“เจ้าทำจริงหรือไม่ อวี้เออร์” เสียงเหยียบเย็นของผู้เป็นบิดาเอ่ยถามบุตรสาวที่คุกเข่าร้องไห้ แทบขาดใจอยู่ที่พื้น
นางเงยหน้าขึ้นมองผู้เป็นบิดาอย่างตัดพ้อ ก่อนจะเม้มปากแน่น ทั้งส่ายหน้าจนเส้นผมหลุดลุ่ยอย่างน่าสงสาร
“ลูกไม่เคยคิดจะทำ และไม่ได้ทำสิ่งใดผิด” นางเอ่ยออกมาด้วยเสียงแผ่วเบา
ผู้เป็นมารดาเมื่อรู้ข่าวว่าบุตรสาวถูกจับตัวไปสอบสวนที่ห้องโถงเรือนหลักก็รีบวิ่งมาหาอย่างร้อนใจ
“ท่านพี่ ได้โปรดเมตตาอวี้เออร์ด้วย บุตรสาวข้านางไม่มีทางทำเด็ดขาด” นางกอดบุตรสาวไว้แน่น พร้อมทั้งมองผู้เป็นสามีอย่างขอความเห็นใจ
“เหอะ ไม่เคยทำ มิใช่ว่าจะไม่ทำ เจ้าเห็นด้วยกับข้าหรือไม่น้องสาว” ฮูหยินเอก ที่นั่งอยู่ภายในห้องโถงก็เอ่ยถากถางออกมา
“น้องสาว หากเจ้าอยากได้ของหมั้นของข้าเหตุใดถึงไม่ขอข้าดีๆ ถึงแม้เป็นของหมั้นพี่สาวเช่นข้าก็ยกให้เจ้าได้” เซี่ยหรันเซียนเอ่ยออกมาด้วยใบหน้าเศร้าหมอง ยิ่งรวมกับท่าทางที่ชดช้อยของแม่ดอกบัวขาวด้วยแล้ว ทำให้ผู้คนที่พบเห็นนางต่างสงสารจับใจ
“เซียนเซียนเจ้าอย่าได้กล่าวเช่นนี้ ของหมั้นที่ข้ายกให้เจ้า จะมอบให้ผู้อื่นได้อย่างไร” กงจวิ้นปลอบใจคู่หมั้นของตนทันที
เซี่ยหรันเซียนยิ้มมองคู่หมั้นอย่างเขินอาย นางลอบยิ้มเย้ยเซี่ยหรูอวี้ที่นั่งอยู่ที่พื้นโดยที่ไม่มีใครสังเกตเห็น
เซี่ยหรูอวี้ได้แต่ยกยิ้มเยาะตนเอง นางจะอยากได้ของหมั้นของพี่สาวไปเพื่ออันใด ในเมื่อนางไม่เคยมีใจให้กงจวิ้นมาก่อนเลย
ถึงแม้ก่อนหน้านี้เขาจะเข้าหานางอยู่บ่อยครั้ง แต่เป็นนางที่คอยหลบเลี่ยงอยู่ตลอด ด้วยรู้ว่าพี่สาวต่างมารดาพึงใจในตัวเขา นางจึงไม่คิดจะเพิ่มปัญหาให้มารดาและพี่ชายถูกรังแกเพิ่ม
“มาถึงขั้นนี้แล้ว อาอวี้เจ้ายอมรับผิดเสียเถิด” กงจวิ้นเอ่ยเสียงแข็งออกมาเพื่อเอาใจสวีเหมยลี่
แม้ก่อนหน้านี้เขาจะพึงใจเซี่ยหรูอวี้ไม่น้อย แต่นางเป็นเพียงบุตรอนุ ไม่อาจช่วยในหน้าที่การงานของเขาได้ ต่างจากเซี่ยหรันเซียนที่ท่านตาของนางเป็นถึงเสนาบดี หนทางขุนนางของเขาย่อมจะก้าวหน้าอย่างไม่มีสิ้นสุด
เขาคิดจะรับนางเข้าจวนเพื่อเป็นอนุหลังจากแต่งกับเซี่ยหรันเซียนแล้ว แต่ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องนี้เข้าเสียก่อน แม้นางจะไม่ได้ทำ อย่างไรเขาก็ต้องเข้าข้างคู่หมั้นของเขาอย่างเลี่ยงไม่ได้
“ข้าไม่ได้ทำ เหตุใดข้าต้องยอมรับ” นางเชิดหน้าขึ้นอย่างไม่ยินยอม