ไม่ทราบว่าคนไข้ที่ชื่ออิงฟ้าพักอยู่ห้องไหนคะ "
" เป็นอะไรกับคนไข้คะ"
" เป็นญาติค่ะ"
" สักครู่นะคะ คุณอิงฟ้า นรารักษ์ พักอยู่ห้อง408ค่ะ"
" ขอบคุณค่ะ"
อิงฟ้ารีบเดินไปที่ห้องพัก408 มองผ่านกระจกใสบานเล็กที่ประตู เห็นอิงดาวนอนอยู่บนเตียง หมอกำลังตรวจอยู่ข้างเตียงมีพิชชาเพื่อนของเธอเฝ้าอยู่ พอหมอเปิดประตูออกมาเธอก็รีบถาม
" หมอคะ คนในห้องเธอยังไม่ฟื้นเหรอคะ"
หมอมองดูเธอเเล้วขมวดคิ้วก่อนจะหันไปมองอิงดาวในห้อง ก็แปลกใจว่าทำไมทั้งสองหน้าตาเหมือนกัน
" ฉันเป็นญาติกับคนที่นอนอยู่ในห้องค่ะเลยหน้าตาคล้ายๆกัน"
" เหรอครับ แต่หมอว่าไม่คล้ายนะ เหมือนมากเลยแหละ เป็นแฝดกันเหรอ"
" ไม่ค่ะ ไม่ใช่ "
อิงฟ้าตอบก้มหน้าหลบสายตา
" หมอบอกไม่ได้ว่าคนไข้จะฟื้นเมื่อไหร่เพราะได้รับการกระทบกระเทือนที่ศรีษะอย่างรุนแรง อาจเป็นเจ้าหญิงนิทราไปตลอด"
" แล้วมีโอกาสฟื้นขึ้นมาไหมคะ"
"ถ้าโชคดีฟื้นขึ้นมา ก็อาจมีปัญหาเรื่องความจำ"
" หมอหมายถึงถ้าเธอฟื้นขึ้นมาก็อาจจะความจำเสื่อมใช่ไหมค่ะ"
" ใช่ครับ"
เมื่อได้ยินหมอบอกแบบนั้นในใจของอิงฟ้าก็กระโดดโลดเต้น ฟื้นก็ดีไม่ฟื้นก็ดี ขอให้ไม่ฟื้นตลอดไป หรือถ้าฟื้นขึ้นมาก็ความจำเสื่อมอยู่ดี อิงฟ้าแสยะยิ้มชั่วร้าย จงเป็นอิงฟ้าไปตลอดชีวิตเถอะ ส่วนเธอจะเป็นคุณหนูอิงดาวแทนเอง
บ้านอัศวเดชากุล
" ยินดีต้อนรับคุณหนูกลับบ้านค่ะ"
อิงฟ้าลงจากรถหรูก็เห็นคนรับใช้เป็นสิบ ใส่ชุดฟอร์มแบบเดียวกัน ยืนเรียงแถวต้อนรับ เธอมองดูรอบๆ นี่บ้านหรือวังกันนะใหญ่โตมาก
" เมี้ยว เมี้ยว"
" ฮะ ฮัดชิ้ว ฮัดชิ้ว"
อิงฟ้าถอยหลังจามไม่หยุด เมื่อคนใช้คนหนึ่งอุ้มแมวเข้าใกล้ เธอแพ้ขนแมว
" เอามันไปไกลๆ"
" แต่ คุณหนูคะ"
" บอกว่า ฮัดชิ้ว เอาไป ฮัดชิ้ว ไกลๆไงไม่ได้ยินรึไง ฮัดชิ้ว"
" เป็นอะไรไป ไม่สบายรึเปล่าลูกถึงได้จามไม่หยุด ปกติเวลาอยู่ใกล้เจ้าชานมก็ไม่เคยเป็นแบบนี้ "
" นั่นสิค่ะ เจ้าชานมมันคิดถึงคุณหนูมากเลยนะคะ มันคงรู้ว่าเกิดเรื่องขึ้นกับคุณหนูถึงได้ซึมทั้งวันไม่ยอมกินอาหารเลย"
" พ่อคะหนูรู้สึกปวดหัวมากเลยค่ะ เหมือนจะเป็นหวัดเลย"
" งั้นลูกขึ้นไปพักผ่อนก่อนเถอะ"
" ค่ะ "
อิงฟ้าเดินขึ้นบันไดไปก็นึกขึ้นมาได้ว่าแล้วห้องอิงดาวอยู่ห้องไหนหล่ะ
" เอ่อ มาประคองฉันพาไปห้องหน่อยสิ ฉันมึนๆหัวยังไงไม่รู้"
" มาค่ะฉันพาคุณหนูไปเอง"
" อย่า อย่าเอามันมา เอาไปไกลๆ"
คนใช้ที่อุ้มแมวชานมหยุดชะงัก
" ทำไมหล่ะคะ คุณหนูไม่ชอบมันแล้วเหรอ แมวตัวนี้เป็นแมวที่คุณหนูเลี้ยงมันมาตั้งแต่มันยังเด็ก แล้วก็รักมันมาก มันนอนกับคุณหนูทุกวัน ตัวติดกับคุณหนูตลอด"
" เอ่อ ฉันไม่ค่อยสบายดูเหมือนจะเป็นหวัดด้วย กลัวจะติดมันหน่ะ ช่วงนี้ก็ให้มันอยู่ที่อื่นไปก่อนนะ"
" ได้ค่ะ"
1ปีผ่านไป
นิ้วของอิงดาวเริ่มขยับก่อนที่เปลือกตาจะค่อยๆเปิดออก เธอกระพริบตามองดูฝ้าเพดาน แล้วมองไปรอบๆเห็นหญิงสาวคนหนึ่งกำลังจัดดอกไม้ใส่แจกัน พอหญิงคนนั้นหันมาสบตากับเธอดอกไม้ก็ร่วงหลุดมือ
" นายครับเธอฟื้นแล้วครับ"
" อืม "
" นายไม่คิดจะไปเยี่ยมเธอหน่อยเหรอครับ"
" ไม่จำเป็น "
มาร์กัสตอบด้วยเสียงเย็นชา
โรงพยาบาล
อิงดาวมองดูอรุณี ขจร และพิชชาทีละคน
" จำได้ไหมลูกว่าพวกเราเป็นใคร ลองนึกดูดีๆสิ"
"ไม่ ฉันไม่รู้จักพวกคุณ ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน แต่คุณ ฉัน ฉันคุ้นหน้ามากแต่ก็นึกไม่ออกอยู่ดี โอ้ย "
อิงดาวมองหน้าขจรกับพิชชาแล้วพูดก่อนจะมองหน้าอรุณีที่รู้สึกคุ้นๆ แล้วก็รู้สึกปวดหัวจี๊ดขึ้นมา
" ไม่ต้องคิดแล้ว พอแล้ว ลูกพึ่งฟื้นไม่ต้องคิดอะไรนะ "
" ฉันจะไปตามหมอ"
พิชชารีบวิ่งไปตามหมอมาตรวจอีกครั้ง
หมอตรวจเสร็จก็หันมาบอกกับทุกคน
" ร่างกายทั่วไปปกติดี เหลือแค่ความทรงจำที่ยังไม่กลับมา เป็นเรื่องปกติที่จะสูญเสียความทรงจำเพราะคนไข้ได้รับการกระทบกระเทือนที่ศีรษะอย่างรุนแรง "
" นานไหมคะกว่าความจำของเธอจะกลับมาหรือว่าเธอต้องจำอะไรไม่ได้แบบนี้ตลอดไป"
" หมอบอกไม่ได้ ความทรงจำจะกลับมาช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับตัวคนไข้เอง พวกคุณก็มีส่วนช่วยได้ เช่นพาเธอไปในที่ที่เธอเคยไปบ่อยๆ เล่าเรื่องความหลังให้เธอฟังหรือเอาสิ่งที่เธอผูกพันธ์มากๆมาอยู่ใกล้ๆเธอ"
อิงดาวมองดูบ้านสองชั้นหลังเล็กชั้นล่างเป็นปูนชั้นบนเป็นไม้ฝาเฌอร่าทาสีพาสเทล นี่บ้านเธอเหรอ ทำไมถึงไม่มีความรู้สึกคุ้นเลยว่าเคยอยู่ที่นี่มาก่อน
" นี่เป็นบ้านของเราเข้ามาสิจ๊ะ "
" มาสิ พ่อทำอาหารไว้รอหลายอย่างเลยนะหนูจำได้ไหมว่าเคยชมว่าพ่อทำอาหารอร่อยกว่าแม่"
อรุณีจูงมือเธอไปนั่งที่โต๊ะกินข้าว ขจรยกอาหารมาวางบนโต๊ะ เขารู้ว่าเธอจะกลับบ้านวันนี้จึงทำอาหารไว้รออยู่ที่บ้าน ให้อรุณีกับพิชชาไปรับเธอออกจากโรงพยาบาล
" แล้วพิชไปไหนหล่ะ ไม่ชวนมากินข้าวด้วยกัน"
" บอกว่ามีธุระหน่ะ"
ขจรตักแกงส้มกุ้งใส่จานให้อิงดาว อรุณีก็ตักต้มมะระยัดไส้ให้เธอ เธอมองดูแล้วรู้สึกว่าไม่ชอบ
" ทำไมหล่ะ นี่ของโปรดลูกเลยนะ กินสิจ๊ะ"
" ฉันรู้สึกว่าฉันไม่เคยชอบกินมัน"
อรุณียิ้มค้างมองหน้าขจร
" ลูกลองกินดูสิ ว่าเหมือนกับที่รู้สึกหรือเปล่า"
อิงดาวลองตักมะระใส่ปากแล้วก็รีบคายออกใส่ทิชชู่
" ฉันไม่ชอบมะระ"
" งั้นกินกุ้งสิลูกชอบกินกุ้งมาก"
อิงดาวมองดูกุ้งในจานแล้วรู้สึกไม่ค่อยดี แต่เพื่อพิสูจน์ความรู้สึกของตัวเองว่าน่าเชื่อได้แค่ไหนจึงตักกุ้งเข้าปาก
" เป็นไงอร่อยไหมลูก"
" ค่ะ อร่อยมาก"
" งั้นก็กินเยอะๆ"
เธอกินกุ้งไปอีกสามสี่ตัวก็รู้สึกถึงความผิดปกติ เริ่มแน่นหน้าอกหายใจไม่ออก
" ฟ้า ฟ้าเป็นอะไรไปลูก ฟ้า"
โรงพยาบาล
" คนไข้แพ้กุ้งทำไมยังให้เธอกินเข้าไปอีก โชคดีนะที่ช่วยทัน คราวหลังต้องระวังให้มากกว่านี้ "
" ครับ ต่อไปผมจะระวังครับ ขอบคุณครับหมอ"
อรุณียืนนิ่งอึ้ง แพ้กุ้ง เป็นไปไม่ได้ อิงฟ้าไม่เคยแพ้กุ้ง มีแต่จะชอบกิน เป็นกิโลก็กินคนเดียวหมด อิงฟ้าไม่เคยไม่ชอบมะระมีแต่จะขอกินอีก คนที่แพ้กุ้งมีเพียง อรุณีอ้าปากค้างตาโตหันไปมองดูลูกสาวที่นอนอยู่บนเตียง เธอมีลูกสาวเป็นฝาแฝด ทั้งคู่เป็นภูมิแพ้ คนหนึ่งแพ้ขนสัตว์ ส่วนอีกคนแพ้กุ้งแม้จะไม่ได้เจออีกคนมานานแต่ก็จำได้ว่าลูกอีกคนแพ้กุ้ง แล้วทำไมลูกสาวที่อยู่กับเธอตอนนี้ถึงได้แพ้กุ้ง อรุณีมีลางสังหรณ์ไม่ดีเกิดขึ้นแต่ก็ไม่ได้พูดออกมา
ออกจากโรงพยาบาลเพื่อพิสูจน์ว่าลูกสาวที่อยู่กับเธอตอนนี้คืออิงฟ้าตัวจริงเธอจึงอุ้มแมวมา แมวส่งเสียงเรียก เมี้ยว เมี้ยว ขจรเห็นอรุณีอุ้มแมวเข้าบ้านก็รีบดันตัวอรุณีออกไป
" จะบ้ารึไง รู้ทั้งรู้ว่าลูกแพ้ขนแมวยังจะอุ้มแมวเข้าบ้านอีก พึ่งออกจากโรงพยาบาลมาอยากจะกลับไปอีกรึไง"
แม้อิงฟ้าจะไม่ใช่ลูกแท้ๆของเขาแต่เขาก็เลี้ยงมาตั้งแต่เด็กรักและผูกพันธ์เหมือนลูกแท้ๆ เขาเองเป็นหมันมีลูกไม่ได้จึงถือว่าอิงฟ้าคือลูกของเขาคนหนึ่ง ที่เขาจะรักและปกป้องให้ดีที่สุด