
ลัลล์แผดร้องสุดเสียง ยกสองมือยันอกกว้างสลับกับทุบหลังเขาเป็นพัลวัน น่าเสียดายที่เจษณะไม่สะดุ้งสะเทือนเลยสักนิด ร่างกายของเขาช่างแข็งแกร่งดุจหินผา มีมัดกล้ามขึ้นรูปเป็นลอนสวยอย่างพอเหมาะ ยิ่งทุบยิ่งทำให้เธอเจ็บมือฟรีๆ
เจษณะรำคาญ จึงจัดการรวบข้อมือเธอตรึงไว้เหนือศีรษะอีกครั้ง ใช้เข่าบีบรัดตัวเธอให้ขยับเขยื้อนไม่ได้ สายตาที่มองลงมามีแววเยาะเย้ย ริมฝีปากบางเซ็กซี่กระตุกยิ้มร้าย
“เพิ่งนอนกันไปหยกๆ เธอก็ลืมผัวคนนี้แล้วเหรอ ขี้ลืมแบบนี้ฉันคงต้องทบทวนความจำให้เธอหลายๆ รอบแล้วละ”
“อย่า! อื้อ...อ...”
ลัลล์เบี่ยงหน้าหนี แต่ก็ไม่อาจรอดปากและลิ้นของเขาไปได้ เจษณะรุกจูบเธออย่างบ้าคลั่ง พุ่งลิ้นตวัดพัวพันอย่างดุเดือด บดเบียดริมฝีปากแนบสนิทคลุกเคล้าอย่างเร่าร้อน แทบไม่เปิดโอกาสให้เธอได้หายใจ
วินาทีที่เธอวิงเวียนคล้ายจะเป็นลม เขาก็บุกจู่โจมเข้าครอบครองเธออย่างดุดัน เร่งเร้าแรงรักเสพสมอย่างร้อนแรง เปี่ยมไปด้วยอารมณ์ดิบที่ลึกซึ้งและดั้งเดิมที่สุดในตัวของมนุษย์ มีทั้งรัก โกรธ เสียใจ น้อยใจและลุ่มหลงปะปนจนแยกกันไม่ออก
เจษณะฝังปลายจมูกโด่งสันซุกไซ้แทรกเรือนผมยาวสลวยของเธอที่กระจายตัวอยู่บนหมอน เป็นสิ่งที่เขาโปรดปรานมากที่สุดแห่งหนึ่งบนเนื้อตัวเธอ นอกเหนือไปจากความไร้เดียงสาและร่างกายอ้อนแอ้นละเอียดอ่อน เข้ากันได้ดีกับร่างกายของเขาอย่างลงตัว เขารักเส้นผมทุกเส้นของลัลล์นลิน มันทั้งนุ่มทั้งลื่น มีเสน่ห์ที่ทำให้เขาลุ่มหลงสูดดมอย่างไม่รู้จักเบื่อหน่าย
เขาเคลื่อนปากฝังรอยจูบบนลำคอ ลาดไหล่และกระดูกไหปลาร้าเรียวบาง เช่นเดียวกับแก่นกายที่สอดแทรกชำแรกลึกถึงตัวตนของเขา จงใจกระทั้นแรงให้เธอจดจำทุกสัมผัสที่เขาตีตราบนตัวเธอ ฝากฝังทุกความสุขสมและเจ็บปวดให้เธอระลึกถึงทุกค่ำคืนที่พวกเขาทำเรื่องที่แนบแน่นใกล้ชิดเช่นนี้ต่อกัน
ไม่ว่าลัลล์นลินจะรักหรือเกลียดเขาก็ตาม แต่เธอจะไม่มีวันลืมเขาได้เด็ดขาด!