เวลาบ่ายแก่ ๆ ที่คาเฟ่เล็ก ๆ ข้างร้านทำผมของจี๊ด คะนึงที่นั่งอยู่ข้างริวกำลังใช้ตะเกียบคีบหมูย่างขึ้นมาจิ้มน้ำจิ้มแจ่วรสจัด ก่อนจะส่งเข้าปากเขี้ยวอย่างเอร็ดอร่อย
ด้านฝั่งตรงข้ามมีนิชาที่กำลังนั่งบ่นถึงเรื่องของเท็นไม่หยุดปาก แววตาของเธอมีแต่ความหงุดหงิดปนกับความเจ็บใจที่ไม่อาจเอาคืนเท็นได้ในวันนั้น
การนัดทานข้าวกันในวันนี้จึงเปรียบเสมือนการระบายความคับแค้นใจของนิชา เพราะตั้งแต่มาเธอก็บริภาษอีกฝ่ายยังไม่หยุดปากจนตอนนี้
"บอกเลยนะ หนูไม่เคยเจอใครที่หน้าด้านเท่าไอ้พี่เท็นมาก่อน ปากหมา! หน้าด้าน! เข้าคอนเซ็ปต์ทั้งแก๊ง โชคดีแค่ไหนแล้วที่คะนึงมันไม่เลือกพี่ซาน นึกแล้วก็เจ็บใจ"
นิชาตบโต๊ะเสียงดังด้วยความโมโห จี๊ดที่กำลังนั่งกินผลไม้ถึงกับหันมายิ้มแห้ง ๆ อย่างนึกเห็นใจ ในขณะที่คะนึงหันไปมองหน้าริวอย่างแคร์ความรู้สึก ที่เพื่อนเอ่ยถึงแฟนเก่าของเธอให้เขาได้ยิน และแฟนเก่าอย่างซานก็ยังตามวอแวเธอไม่จบไม่สิ้น แต่ริวกลับหันมายิ้มให้เธออย่างเข้าใจ
"มันเกิดอะไรขึ้นเหรอ? คนสวยของพี่ถึงได้เดือดจัดขนาดนั้น"
จี๊ดถามเสียงนุ่มแต่แววตาแอบขบขันเล็กน้อย ปกติเธอไม่ค่อยเห็นนิชาจะว้าวุ่นเพราะใครได้ขนาดนี้
"เขาหาว่าหนูแบนทั้งหน้าทั้งหลังอ่าพี่จี๊ด เป็นผู้ชายประสาอะไร ปากจัดยิ่งกว่าผู้หญิง ยังจะมีหน้ามาบอกว่าหนูไม่ใช่สเปคเขา...หนูควรจะดีใจมากกว่าสิไม่ว่าที่ไม่ใช่สเปคของผู้ชายปากหมาแบบนั้น"
นิชาพูดราวกับกำลังระบายความหงุดหงิดทิ้งหมดที่มีภายในใจ เธอไม่เคยคิดเลยว่าเธอจะได้มาพบมาเจอกับผู้ชายที่ทำให้เธอเดือดดาลได้ขนาดนี้
คะนึงกับริวสบตากันก่อนจะแอบยิ้มขำ ที่นิชายังคงพูดถึงเท็นไม่หยุด ขนาดอยู่กับพวกเธอนิชาก็บ่นเรื่องนี้ตั้งแต่เช้าจนสาย จนตอนนี้มาเจอพี่จี๊ดนิชาก็ยังคงร่ายยาวไม่หยุดราวกับแค้นเขามาก
"บางทีเขาอาจจะแค่หาเรื่องคุยกับหนูเฉย ๆ ก็ได้มั้ง"
จี๊ดพยายามพูดให้สถานการณ์ดูดีขึ้น แต่สายตาของนิชากับวาววับขึ้นมาทันที
"แล้วปากหมาแบบนั้น ใครเขาอยากจะคุยด้วยกันละคะพี่จี๊ด นิชาไม่เอาด้วยหรอก...ชาตินี้ขออย่าได้พบได้เจอกันอีกเลยเหอะ..." เธอกล่าวย้ำด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
"แต่พี่ก็เคยได้ยินมานะ ว่าเท็นอ่ามีสาว ๆ ติดเยอะอยู่เหมือนกัน แต่หมอนี่ก็เหมือนจะไม่เล่นด้วยนะ เขาเป็นพวกไม่ค่อยพูดมาก แต่เนี่ย...ครั้งแรกที่พี่จี๊ดได้ยินจากปากนิชา ว่าเท็นเป็นพวกหมาวิ่งออกจากปากเวลาพูด"
จี๊ดเอ่ยเสริม ทั้งที่มือก็ยังหยิบผักหยิบไข่ใส่ในหม้อจิ้มจุ่มไม่หยุด
"ไอ้พี่เท็นเนี่ยนะ..." นิชาเหยียดปากเหมือนไม่อยากจะเชื่อ
"ใช่...เขาฮอตกันทั้งแก๊งเลย...แต่ความฮอตก็ยังไม่เท่าหัวหน้าแก๊งอย่างซานหรอก วงในเขาบอกมาว่าซานน่ะฮอตที่สุดแล้วในแก๊ง ผู้หญิงตามติดกันเป็นพรวน เผลอ ๆ อาจจะมากกว่าริวด้วยซ้ำ"
คำพูดของจี๊ดทำให้คะนึงเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย ดวงตาเบิกกว้างอย่างไม่เชื่อหู ว่าอยู่ ๆ พี่จี๊ดจะหันมาเล่นงานพี่ริว แต่ริวกลับเอาแต่ยิ้ม ราวกับมันเป็นเรื่องตลก
"จริงเหรอครับพี่จี๊ด? มีคนฮอตมากกกว่าผมอีกเหรอ" สมองวถามพลางหัวเราะเบา ๆ เขาไม่ได้รู้สึกโกรธแต่กลับหลุดขำราวกับกำลังอารมณ์ดี
"ไม่รู้จะดีใจหรือเสียใจแทนคะนึงดีนะที่พลาดฮอตอันดับหนึ่งมาอยู่ในมืออันดับสองเนี่ย..." จี๊ดยิ้มด้วยใบหน้ากรุ้มกริ่ม เพียงแค่อยากจะแกล้งให้คะนึงกับริวเขินเล่น ๆ
"ใครจะคิดว่าโลกจะกลมมาก จนน้อง ๆ ของพี่ได้มาเจอกันเร็วขนาดนี้...แต่พี่จี๊ดดีใจนะ...พวกน้องดูเหมาะสมกันดี แต่แอบเสียวสันหลังนิดหน่อย ที่โจทก์เก่าคือซาน"
จี๊ดพูดตามสิ่งที่ได้รู้ได้เห็นมา เขารู้จักเด็กสถาบันนี้แทบจะทุกคน เบื้องลึกเบื้องหลังอาจไม่ชัดเจน แต่นิสัยใจคอก็พอดูออกในระดับหนึ่ง
"ลูกค้าสาว ๆ ที่มาเสริมสวยกับพี่ ว่ากันว่าเขาฮอตมาก ๆ มาแรงสุด ๆ ทั้งแบดทั้งดาร์กจนสาว ๆ กรี๊ดสลบเป็นแถว บางคนบอกว่าเขาไม่ค่อยสนใจใครง่าย ๆ ด้วย บ้างก็บอกว่าเขารักใครไม่เป็น ไม่ง้อไม่ตื๊อผู้หญิงให้เสียเวลา จะมีก็แต่ผู้หญิงที่รบราฆ่าฟันกันเองเพื่อแย่งกันเข้าหาเขา...นี่พี่ยังแอบคิดนะ ว่าที่เขากลับมาตามตื๊อคะนึง เป็นเพราะเขาแค่อยากเอาชนะริวหรือเขายังลืมคะนึงไม่ได้จริงๆ"
คะนึงฟังแล้วรู้สึกหนาว ๆ ร้อน ๆ ภาพความทรงจำเก่า ๆ ระหว่างเธอกับซานย้อนกลับเข้ามาในสมองอย่างเลี่ยงไม่ได้
คำพูดของจี๊ดยิ่งทำให้เธอรู้สึกเหมือนว่าเธอกำลังสร้างความเดือดร้อนให้ผู้ชายที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ในตอนนี้ คะนึงไม่อาจรู้เลยว่าเธอจะต้องเจอกับอะไร แค่ตกงานและมีคนเกลียดมากมายอย่างทุกวันนี้ ชีวิตของเธอก็แย่มากพออยู่แล้ว
"แต่ตอนนี้หนูมีริวอยู่แล้วทั้งคน ไม่ต้องไปคิดถึงเรื่องเก่า ๆ แล้วล่ะ ต่อให้มีสิบซานมาตามราวี แต่ถ้าหนูไม่เอาแล้ว...ก็ไม่มีใครมาทำลายคู่หนูได้"
"ใช่ครับ ตราบใดที่เรายังจับมีกัน พี่ก็ไม่ยอมให้ใครมาทำลายคู่ของเราได้" ริวพูดเสริม พร้อมเอื้อมมือไปจับมือคะนึงเอาไว้แน่น
รอยยิ้มอบอุ่นของเขาทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นมาเล็กน้อย แต่ในใจลึก ๆ เธอก็ยังอดหวั่นใจไม่ได้ เพราะคะนึงรู้ดีว่าซานไม่ใช่คนที่จะยอมแพ้อะไรง่าย ๆ เพราะชัยชนะคือสิ่งที่ซานโปรดปราน ไม่ว่าสิ่งนั้นจะยากเย็นแค่ไหน ขอให้เขาเป็นผู้ได้รับชัยชนะเขาก็พร้อมจะทำมันให้ได้ทุกอย่าง...และสิ่งนั้นเธอเองก็เคยได้สัมผัสมันมาแล้ว...
"แต่ที่พี่จี๊ดอยากให้คะนึงระวัง ก็เห็นจะเป็นเรื่องสาวกของซานกับริวนั่นแหละ คนไม่หวังดี คนขี้อิจฉา เยอะแยะจนเราแยกไม่ออก ยังไงก็ระวังตัวด้วยนะ"
"ค่ะพี่จี๊ด..." คะนึงรับคำรุ่นพี่ที่มีความหวังดีให้แก่เธอ และเตือนเธอในสิ่งที่เธออาจจะได้เจอต่อจากนี้
"แล้วนี่...จะไปทำงานที่ไหนต่อ เอาตรง ๆ นะพี่แอบไปถามชาดาแล้วเรื่องที่ให้คะนึงออกจากงาน พี่ไปด่ามันเลยด้วยซ้ำ แต่เหตุผลของชาดาก็น่าเห็นใจนะ ชาดาเองก็มีร้านกาแฟที่เดียวที่ทำเป็นอาชีพและมีรายได้จากที่นั่นที่เดียว ถ้าร้านเขามีเรื่องทุกวันอย่างที่ผ่านมา ชาดาเองก็คงแบกรับไม่ไหว มันก็หวังว่าคะนึงจะเข้าใจมันด้วยอ่านะ"
"ค่ะพี่จี๊ด...ฝากบอกพี่ชาดาด้วยนะคะ ว่าคะนึงไม่โกรธและไม่โทษพี่ชาดาค่ะ ทุกอย่างมันเป็นชะตากรรมของคะนึงเอง...คะนึง...ยอมรับ"
เมื่อเห็นคะนึงเริ่มน้ำตาคลอทั้งจี๊ดกับนิชาก็หันไปมองหน้ากันอย่างนึกสงสาร ก่อนที่ริวจะเอ่ยคำพูดที่ทำให้ทุกคนต่างก็หลุดยิ้มออกมาอย่างดีใจ
"ดีแล้วล่ะ...คะนึงจะได้ไปทำงานที่ร้านของพี่แทน"
"ร้านของพี่ริว?" คะนึงขมวดคิ้ว ทั้งที่ดวงตายังแดงก่ำจากน้ำตาที่เอ่อคลอ
"อย่าบอกนะคะนึง ว่าไม่รู้ว่ามีแฟนรวยอ่า...ริวเขามีธุรกิจส่วนตัวนะ...จริงไหมริว?"
จี๊ดโยนให้ริวเป็นคนตอบ ในขณะที่ทั้งคะนึงและนิชาต่างก็อึ้งอย่างดีใจ
"จริงเหรอคะ? พี่จี๊ด พี่ริว คะนึง...แกจะได้งานแล้ว" นิชาดีใจแทนเพื่อนจนแสดงออกชัดเจน ในขณะที่คะนึงส่งสายตาไปให้ริวอย่างซาบซึ้งใจ
"ไม่ร้องสิ...พี่บอกแล้วไง ว่าพี่จะไม่ทำให้หนูลำบากอีก แต่หนูไม่ว่าพี่ใช่ไหม ที่พี่จะให้หนูไปทำงานให้ พี่กลัวว่าถ้าพี่ให้ตังค์หนูใช้ฟรี ๆ หนูจะคิดว่าพี่เอาเงินฟาดหัว แต่จริง ๆ ใจพี่ก็...อยากทำอย่างนั้น...แหะๆ"
คะนึงถึงกับหันไปกอดริว พลางปล่อยโฮออกมาและกระชับอ้อมกอดแน่น จนริวต้องกอดตอบและเอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาให้เธอ
"เราเป็นแฟนกันแล้ว เรื่องไหนที่ทำให้หนูเป็นทุกข์ พี่ก็ทุกข์ด้วย และเรื่องไหนที่หนูมีความสุข พี่ก็อยากเป็นคนแรกที่ได้ทำให้"
"ขอบคุณนะคะ...ขอบคุณจริง ๆ ทำไมหนูไม่เจอพี่เร็วกว่านี้ ถ้าเราเจอกันเร็วกว่านี้ หนูก็จะได้ไม่ต้องเจอคำว่าเสียใจ...ฮึก ๆ"
ริวกอดคะนึงแนบอกแน่น พลางลูบศีรษะของเธอเบา ๆ ราวกับปลอบโยน จนทั้งจี๊ดและนิชาต่างอมยิ้มมีความสุขตามคนทั้งคู่ไป...