“และเป็นค่าตัวเธอในครั้งต่อ ต่อไปยังไงล่ะ” ผมกระตุกยิ้มมุมปากอย่างร้ายกาจส่งไปให้เพลินตา
“คะ...ครั้งต่อๆ ไป มะ...หมายความว่าไง”
“อืม... ต่อจากนี้เธอห้ามรับงานอื่น เพราะจากราคาเรตค่าตัวเธอฉันได้เหมาเอาไว้ทั้งปีแล้ว”
ก็แหงล่ะ เมื่อสักครู่ผมพึ่งกดโอนเงินเข้าบัญชีเธอไปห้าล้าน ในเมื่อเธอคุยดีๆ กับผมไม่ได้ ผมก็ต้องเลือกใช้วิธีอื่นและน่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่ผมคิดออกในตอนนี้
“ฉันไม่ต้องการ เอาบัญชีนายมาเลยนะและก็เอาเงินของนายคืนไปซะ”เพลินตาพยายามเข้ามาแย่งโทรศัพท์ในมือผม เธอคงหมายจะเอาเลขบัญชีธนาคารเพื่อโอนเงินคืนให้นั่นแหละ แต่ผมเบี่ยงตัวและยกโทรศัพท์ขึ้นเหนือศีรษะหนีเธอได้ซะก่อน ด้วยความสูงที่ต่างกันมาก ทำให้เธอไม่สามารถแย่งโทรศัพท์ไปจากผมได้
“ห้าล้าน แลกกับให้ฉันเอาเธออีกแค่สิบครั้ง ถือว่าคุ้มนะ”
“อะ...ไอ้เลว ไอ้คนทุเรสฉันไม่ได้ต้องการเงินของนาย แค่นี้นายก็ทำร้ายฉันไม่พออีกเหรอ” เพลินตาตะคอกใส่ผมจนเสียงแหบแห้ง เธอปรี่เข้ามาฟาดฝ่ามือทั้งสองข้างลงบนตัวผมด้วยอารมณ์ที่เดือดดาลขั้นสุด
“ช่วยไม่ได้ฉันจ่ายไปแล้ว และเธอก็ต้องสนองเงินฉัน” ฝ่ามือหนารวบแขนของเธอเอาไว้ทั้งสองข้าง เพลินตากัดฟันกรอดจ้องหน้าผมด้วยดวงตาที่กำลังมีน้ำตาเอ่อออกมาตรงขอบตาแดงช้ำ
“ฉันไม่ได้ขายตัว ไม่ได้เต็มใจนายข่มขืนฉัน แค่นี้มันยังไม่ชัดเจนพออีกเหรอ ฮื่อ~” ร่างบางสะบัดผมออก ทรุดลงนั่งกับพื้นอย่างหมดหนทาง ใบหน้าเล็กฟุบลงบนฝ่ามือปล่อยโฮร้องไห้ออกมาอย่างหนัก ราวกับจะขาดใจตายอยู่ตรงหน้าผม
ผมมองภาพเธอตรงหน้า บอกตามตรงว่ารู้สึกเจ็บหนึบไปทั้งหัวใจ ผมไม่ได้ต้องการทำให้เธอเจ็บ แต่ผมแค่ต้องการให้เธออยู่กับผม คนที่เฝ้ารอ เฝ้าตามหาเธอมาตลอดเวลาที่เธอหายไป ผมทบทวนหาเหตุผลมาตลอดเวลาเกือบสองปี ว่าทำไมเธอถึงจากไป
ครืดๆ ครืดๆ
เสียงโทรศัพท์ในมือของผมแผดเสียงดังขึ้น ปรากฏชื่อคนในสายเป็นลูกน้องคนสนิท ผมกดรับมันอย่างเลี่ยงไม่ได้ เมื่อนึกขึ้นได้ว่ามันพึ่งไปทำงานสำคัญให้ผม
“ได้เรื่องไหม”
(ชาวบ้านยอมขายที่ดินให้เราแล้วครับ ส่วนเงื่อนไขอยู่ในอีเมลที่ผมส่งให้นาย)
“ดี” ผมยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจหลังจากได้ยินเสียงซีอาร์ลูกน้องคนสนิทรายงานมาผ่านงานโทรศัพท์ แต่ก็ต้องปรับความสนใจไปที่เพลินตา เมื่อเห็นว่าเธอกำลังพยุงตัวเองกึ่งเดินกึ่งวิ่งไปทางประตูห้องราวกับเธอจะหนีผมไป
“นั่นเพลินจะไปไหน!!” ผมปรี่เข้าไปรวบตัวเธออุ้มขึ้นจากด้านหลังได้ทัน ก่อนที่เธอจะเดินขากะเผลกออกไปได้สำเร็จ
“ฮึก! ปล่อยฉันนะ” เธอออกแรงดีดดิ้นไปมาพลางจิกเล็บของเธอลงบนหลังมือของผมอย่างแรง จนรู้สึกเจ็บแสบไปหมด
“โอ๊ย! เจ็บนะเพลิน”
“ปล่อย ฉันจะกลับบ้าน”
ตุ๊บ!
“โอ๊ย!!” ร่างบางถูกเหวี่ยงลงบนเตียงอย่างไม่แรงนัก ก่อนที่ผมจะขึ้นคร่อมเธอเอาไว้ มือหนารวบข้อมือของเธอที่เต็มไปด้วยรอยขูดแดงเถือกจากเข็มขัดหนังขึ้นไว้เหนือศีรษะ
“กลับสภาพนี้” สายตาคมไล่มองเธอหัวจรดเท้า ก่อนจะหยุดมันไว้ที่ชายเสื้อคลุมที่ร่นขึ้นมาเหนือขาอ่อนของเธอ ด้วยสายเจ้าเล่ห์
“ยะ...อย่ามามองฉันแบบนี้นะ”
“ทำไม ซ้ำอีกสักรอบมันจะดีนะ”
“กรี๊ดดด อย่านะ!!”
ใบหน้าคมซุกจมูกลงสูดดมกลิ่นกายจากซอกคอขาวละเอียด ทำเอาคนใต้ร่างหดคอหนีพร้อมกับกรีดร้องออกมาจนสุดเสียง เนื้อตัวของเธอสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว
(นายครับ นายลืมว่าผมยังอยู่ในสายเหรอครับ ถ้านายจะเล่นจ้ำจี้ก็ควร...)
“ถ้าไม่อยากตายก็วางไปซะซีอาร์”ผมหันไปตวาดเสียงดังลั่นใส่โทรศัพท์ที่ตกอยู่บนเตียง
(ฮึ! สวัสดีครับนาย)
ติ๊ด!
“....”สายตาคมเลื่อนกลับมามองคนใต้ร่างอีกครั้ง ก่อนจะดันตัวลุกขึ้นนั่งเมื่อนึกอะไรบางอย่างได้ เพลินตาเองก็ดันตัวลุกขึ้นนั่งพลางจัดเสื้อคลุมของเธอให้เข้าที่อย่างรีบร้อน
ตุ๊บ!
โทรศัพท์มือถือเครื่องหรูในมือผมถูกโยนลงไปบนตักของเธอ เพลินตาหยิบมันขึ้นมาดูด้วยมือที่สั่นเทา ถึงกับยกฝ่ามือขึ้นปิดปากตัวเองเมื่อเห็นภาพของตัวเองที่อยู่ในสภาพรับไม่ได้
“นะ...นายถ่ายรูปฉันไว้ทำไม”
ปากเล็กเอ่ยออกมาเสียงสั่น เลื่อนนิ้วกดเข้าไปลบภาพของเธอที่นอนเปลือยท่อนบนอยู่บนตียงเมื่อคืน แม้จะเห็นเพียงเสี้ยวของใบหน้าด้านข้างและแผ่นหลังที่เต็มไปด้วยรอยแดงช้ำ แต่นั่นก็ทำให้รู้ว่าผู้หญิงในรูปเป็นใคร
“มีคลิปด้วยนะ แต่อยู่อีกเครื่อง”
“นายทำแบบนี้ทำไม ที่ได้ไปยังไม่พอใจอีกเหรอ” ดวงตาที่เปรอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตาแห่งความเจ็บปวด มองขึ้นสบตาผมพร้อมสะอื้นไห้ราวกับกำลังรอคำตอบจากปากผม
“เอาไว้ย้ำ ว่าเธอต้องเป็นของฉันคนเดียว”
“ไม่มีทาง เอาเงินนายคืนไปแล้วก็ลบรูปพวกนั้นซะ”
“เงินส่วนต่างที่ฉันจ่ายให้เธอในวันนี้ คือค่าบริการบนเตียง ที่เธอจะต้องอยู่บริการ จนกว่าฉันจะเอาเธอครบสิบครั้ง”
“มันจะมากเกินไปแล้วนะคาร์เตอร์ ฉันไม่มีทางรับข้อเสนอบ้า ๆ นี้จากนาย” เพลินตาเอ่ยลอดไรฟันออกมาอย่างเจ็บแค้น
“มันไม่พอกับที่เธอทำใจร้ายฉันเอาไว้ตลอดสองปีที่ผ่านมาหรอกเพลิน เชิญลบตามสบายนะ เพราะฉันมีรูปอีกเยอะ”
ผมผายมือไปทางโทรศัพท์เครื่องหรูของผม ก่อนจะเดินออกจากห้องไป ทิ้งให้เพลินตาร้องไห้อยู่อย่างนั้น
มือหนาทาบลงที่อกข้างซ้าย ยอมรับว่าหัวใจของผมกำลังเต้นผิดปกติ และปวดหนึบไปหมดเมื่อต้องทำแบบนั้นกับเพลินตา
ในเมื่อมันเป็นหนทางเดียวที่จะพอรั้งเธอกับไว้ได้ผมก็ต้องทำ จนกว่าผมจะรู้เหตุผลจริงๆ เรื่องที่เธอทิ้งผมไปทั้งที่ตอนนั้นเราสองคนต่างก็รักกันมาก
“ฉันไม่เชื่อว่าเธอจะหมดรักฉันไปแล้วจริงๆ เพลินตา”
(END:TALK)