อารัมภบท
ขึ้นชื่อว่ามนุษย์แล้ว ย่อมไม่มีความสมบูรณ์แบบหรือไร้ที่ติ ไม่มีใครในโลกนี้ที่ไม่เคยทำพลาด ทุกคนต่างเริ่มใช้ชีวิตและผ่านช่วงวัยรุ่นไปเพียงแค่คนละหน นั่นจึงไม่ใช่เรื่องแปลก หากเราจะเผลอก้าวพลาดได้อย่างซ้ำแล้วซ้ำเล่า
แต่บางครั้งความพลาด มันก็อาจจะผลักให้เราตกลงไปสู่หลุมแห่งหายนะ หลุมที่ลึกจนยากเกินกว่าที่จะปีนขึ้นไหว โดยเฉพาะในสังคมครอบครัวที่สูงส่งและเทิดทูนศักดิ์ศรีอยู่เหนือเกล้าอย่างเช่นครอบครัวฉัน...
มือเล็กที่สั่นเทาค่อย ๆ จุ่มปลายที่ตรวจครรภ์ลงในภาชนะสีขาวขนาดเล็ก ที่ด้านในเต็มไปด้วยน้ำสีเหลืองอ่อนของปัสสาวะ ก่อนที่ขีดด้านบนจะเริ่มประมวลผล
วินาทีนี้ใจของฉันเต้นโครมครามอย่างหนัก ไม่อยากจินตนาการเลยว่าถ้าหากผลตรวจออกมาสองขีดฉันจะต้องพบเจออะไรบ้าง
ชีวิตวัยรุ่นที่กำลังจะก้าวเข้าสู่ชั้นมัธยมปีสุดท้ายจะต้องเผชิญชะตากรรมที่ยากลำบากแน่ ฉันได้เพียงกล่าวโทษตัวเองในความใจง่าย และสาบานอย่างแน่วแน่ว่าถ้าหากผ่านพ้นเรื่องนี้ไปได้ ฉันจะไม่ยอมปล่อยให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีกเป็นอันขาด!
“ทำไมเงียบจังอะ เป็นไงบ้าง”
คนเฝ้าหน้าประตูก็อยู่ไม่สุขไม่ต่างกัน เขาเอาแต่เดินวนกลับไปกลับมาก่อนจะเคาะเข้าที่ประตูหน้าห้องน้ำเพื่อตะโกนถาม
“ไม่กล้าดูอะ”
ฉันถอนหายใจหนัก ๆ ก่อนจะผลักประตูออกไปด้วยใบหน้าซีดเซียว ในมือยังคงถือแท่งขนาดยาวที่ใช้สำหรับการตรวจครรภ์เอาไว้ไม่ปล่อย เพียงแค่ไม่กล้ายกมันขึ้นมาดูเท่านั้น
“ไหน เอามาดูหน่อย”
พี่เรสถือวิสาสะคว้าที่ตรวจครรภ์ในมือของฉันขึ้นไปดูโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนจะเอ่ยประโยคที่ทำให้ใจของฉันเต้นระรัวจนแทบกระเด็นออกมานอกอก
“สองขีดแปลว่าอะไรเหรอ?”
“...”
นาทีนี้ฉันรู้สึกเหมือนแขนขาอ่อนแรงกะทันหัน ถึงกับเข่าทรุดลงไปกองกับพื้น แววตาเริ่มสั่นไหวแสดงความขลาดกลัวที่กำลังก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว นี่ฉัน... พังอนาคตของตัวเองลงไปแล้วเหรอ
“หึ ๆ ตกใจอะไรขนาดนั้น แค่ถามว่าสองขีดแปลว่าอะไร แต่ไอ้เนี่ย... มันขึ้นขีดเดียว”
ทันทีที่รู้ว่าฉันโดนเขาแกล้งเข้าแล้ว ก็ไม่รอช้าที่จะลุกขึ้นมาทุบอกอีกฝ่ายเพื่อระบายความโกรธแค้น แต่เขากลับกลั้วขำออกมาราวกับเป็นเรื่องตลก นี่เขาไม่รู้สึกอะไรบ้างเลยหรือยังไง เรื่องนี้ทำฉันเครียด กินข้าวไม่ได้ข่มตาไม่ลงมาเป็นอาทิตย์เลยนะ ยังจะเห็นเป็นเรื่องสนุกอยู่อีก
“เล่นอะไรไม่รู้เรื่องเลย คนยิ่งคิดมากอยู่”
“ก็บอกแล้วว่าไม่ท้องหรอก เห็น ๆ อยู่ว่าชักออกทัน”
เขายังเอาแต่พูดด้วยท่าทีสบาย ๆ ไม่มีความตื่นตระหนกกับความมักง่ายที่ร่วมกันทำสักนิด
“ที่พูดได้เพราะไม่ท้องเฉย ๆ หรอก คิดหรือเปล่าว่าถ้าออมท้องขึ้นมาจริง ๆ จะทำยังไง เรายังเรียนอยู่เลยนะ หรือเพราะพี่คิดว่าอนาคตของออมจะเป็นยังไงก็ได้ เพราะพี่เป็นผู้ชาย ยังคงขึ้นมหาลัยได้ปกติใช่ไหมล่ะ พอเจอกลิ่นใหม่ ๆ ก็จะไป สันดานผู้ชายมักมาก!”
“เดี๋ยว ๆ ๆ”
ฉันพ่นคำด่ายาวเหยียดจนอีกฝ่ายต้องยกมือขึ้นปราม พร้อมทั้งขยับเข้ามาโอบกอดให้อารมณ์เย็นลง
“คบกันมาตั้งกี่ปีแล้วฮะ ยังไม่เชื่อใจอีกเหรอ? แล้วอีกอย่าง ฉันจะผลักความรับผิดชอบให้เมียคนเดียวได้ยังไง ถ้าจะต้องดรอปเรียนก็ต้อง
ดรอปด้วยกันสิ นั่นก็ลูกฉันเหมือนกันนะ ฉันก็อยากเป็นคนดูแลเขาตอนแบเบาะ ไม่ห่างสายตาเหมือนกัน”
ปลายจมูกโด่งของชายร่างสูงกดทับเข้าที่ข้างแก้มอย่างหยอกล้อ ก่อนจะเลื่อนจมูกเข้ามาคลอเคลียที่ลำคอและเปลี่ยนเป็นประกบริมฝีปากดูดเม้มอย่างกระหาย
“อื้ออ ไม่เอาแล้ว ยังไม่เข็ดอีกหรือไง”
ฉันรีบดันอกคนร่างใหญ่ออกให้พ้นตัว แต่เขาแทบไม่ขยับ ซ้ำยังรวบตัวฉันขึ้นไปพาดลงเตียงได้อย่างง่ายดาย
“ฉันมีถุงน่าา รสสตรอว์เบอร์รีด้วยน้าา อยากชิมไหม”
“แต่ว่า...”
“พรุ่งนี้ฉันจะต้องย้ายของเข้าหอแล้วนะ ไม่รู้จะได้เจอกันอีกวันไหน ถ้าไม่ได้เอาตอนนี้ คงอีกนานเลยกว่าเราจะได้เอากันอีก”
สายตาเว้าวอนที่ส่งมากำลังผลักฉันลงสู่หลุมพรางแห่งกามารมณ์ และท้ายที่สุดฉันก็ต้องพ่ายแพ้ให้แก่เขา พี่เรสเตอร์ ผู้ชายที่เป็นรักแรก และจะเป็นรักเดียวของฉันตลอดไป...
มือเล็กที่ดันหน้าอกของเขาในตอนแรก เปลี่ยนเป็นถลกเสื้อของเขาออกให้พ้นตัว เพลงรักเริ่มขึ้นอีกครั้ง ณ รีสอร์ตหลังเดิม
ทันทีที่กระโปรงกลีบรอบสีดำถูกถลกขึ้นไปกองที่เอว ปลายลิ้นเปียกแฉะก็ตวัดผ่านผ้าลูกไม้สีดำบาง ๆ ที่กั้นปากทางสวรรค์เอาไว้อย่างรู้จุดเสียว
“ฮึก!”
ฉันค่อย ๆ เอนตัวลงบนเตียงนอนสีขาวอันหนานุ่ม ก่อนจะยกเรียวขาขึ้นพาดบ่าอีกฝ่าย เป็นจังหวะเดียวกันกับที่เขาใช้มือเกี่ยวขอบกางเกงในตัวจิ๋วลงมายังหว่างขา จากนั้นก็เริ่มฉกชิมน้ำหวานจากกลีบกุหลาบราวกับกระหายมานานแรมปี
“อื้ออ ยะ อย่าเพิ่งดูด อ้าา”
สองมือจิกเกร็งลงที่นอนเพื่อระบายความเสียวซ่าน ฉันเชิดคางขึ้นจนสุดพร้อมกับร่อนเอวรับปลายลิ้นที่ตวัดถี่ ๆ อยู่กลางลำตัว ก่อนที่ปลายลิ้นจะถูกแหย่เข้ามาในรูเล็กจนตาลอยเคว้งครางเสียงสั่น
“พะ พี่เรส อื้ออ มะ ไม่เอาลิ้นแล้ว ฮึก ออมอยากได้มากกว่านี้”
เสียงครางหวานเอ่ยบอกถึงเจตนา แทบจะไม่ต้องรอเวลานานเกินอดใจไหว พี่เรสก็รีบขยับขึ้นมาคร่อมทับร่างฉันเอาไว้หลวม ๆ พร้อมกับรูดสาวแท่งเนื้อลำใหญ่เอาไว้ในมือ
“ใส่ให้หน่อย”
เขาว่าพลางพยักพเยิดหน้าไปยังซองสี่เหลี่ยมขนาดเล็กสีดำแซมแดงที่อยู่ข้างตัว ฉันจึงรีบทำตามคำสั่งอย่างชำนาญ
ฟันหน้าขบปลายซองเอาไว้แน่น ก่อนมือจะกระชากถุงออกจนมันฉีก มือเล็กหยิบห่วงกลมใสออกมาบรรจงสวมใส่ที่กระบอกไม้ไผ่สีเนื้อที่อยู่ตรงหน้าอย่างไม่มีทีท่าเหนียมอาย เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรก และเราผ่านสนามบนเตียงนี้มานับครั้งไม่ถ้วน
พึ่บ!
พี่เรสจัดท่าแรกโดยการจับฉันพลิกคว่ำหน้าลงที่นอน ในขณะที่ก้นงอนโก่งขึ้นเล็กน้อยเพราะมีหมอนรองบริเวณท้องเอาไว้อยู่
“ฉันไม่อยู่ก็อย่าเกเรนะรู้ไหม อย่าให้รู้ว่าไปอ้าขาให้ใครแทงเล่น”
สวบ!
“อ๊ะ!!”
ฉันหลับตาปี๋ยามถูกของแข็งกระแทกเข้ามาในตัวอย่างแรง เป็นเหตุให้จุกหน่วงจนต้องเบ้หน้า
“แล้วก็...”
มือหนาเลื่อนเข้ามาขยำกำเส้นผมหนาของฉันเอาไว้ในมือแน่นจนใบหน้าเชิดขึ้น ก่อนจะเริ่มสับสะโพกใส่อย่างหื่นกระหาย
“อ้าา ตั้งใจเรียนให้จบ แล้วตามฉันไปไว ๆ เราจะได้ไปอยู่หอด้วยกัน”
“อ๊ะ อื้ออ พี่นั่นแหละ ฮึก! ที่อย่าร่าน อย่าให้รู้นะว่าไปจิ้มใครที่ไหน ออมตัดไอ้จ้อนทิ้งจริง ๆ นะบอกไว้ก่อน”
ฉันพูดขู่สลับกับครางกระเส่า เพราะอีกฝ่ายเริ่มตอกกระแทกเข้ามาอย่างหนักหน่วงแทบไม่เปิดโอกาสให้ได้หายใจหายคอด้วยซ้ำ
“หึ ๆ เมียฉันทั้งเอามันทั้งสวยขนาดนี้ คงไม่โง่ทรยศหรอก เชื่อใจเถอะทูนหัว อ้าา”
เขาโน้มหน้าลงมาบดจูบที่แผ่นหลังขาวเนียนอย่างทะนุถนอม แต่ท่อนเนื้อที่กระแทกเข้าสู่ตัวกลับหนักหน่วงราวกับต้องการจะตำให้แหลก
“สะ สัญญานะ ว่าจะไม่นอกกายไม่นอกใจ”
“สัญญา... ว่านอกจากเธอแล้ว ฉันจะไม่ยอมขึ้นทับใครเป็นอันขาด”
เขาว่าพลางเอื้อมมือมาทาบทับมือเล็กของฉันที่กำลังขยำผ้าปูที่นอนจนยับยู่ยี่ ริมฝีปากทาบจูบข้างแก้มซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทุกการกระทำและคำพูดของเขามันทำให้ฉันมั่นใจ
มั่นใจว่าพี่เรสจะไม่มีทางทรยศฉันอย่างแน่นอน...