"เอ่อ...ขอเรียกพี่ริวแล้วกันนะคะ พี่ริวว่างมั้ยคะ? ไปกินไอศกรีมกัน เพื่อเป็นการตอบแทนที่พี่ช่วยเลือกแว่นให้คะนึงเพื่อนหนู...นะคะ"
นิชาเอ่ยขึ้น หลังจากชำระเงินค่าตัดแว่นให้คะนึงแล้ว คะนึงถึงกับเบิกตากว้าง รีบหันมามองหน้าเพื่อนสาวอย่างตกใจ
"นิชา..." เธอเอ่ยเสียงเบาในลำคอ พยายามเตือนเพื่อนเพราะรู้สึกเกรงใจริว แต่คนต้นเรื่องกลับยิ้มหวานราวกับไม่สนใจ
"ก็เขาช่วยแกนี่นา จะให้เดินจากไปเฉย ๆ ได้ไง ต้องแสดงน้ำใจนิดหนึ่งดิ"
ริวหันมามองนิชานิ่ง ก่อนจะพยักหน้ารับคำชวน
"เอาสิ...วันนี้ว่างครับ" ริวตอบรับด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม
"เอ่อ...รบกวนพี่ริวมากไปแล้ว" คะนึงเอ่ยเสียงอ่อน เพราะกลัวว่าจะรบกวนเวลาเขาเกินไป
"ไม่รบกวนหรอก นาน ๆ ทีจะมีคนชวน พี่เต็มใจ" ริวยิ้มให้คะนึง
"งั้น...ไปกันเลยนะคะ ไปแก!" นิชาเรียบดึงแขนเธอลากให้ตามไป คะนึงเลยต้องจำใจเดินตามทั้งที่ในใจยังรู้สึกประหม่าอยู่มาก กลัวว่ามันจะดูน่าเกลียดเกินไปที่เจอผู้ชายวันแรกก็ชวนไปกินไอศกรีมซะแล้ว
"ขอบคุณค่ะ" นิชาหันไปขอบคุณพนักงานที่นำไอศกรีมมาเสิร์ฟ หลังจากที่นั่งรอมาสักพัก ไอศกรีมรสชาติที่ต้องการก็ถูกจัดวางลงบนโต๊ะจนครบทุกออร์เดอร์
"พึ่งรู้นะคะเนี่ย ว่าพี่ริวชอบไอศกรีมรสชามะนาวแบบเดียวกับยัยคะนึงเลย ยัยนี่ชอบรสเปรี้ยว แต่เวลาเครียดจะกินรสวานิลลาแทน" นิชาเปิดบทสนทนา
"จริงเหรอ? บังเอิญจัง พี่ก็ชอบรสเปรี้ยว แต่ถ้าเครียดสมองไม่แล่น พี่จะกินพวกของหวานแบบไอศกรีมวานิลลาหรือไม่ก็ช็อกโลกและแท่งที่หวาน ๆ เลย ถึงจะสะใจ" ริวเล่าด้วยน้ำเสียงที่ดูเป็นธรรมชาติ
"เหมือนกันเลยค่ะ หนูก็...คิดแบบนั้น"
คะนึงเอ่ยขึ้น และอึ้งในความบังเอิญมากมายของเธอกับริว
"แต่ตอนนี้...อะไรที่รสเปรี้ยว ๆ คือสะใจมาก"ริวเอ่ย พลางตักไอศกรีมรสมะนาวเข้าปาก
คะนึงมองตามและเผลอยิ้ม นิชาจึงอมยิ้มตามเพื่อน จนคะนึงต้องเบือนหน้าหนีไปทางอื่น
"พี่ริวเรียนวิศวะเคมีเหรอคะ มันโอเคไหมพี่ หนูเคยได้ยินเขาพูดกันว่าสายนี้เรียนยากมาก" นิชาเอ่ยถามถึงคณะเรียนของริว
"วิศวะก็ยากพอ ๆ กันทุกสายนะ อยู่ที่ความถนัด อย่างสายคอมพิวเตอร์ที่พวกหนูเรียน สำหรับพี่...พี่ก็ว่ายากนะ" ริวให้ความคิดเห็นที่แตกต่าง
"แล้ว...วิศวะเคมีสำหรับพี่ริว ใช้ต่อยอดในด้านไหนคะ?" คะนึงถาม เพราะเธอเองก็อยากรู้และเคยสนใจอยู่เหมือนกัน
"สำหรับพี่เหรอ? เหมือนจะ...ยังไม่มีเป้าหมาย...เฮ้อ! ฟังดูเลื่อนลอยเนอะ" ริวดูเครียดกับเรื่องเรียนขึ้นมาอย่างชัดเจน จนคะนึงรู้สึกผิดที่ยิงคำถามแบบนั้นไป
"หนูขอโทษค่ะ ที่ถามแบบนั้น"
"หึ...ขอโทษทำไมครับ พี่ไม่ได้ว่าอะไรหนูเลย แล้วถ้าพี่ถามหนูว่า หนูสนใจคณะของพี่เพราะอะไร และถ้าได้เรียนจริงหนูคิดจะต่อยอดด้านไหน" ริวถามคะนึง
"หนูคงทำเกี่ยวกับ..." เมื่อทั้งสองคนคุยกันถูกคอ และเหมือนจะคุยกันได้มากขึ้น แต่ดันเป็นเรื่องเรียนและเรื่องซีเรียสล้วน ๆ นิชาถึงกับหน้าบึ้งและบ่นออกมาด้วยความไม่ชอบ
"โหย...ถ้าพูดเรื่องเรียน หนูก็คงได้แค่นั่งฟังแหละ สมองอย่างหนู สอบเข้าได้ก็บุญหัวแล้ว"
นิชาบ่น ทำเอาริวกับคะนึงมองหน้ากันก่อนจะหลุดหัวเราะออกมาพร้อมกัน แต่ความสดใสและเสียงหัวเราะน่ารัก รวมถึงยิ้มกว้างที่ยามฉีกยิ้มจนมองเห็นไรฟันที่เรียงตัวสวยเป็นระเบียบทำให้ริวนิ่งมองและยิ้มตอบอย่างละมุน
สักพักคะนึงก็เริ่มรู้ตัวว่าริวกำลังมองเธอแปลก ๆ จึงตักไอติมเข้าปากแก้เก้อ
"พี่ริวน่ารักขนาดนี้ น่าจะมีแฟนแล้วใช่ไหมคะ" นิชาแกล้งถาม ทั้งที่ตนได้รับข้อมูลจากจี๊ดมาพอสมควรแล้ว
ริวยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะตอบคำถามของนิชา
"ทุกคนคงจะคิดแบบหนูมั้ง พี่เลยยังไม่มีแฟน" ริวอ้าง
"แล้วพี่ริวก็ไม่จีบ...ไม่อะไรใครเลยเหรอคะ?"
"นิชา! เสียมารยาท ถามอะไรพี่เขาขนาดนั้น" คะนึงหันไปดุเพื่อน
"ก็ฉันอยากรู้นี่"
"ไม่เป็นไรครับ ถามได้...พี่ไม่ใช่คนความลับเยอะขนาดนั้น" ริวเอ่ยสบายๆ
"แล้วสเปคพี่ริวเป็นยังไงคะ แบบเพื่อนหนูพอเข้าเกณฑ์บ้างไหม?"
นิชาจี้ตรงประเด็นก่อนจะหันไปทำหน้ากรุ้มกริ่มใส่คะนึง ที่กำลังตกใจและอึ้งในการกระทำของเพื่อนจนพูดไม่ออก
"นิชา! เอ่อ พะ...พี่ริวอย่าไปฟังนิชาเยอะนะคะ ยัยนี่ไม่ค่อยปกติ"
"ชิ...ฉันปกติดีย่ะ แกเขินอ่าดิ ดูสิคะพี่ริว ก็เป็นซะแบบนี้ ยัยนี่ถึงยังโสด"
ริวหลุดขำเบา ๆ แต่ไม่ได้พูดอะไร ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองคะนึงที่กำลังนั่งหน้าแดงด้วยความเขิน
"พี่ว่าน่ารักดีออก" ริวเอ่ยด้วยรอยยิ้มละมุนละไมเล่นเอาคะนึงเขินจนไปต่อไม่เป็น
คะนึงยิ้มเจื่อน ๆ พยายามซ่อนความเก้อเขินที่เริ่มทวีขึ้นทุกที แม้จะขัดเขินแต่ก็ยอมรับว่าการได้พูดคุยกับริวทำให้เธอรู้สึกสบายใจขึ้นมาก
เขาไม่ใช่คนพูดมาก แต่เวลาพูดก็เลือกคำได้ชัดเจนและน่าฟัง นิ่ง สุภาพ และอบอุ่นแบบที่ทำให้คนที่คุยด้วยรู้สึกปลอดภัย
ริวกลืนไอติมคำสุดท้ายเข้าปาก ก่อนจะวางช้อนลงในถ้วย แล้วเอ่ยขึ้นเบา ๆ
"ถ้าไม่รังเกียจ...เราแลกไลน์กันได้มั้ย?"
เพล้ง!!
คะนึงถึงกับชะงัก จนช้อนไอติมในมือหล่นลงมาปะทะกับถ้วยไอติมเสียงดังลั่น หัวใจทั้งดวงสั่นสะท้านจนเสียอาการไปหมด
แต่คะนึงยังไม่ทันได้ตอบ นิชาก็แทบจะกระโดดข้ามโต๊ะไปแทนแล้ว
"ได้ค่ะ!!"
น้ำเสียงสดใสแบบไม่คิดจะขออนุญาตเพื่อนเลยสักคำ เล่นเอาริวถึงกับหลุดขำ ส่วนคะนึงก็ทำได้เพียงก้มหน้าก้มตาซ่อนใบหน้าที่แดงจัดด้วยความเขิน
"คะนึง...ยังไม่ตอบพี่เลย..." ริวเอ่ยเสียงอ่อน เหมือนทวงคำตอบ เพราะเขาอยากได้ยินจากปากของเธอมาดีกว่า
"คะนึง...พี่เขาถาม แกไม่ได้ยินเหรอ หรือแกติดอะไร...ตอบพี่เขาไปเร็ว" นิชาเหมือนจะตื่นเต้นแทนเพื่อน
"จะว่าอะไรไหมถ้าพี่..." ริวเอ่ย แต่ไม่ทันพูดจบอีกคนก็โพล่งขึ้นมาตัดหน้าเสียก่อน
"มะ...ไม่ว่าอะไรเลยค่ะ...อื้อ! ดะ...ได้ค่ะ" เธอพูดเสียงสั่น พลางยื่นโทรศัพท์ให้เขาแอดเพื่อนผ่านคิวอาร์โค้ต
ริวยื่นโทรศัพท์สแกนคิวอาร์โค้ต พลางส่งยิ้มให้คะนึง นิชาจึงกระซิบกระซาบข้างหูคะนึง เพื่อแสดงความยินดี
"แกวันนี้เป็นวันเริ่มต้นสิ่งดี ๆ ของคนแกจริง ๆ เลยนะว่าไหม เปลี่ยนลุคใหม่เจอคนใหม่ ๆ ชีวิตต้องสดใสแน่ ๆ เชื่อฉัน!"
คะนึงยิ้มบาง ๆ ถึงแม้ในใจจะยังมีรอยแผลจากเรื่องเก่า แต่เธอก็รู้ดีว่าอย่างน้อยในวันนี้ เธอก็ไม่ได้เดินเพียงลำพังคนเดียวอีกแล้ว...
(ณ ผับเฟรม99คลับ : เฟรม นาย นาย คลับ)
เสียงเบสกระแทกผนังคล้ายจังหวะหัวใจของซานที่เต้นไม่เป็นจังหวะ บนโต๊ะตรงหน้ามีขวดเหล้ากระจายเต็มโต๊ะไปหมด ในขณะที่เท็นเพื่อนสนิทได้แต่นั่งถอนหายใจอยู่ข้าง ๆ เป็นร้อย ๆ รอบ
"มึงจะแดกให้ตับพังเลยหรือไงวะ?" เท็นว่า แต่ซานกลับไม่ตอบ เอาแต่มองแก้วเหล้าในมือของตัวเอง ก่อนจะซดทั้งหมดในแก้วเข้าปากรวดเดียวหมด
"เฮ้ย! ไอ้ซาน! เดี๋ยวก็เมาตายห่าพอดี"
เท็นรีบดึงแก้วเหล้าออกจากมือของซาน เพราะเพื่อนรักของเขาในตอนนี้ดูท่าทางสติจะไม่เหมือนเดิมแล้ว
"มึง...จะห้ามกูเชี่ยไร...ไอ้เท็น...ไอ้สัส!"
แววตาแดงก่ำ น้ำเสียงพร่าทุ้มเต็มไปด้วยความขัดแย้ง แต่กลับอ้อแอ้จนเอ่ยออกมาไม่เต็มเสียง
"กูแม่ง...ไม่เข้าใจ...ว่าทำไม...กูต้องมานั่งเสียเวลาคิดเรื่องยัยนั่นด้วยวะ...กูอุตส่าห์สงสารและนึกเห็นใจ...แต่แม่ง! ไม่กี่วันเองนะเว้ย!" เขาแค่นหัวเราะในลำคอทั้งที่รู้สึกเจ็บปวดเหมือนจะบ้า
"แม่ง! ทำไมต้องยิ้มให้ผู้ชายไปทั่วด้วยวะ...คิดว่าตัวเองสวยเลือกได้หรือไง"
ซานยังคงบ่นไปตามประสาคนเมา ในขณะที่เท็นส่ายหัวเบา ๆ อย่างนึกหมั่นไส้เพื่อน ที่ไม่รู้ใจตัวเองเอาเสียเลย
"ไอ้ซานเอ๊ย! มึงแค่ยังไม่คลาน...แต่มึงหอนเหมือนหมาแล้ว...ไอ้หมาซาน!"
เท็นมองหน้าเพื่อนแล้วบ่นพึมพำเบา ๆ ได้แต่หวังว่าเพื่อนของเขาจะฉลาดและตาสว่างขึ้นในสักวัน...