ENGINEER'S DARLING 6

1457 คำ
เมื่อยืนอยู่หน้ากระจกภายในหอพัก คะนึงก็แทบจะจำตัวเองไม่ได้ ผมยาวที่เคยสลวยในตอนแรกถูกดัดลอนหลวม ๆ จนใบหน้าอ่อนเยาว์เข้ากับวัยมากขึ้น นิชาที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ยิ้มกว้างและอย่างปลื้มไม่หยุด พลางกดปุ่มชัตเตอร์มือถือถ่ายเก็บภาพโมเมนต์เหล่านี้ไว้รัว ๆ จนเมมโทรศัพท์เกือบเต็ม "ปังมาก! สวยโคตร! ฉันนี่แหละคือผู้ปลุกชีพยัยแว่นใสซื่อให้กลายเป็นลูกคุณหนูฮอตเนิร์ดได้" คะนึงหัวเราะเขิน พลางส่ายหน้าเบา ๆ ให้กับการอวดอ้างของเพื่อนรัก "แต่แกสวยขึ้นมากจริง ๆ นะคะนึง ฉันถึงได้บอกไงว่าแก่อ่าสวยอยู่แล้ว เพียงแต่แกต้องปรับเปลี่ยนสไตล์การแต่งตัวแค่นั้น" "ไม่ได้ขนาดนั้นหรอก..." "อย่าเถียงน่า...ฉันบอกว่าสวยก็สวยสิ ไป! ไปฉลองให้กับความสวยความปังด้วยการช้อปปิ้ง...ด่วน!" "อื้อ! ไปกัน" นาทีนี้ ไม่ว่านิชาจะชวนเธอไปที่ไหน คะนึงก็ไปหมดแหละ แม้ว่าตอนนี้เงินในบัญชีที่เธอหาได้จากน้ำพักน้ำแรงจะเริ่มลดลงทีละน้อยก็เถอะ เธอจะขอทำทุกอย่างเพื่อตัวเองสักครั้ง แล้วสองสาวก็ออกเดินสายประหนึ่งวิ่งมาราธอน ทั้งคู่เริ่มจากร้านเสื้อผ้าแบรนด์ดังของวัยรุ่น นิชาพาเธอเดินเข้ามาเลือกดูเสื้อผ้า ก่อนจะหยิบจับเสื้อและกระโปรงหนึ่งชุดส่งให้คะนึงไปลองดู "อะ...ไปลองมาให้ดูหน่อย ถ้าสวยเดี๋ยวฉันจะซื้อให้" "ไม่เอา! ฉันเกรงใจแก แค่แกให้ฉันค้างค่าหอฉันก็เกรงใจจะแย่แล้ว" "เอาน่า! ไม่ต้องคิดมาก แกเป็นเพื่อนคนเดียวของฉัน ความสุขของแกคือความสุขของฉัน ไปลองชุดเร็วสิ ฉันอยากเห็นตอนแกสวยแล้ว เร็ว!" คะนึงทอดสายตาสุดซึ้งให้กับเพื่อน ทางบ้านนิชาฐานะค่อนข้างดี ผิดกับคะนึงที่ลำบากหาเช้ากินค่ำ เธออยู่กับพ่อแค่สองคนเพราะแม่เสียชีวิตตั้งแต่เธอยังเด็ก พ่อของเธอทำงานเป็นยามในบริษัทใหญ่ แม้จะดูต่ำต้อยแต่คะนึงก็โตมาเพราะเงินจากการทำงานที่สุจริตของพ่อ นับว่าพ่อของเธอยังโชคดีอยู่บ้างที่มีเจ้านายที่ใจดีมาก อานิสงส์จึงตกมาอยู่ที่เธอ เพราะค่าเทอมของเธอล้วนมาจากเงินโบนัสที่เจ้านายมอบให้พ่อทุก ๆ ปี ซึ่งเธอก็เก็บมันไว้เป็นอย่างดีใช้จ่ายแค่ที่จำเป็น ส่วนเงินที่ใช้ดำรงชีวิต เธอก็ได้มาจากการดิ้นรนทำงานพิเศษหลังเลิกเรียน เธอไม่ได้ใช้จ่ายแบบฟุ่มเฟือยมาก จึงสามารถอยู่รอดในแต่ละเดือน แต่ก็มีบ้างที่จำเป็นต้องค้างค่าห้องที่นิชาสำรองจ่ายให้ก่อน พอเงินเดือนออกคะนึงก็รีบเอามาคืนเพื่อนทันที ชีวิตของคะนึงมีนิชานี่แหละที่ดีกับเธอมาก และเธอสัญญาว่าจะไม่มีวันลืมเพื่อนคนนี้เลย "เอาน่า! อย่ามัวมาทำตาซึ้ง แค่นี้ขนหน้าแข้งฉันไม่ร่วงหรอก" "ขอบใจนะ..." "อื้อ!" คะนึงยิ้มให้นิชาก่อนจะเดินเข้าไปเปลี่ยนชุด สักพักใหญ่เธอก็เดินออกมาในชุดกระโปรงยีนสั้นเลยเข่ากับเสื้อครอปครึ่งตัวแบบเข้ารูป แม้คนใส่จะมัวแต่ดึงหน้าดึงหลัง แต่นิชาก็ถึงกับตาค้างกับการเปลี่ยนแปลงของเพื่อนในครั้งนี้ "สวยมากอ่าแก! พี่คะ หนูขอแบบนี้อีกสองชุดค่ะ และก็แบบนี้ด้วย" นิชายื่นเสื้อผ้าทั้งหมดให้พนักงานขาย ก่อนจะหันมามองคะนึงด้วยความพึงพอใจ "นิชา! มันเยอะไป ฉันรับไม่ได้หรอก" "เอาน่า! ถือว่าเป็นของขวัญสำหรับการเริ่มต้นใหม่ของแก เราอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่สมัยไหนแล้ว มีแต่แกที่ทำทุกอย่างให้ฉัน ทั้งทำรายงาน การบ้าน ทั้งทำความสะอาด ซักผ้า ซักยันกางเกงใน ต้มมาม่าทำอาหาร เยอะแยะไปหมด แต่ฉันไม่เคยทำอะไรให้แกเลยสักอย่าง ฉะนั้นวันนี้ฉันมีโอกาสได้ทำเพื่อแกแล้ว แกช่วยรับมันไว้เถอะนะ เอาเป็นว่าถ้าแกไม่สบายใจ แกก็ช่วยหาแฟนดี ๆ สักคนให้ได้ ฉันเนี่ยจะได้เลิกเป็นทุกข์เพราะเพื่อนอกหักสักที" "ไอ้บ้า! แกก็เว่อร์ไป ขอบใจนะแก ต่อไปฉันจะเชื่อแกทุกอย่าง...ฉันสัญญา" "ดีมาก! ถ้างั้น...ต่อไปก็โซนเครื่องสำอาง...ไปกัน!" "อื้อ!" "พี่คะ! พอแล้วค่ะ เคลียร์บิลได้เลยค่ะ" พอหันไปสั่งพนักงานเสร็จนิชาก็หันมายิ้มให้คะนึงอย่างมีความสุข (ณ บริเวณโซนร้านเครื่องสำอาง) นิชาพาคะนึงเดินลองทั้งรองพื้น ลิปสติกและน้ำหอม จนคะนึงทั้งเหนื่อยล้าและเริ่มหน้าบึ้ง "ฉันว่าแค่ลิปสติกสีกลาง ๆ ก็พอแล้วมั้ง มาสคาร่าก็ไม่ต้องก็ได้" คะนึงบ่นอิดออด "ไม่ได้! เพราะตอนนี้แกไม่ใช่ยัยแว่นคนเดิม...เข้าใจไหม!" นิชาถึงกับหันมาแว้ดใส่คะนึงทันที "มันสำคัญมากขนาดนั้นเลยเหรอ? ทำไมเราต้องพยายามเพื่อผู้ชายขนาดนั้นอะแก" "ก็ไม่ได้เพื่อแต่ผู้ชาย แต่บุคลิกภาพเราเองด้วย แกดูพนักงานเขาดิ สวยไหม?" "สวย..." "ถ้าคนนี้ที่สวย ๆ กะแกที่หน้าจืดสนิทมาขายของ แกว่าลูกค้าจะเลือกเชื่อถือใครมากกว่า เชื่อสิว่าบุคลิกที่ดีมันมีส่วนขั้นตอนนี้มันไม่ใช่แค่เรื่องของสีสันบนใบหน้า แต่มันคือความสดใส ออร่า ที่จะทำให้ผู้หญิงดูดีมีสง่าราศี ผู้ชายเวลาเขามองผู้หญิงเขาจะมองผู้หญิงที่หน้าตามีสีสันสดใสสวยงาม ไม่ใช่หน้าดำซีดเซียวเป็นคนป่วย แบบนั้นไม่เอา ถึงไม่แต่งมาก แต่ก็ควรแต่งบ้างให้ดูสดใสหน่อย...ไม่ใช่ปล่อยให้ตัวเองโทรมจนดูไม่ได้...เข้าใจไหมยัยป้า!" คะนึงถึงกับหลุดหัวเราะทั้งที่เหนื่อยจะแย่ เหมือนนิชากำลังทำหน้าที่แทนแม่ของเธอที่ตายไปแล้วอยู่เลย "จ้า...แม่จ๋า!" "ดีมาก!" และสุดท้ายนิชาก็พาคะนึงมาที่ร้านแว่นตามที่ตั้งใจ และการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะคะนึงยืนยันหนักแน่น ว่าเธอจะไม่ยอมถอดแว่นเด็ดขาด เธอใส่แว่นมาตั้งแต่เด็ก ถ้าเธอจะสวยก็ขอสวยแบบ...ยัยแว่นวิศวะ...ที่ใครต่อใครเรียกเธอก็แล้วกัน "เอาล่ะ ถึงเวลาเปลี่ยนแว่นอาถรรพ์แล้วแม่!" นิชากล่าว "แกก็พูดซะเว่อร์" คะนึงแอบเคืองที่เพื่อบลูลี่แว่นอันหนาเตอะของเธอ "อะ...ลองอันนี้ดู..." นิชาหยิบกรอบแว่นอันหนึ่งมาให้คะนึงลอง แต่คะนึงกับเอื้อมไปหยิบกรอบแว่นสีทองแบบเดิมขึ้นมาใส่ "ลองอันนี้ก่อน...สีทองเข้ากับผมทรงใหม่เลย!" "มันก็เหมือนกับที่แกใส่อยู่เด๊ะเลยสิงั้น...แล้วจะเรียกว่าเปลี่ยนเหรอยัยบ๊อง!" "ก็ฉันชอบอ่า..." คะนึงค้านเสียงอ่อย "วางเดี๋ยวนี้!" นิชาเริ่มดุเธอ คะนึงจึงได้แต่ถอนหายใจ แล้วเอื้อมมือไปรับกรอบแว่นจากนิชามาลองทีละอัน แต่ไม่ว่าจะใส่อันไหน มันก็ดูแปลก ๆ เหมือนไม่ใช่ตัวเอง บางอันก็เล็กหรือไม่ก็ใหญ่เกินไป บางอันก็แปลกประหลาดเหมือนหลุดมาจากโลกการ์ตูน คะนึงยอมรับว่าเข้าไม่ถึงไลฟ์สไตล์ของนิชาเลยจริง ๆ "ไม่ไหวอะนิชา มันไม่ได้เลย อันนี้ดูเหมือนที่แม่ฉันใส่ถ่ายรูปกับพ่อสมัยสาว ๆ เลยนะ" คะนึงบ่นอุบอิบ "ก็เพราะเธอไม่ยอมเปิดใจ! ลองก่อน!" นิชายังคงพยายามกล่อมเธอให้ชอบแบบที่เขาชอบ แต่คะนึงกลับรับไม่ได้จริง ๆ "ไม่เอา! ฉันจะไม่ใส่แว่นลายเสือดาวแน่นอน!" คะนึงยืนกรานหนักแน่น "มันไม่ได้ดูแย่เว้ย...มันดูเฟียซดีออก" "บ้าบอ! ยังไงฉันก็ไม่ใส่" สองสาวเถียงกันไปมา เริ่มเสียงดังจนพนักงานร้านถึงกับยิ้มขำ คะนึงหันไปเห็น ก็รู้สึกอายอย่างแรง แต่ก็งอนเพื่อนไม่หาย จนต้องเดินหนีไปยังอีกมุมหนึ่ง แต่แล้วจังหวะที่เธอกำลังจะหันกลับมาบอกนิชาว่าเจอที่ถูกใจแล้ว ด้วยไม่ทันได้ระวังตัว ร่างบางก็ดันชนเข้ากับใครคนหนึ่งอย่างจัง ปึก!
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม