เสียงฝีเท้าของคะนึงที่ก้าวเดินไปช้า ๆ ตามทางเดินที่ทอดยาวอยู่หลังอาคารเรียนที่เธอใช้เป็นเส้นทางลัดประจำเพื่อย่นเวลาในการเข้าเรียนให้เร็วขึ้น
แต่ตอนนี้ร่างเล็กเพิ่งจะเดินออกมาจากห้องพยาบาล หลังจากที่ทำแผลให้ริวเสร็จแล้วทั้งคู่จึงแยกย้ายกันเพื่อไปเรียน
สีหน้าของคะนึงยังคงแดงระเรื่อไม่หาย สาเหตุไม่ใช่เพราะแสงแดดยามบ่าย แต่เป็นเพราะหัวใจของเธอที่ยังคงเต้นไม่เป็นจังหวะ
เธอนึกไปถึงเหตุการณ์เมื่อไม่กี่นาทีก่อน...จังหวะที่ริมฝีปากของริวแนบลงมาอย่างอ่อนโยน พร้อมคำขอคบกันที่เอ่ยออกมาอย่างเรียบง่ายแต่โคตรจะอบอุ่น
'งั้น...เราก็มาคบกันจริง ๆ เถอะนะ'
ตอนนั้นเธอพยักหน้าแทบจะทันทีโดยไม่ทันได้คิดอะไรมากมายเลย...แต่ตอนนี้ เธอกลับรู้สึกสั่นไหวอยู่ภายในใจแปลก ๆ เหมือนความรู้สึกที่กำลังเกิดขึ้น มันยังหาคำอธิบายที่ชัดเจนไม่ได้
"นี่...เรารู้สึกอะไรกับเขากันแน่..."
คะนึงบ่นพึมพำกับตัวเอง ในขณะที่มือก็กุมสายกระเป๋าแน่นขึ้นด้วยความรู้สึกหวั่นใจขึ้นมา สองเท้าก้าวเดินไปตามทางเดินช้า ๆ พลางคิดทบทวนเรื่องราวต่าง ๆ ซ้ำไปซ้ำมาด้วยอาการเลื่อนลอย
แต่แล้ว...ร่างบางที่มัวแต่เหม่อลอยก็ถึงกับร้องออกมาสุดเสียง...
"ว้าย!!!"
เมื่ออยู่ ๆ ร่างของเธอถูกกระชากอย่างแรงด้วยมือปริศนาและดึงเธอเข้าไปในซอกมุมตึกแสนคับแคบที่เปลี่ยวจัดจนดูน่ากลัว เพราะความสูงของตึกที่อยู่ติดกันทำให้เกิดช่องทางลับที่บดบังสายตาผู้คน
และจุดลับนี้ก็ไม่มีใครสัญจรผ่าน ไม่มีแม้แต่เสียงพูดคุยของนักศึกษาในละแวกนั้นเลยสักคน
คะนึงหันไปมองเจ้าของมือนั้นด้วยความตกใจ แล้วดวงตากลมก็เบิกกว้างขึ้นทันที เมื่อเห็นว่าเจ้าของอ้อมแขนที่กำลังกอดกระชากร่างของเธอเข้ามาตรงจุดนี้ที่แท้คือ...
"พี่ซาน!"
"ดีนะที่ยังจำพี่ได้ นึกว่าล้างออกจากหน่วยความจำในสมองไปแล้วซะอีก"
"ปล่อยนะ!"
คะนึงพยายามดิ้นสุดแรง รู้สึกทั้งโกรธและกลัวในเวลาเดียวกัน มืออีกข้างพยายามแกะมือของเขาออกจากต้นแขนที่ถูกบีบและกำจนเจ็บแสบไปหมด
แต่ซานไม่ยอมปล่อย กลับยิ่งรวบเอวบางเข้ามากอดรัดแน่นเข้าไปอีก แววตาของเขาทั้งดุดันและก้าวร้าว ยามที่เขาจ้องเขม็งมาที่เธอ คะนึงก็รู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองกำลังจะถูกเขาหลอมละลาย
"หนูคบกับมันจริงเหรอ? หรือแค่โกหกเพียงเพื่อประชดพี่"
เขาถามคำถามจี้ตรงประเด็นทันที แบบไม่อ้อมค้อม เพราะนั่นมันคือจุดประสงค์หลักที่ทำให้เขาต้องตามมาเอาคำตอบถึงที่นี่
"เหอะ! หลงตัวเองไปไหมคะ ทำไมหนูต้องทำแบบนั้นให้ยุ่งยากด้วย ไม่มีเหตุผลที่หนูต้องทำแบบนั้นเลยสักนิด"
คะนึงตอบกลับอย่างไม่ไว้หน้า ในเมื่อคนตรงหน้าไม่คิดจะให้เกียรติเธอ เธอก็ไม่จำเป็นต้องแคร์ความรู้สึกเขาเหมือนกัน
"พี่ไม่เชื่อหรอก ว่าการที่พี่หายไปจากชีวิตหนู แล้วหนูจะไม่รู้สึกอะไรเลย" ซานยังคงไม่ยอมจบประเด็น
"แล้วหนูต้องรู้สึกยังไงเหรอคะ?"
คะนึงเองก็เชิดหน้าและทำท่าทางยียวนกวนประสาทเขากลับเช่นกัน
"พี่ว่ามันไม่ง่ายหรอกนะ ที่จะหาใครคนหนึ่งมาแทนที่อีกคนในเวลาสั้น ๆ นอกเสียจากว่าสิ่งนั้นมันคือการ...ประชด!"
"ทำไมหนูจะต้องประชดพี่ด้วย ในเมื่อเรื่องระหว่างเรา...มันเป็นแค่เดิมพัน ฮึก!"
ซานถึงกับกับสะอึก เมื่อได้รู้ว่าคะนึงรู้ความจริงทั้งหมดแล้ว และแววตาแดงก่ำที่มีหยุดน้ำใส ๆ ลื่นในขอบตาตอนนี้ มันทำให้หัวใจของเขาบีบแน่นจนเจ็บปวดขึ้นมาอย่างน่าแปลกใจ
"หนูจะคบกับใคร มันก็ไม่เกี่ยวกับพี่"
เธอกัดฟันตอบ น้ำเสียงเต็มไปด้วยความเย็นชาและเจือเสียงสะอื้นที่เธอพยายามกลืนเข้าไปข้างใน
"คบกับมันจริง ๆ สินะ"
"ใช่...แล้วยังไง?"
ซานพยายามให้โอกาสเธอหลายครั้งเพื่อตอบคำถามเน้นย้ำความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับริว แต่คำพูดของเธอกลับเป็นเหมือนมีดที่กรีดลงบนหัวใจของซานครั้งแล้วครั้งเล่าจนเลือดซิบ
เขากำหมัดแน่น ก่อนจะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วพร่าจากอาการเจ็บลึกภายใน
"ครั้งแรกของหนู...คงให้มันไปแล้วสินะ"
"ทุเรศ! คิดว่าคนอื่นเขาเหมือนตัวเองทุกคนหรือไง"
ซานกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้นทันที จนร่างบางที่อยู่ในชุดนักศึกษาแบบเข้ารูปบดเบียดไปกับลำตัวของเขาอย่างแนบสนิทมากกว่าเดิม
"ปล่อยนะ! บอกให้ปล่อยไง!"
"ทำไม! อยู่ใกล้พี่แค่นี้มันจะขาดใจตายขนาดนั้นเลยหรือไง?"
คะนึงมองเขาด้วยแววตาแข็งกร้าว ตอนนี้เขาไม่เหลือเค้าโครงของผู้ชายอบอุ่นและแสนดีคนเดิมคนนั้นเลยสักนิด มีแต่ความบ้าบิ่นและหยาบคายที่สิงอยู่ในตัวของเขาตอนนี้
"ใช่! หนูอยากหายใจไม่ออกทุกครั้งที่อยู่ใกล้พี่ นับวันพี่ก็ยิ่งทำตัวน่ารังเกียจ เกิดมาหนูไม่เคยเห็นใครหน้าด้านและน่ารังเกียจได้เท่าพี่เลย"
คำพูดเพียงเท่านั้น...ทำให้ซานถึงกับขาดสติไปชั่วขณะ
เขาเบียดร่างของเธอแนบชิดไปกับผนังตึกกดตึงไว้แน่น ก่อนจะแนบริมฝีปากบดขยี้ลงมาบนเรียวปากอิ่มของเธออย่างรวดเร็ว
ความดูดดื่ม เร่าร้อน และรุนแรง เล่นเอาคะนึงถึงกับผงะ ดวงตาเบิกโพลงด้วยความตื่นตระหนก ด้วยไม่เคยมีใครปฏิบัติต่อเธอเช่นนี้เลยสักครั้ง แม้แต่จูบแรกที่เขาเคยได้ครอบครอง เขาก็ทำมันได้ดีกว่านี้
แต่นี่...มันไม่ใช่จูบที่เธอเคยรู้สึกหวั่นไหว ไม่ใช่จูบที่เธอเคยแอบฝันถึงในวันที่ยังชื่นชมเขา
มันคือจูบของคนที่เอาแต่ใจและเห็นแก่ตัว จูบที่เขาฉกชิงราวกับพวกป่าเถื่อนเพราะมันทั้งรุกล้ำ หยาบคาย และกักขฬะที่สุด
ปลายลิ้นร้อนที่เขาบุกรุกเข้ามา มันทั้งจาบจ้วงและดุดันเป็นที่สุด จนคะนึงต้องพยายามดันแผลงอกของเขาให้ออกห่าง ร่างเล็กถึงกับสั่นเทา น้ำตาเริ่มไหลอาบลงทั้งสองแก้มอย่างห้ามไม่ได้
ความหวาดกลัวแล่นเข้ามาจับขั้วหัวใจ เหมือนเธอกำลังโดนเหยียบย่ำด้วยความรู้สึกที่ครั้งหนึ่งเคยคิดว่ามันคือความ ‘พิเศษ’
"พอแล้ว...ฮึก ๆ" เสียงแผ่วเบาราวกระซิบของเธอเอ่ยขึ้น ทั้งเสียงสะอื้นออกมาอย่างสุดจะกลั้น
เพียงเท่านั้น ซานก็หยุดทุกอย่างลงทันที เขาคลายอ้อมแขนที่กอดเธอออกช้า ๆ มองใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยน้ำตาของเธอ ก่อนจะเบือนหน้าหนีไปทางอื่นเพราะไม่อาจทนมองต่อไปได้
เขาไม่ได้พูดอะไรอีก…เพียงแค่ยืนนิ่ง มองเธออย่างคนที่เพิ่งรู้ตัว ว่ากำลังทำเรื่องแย่ ๆ ลงไป จนเรื่องระหว่างเขากับเธอมันพังยับเยินและไม่อาจซ่อมรอยแตกร้าวให้กลับมาเหมือนเดิมได้
เสียงร้องไห้ปานจะขาดใจ ทำให้ซานถึงกับหมดแรงไปต่อ เขารู้สึกเหมือนตัวเองกำลังแตกสลาย แววตาที่ตื่นกลัวและร่างกายที่สั่นเทาจากการกระทำของเขา มันทำให้เขาไม่กล้าแม้แต่จะเอ่ยคำว่า 'ขอโทษ' ออกไป
และสุดท้าย...ซานก็เลือกที่จะเดินจากไปเงียบ ๆ ในขณะที่ร่างของคะนึงทรุดลงไปนั่งกับพื้น ด้วยหัวใจที่แตกสลายอีกครั้ง จนไม่เหลือชิ้นดีแล้ว...