“คุณจะให้ฉันทำอะไรคะ” อันนาเอ่ยถามขึ้นมาทันที เพราะตอนนี้เธอไม่มีทางเลือก เหมือนว่าเบญญาจะบีบให้เธอทำตามที่ตนเองต้องการให้ได้
“ปลอมตัวเป็นฉัน แล้วไปดูแลคู่หมั้นที่ตาบอดของฉัน” เบญญาเอ่ยเสียงเย็น เธอไม่ได้สะทกสะท้านกับสิ่งที่เธอเอ่ยออกมาแม้แต่น้อย
“ทำไมคุณญาไม่ไปดูแลเองล่ะคะ ในเมื่อเรามันคนละคนกัน ยังไงซะคู่หมั้นคุณญาก็คงต้องจับได้อยู่แล้ว” อันนารู้สึกไม่เห็นด้วย คนเป็นคู่หมั้นกันยังไงก็ต้องจำกันได้ ถึงแม้ว่าจะตาบอดก็ตาม
“เขาไม่มีทางรู้หรอก เพราะเราเจอกันครั้งสุดท้ายเมื่อฉันอายุสามขวบ แบบนี้เธอคิดว่าเขาจะจำฉันได้มั้ย”
“แต่ยังไงคุณญาก็ต้องแต่งงานกับเขาอยู่ดี แล้วถ้าวันหนึ่งเขารู้ว่าคุณญาทำแบบนี้ มันจะไม่ดีกับความสัมพันธ์ของพวกคุณนะคะ” อันนาเตือนด้วยความเป็นห่วง เธอไม่อยากจะล้อเล่นกับความรู้สึกของใคร ยิ่งถ้าคู่หมั้นของเบญญารู้ว่าเธอตั้งป้อมรังเกียจเขาแบบนี้ เขาก็คงจะรู้สึกเสียใจไม่น้อย
“ใครบอกล่ะว่าฉันจะแต่งกับเขา ฉันมีคนรักของฉันอยู่แล้ว ฉันแค่รอเวลาที่คุณพ่อคุณแม่ท่านใจอ่อนยอมยกเลิกการหมั้นเท่านั้น คุณพ่อคุณแม่ก็ไม่รู้ว่ายังไง ห่วงเหลือเกินกับสัญญาที่ให้ไว้กับเพื่อนเก่า” เบญญาระบายออกมาด้วยความไม่พอใจ ด้วยเพราะบิดามารดาของเธอต้องการรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับเพื่อนเก่า ดังนั้นเธอจึงต้องตกที่นั่งลำบากอย่างเช่นวันนี้
“ตกลงเธอจะยอมทำตามข้อเสนอของฉันมั้ย” เบญญาพยายามใจเย็นทำให้หญิงสาวรับปากให้ได้ เพื่อที่เธอจะได้แอบไปใช้เวลากับแฟนหนุ่มที่ต่างประเทศ โดยปล่อยให้บิดามารดาของตนเข้าใจไปว่าหญิงสาวกำลังไปดูแลคู่หมั้นที่ตาบอดอยู่
“แล้วแม่ล่ะคะ แม่ของดิฉันสุขภาพไม่ค่อยดี ถ้าฉันไปดูแลคู่หมั้นของคุณแล้วแบบนี้ใครจะดูแลแม่” อันนารีบแย้งปัญหาใหญ่ของเธอ เพราะมารดาก็สุขภาพไม่ค่อยดี ดังนั้นการที่เธอต้องไปดูแลคู่หมั้นของเบญญา จะทำให้มารดาต้องอยู่ตามลำพัง