ณ เวลานี้คฤหาสน์หลังงามที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองใหญ่ ในเขตพื้นที่ที่หรูหราที่สุดของเมือง ดูเงียบสงัดเกินกว่าที่ควรจะเป็น
แม้จะมีเหล่าคนรับใช้เดินสวนกันไปมาแต่ทุกคนกลับไม่กล้าแม้แต่จะสบตากัน ความตึงเครียดแผ่กระจายไปทั่วทั้งบริเวณนับตั้งแต่ช่วงบ่าย เมื่อซานกลับมาถึงบ้านด้วยใบหน้าที่บึ้งตึงและอารมณ์ที่เกรี้ยวกราด
ชายหนุ่มเดินขึ้นบันไดตรงไปยังห้องนอนใหญ่โดยไม่เอ่ยปากพูดสิ่งใดกับใครทั้งสิ้น คนรับใช้ที่ยืนรอรับใช้อยู่หน้าบันไดได้แต่ก้มหน้าและหลบสายตาเมื่อเขาเดินผ่าน กระทั่งประตูห้องถูกปิดกระแทกจนเสียงดังลั่น บ้านทั้งหลังจึงตกอยู่ในความเงียบงัน
ป้าพลอย...แม่บ้านวัยกลางคนที่ทำงานมานานหลายปีหันไปมองหน้าพ่อบ้านด้วยความเป็นกังวล ด้วยคุณชายเล็กของบ้านที่เธอดูแลมาตั้งแต่แบเบาะ น้อยครั้งที่จะตกอยู่ในอาการเช่นนี้
"คุณซาน...ดูไม่ปกติเลยนะคะ ตั้งแต่กลับมาก็ไม่พูดไม่จา"
ลุงเซียว...พ่อบ้านเชื้อสายจีนผู้มีอายุมากกว่าทุกคนในบ้าน แต่ยังคงความสง่าและสุภาพอ่อนโยน ส่ายหน้าเบา ๆ พลางถอนหายใจอย่างเป็นกังวล
"คงมีเรื่องไม่สบายใจอีกนั่นแหละ แต่คุณซานไม่เคยพูดหรือระบายกับใครเลย มีอยู่คนเดียวที่คุยกับคุณซานได้…"
"คุณซินสินะคะ?" ป้าพลอยเอ่ย
ลุงเซียวพยักหน้ายอมรับ "ใช่...เดี๋ยวผมจะโทรรายงานคุณซินให้กลับมาดูสักหน่อย"
ภายในห้องนอนของซาน...
เขานั่งนิ่งอยู่บนเตียงกว้าง ดวงตาคมที่เคยเต็มไปด้วยความมั่นใจ บัดนี้มีเพียงแววของความสับสนและเจ็บปวด
มือหนายกขึ้นลูบใบหน้าขอบตัวเองราวกับเหนื่อยล้า ภาพของคะนึงที่อยู่ในอ้อมกอดของริวยังคงวนเวียนอยู่ในหัวของเขาเต็มไปหมด
ซานกำหมัดแน่น รู้สึกถึงแรงบีบอัดของหัวใจ สิ่งที่เขาได้เจอมามันทำให้หัวใจของเขาเจ็บปวดจนจุกไปทั้งใจ
"บ้าเอ๊ย…ทำไมต้องเป็นแบบนี้วะ"
เสียงทุ้มเอ่ยกับตัวเองแผ่วเบา เขาเคยเชื่อมั่นว่าเธอจะเป็นของเขาคนแรกและเพียงคนเดียว…แต่ตอนนี้ความเชื่อมั่นของเขากลับพังทลายต่อหน้าต่อตา...
สองชั่วโมงต่อมา รถหรูสีดำเงาวับก็แล่นเข้ามาจอดตรงหน้าประตูคฤหาสน์หลังใหญ่
ร่างเพรียวบางสมส่วนของหญิงสาวในชุดทำงานที่ดูเรียบหรู แต่แฝงไปด้วยความสง่างามก้าวลงมาพร้อมกับกระเป๋าถือแบรนด์ดัง
เธอก้าวเดินเข้าไปภายในบ้านอย่างรวดเร็ว ก่อนจะพบกับแม่บ้านที่ยืนรอรับอยู่หน้าประตู
"คุณซิน...ขอบคุณที่รีบมา…" แม่บ้านกล่าวด้วยน้ำเสียงโล่งใจ ซินจึงพยักหน้าเบา ๆ อย่างเข้าใจ
"ซานเป็นยังไงบ้างคะป้าพลอย?"
ซินถามอาการของน้องชาย อย่างนึกเป็นห่วง แม่บ้านถอนหายใจเล็กน้อย ก่อนจะเล่าทุกอย่างตามความเป็นจริง
"ไม่พูดไม่จากับใครเลยค่ะ ตั้งแต่กลับมาก็เก็บตัวเงียบอยู่แต่ในห้อง ไม่ออกมาทานข้าวเลยด้วยซ้ำ"
"เป็นแบบนี้นานหรือยัง"
"ราว ๆ เกือบอาทิตย์ได้ค่ะ"
ซินพยักรับรู้ คิ้วสวยขมวดหม่นขึ้นเล็กน้อย เพราะน้องชายของเธอเป็นคนที่ค่อนข้างเข้าถึงยากเวลามีปัญหา แถมยังไม่ยอมพูดมันอย่างเปิดใจกับใครง่าย ๆ แม้แต่พ่อแม่ ยังดีว่าเธอเคยดูแลน้องชายมาตั้งแต่เด็ก เลยรู้วิธีที่จะจัดการกับเขาพอสมควร
"เดี๋ยวซินไปดูเขาเองค่ะ ป้าพลอยไปพักผ่อนเถอะ"
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
เสียงเคาะประตูดังขึ้นเบา ๆ ที่หน้าห้องนอนของซาน แต่ไม่มีเสียงตอบรับใด ๆ จากภายใน ซินถอนหายใจเงียบ ๆ ก่อนจะเปิดประตูเข้าไปอย่างถือวิสาสะ
ภายในห้องนอนที่กว้างขวางและหรูหรานั้นเต็มไปด้วยความเงียบงัน ร่างสูงของซานนั่งอยู่ที่เดิม มือหนายังคงถือขวดน้ำที่บุบยับจากแรงบีบของเขา
"ซาน…" ซินเรียกชื่อน้องชายด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
ซานเงยหน้าขึ้นมามองพี่สาวด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด
"พี่ซิน...ทำไมเธอถึงเลือกมัน ทำไมถึงไม่ใช่ผม…"
น้ำเสียงของเขาแหบพร่า แต่แฝงไปด้วยความคับแค้น เอื้อนเอ่ยความในใจให้พี่สาวฟัง ทั้ง ๆ ที่คนเป็นพี่ยังไม่รู้เรื่องราวอะไรเลย
ซินเดินเข้ามานั่งข้าง ๆ น้องชายพลางยกมือขึ้นลูบหัวน้องชายเบา ๆ เพื่อให้เขาได้รับรู้ว่าตอนที่เขาเป็นทุกข์ใจ เขาไม่ได้โดดเดี่ยว แต่เขายังมีพี่สาวอย่างเธออยู่เคียงข้างเสมอ
"พี่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เดี๋ยวมันก็จะผ่านไป…ซานไม่เคยยอมแพ้ให้กับอะไรง่าย ๆ อยู่แล้วนี่...ใช่ไหม?"
ซานแสยะยิ้มเย้ยหยันตัวเอง ราวกับมันเป็นเรื่องตลก ทั้งที่สีหน้าไม่ได้ดูตลกเลย
"ไม่เคยแพ้งั้นเหรอ? แต่ตอนนี้ผม...แม่ง! แพ้ราบคาบไปแล้วพี่"
ซินเงียบนิ่ง เมื่อรับรู้ได้ถึงน้ำเสียงของน้องชายที่เต็มไปด้วยความทุกข์ใจ และมันดูสาหัสแบบที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน
"แล้วจะยอมแพ้จริง ๆ เหรอ?"
ซานเงยหน้าขึ้นมองพี่สาวที่ทอดส่งสายตาแห่งความรักและห่วงใยมาให้เขา ดวงตาคมกริบถึงได้มีแววแห่งความหวังขึ้นมาอีกครั้ง
"ไม่…ผมไม่ยอมแพ้หรอก ผมจะทำทุกวิถีทาง...เพื่อให้เธอกลับมาเป็นของผม…"
แววตามุ่งมั่นนั้นทำให้ซินยิ้มออกมาด้วยแววตาที่อ่อนโยน พลางลูบหัวน้องชายอย่างเอ็นดู
"นั่นแหละ…ซานที่ฉันรู้จัก"
"ทำไมวันนี้ถึงว่างมาหาผมได้"
ซานเอ่ยถามพี่สาวมีแววเหน็บแนมจากความน้อยใจเล็กน้อย ทั้งที่ในใจคิดถึงพี่สาวใจจะขาด
"มีคนโทรฟ้อง...ว่าน้องชายของพี่ท่าทางแปลก ๆ ข้าวปลายอมไม่กิน อาการเหมือนคนอกหัก"
ซินแสร้งทำเป็นพูดกระเซ้าเย้าแหย่ เพราะเธอรู้ดีว่าถ้าถามตรง ๆ น้องชายของเธอคงไม่มีทางปริปากพูดแน่ แต่เท่าที่ดูจากอาการก็พอจะเดาได้ว่าคงเป็นเรื่องผู้หญิง น้องชายของเขาคงได้เจอคนที่ถูกใจเข้าให้แล้ว
"ปากมากจริง ๆ ไม่ป้าพลอย ก็ลุงเซียวแน่ ๆ"
"เดาถูกด้วย...แต่ก็ล้วนต่างเป็นคนที่หวังดี"
"ยุ่งไม่เข้าเรื่อง ผมไม่ได้แย่ขนาดนั้นสักหน่อย"
ซานตอนนี้ก็เหมือนเด็กที่กำลังงอแง เพราะถ้าอยู่กับพี่สาว เขาจะดูเหมือนเด็กที่ไม่รู้จักโตทันที เพราะเขามีพี่สาวที่เก่งมาก จนสามารถจัดการเขาได้ทุกครั้ง
"แต่เท่าที่จำได้...อาการแบบนี้ก็ไม่ได้เห็นมานานนะ ครั้งสุดท้ายก็ตอน ม.ต้นนี่ ที่ร้องไห้สามวันสามคืนตอนที่สาวทิ้งอ่า...ที่เหลือก็ทิ้งสาวทั้งนั้น เอ...หรือว่ากรรมมันกำลังจะตามทันแล้วนะ"
"พี่ซิน! ผมไม่ตลกนะ" ซานชักสีหน้าใส่พี่สาวเล็กน้อย
"คนนี้มีดียังไงนะ...น้องชายพี่ถึงหมดสภาพได้ขนาดนี้ ชักอยากจะเห็นแล้วสิ"
"เธอมีแฟนใหม่ไปแล้วล่ะ..."
น้ำเสียงแผ่วเบาและสีหน้าเรียบนิ่งของน้องชาย ทำให้ซินรับรู้ได้ถึงความเจ็บปวดที่บาดลึกลงไปข้างใน เธอเชื่อว่าน้องชายของเธอคงต้องมีอะไรที่ติดค้างในใจมากกว่านั้น มันคงไม่ใช่แค่การอกหักเพราะเธอคนนั้นมีคนใหม่
ยิ่งคิดซินก็ยิ่งอยากได้คำตอบ และอยากรู้จักเธอคนนั้นให้มากกว่านี้ แต่งานนี้คงจะบุ่มบ่ามไม่ได้ เจ้าน้องชายตัวแสบคงไม่ยอมให้เธอเข้าไปยุ่งแน่ ๆ นอกเสียจากว่า...ซินจะต้องแอบสืบเรื่องนี้ด้วยตัวเอง