เรื่องราวโดย l3oonm@
author-avatar

l3oonm@

bc
ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา
อัปเดตเมื่อ Feb 19, 2025, 08:51
“ท่านผู้อำนวยการคะ ทางทีมสำรวจแจ้งว่าคนไม่เพียงพอที่จะเข้าไปเก็บตัวอย่างพันธุ์พืชในป่าเมืองเหอหนานค่ะ” ซูเจิน ที่ได้ยินก็หูผึ่งทันที เธอนั่งทำการอยู่ในห้องวิจัยตั้งแต่เรียนจบ ถึงตอนนี้ก็สี่ปีได้แล้ว ผู้อำนวยที่เข้ามาตรวจงานวิจัยล่าสุด ก็มองไปรอบห้อง เพื่อดูว่ามีใครต้องการเสนอตัวไปทำงานในครั้งนี้หรือไม่ แต่หลายคนที่เขามองไป ต่างหลบสายตาของเขา จะมีใครอยากออกไปเสี่ยงอันตราย เดินป่าขึ้นเขาให้เหนื่อยสู้นั่งทำงานในห้องปรับอากาศเย็นๆ ดีกว่า เมื่อไม่มีใครคิดจะเสนอตัว เขาจึงได้สอบถามหาผู้ที่สมัครใจทันที “มีใครอยากจะอาสาไปไหม” ไว้กว่าความคิด ซูเจินยกมือขึ้น “ฉันค่ะ” เพื่อนสนิทรีบดึงเสื้อของเธอเพื่อจะห้ามปราม “จะบ้าหรอ เธอไม่เคยไปสักครั้ง ไม่รู้หรือว่างานนี้เสี่ยงแค่ไหน” เสียงกระซิบของเสี่ยวชิง เอ่ยลอดไรฟันออกมา เมื่อปีที่แล้ว ที่ทีมสำรวจเดินทางเข้าไปที่ป่าเหอหนาน พื้นป่าที่ไม่อาจสำรวจได้อย่างทั่วถึง สร้างความท้าทายให้เหล่านักพฤกษศาสตร์จากทุกองค์กร แต่ไม่ว่าจะส่งเข้าไปกี่ครั้งก็ไปไม่ถึงป่าชั้นกลางเสียที แม้จะใช้เทคโนโลยีที่ล้ำหน้าเข้าช่วยเพียงได้ ก็สำรวจได้เพียงป่าชั้นนอก แถมยังพาชีวิตคนไปทิ้งอีกนับไม่ถ้วน ปีนี้ทางองค์กรของซูเจิน หยิบโครงการสำรวจป่าเหอหนานขึ้นมาใหม่ แต่กว่าจะหาทีมสำรวจได้ครบคนก็กินเวลาไปหลายเดือน ถึงตอนนี้คนก็ยังไม่พอจนต้องมาถามหาจากทีมวิจัยให้ช่วยเหลือ “คุณอยากไปจริงหรือ” เขาเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง “ค่ะ ฉันอยากลองทำงานนี้” ซูเจินยิ้มออกมา “ได้ อีกสองวัน คุณก็เตรียมตัวให้พร้อม” เมื่อมีคนเสนอตัวแล้ว ผู้อำนวยการก็ออกไปพบทีมสำรวจ เพื่อวางแผนการทำงาน ทั้งยังให้ซูเจินตามเขาไปเข้ารวมการประชุมในครั้งนี้ด้วย “เธอมันบ้าไปแล้ว” เพื่อร่วมงานต่างเดินเข้ามาหาซูเจิน แล้วตำหนิเธอที่กล้ายกมือเสนอตัว “เอาน่า ไว้กลับมาฉันจะเอาเรื่องสนุกมาเล่าให้พวกเธอฟัง” ซูเจินยิ้มหวานออกมา ก่อนที่จะเก็บของแล้วไปเข้าร่วมประชุมกับทีมสำรวจ สองวันต่อมาซูเจินก็แบกกระเป๋าเดินทางมาที่จุดนัดพบ เธอออกเดินทางด้วยรถตู้ขององค์กร พร้อมทีมสำรวจอีกเกือบยี่สิบชีวิต ยังดีที่เธอได้แบกกระเป๋าเพียงใบเดียว หากต้องแบกเต็นท์นอน อาหารด้วย คงได้เป็นภาระของคนอื่นอย่างแน่นอน ภายในป่าเหอหนาน น่ากลัวว่าที่ซูเจินคิดไว้เยอะ พอตะวันตกดิน หากไม่มีแสงไฟที่ทีมสำรวจนำมาด้วยคงจะมืดจนมองไม่เห็นอะไร เสียงแมลงทั้งสัตว์ป่าร้องตลอดทั้งคืน สร้างความหวาดกลัวให้กับคนที่ไม่เคยเข้าป่าสักครั้งอย่างเธอได้อย่างดี ยังดีที่เจ้าหน้าที่ผู้นำทางติดตามมาด้วยอีกหลายคน พวกเขาจึงได้อยู่ผลัดเปลี่ยนเวรยาม เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์ป่าเข้ามาถึงตัวพวกเขา หลายวันที่อยู่ในป่า ซูเจินเก็บตัวอย่างพันธุ์ได้หลายชนิด แต่ทั้งทีม ยังเดินไม่หลุดป่าชั้นนอกเลย ยังดีที่อาหารที่เตรียมมาเพียงพอให้พวกเขาอยู่ไปได้อีกหลายวัน “เอ๊ะ” เข้าวันที่เจ็ดของการสำรวจป่า ซูเจิน เห็นดอกไม้แปลกตา ที่ขึ้นอยู่ท่ามกลางพงหญ้ารก เธอจึงเดินห่างจากกลุ่มทีมสำรวจเข้าไปดูทันที เพราะไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องอะไรได้ ระยะห่างที่อยู่ไกลจากพวกเขา หากร้องเรียกก็ยังได้ยินอยู่ เธอหยิบกล้องถ่ายรูปขึ้นมา พร้อมทั้งจดรายละเอียดก่อนที่จะดึงต้นไม้เก็บเข้าถุงเก็บตัวอย่างที่เตรียมมา แต่เมื่อมือของซูเจินสัมผัสไปที่ดอกไม้ เธอก็ต้องตกตะลึง เหมือนมีกระแสไฟวิ่งผ่านปลายนิ้วไปจนทั่วทั้งตัว “โอ๊ยย” เสียงร้องอย่างเจ็บปวดของซูเจิน เรียกความสนใจให้คนทั้งหมดรีบวิ่งมาทางที่เธออยู่ ซูเจินเห็นเพียงแสงสีขาวที่สว่างวาบไปทั่ว แล้วภาพตรงหน้าของเธอก็ดำมืดลง
like
bc
ปราบพยัคฆ์ แม่ทัพตัวร้าย
อัปเดตเมื่อ Feb 13, 2025, 04:19
ซุนเหยา เธอเรียนจบด้านการตลาด และด้วยความชื่นชอบด้านอาหาร เธอจึงเลือกที่จะเปิดร้านอาหาร ทั้งรสชาติอาหารที่ถูกปากทุกช่วงวัย ภายในร้านของเธอยังตกแต่งได้อย่างสวยงาม มุมต่างๆ ของร้านจึงดึงดูดใจให้คนเข้ามานั่งกินและถ่ายรูปลงโซเซียล เพียงไม่กี่เดือนร้านของเธอก็เป็นที่พูดถึง จนทำให้เกิดสาขาอื่นๆ ตามมา ซุนเหยาเธอจึงต้องเดินทางไปตรวจร้านตามสาขาต่างๆ เพื่อคงมาตรฐานเดิมไว้ได้มากที่สุด วันนี้ซุนเหยารู้สึกมึนหัว แต่ผู้จัดการโทรมาหาเธอ เรื่องให้เข้ามาตรวจสินค้าที่สั่งซื้อมาตุนไว้ในโกดัง เธอจำต้องแบกสังขารขึ้นรถไปที่โกดังนอกเมืองปักกิ่งทันที ภายในโกดังขนาดใหญ่ ซุนเหยาเดินตามผู้จัดการ เพื่อดูสินค้าที่สั่งมาว่ามีคุณภาพหรือไม่ หากพบว่าไม่ได้คุณภาพจะได้แจ้งเปลี่ยนได้ทัน เธอไม่ได้มีเพียงโกดังเดียว เมื่อมีสาขาจำนวนมาก ย่อมต้องมีหลายโกดัง เพื่อกักตุนสินค้าให้เพียงพอกับทุกสาขา “โอ๊ยย” ซุนเหยาร้องออกมาเบาๆ เมื่อข้อมือของเธอไปเกี่ยวเข้ากับชั้นวางของจนเลือดไหลซึมออกมา “คุณเหยา ทำแผลก่อนไหมครับ” ผู้จัดการมองข้อมือขาวงามอย่างเป็นห่วง “ไม่เป็นไรค่ะ ตรวจงานให้เสร็จก่อน แผลแค่นี้ ไม่เป็นไรมากค่ะ” เธอหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมามัดข้อมือไว้ ซุนเหยาเธอไม่ได้สังเกตเลยว่ากำไลหยกที่ได้มาจากคุณย่ามันเปล่งแสงออกมาวูบหนึ่งก่อนจะหายไปราวกับไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เมื่อเดินตรวจของจนเสร็จ ซุนเหยาก็บอกลาผู้จัดการ แล้วขึ้นรถกลับบ้านทันที ยังดีที่เธอมีคนขับรถ ไม่เช่นนั้นวันนี้เธอคงขับรถเองไม่ไหว หลายวันที่ผ่านมา ซุนเหยามัววุ่นวายอยู่กับการเปิดร้านสาขาใหม่ที่ปักกิ่ง สาขานี้เธอตั้งใจอย่างมาก เพราะมีขนาดใหญ่กว่าทุกสาขาที่เปิดมา เธอตรวจงานด้วยตนเอง ทำให้หลายวันที่ผ่านมาเธอแทบจะไม่ได้พักผ่อนเลยสักนิด เมื่อขึ้นรถได้ เธอก็หลับเป็นตาย ซุนเหยาขมวดคิ้วอย่างไม่สบอารมณ์ เมื่อเธอได้ยินเสียงเพลงแปลก ที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน “คุณโจว คุณช่วยปิดเพลงให้ฉันหน่อยค่ะ” เธอพูดสั่งคนขับรถ เพราะตอนนี้เขากำลังกวนเวลานอนของเธออยู่ “...” ซุนเหยาเริ่มจะทนไม่ไหว กับเสียงเพลงที่ไม่ได้เบาลงเลย เธอจึงลืมตาขึ้นมาอย่างโมโหคิดจะต่อว่าคุณโจวเสียหน่อย แต่แล้วดวงตาคู่งามกลับเบิกกว้างอย่างตกตะลึง ความจริงเธอต้องอยู่ในรถหรูที่กำลังเดินทางกลับบ้าน แต่ในตอนนี้ เธอกำลังนั่งอยู่ในกล่องสีแดง ซุนเหยารีบเปิดผ้าม่านเพื่อมองออกไปด้านนอก เธออยากจะรู้ว่าตอนนี้เธออยู่ที่ไหน แล้วเกิดเรื่องอะไรขึ้น ทำไมเธอถึงได้ใส่ชุดแดงที่เหมือนจะเป็นชุดเจ้าสาว “คุณหนูห้ามเปิดผ้าม่านเจ้าค่ะ” เสียงร้องตำหนิซุนเหยาดังขึ้น จนเธอต้องหดมือกลับอย่างทำตัวไม่ถูก ไม่สิ ไม่ใช่ ต้องมีคนแกล้งเธอแน่นอน หรือจะเป็นเพื่อนสนิทของเธอ ที่เห็นเธอยุ่งกับงานจนไม่หาแฟนเสียที แต่เธอก็ไม่น่าจะไม่รู้ตัวถึงขนาดที่คนแต่งตัวแต่งหน้าให้แล้วยังหลับได้อีก แม้กระทั่งเกี้ยวหยุดลง มีคนเข้ามาประคองซุนเหยาลงจากเกี้ยวจนไปถึงทำพิธีกราบไหว้ฟ้าดิน ซุนเหยาเธอก็ยังไม่ได้สติ เหมือนกับว่าเธอล่องลอยตามการชักจูงของผู้ที่ประคองเธออยู่เท่านั้น เมื่อเข้ามานั่งรออยู่ในห้องหอ เธอก็ยังมึนงงอย่างไม่เข้าใจ พอได้ยินเสียงเปิดประตูห้อง ซุนเหยากำลังจะอ้าปากถามว่าที่นี่ที่ไหน แล้วเธอมาอยู่ในที่แบบนี้ได้อย่างไร เสียงเย็นชาก็เอ่ยขึ้นกับเธอเสียก่อน “ในเมื่อเจ้าแต่งเข้ามาเป็นฮูหยินของข้าแล้ว ก็จงอยู่ดูแลจวน ดูแลมารดาของข้าให้ดี ข้ายังมีเรื่องที่ต้องจัดการที่ชายแดน” ซุนเหยายังไม่ทันได้อ้าปากถาม เขาก็ปิดประตูแล้วเดินออกไปเสียแล้ว แม้แต่ผ้าคลุมหน้าที่ปิดบังใบหน้าของเธออยู่ก็ยังไม่ถูกเปิด ซุนเหยามึนงง จนแปรเปลี่ยนเป็นความโมโห “เป็นใครมาพูดกับฉันแบบนี้” เธอดึงผ้าคลุมหน้าออกแล้วปาลงพื้น ก่อนจะเดินไปที่โต๊ะเครื่องแป้งแล้วถอดเครื่องประดับออกทั้งหมด “เล่นบ้าอะไรกัน ออกมาเฉลยได้แล้ว ฉันชักไม่สนุกด้วยแล้ว” เธอตะโกนร้องออกมาอย่างหัวเสีย คำพูดของชายคนเมื่อครู่ทำให้เธออยากจะวิ่งเข้าไปข่วนหน้าของเขา กล้าดียังไงมาให้เธออยู่ดูแลบ้านดูแลแม่ของเขา เดี๋ยว เดี๋ยวก่อน เขาพูดว่าจวนไม่ใช่บ้าน ซุนเหยาเหมือนได้สติ เธอมองสำรวจไปรอบๆ ตัวอย่างตื่นตกใจ เครื่องเรือนไม่ใช่แบบที่เธอเคยเห็น แม้กระทั่งผนังห้องก็ยังเป็นดินแบบเรือนโบราณที่เธอเคยไปเที่ยวดูตอนเด็กๆ เธอรีบวิ่งไปที่ประตู เพื่ออยากจะดูให้แน่ชัดว่าเธออยู่ที่ไหนกันแน่ หรืออยู่ที่เมืองโบราณ แต่เพื่อนของเธอไม่น่าจะสามารถพาเธอเข้ามาแกล้งในสถานที่ประวัติศาสตร์เช่นนั้นได้ ด้านหน้าประตูห้อง มีสาวใช้ยืนขวางอยู่ เมื่อเห็นซุนเหยาที่ผมหลุดลุ่ย ทั้งใบหน้าตื่นตระหนกนางก็ร้องถามออกมาอย่างเป็นห่วง “เกิดอันใดขึ้นเจ้าคะฮูหยิน ออกไปไม่ได้เจ้าค่ะ” สาวใช้ขวางซุนเหยาไว้ ทั้งยังดันตัวนางเข้าไปให้อยู่แต่ในห้องหอ เพราะเจ้าสาวที่แต่งงานในวันแรกมิอาจออกมาจากห้องหอได้ คงเป็นเพราะความตกใจที่ได้รับ ซุนเหยาหมดสติไปทันที สาวใช้จำต้องพาเธอกลับมาที่เตียงนอน ทั้งยังไปแจ้งหลีซื่อแม่สามีของซุนเหยาเรื่องที่นางหมดสติไป
like
bc
หวังเจินเหยา แพทย์สาวข้ามภพ
อัปเดตเมื่อ Jan 22, 2025, 04:28
เหยาเหยา มองไปรอบๆ ตัวอย่างสับสนมึนงง รอบตัวมืดมิดเกินกว่าจะเห็นสิ่งใดชัดเจนได้ เธอไม่เข้าใจว่าในตอนนี้เธออยู่ที่ใด ก่อนหน้านี้ เธอเข้าไปช่วยผู้บาดเจ็บทางรถยนต์ ระหว่างที่เดินทางกลับที่พัก เธอเป็นศัลยแพทย์ทั่วไป เวลาทั้งหมดจึงหมดไปกับการผ่าตัดในโรงพยาบาล เหยาเหยา เพียงต้องการช่วยยื้อผู้บาดเจ็บหนักเท่านั้น แต่ไม่คิดว่ารถบรรทุกที่วิ่งมาด้วยความเร็วจะเกิดเสียหลักพุ่งเข้าชนเธอที่กำลังเดินข้ามถนนไปหาผู้บาดเจ็บ ตอนที่เหยาเหยากำลังมึนงงกับเรื่องทั้งหมดอยู่นั้น เธอก็พบแสงสว่างจากช่องทางเล็กๆ จนขยายใหญ่ขึ้น เธอจ้องมองผู้คนตรงหน้าอย่างตกตะลึงรอบตัวของเธอในตอนนี้มีคนสามสี่คนกำลังมองมาที่เธออย่างตื่นตระหนก เหยาเหยาที่ยังไม่รู้ว่าบุคคลตรงหน้าทำไมถึงได้แต่งตัวด้วยเสื้อผ้าที่ประหลาดนัก เหมือนเธออยู่ท่ามกลางถ่ายหนังหรือซีรีส์สักเรื่องหนึ่ง ฝ่ามือของสตรีก็ตีลงมาที่ก้นของเธออย่างไม่เบาไม่แรง เหยาเหยามองกลับไปด้วยแววตาที่โกรธจัด เธออยากจะร้องถามว่าตีเธอด้วยเรื่องอะไร แต่เสียงที่เปล่งออกมากลายเป็นว่า เธอพูดได้เพียง อ้อแอ้ เท่านั้น ‘เกิดอะไรขึ้น’ เหยาเหยาเริ่มหวาดกลัวอยู่ในใจ แต่สตรีผู้นั้นก็ยังตีลงมาที่ก้นของเธออีกครั้ง เหยาเหยาทนไม่ไหวจึงร้องออกมาเสียงดัง เธอมองสำรวจใบหน้าของทุกคนไปด้วย ก็พบว่าทุกคนต่างยิ้มออกมาอย่างยินดีเมื่อเห็นเธอร้องไห้ “อุแว้ อุแว้” ไม่จริง เสียงที่ร้องออกมาทำไมถึงเป็นเพียงแค่เด็กทารก เหยาเหยาเริ่มเสียสติ เธอจึงร้องออกมาอย่างไม่ยินยอม “คุณหนูน้อยเจ้าค่ะ ฮูหยิน ร้องเก่งยิ่งนัก” เหยาเหยาถูกส่งตัวให้สตรีใบหน้าซีดขาว แต่ยังคงความงามแม้ใบหน้าไร้สีเลือด เธอลูบแก้มของเหยาเหยาอย่างรักใคร่ เหยาเหยาหยุดโวยวายแล้วจ้องมองเธออย่างสนใจ “ดูสิเจ้าค่ะ เพียงฮูหยินอุ้ม คุณหนูก็เงียบทันที ช่างรู้ความยิ่งนักเจ้าค่ะ” “หึหึ บุตรสาวของข้า” เหยาเหยานางไม่อาจฝืนเปลือกตาเพื่อสำรวจรอบตัวได้อีก เธอหลับไปในอ้อมกอดที่อบอุ่นของสตรีงดงามอย่างเป็นสุข
like
bc
ข้าทะลุมิติมา ได้สามีไร้ค่าคนหนึ่ง
อัปเดตเมื่อ May 10, 2025, 23:53
กริ๊งๆ ๆ เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นเป็นรอบที่สามแล้ว ที่หญิงสาวบนที่นอนกดปิดแล้วนอนต่อ หว่านหนิงเธอคงลืมไปเสียสนิทว่าวันนี้เธอมีงานเปิดตัวเสื้อผ้า ปัง ปัง เสียงทุบประตูห้องพร้อมตะโกนเรียกชื่อของเธอเสียงดังลั่นไปทั่วบ้าน “หนิงหนิง หนิงหนิง ตื่นหรือยัง ลูกจะไปไม่ทันงานเอานะ” แม่ของหว่านหนิงร้องเรียกอยู่ที่หน้าห้อง “ห๊า” เธอลุกพรวดขึ้นมาหยิบนาฬิกาข้างหัวเตียงขึ้นมาดู “ตายแล้ว จะทันไหมเนี่ย ตื่นแล้วค่ะแม่” เธอร้องตะโกนบอกผู้เป็นแม่ พร้อมทั้งพุ่งตัวเข้าไปล้างตาล้างตาทันที ต้องบอกเลยว่า เธอไม่ได้อาบน้ำ ถ้าอาบคงไม่ทันแน่ ๆ ไหนจะการจราจรที่ติดขัด และเธอยังต้องไปดูนางแบบใส่ชุดก่อนจะเดินโชว์อีก หว่านหนิงแต่งตัวเสร็จ เธอหยิบกระเป๋าได้ก็พุ่งตัวออกจากห้องวิ่งลงบันไดอย่างรวดเร็ว แต่ยังไม่ลืมที่จะคว้าขนมปังมากัดไว้ที่ปากและแก้วกาแฟที่ผู้เป็นแม่เตรียมไว้ให้ขึ้นไปบนรถด้วย “ขับรถดีๆ นะลูก” เธอร้องตะโกนบอกลูกสาว เมื่อเห็นว่าหว่านหนิงโบกมือให้อย่างกระตือรือร้นก็อดที่จะส่ายหัวไม่ได้ นิสัยที่นอนตื่นสายของเธอ เมื่อไหร่ถึงจะแก้ได้เสียที หว่านหนิง เกิดในครอบครัวที่มีแต่ช่างปักผ้า ครอบครัวของเธอสืบทอดวิธีการปักโบราณมาได้หลายร้อยปีแล้ว ทั้งยังมีชื่อเสียงในเมืองจีนอยู่ไม่น้อย เธอจึงซึมซับทั้งวิธีการปักและการออกแบบมาตั้งแต่เล็ก เมื่อโตขึ้นเธอจึงเลือกที่จะเรียนศิลปกรรมศาสตร์ การออกแบบเครื่องแต่งกาย ผลงานสร้างชื่อของเธอ คงเป็นเสื้อผ้าที่นำเอกลักษณ์การปักลายโบราณเข้ามาผสมผสานกับยุคใหม่ได้อย่างลงตัว จนทำให้มีบริษัทชั้นนำเชิญตัวไปรวมงานด้วยหลายแห่ง หว่านหนิงที่คร่ำหวอดอยู่ในวงการแฟชั่นมาหลายปีก็เลือกที่จะเปิดบริษัทเป็นของตัวเอง วันนี้เป็นงานเปิดตัวสินค้าคอลเลคชั่นใหม่ในปีนี้ของเธอ จึงไม่สมควรที่จะไปสายอย่างยิ่ง “อาเยว่ ฉันใกล้ถึงแล้ว เธอให้นางแบบใส่ชุดไว้ได้เลย” หากจะมีงานแก้ เมื่อไปถึงเธอจะได้ลงมือแก้ไขได้ทัน “ทุกคนแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้ว เธอไม่ต้องรีบมากก็ได้ ฉันเป็นห่วง”เสียงอาเยว่ปลายสายรีบบอกด้วยความเป็นห่วง เพราะกลัวว่าหว่านหนิงจะเกิดอุบัติเหตุได้ “ขอบใจเธอมาก” หว่านหนิงตัดสายไป หากเธอไม่ได้อาเยว่มาคอยเป็นผู้ช่วยก็ไม่รู้ว่าตัวเธอเพียงผู้เดียวจะตั้งบริษัทขึ้นมาได้ไหม หว่านหลินมาถึงสถานที่จัดงาน เธอรีบเร่งฝีเท้าเข้าไปที่ห้องแต่งตัวของนางแบบทันที เมื่อเข้าไปด้านในก็พบว่าเป็นอย่างที่อาเยว่เธอบอกไว้ นางแบบแต่งตัวพร้อมเรียบร้อยแล้ว งานแก้ก็ไม่ได้มีมากมายอย่างที่คิด เพียงเย็บช่วงเอวเก็บรายละเอียดความยาวชุดให้เข้าที่ทุกอย่างก็เตรียมพร้อมกับการเดินโชว์ “คุณหว่านหนิงคะ นักข่าวขอสัมภาษณ์คุณก่อนงานจะเริ่มค่ะ” ลูกน้องของเธอเดินเข้ามาตามเธอ “ได้ค่ะ ไปอาเยว่” เธอเข้าไปคล่องแขนเพื่อนสาวก่อนจะเดินออกไปส่วนด้านหน้าของงาน การสัมภาษณ์ พูดถึงผลงานของเธอในวันนี้ ทั้งเรื่องแรงบันดาลใจที่ได้รับ ชุดที่เป็นตัวเอกของงาน เกี่ยวกับสภาพความเป็นอยู่ของชาวบ้านในยุคโบราณ งานปักที่บรรจงทำมานานหลายเดือน ทุกรายละเอียดที่ออกมาบนเสื้อผ้าดูสมจริง ราวกับผู้คนบนผืนผ้ามีชีวิต และกำลังเล่าเรื่องราวการใช้ชีวิตของพวกเขาบทผืนผ้าที่หว่านหนิงเธอถักทอ ผู้คนที่อยู่ในนาข้าวช่วยกันเก็บเกี่ยวผลผลิต ทั้งป่าเขา แม่น้ำ แม้แต่สายลมและแสงแดด ทำให้ผู้คนที่เข้าร่วมงานในวันนี้ต่างประทับใจ และเป็นที่พูดถึงบนโซเซียลมีเดีย “ขอบคุณทุกคนมากค่ะ วันนี้ฉันเลี้ยงเอง” หว่านหนิงบอกกับทีมงานทุกคนที่ช่วยงานเธอในวันนี้ เธอพาทีมงานทุกคนมากินฉลองที่ห้องอาหารภายในโรงแรมที่จัดการ ทั้งอาหาร เครื่องดื่ม คาราโอเกะ หว่านหนิงเลี้ยงอย่างใจกว้าง เกือบห้าทุ่มกว่างานเลี้ยงจะเลิก เธอที่ดื่มเข้าไปไม่น้อยก็เริ่มจะเดินทรงตัวไม่ค่อยจะอยู่แล้ว “หนิงหนิง เธอกลับได้แน่นะ” อาเยว่มองเพื่อนสาวอย่างเป็นห่วง “ไม่ต้องห่วง ฉันเรียกรถมารับ เธอวางใจได้” หว่านหนิงโบกมือไล่ให้อาเยว่รีบกลับไปพร้อมแฟนหนุ่มของเธอ “เห้อ ปีหน้าอาเยว่ก็จะแต่งแล้ว แล้วฉันล่ะ สวรรค์ไม่เห็นท่านจะส่งเนื้อคู่มาให้ฉันเลย” เธอเงยหน้าชี้ขึ้นไปบนฟ้าแล้วต่อว่าออกมาเสียงดัง ปี๊ดดดดดด เสียงบีบแตรรถที่ลากยาว ทำให้หว่านหนิงที่กำลังต่อว่าเทพชะตาอยู่หันไปมองอย่างตกใจ เธอเห็นเพียงแสงไฟหน้ารถที่สว่างจนแสบตาส่องมาทางเธอเท่านั้น “กรี๊ดดดดด” เสียงกรีดร้องของหว่านหลินดังเพียงแค่ช่วงสั้นๆ เท่านั้น เธอที่เดินเซไปอยู่ทางเดินรถ หันมาอีกทีก็ไม่อาจจะหลบรถที่พุ่งมาด้วยความเร็วได้ทันแล้ว ร่างของหว่านหนิงที่ถูกรถชนด้วยความแรงตกลงมากระแทกพื้น เธอหมดสติไปแทบจะในทันที เสียงสุดท้ายที่ได้ยินคงเป็นเสียงกรีดร้องเรียกชื่อเธอของอาเยว่ ที่เห็นเหตุการณ์เข้าพอดี “กรี๊ดดด หนิงหนิง”
like
bc
ย้อนกลับมาครั้งนี้ ข้ามิใช่เหยื่ออีกต่อไป
อัปเดตเมื่อ Apr 26, 2025, 08:37
มู่เจียอี ถูกมัดด้วยโซ่ตรวน ท่ามกลางเสียงด่าทอของชาวบ้านนางไม่ได้ฟังสิ่งใดเลย นอกจากสายตาที่มองหวงเต๋อฟานกับหวงชุนหมิง สามีและบุตรเลี้ยงของนาง แววตาของทั้งคู่ที่มองมามีแต่ความเกลียดชัง ว่างเปล่า จนนางอดสะท้านในอกไม่ได้ “ข้าไม่ได้ทำ” นางพูดด้วยเสียงที่แผ่วเบา หวังว่าทั้งสองจะเชื่อในคำนาง นางถูกกล่าวหาว่าลอบคบชู้สู่ชายกับพ่อบ้านในจวน มันไม่ใช่เรื่องจริงแม้แต่น้อย นางยอมแต่งให้เขา ซึ่งได้ชื่อว่าพี่เขย หลังจากที่พี่สาวฝาแฝดของนาง มู่เฟยหย่า ป่วยหนักเจียนตาย ได้ขอร้องให้นางรับปาดจะยอมแต่งเป็นภรรยาของเขาเพื่อช่วยดูแลบุตรชายที่เพิ่งเกิดได้เพียงไม่ถึงปีแทนนาง “อีอี เจ้ารับปากข้า ข้าไม่ไว้ใจผู้ใดนอกจากเจ้า” เพราะนางเป็นคนหัวอ่อน เชื่อฟังพี่สาวมาโดยตลอดจึงได้รับปากไป ไม่คิดว่าการรับปากครั้งนั้นจะทำให้นางต้องทนทุกข์มานับสิบกว่าปี นางเพิ่งจะมารู้เมื่อไม่กี่เดือนก่อนว่าพี่สาวของนางยังไม่ตาย ตอนนี้นางกลายเป็นพระชายาเอกของเว่ยอ๋อง น้องชายร่วมอุทรของฮ่องเต้ไปแล้ว ในตอนแรกที่นางรู้ว่าเว่ยอ๋องแต่งสตรีโดยสาบานจะรักมั่นเพียงนางผู้เดียว ยังอดคิดไม่ได้ว่าผู้ใดกันที่วาสนาดีถึงเพียงนี้ ก่อนจะโดนจับตัวส่งทางการ นางถึงได้รู้ว่าเหตุใดนางถึงไม่ตั้งครรภ์เสียที พี่สาวของนางกลัวว่าหากนางตั้งครรภ์ บุตรของนางจะได้ตำแหน่งโหว่ แทนบุตรชายของนาง จึงให้หวงเต๋อฟาน ใส่ยาห้ามครรภ์ให้นางกินทุกครั้ง แม้นางจะเลี้ยงดูหวงชุนหมิงราวกับบุตรของนาง แต่ก็ไม่ทำให้เขารักนางเช่นมารดาแท้ๆ หลังจากอายุแปดหนาว เขารู้ว่ามู่เฟยหย่าคือมารดาของตน ก็ห่างเหินจากนางทันที เรื่องนี้นางก็เพิ่งจะรู้หลังจากที่พี่สาวนางกลับมาที่จวนในคืนวันใส่ร้ายนาง “ข้าทำผิดต่อท่านที่ใด ถึงได้ทำกับข้าเช่นนี้” มู่เจียอีเอ่ยถามพี่สาวทั้งน้ำตา “มันเป็นเพราะเจ้าทุกเรื่อง ทุกคนล้วนแต่รัก สนใจเพียงแค่เจ้า แล้วข้าเล่า ข้าได้รับความรักจากผู้ใด” มู่เฟยหย่าดวงตาแดงก่ำจ้องหน้าน้องสาวฝาแฝดที่เหมือนกับนางแทบจะทุกอย่าง เพียงแต่ดวงตาคู่นั้นของมู่เจียอีที่ทอประกายราวกับดวงดาวบนฟากฟ้าทั้งหมดอยู่ในตาคู่งามของนาง ผู้ที่พบเห็นสองพี่น้องสามารถแยกออกได้ทันที “เป็นข้า…ที่ยอมลงให้ท่านตลอด” เจียอีเอ่ยเสียงสั่นอย่างปวดใจ ไม่คิดว่าพี่สาวจะคิดกับนางเช่นนี้ “หึ มันไม่พอ ไม่พอ!!! ข้าไม่ต้องการความหวังดีของเจ้า ข้าต้องการมันจากเขาผู้นั้น” เจียอีไม่เข้าใจในสิ่งที่เฟยหย่านางพูด แต่พอนางจะเอ่ยถาม เสียงของหวงชุนหมิงก็เอ่ยเร่งมารดาของเขาให้รีบออกมา ตามมาด้วยเสียงฝีเท้ามากมายที่เข้ามาเห็นร่างเปลือยเปล่าของเจียอีนอนอยู่บนเตียงกับพ่อบ้านที่สลบไม่ได้สติ หลังจากนั้นนางกับพ่อบ้านถูกพาตัวไปขังไว้ที่คุกศาลต้าเยี่ยน เจียอีหวนนึกถึงเรื่องในคืนนั้นก็หัวเราะเย้ยหยันความโง่ของตนออกมา ตอนที่นางถูกจับไปมัดไส้กับม้าสายตาของนางว่างเปล่าได้แต่โทษตนเอง หากบิดามารดายังอยู่ในวันนี้นางจะโดนเช่นนี้หรือไม่ ตอนที่ม้าทั้งห้ากำลังจะแยกร่างนาง นางได้แต่วิงวอนต่อสวรรค์ “หากชาติภพหน้ามีจริง ข้าขออย่าได้กลายเป็นเหยื่อเช่นนี้อีกเลย” เสียงด่าทอยังสาปแช่งนางไม่หยุด หวงเต๋อฟานหันหลังหนีไม่อาจทนมองสภาพเจียอีเช่นนี้ได้ หวงชุนหมิงเห็นแววตาสุดท้ายก่อนที่เจียอีจะโดนแยกมองมาทางเขาก็อดที่จะสั่นสะท้านออกมาไม่ได้
like
bc
พ่อบัณฑิตหน้าขาว ข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง
อัปเดตเมื่อ Apr 17, 2025, 04:22
“คุณหลินเยว่ ยินดีด้วยค่ะ กับยอดขายสินค้าตัวใหม่” “ขอบคุณมากเลยค่ะ ฉันตั้งใจทำอย่างมากหวังว่าสินค้าตัวใหม่จะเป็นที่ถูกใจพวกคุณทุกคนค่ะ” หลินเยว่ยิ้มหวานให้กล้อง พร้อมทั้งก้มหัวขอบคุณลูกค้าที่ให้ความสนใจสินค้าตัวใหม่ของเธอ เพียงเปิดขายในวันแรก ยอดสั่งซื้อจากทุกช่องทางก็ทำให้สินค้าหมดลงในเวลาไม่ถึงสองนาทีด้วยซ้ำ นับว่าผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของเธอ ไม่ว่าจะเป็นน้ำหอม ครีมทาผิว ครีมอาบน้ำ หรือแต่เครื่องสำอางที่เพิ่งผลิตออกมาจำหน่าย ล้วนแต่ขึ้นเป็นสินค้าขายดีเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ นอกจากกลิ่นหอมที่ติดทนแล้ว สินค้าของเธอยังนับว่าช่วยอุดหนุนเกษตรกรในประเทศอีกด้วย วัตถุดิบทั้งหมดของเธอใช้ของที่ปลูกในประเทศไม่นำเข้า ทุกขั้นตอนการผลิตเธอเข้าไปควบคุมด้วยตนเอง เป็นการถ่ายคลิปโปรโมตสินค้าของเธอไปในตัว และวิดีโอที่เธอนำมาเผยแพร่ยังดึงดูดความสนใจของคนทั่วประเทศได้มากมาย เธอนำวิธีการทำเครื่องหอมในยุคโบราณมาประยุกต์เข้าด้วยกัน บางกลิ่นจึงให้คนที่ติดตามร่วมสร้างสรรค์ไปกับเธอด้วย เพียงเท่านี้ ผลิตภัณฑ์ของเธอก็ครองใจผู้คนไปได้มากกว่าที่จะคาดคิด คืนนี้เธอจึงจัดงานเลี้ยงฉลองให้กับพนักงานทุกคน ที่เหน็ดเหนื่อยมานับเดือน เพื่อที่จะทำให้สินค้าตัวใหม่ออกวางขายได้ตามกำหนด นอกจากจะเลี้ยงขอบคุณพนักงานแล้ว เธอยังให้พนักงานได้ร่วมสนุกจับรางวัล ภายในงานแต่ละคนสนุกสนานรวมทั้งมึนเมาไม่น้อย “คุณหลินเยว่คะ เรียกรถให้เรียบร้อยแล้ว ฉันจะออกไปส่งคุณที่หน้าร้านนะคะ” เลขาคนสนิทของหลินเยว่ เดินไปส่งเธอที่หน้าร้าน เพราะดื่มไปไม่น้อย แม้จะไม่ถึงกับเมาไม่ได้สติ แต่เธอก็ไม่อยากเสี่ยงขับรถกลับบ้านด้วยตัวเอง คิดว่าเรียกรถรับจ้างให้มารับน่าจะดีที่สุดแล้ว แต่ใครจะคิดว่าคนจะซวยยังไงก็ซวย อีกเพียงไม่นานหลินเยว่เธอก็จะถึงบ้านแล้ว แต่รถรับจ้างที่เธอเรียกมาเกิดเสียหลัก พุ่งเข้าไปชนกับรถที่สวนมาอย่างแรง ทำให้เธอหมดสติไปทันที “โอวโยว ข้าบอกแล้วว่าเจ้าเป็นตัวซวย เจ้าสาวมาถึงเรือนก็ตายเสียแล้ว” นางฮั่วซื่อกรีดร้องพร้อมทั้งชี้หน้าตาว่าหลายชายของนาง “...” จางเลี่ยงรุ่ยเม้มปากแน่น ตอนที่เขาเดินไปรับนางลงจากเกี้ยวเจ้าสาวที่หน้าเรือน นางก็ไม่ได้สติแล้ว ตอนนี้ยังไม่รู้เลยว่านางเป็นตายร้ายดีเช่นไร แต่ท่านย่าก็เอาแต่ต่อว่าเขาไม่จบสิ้น ทั้งที่ไม่ใช่ว่าเขาเป็นผู้ทำร้ายนางเสียหน่อย “ซวย ซวย งานมงคลแท้ๆ ข้ารึ อุตส่าห์เสียเงินแต่งบุตรสาวคหบดีเข้าเรือน แล้วจะทำเช่นไรดี” นางฮั่วซื่อยังไม่ยอมที่จะหยุดโทษหลานชาย ทั้งๆ ที่นางก็รู้ดีว่า เกาหลินเยว่ นางโดนแม่เลี้ยงวางยาก่อนจะจับขึ้นเกี้ยวเจ้าสาว นางยังรับเงินมาจากนางเจินซื่อถึงร้อยตำลึงทอง แล้วจะบอกว่าเสียเงินไปได้อย่างไร หลินเยว่ตอนนี้เธอรู้สึกตัวแล้ว เพียงแต่ยังไม่กล้าลืมตา เธอนอนฟังมานานพอดูแล้ว จึงได้รู้ว่าเธอทะลุมิติมาอยู่ในร่างของสตรีที่มีชื่อเดียวกับเธอ แล้วถูกมารดาเลี้ยงร่วมมือกับนางฮั่วซื่อผู้เป็นย่าของเจ้าบ่าวของนางเอง เกาหลินเยว่ นางสิ้นใจลง เพราะยาที่ถูกนางเจินซื่อให้กินเมื่อคืน ตอนที่ถูกจับแต่งตัวยัดเข้าเกี้ยวนางจึงได้สิ้นใจระหว่างการเดินทาง นี่มันเรื่องบ้าอะไรเนี่ย หลินเยว่ได้แต่นอนคิดทบทวน เรื่องต่างๆ ที่เข้ามาในหัวของเธอ เกาหยวนผู้เป็นบิดา นับตั้งแต่มารดาของเกาหลินเยว่สิ้นใจลงก็เลี้ยงดูนางมาอย่างทิ้งขว้าง ยิ่งเจอมารดาเลี้ยงเช่นนางเจินซื่อด้วยแล้ว ในจวนก็ราวกับนรกดีๆ นี่เอง คงมีเรื่องเดียวที่นางคิดว่าโชคดี ก็คงเป็นสัญญาหมั้นหมายที่มารดาจัดการไว้ก่อนที่นางจะสิ้นใจ แต่นางไม่เคยคิดเลยว่า เรื่องดีๆ ที่นางคิดว่าโชคดี จะเลวร้ายกว่าเรื่องที่เคยพบเจอมา เมื่อตู้ฮุ่ยเหอคู่หมั้นของนาง แอบปันใจให้น้องสาวต่างมารดา จนถึงขั้นคิดแผนการเช่นนี้มาจัดการตัวนาง ทั้งเรื่องที่โดนวางยาและเรื่องความเสียใจในโชคชะตา ทำให้เกาหลินเยว่ตรอมใจจนเสียชีวิต วิญญาณของหลินเยว่ที่อยู่อีกภพจึงเข้ามาสวมร่างแทน “สวรรค์ ท่านกลั่นแกล้งกันเกินไปแล้ว” หลินเยว่กัดฟันแน่นอย่างแค้นใจ ชีวิตหน้าที่การงาน ชื่อเสียงของเธอกำลังไปได้ด้วยดี แต่มาเกิดเรื่องเช่นนี้หมายความว่ายังไง
like
bc
ข้าไม่เป็นแล้ว ภรรยาผู้แสนดี
อัปเดตเมื่อ Feb 19, 2025, 15:00
หลิวเยว่ชิง สาวงามของเมืองหลวง บุตรสาวของท่านหมอหลวงหลิว ความงามของนางเป็นที่ประจักษ์ ทั้งเรื่องความสามารถเรื่องการรักษานางก็เก่งไม่แพ้ผู้เป็นบิดา แต่เพราะด้วยที่นางเป็นสตรี นางจึงมิอาจเดินตามรอยเท้าของบิดาได้ ทำได้เพียงรักษาให้กับสตรีที่ต้องการความช่วยเหลือจากนาง นางยังคิดจะเปิดโรงหมอ เพื่อรักษาให้กับสตรีโดยเฉพาะ แต่เพราะคู่หมั้นของนาง กงหลี่เฉียงมิเห็นด้วย นางจึงได้เลิกล้มไปเสีย นางแต่งให้กงหลี่เฉียงท่ามกลางความเสียดายของบุรุษมากมายในเมืองหลวง งานมงคลของนางเป็นที่พูดถึงนานหลายเดือน เพราะสินเดิมที่บิดาจัดเตรียมให้ เรียกได้มามากมายจนไม่ต้องทำสิ่งใดอีกแล้ว นางใช้ชีวิตเป็นฮูหยินของกงหลี่เฉียง ดูแลจวน ทั้งยังดูแลแม่สามีที่เจ็บป่วยอยู่เสมอ จนมีแต่คนเอ่ยชมกงหลี่เฉียงที่ได้ภรรยาเช่นนางไปครอบครอง ในวันแต่งงาน เรื่องที่ไม่อาจไม่พูดถึงไม่ได้คือเรื่องคำสาบานของกงหลี่เฉียง “ข้ากงหลี่เฉียง ขอสาบานต่อฟ้าดิน ว่าชีวิตนี้จะมีเพียง หลิวเยว่ชิงเป็นภรรยาเพียงผู้เดียว” เรื่องนี้ยังสร้างความอิจฉาให้กับเหล่าสตรีในเมืองหลวงอยู่นานหลายเดือน หากบุรุษบ้านใดที่รับอนุเพิ่ม จะถูกเปรียบเทียบกับกงหลี่เฉียงในยามนั้นทันที แต่แล้วความสุขของนางก็อยู่ได้ไม่นาน หลังแต่งงานได้เพียงสองปี กงหลี่เฉียงที่เพิ่งจะได้รับตำแหน่ง รององครักษ์เสื้อแพรมาหมาดๆ ก็พาญาติผู้น้องของเขา ตู้ซิงเยียน เข้าจวนในตำแหน่งฮูหยินรอง เรื่องนี้สร้างข่าวลือไปทั่วเมืองหลวง เพราะไม่คิดว่า กงหลี่เฉียงที่กล้าเอ่ยคำสาบานในวันงานแต่งเช่นนั้น จะกล้ารับสตรีเข้าจวนได้อีก “ท่านทำกับข้าเช่นนี้ได้อย่างไร” หลิวเยว่ชิงดวงตาแดงก่ำ มองกงหลี่เฉียงประคองตู้ซิงเยียนอยู่หน้าเรือนของนาง น้ำตาค่อยๆ ไหลออกมาจากดวงตาคู่งามของนาง บ่าวไพร่ที่รู้จักฮูหยินน้อยว่านางแสนดีเพียงใด ก็อดจะเห็นใจนางไม่ได้ “บุรุษใดเล่าในเมืองหลวงที่ไม่มีสามภรรยา สี่อนุ” กงหลี่เฉียงเอ่ยออกมาอย่างหน้าด้านๆ โดยที่ตัวเขาก็หลงลืมเรื่องคำสาบานในวันแต่งงานไปแล้ว “หึ เช่นนั้นรึ ท่านคงหลงลืมไปแล้วกระมังเรื่องคำสาบาน” “แล้วอย่างไรเล่า ชิงชิง เจ้าแต่งเข้าจวนข้ามาสองปี ท้องเจ้ายังมิได้เรื่อง หากข้ารับเยียนเออร์เข้าจวนจะผิดอันใดเล่า” “อ้อ เพราะเรื่องนี้อย่างนั้นรึ” นางยิ้มเยาะตนเอง เป็นนางที่คิดแทนผู้เป็นสามี ไหนจะเรื่องภายในจวน ที่ค่าใช้จ่ายทั้งหมดล้วนต้องควักมาจากสินเดิมของนาง ไหนจะเรื่องของอาการป่วยของแม่สามีที่แทบจะเรียกหานางทุกหนึ่งชั่วยาม นางและเขาจึงคิดตรงกันเรื่องที่ยังไม่อยากมีบุตร ทุกครั้งที่ร่วมรักกันนางจึงกินยาห้ามครรภ์มาตลอด แต่การที่หวังดีต่อเขาเช่นนี้ ไม่คิดเลยว่าเขาจะกล้าหักหาญน้ำใจของนาง “หากท่านดึงดันจะรับนางเข้าจวน เช่นนั้นก็หย่าขาดจากข้าเสีย” “เพ้ย ไม่หย่า เจ้าอย่าได้ใจแคบนักเลย เยียนเออร์ย่อมเชื่อฟังเจ้าอย่างดี ไม่ดีหรือที่จะมีคนมาช่วยดูแลเรือนเพิ่มอีกคน” “วาจาของท่านช่างน่าขันนัก หากข้าไม่รับน้ำชาของนาง นางรึจะเข้ามาอยู่ในจวนได้” “หึ ต่อให้เจ้าไม่รับน้ำชาของนาง นางก็เข้ามาอยู่ในจวนได้ เพราะเยียนเออร์นางตั้งครรภ์แล้ว” คำพูดของกงหลี่เฉียง เหมือนฟ้าผ่าลงมากลางศีรษะของเยว่ชิง นางเกือบจะล้มไปกองกับพื้น ยังดีที่สาวใช้ของนางเข้ามาประคองนางไว้เสียก่อน เขาให้นางกินยาห้ามครรภ์มาโดยตลอด แต่กลับพาญาติผู้น้องที่ตั้งครรภ์กลับเข้ามาในจวน นางจะทนฟังเรื่องเช่นนี้ได้อย่างไร “อาอิง เจ้าไปเก็บของข้าจะกลับจวนตระกูลหลิว” นางเอ่ยสั่งสาวใช้ที่ติดตามนางมาจากบ้านเดิม “หยุด!!! หากเจ้าจะไปก็กลายเป็นศพออกไปเสีย แต่งเข้าตระกูลกงแล้ว ถึงตายก็ต้องเป็นผีตระกูลกง” กงหลี่เฉียงตวาดออกมาเสียงดัง แต่ที่น่าขันที่สุดเห็นจะเป็นแม่สามีของนาง กลับลุกออกมาจากเรือนของนางได้ ทั้งๆ ที่ในแต่ละวันล้วนแต่นอนป่วยอยู่บนเตียง “ใช่แล้ว อาเฉียงพูดถูก หากเจ้าจะออกไปก็ต้องกลายเป็นวิญญาณเท่านั้น” นางเดินเข้าไปจับมือของซิงเยียนราวกับปลอบใจนางที่ได้รับความไม่ยุติธรรม "หึหึ ท่านแม่ ท่านหายป่วยแล้วรึเจ้าคะ” นางจ้องมองพวกเขาอย่างโกรธแค้น ไม่ว่ายาดีอันใดที่นางเพียรหามารักษา สมุนไพรราคาแพงนางก็ยอมจ่ายเงินซื้อ ก็ไม่อาจทำให้แม่สามีของนางลุกขึ้นมาจากเตียงได้ เห็นทีคงเป็นเพียงละครงิ้วบทหนึ่งเท่านั้น “ข้าเป็นอันใดอย่างงั้นรึ” นางมองเยว่ชิงด้วยใบหน้าที่ใสซื่อ ราวกับว่ากำลังถูกเยว่ชิงใส่ร้าย “ข้าเข้าใจแล้ว เป็นข้าที่โง่เขลามาตลอด ทั้งเรื่องค่าใช้จ่ายในจวนที่มาจากสินเดิมของข้า และเรื่องรักษาท่าน เพื่อให้หลี่เฉียงมีเวลาไปอยู่กับแม่นางตู้ หึหึ ตัวข้าช่างน่าขันนัก” ใบหน้าของสองแม่ลูกเบ้อย่างไม่น่ามอง เมื่อถูกเยว่ชิงเปิดโปงเรื่องที่พวกเขานำสินเดิมของนางมาใช้จ่าย นางหัวเราะออกมาราวกับคนเสียสติ ก่อนจะกระซิบสั่งสาวใช้ที่อยู่ข้างกาย “ฮูหยิน” นางเอ่ยเรียกเสียงสั่น “ไปเอามา” นางเอ่ยเสียงเบา พร้อมกับผลักสาวใช้เบาๆ อาอิงรู้ดีว่าคุณหนูของนางใจกล้าเพียงใด แต่ไม่คิดว่านางจะเลือกหนทางนี้ แต่ก็ยังไปทำตามคำสั่งอยู่ดี ทั้งสามไม่รู้ว่า สองนายบ่าวกระซิบกระซาบอันใดกัน ได้แต่มองอาอิงหมุนตัวกลับเข้าไปในเรือนอย่างสงสัย เมื่อนางกลับมาพร้อมมีดสั้นในมือ ทั้งสามก็มีใบหน้าที่ซีดขาวอย่างเห็นได้ชัด “เจ้าจะทำอันใด” กงหลี่เฉียงดันตัว"ตู้ซิงเยียนไปไว้ด้านหลัง ยิ่งทำให้เยว่ชิงปวดใจมากกว่าเดิม เยว่ชิงเดินเข้าไปหาทั้งสามคนช้าๆ พร้อมทั้งกำมีดในมือแน่น “กง หลี่ เฉียง ท่านฟังคำข้าให้ดี” นางยิ้มเย็นออกมาอย่างน่ากลัว “เจ้า เจ้า อย่าได้คิดบ้าๆ เด็ดขาด” ต่อให้เขาจะได้เป็นรององครักษ์เสื้อแพร แต่ทั้งหมดก็เป็นเพราะบารมีของพ่อภรรยา เรื่องวรยุทธ์ของเขาก็เรียนรู้มาเพียงงูๆ ปลาๆ เท่านั้นจะไปสู้ผู้ใดได้ “ข้า หลิวเยว่ชิง ชาตินี้คิดผิดที่เลือกบุรุษเช่นท่านเป็นสามี หากมีชาติหน้าจริง ขออย่าได้พบเจอท่านอีก หากพบเจอก็ให้นึกรังเกียจราวกับพบเดรัจฉาน ข้าขอให้ท่านมิได้สิ่งใดหรือสมหวังเรื่องใดอีกเลย” เยว่ชิงใช้มีดสั้นในมือของนางปักเข้าที่หัวใจของนางทันที
like
bc
ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย
อัปเดตเมื่อ Feb 7, 2025, 03:21
ปีค.ศ. 2500 โลกที่เต็มไปด้วยนวัตกรรมแปลกใหม่ จือหลินเธอคิดค้นตัวยาเพื่อยืดอายุมนุษย์ขึ้นมาแต่การทดลองของเธอผิดพลาด ยาที่ใช้ทดลองชุดแรกทำให้มนุษย์ที่จบชีวิตลงกลายเป็นซอมบี้ จือหลินเธอเป็นเด็กกำพร้า ที่ถูกมารดาทอดทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันแรกที่ลืมตามาดูโลก ต่อมาทางโรงพยาบาลจึงส่งตัวเธอให้กับสถานสงเคราะห์ พออายุได้สามปี ก็มีองค์กรหนึ่งมารับเลี้ยงตัวเธอ แต่พวกเขาเลี้ยงเธอและเด็กคนอื่นๆ ไว้เพื่อเป็นหนูทดลองเท่านั้น ครั้งแรกที่ถูกนำตัวมา ต่างก็โดนจับฉีดยาเข้าสู่ร่างกาย เพื่อหาเด็กที่เลือดต้านเชื้อที่ฉีดเข้าไปได้เท่านั้น หากร่างกายทนรับไม่ไว้สิ่งที่ทางองค์กรมอบให้คือความตาย จือหลินอาจเป็นเพราะเลือดของเธอพิเศษกว่าเด็กคนอื่น ไม่ว่าฉีดยาตัวไหนเข้าสู่ร่างกายเธอก็ทนรับได้ทั้งนั้น นับจากนั้นมาเธอจึงถูกเลี้ยงดูจากองค์กรมาอย่างดี เรื่องการศึกษาเธอก็สามารถเรียนรู้ทุกสิ่งได้อย่างเต็มที่ แต่เพราะความฉลาดของเธอจึงถูกส่งให้เรียนวิทยาศาสตร์การแพทย์และเรียนแพทย์ควบคู่ไปด้วย เมื่อเรียนจบมาแล้ว จือหลินยังคงทำการให้องค์กรเช่นเดิม แม้จะไม่ได้เป็นนักฆ่าเช่นเพื่อนคนอื่นที่มาพร้อมกัน แต่เธอก็ต้องฝึกไม่ต่างจากพวกเขา ยิ่งเมื่อต้องนำเด็กเข้ามาเป็นหนูทดลองเช่นเดียวกับเธอในตอนเล็ก ต่อให้ไม่อยากทำก็ต้องทำ หากฝ่าฝืนไม่ทำการชิปที่ถูกฝังอยู่ในตัวจะถูกกระตุ้นให้ได้รับความทรมานทันที นานวันเข้า ความดำมืดก็ก่อเกิดในใจ ไม่ว่าจะฉีดยาให้เด็กร้ายแรงเพียงใดจือหลินก็เลิกรู้สึกผิดไปเสียแล้ว เพราะการทำงานของเธอตลอดหลายปีที่ผ่านมาทำให้ทางองค์กรยกย่องและมักจะให้สิ่งดีๆ กับเธอเสมอ เมื่อมีชิปตัวหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อฝังมิติอีกห้วงหนึ่งไว้ภายในร่างกาย จือหลินนางก็ได้รับเลือกให้ทดลองใช้สิ่งนี้ด้วยเช่นกัน จือหลินถูกฝังชิปมิติเข้าที่แกนสมองของเธอ ความเจ็บปวดที่ได้รับทำให้เธอแทบสิ้นสติ เมื่อชิปถูกฝังลงไปแล้ว เพียงไม่นานก็มีเสียงจากระบบให้เธอยืนยันตัวตน ก่อนที่จะปรากฏภาพต่างๆ ภายในหัวของเธอ ของจากภายนอกล้วนแต่ถูกส่งเข้าไปเก็บไว้ด้านในได้ทั้งสิ้น หากเป็นเนื้อสด ผักผลไม้ ยังคงความสดอยู่เช่นเดิมแม้จะเก็บไว้นานมากเพียงใด
like
bc
ภรรยาลับ ขุนนางร้าย
อัปเดตเมื่อ Jan 21, 2025, 18:49
พระราชโองการคุมตัว โจวเว่ยหลง เสนาบดีกรมโยธา ทำให้ตรอกเหนือสะเทือน บ่าวไพร่ในจวนกรีดร้องอย่างเสียขวัญ เมื่อต้นไม้ใหญ่ของจวนถูกลากตัวไป โจวรั่วอินกอดน้องชายวัยเจ็ดหนาวแน่น แม้ตัวนางจะสั่นเทาไปด้วยความกลัว แต่ก็ต้องปกป้องน้องชายอย่างสุดความสามารถ คนของตุลาการไม่ได้จับตัวผู้ใด นอกจากโจวเหว่ยหลงเพียงผู้เดียว เพราะคำสั่งที่ได้รับมาเพียงแค่คุมตัวไปสอบสวน ยังไม่มีการตัดสินโทษ แต่เพียงแค่นี้ก็เพียงพอให้ญาติสนิท สหายที่เคยเข้าออกจวนอยู่เป็นประจำ ต่างเก็บตัวเงียบไม่กล้ายื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ เรื่องเมื่อสิบปีก่อนถูกรื้อขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อเขื่อนที่โจวเหว่ยหลงไปควบคุมการสร้าง เกิดข่าวลือเรื่องขึ้นภาษีโดยไม่แจ้งราชสำนัก ทำให้หัวหน้าหมู่บ้านที่จะนำเรื่องมาแจ้งเมืองหลวง ถูกดักจับตัวไว้พร้อมทั้งลงโทษจนตาย เรื่องเช่นนี้ไม่มีผู้ใดอยากจะหาเรื่องใส่ตัว กลัวว่าจะถูกลากเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย แม้กระทั่งท่านอาของรั่วอิน ยังไม่เปิดประตูจวนต้อนรับนาง เมื่อนางได้ขอร้องให้เขาช่วยให้นางได้พบหน้าบิดา รั่วอินกำมือแน่น อย่างเจ็บปวดใจ ก่อนหน้านี้ตำแหน่งที่ท่านอานั่งอยู่ ไม่ใช่เพราะบิดานางหรือ เขาถึงได้มาไม่ยาก แต่นางเพียงต้องการพบหน้าบิดา เพื่อสอบถามเรื่องราวกับไม่คิดแม้แต่จะเปิดประตูจวนให้นางได้เข้าไปพูดคุย เสี่ยวจิน มองคุณหนูตนเองอย่างเห็นใจ ก่อนหน้านี้นางเป็นคุณหนูใหญ่ที่ได้รับทะนุถนอมอย่างดี เรื่องหนักใจแม้เพียงน้อยก็ไม่เคยได้รับ เมื่อเจอเรื่องใหญ่เช่นนี้นางจะทนได้อย่างไร แผ่นหลังของรั่วอินแข็งเกร็ง เมื่อชาวบ้านที่ผ่านไปผ่านมาต่อว่านาง ถึงความผิดของตัวบิดา แม้ทางการยังไม่ตัดสินโทษ แต่นางก็ถูกชาวบ้านถ่มน้ำลายจนอับอายเสียแล้ว เหมือนสวรรค์ยังซ้ำเติมตระกูลโจวไม่หนำใจ เมื่อโรงจำนำ นำใบทวงหนี้มาหานางถึงจวน “เป็นไปไม่ได้” เมื่อนางอ่านจบแล้วเงยหน้าขึ้นมองอย่างไม่อยากเชื่อ จำนวนหนึ่งนับแสนตำลึงที่ประทับตราบิดาของนางเป็นผู้กู้เงิน จะเป็นไปได้อย่างไร ถึงตระกูลโจวไม่ได้ร่ำรวยจนใช้เงินได้อย่างมือเติบ แต่เงินที่มีก็ทำให้นางกับน้องชายใช้ชีวิตได้อย่างสุขสบายไปจนตาย แล้วบิดาของนางมีเหตุผลใดที่ต้องกู้เงินมามากมายเพียงนี้ ทั้งยังดอกเบี้ยที่เพิ่มจนน่าตกใจหากต้องขายทรัพย์สินพร้อมบ้านที่มีทั้งหมดก็คงจะไม่พอใช้หนี้อย่างแน่นอน “หึ คุณหนูโจว ใบทวงหนี้ในมือท่านเป็นของจริง ทั้งยังมีตราประทับของนายท่านโจว เรื่องนี้ตรวจสอบกับทางการได้” หลงจู๊หาน จ้องมองนางอย่างเจ้าเล่ห์ “แต่หากคุณหนูยอมประทับลายมือขายตัว สัญญาแผ่นนี้จะเป็นโมฆะ” หลงจู๊หานเอ่ยเกลี้ยกล่อมรั่วอิน เพราะนายของเขาต้องการตัวของนาง ไม่ว่าจะด้วยวิธีใด สาวงามเช่นนี้ผู้ใดจะไม่อยากได้ แต่เหมือนนายของเขาจะไม่สนใจความงามของนาง แต่ไม่รู้ว่าต้องการตัวนางไปด้วยเหตุใด “ไร้เหตุผลสิ้นดี ข้าจะไปสอบถามบิดาให้รู้เรื่อง หากเป็นดั่งที่ท่านว่า ข้าจะหาเงินมาใช้ให้ท่านด้วยตนเอง” นางจะยอมประทับตราลงในสัญญาขายตัวได้อย่างไร “หึ ตุลาการมีคำสั่งไม่ให้ผู้ใดเข้าพบนายท่านโจว แล้วท่านจะเข้าไปได้อย่างไร อีกอย่างเงินจำนวนมากเพียงนี้ ภายในเจ็ดวัน ท่านจะหามาจากที่ใด” เขายิ้มที่มุมปากอย่างดูแคลน แต่สุดท้ายก็ยอมกลับไป เมื่อครบกำหนดเจ็ดวันค่อยมาใหม่ก็ยังไม่สาย รั่วอินทรุดนั่งลงอย่างหมดแรง แม่นมโจวกับเสี่ยวจินวิ่งเข้ามาประคองนางกลับเข้าไปด้านในห้องโถง เป็นจริงดั่งที่หลงจู๊หานว่า เงินมากเพียงนี้นางจะหามาจากที่ใด “คุณหนูท่านหนีออกจากเมืองหลวงไปหาคุณชายสวีที่ชายแดนเถิดเจ้าค่ะ” แววตาของรั่วอินวูบไหว เมื่อแม่นมโจวเอ่ยถึงคู่หมั้นของนาง เขาเดินทางไปจัดการเรื่องทหารที่ชายแดนเหนือได้หนึ่งปีแล้ว ทั้งยังบอกเมื่อกลับมาเมืองหลวงอีกครั้งจะแต่งนางเข้าจวนในทันที เพราะสวีกงจวิ้น ไม่อาจพาสตรีที่เขารักไปลำบากถึงชายแดนด้วยได้ จึงคิดจะจัดการเรื่องทางชายแดนให้เรียบร้อยแล้วค่อยแต่งนางเข้าจวน ตอนที่สวีกงจวิ้นหมั้นหมายกับรั่วอิน ไม่มีบุรุษใดในเมืองหลวงที่ไม่ปวดใจ เพราะความงามของนางที่ราวกับนางจิ้งจอก เพียงปรายตาบุรุษก็แทบจะมาสยบแทบเท้าของนางแล้ว “ข้าจะทิ้งท่านพ่อไปได้อย่างไร” นางเอ่ยเสียงแผ่วเบา
like
bc
กลับมาครานี้ขอใช้ชีวิตแบบสงบ
อัปเดตเมื่อ Jan 21, 2025, 09:30
ซูเหมยฮวา ใช้อำนาจของบิดาเสนาบดีซูเหลียง ขอพระราชทานสมรสระหว่างแม่ทัพใหญ่เซี่ยซีฮั่น ด้วยความรักที่นางมีคิดว่าแต่งไปแล้วท่านแม่ทัพจะสนใจตัวนางบ้าง แต่นางคิดผิด ท่านแม่ทัพไม่แม้แต่จะเข้าหอ ไม่เคยก้าวเท้าไปที่เรือนของนางเลย เพราะท่านแม่ทัพมีหญิงในดวงใจอยู่แล้วคือ แม่นาง หลันเฟยหย่า สาวงามผู้เพียบพร้อมแห่งเมืองหลวง หลันเฟยหย่ามักจะตั้งโรงทานบ่อยครั้ง จนชาวบ้านทั่วเมืองเรียกขานว่าคุณหนูใหญ่หลันผู้ใจบุญ ซูเหมยฮวา แต่งเข้าจวนท่านแม่ทัพได้เพียงเดือนเดียว เซี่ยซีฮั่นก็แต่งหลันเฟยหย่ามาเป็นฮูหยินรองที่ใช้เกี้ยวแปดคนหามเทียบเท่าซูเหมยฮวา งานแต่งครั้งนี้เป็นการตบหน้าจวนเสนาบดีซูอย่างแรง ซูเหมยฮวา ได้แต่เก็บความเจ็บช้ำเพราะทุกสิ่งที่นางได้รับนางเป็นคนเลือกเอง ในเมื่อไม่เป็นที่โปรดปรานของท่านแม่ทัพบ่าวไพร่ก็ไร้การเหลียวแล มีแค่บ่าวที่มาจากบ้านเดิมสองคน อาหารการกินก็โดนกลั่นแกล้งจากหลันเฟยหย่า ข้าวของที่ฮูหยินเอกสมควรได้ก็ไม่เคยมาถึง ซูเหมยฮวาโดนหลันเฟยหย่าส่งมาอยู่ท้ายจวน หลันเฟยหย่าแจ้งท่านแม่ทัพว่าซูเหมยหย่าอยากอยู่สงบๆ ท่านแม่ทัพไม่เคยสนใจเลยให้ทุกอย่างในจวนขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของหลันเฟยหย่าทั้งหมด ทุกครั้งที่ซูเหมยฮวาพบหน้าท่านแม่ทัพ หลันเฟยหย่าจะหาเรื่องบ่าวทั้งสองคนของซูเหมยฮวาต้องเจ็บตัวทุกครั้งและไม่ให้ทางห้องครัวส่งข้าวมาให้ บ่าวในจวนไม่มีคนใดกล้าปากมากบอกท่านแม่ทัพเพราะจะโดนโบยแล้วขายออกไป ตั้งแต่แต่งเข้าจวนแม่ทัพ ซูเหมยฮวาได้พบหน้าท่านแม่ทัพแค่เพียงนิ้วมือนับได้ หลังจากแต่งเข้ามาสองปี ชีวิตของซูเหมยฮวามีแต่ความทุกข์นางร้องไห้จนไม่มีน้ำตาให้ไหลอีกแล้ว วันหนึ่งได้ข่าวร้ายของจวนเสนาบดีซูถูกกล่าวหาเข้าร่วมกบฏกับเฉิงอ๋อง โดนโทษประหารทั้งตระกูล ระหว่างที่นางเสียใจ หลันเฟยหย่า มาหาที่เรือน กล่าวว่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดเป็นเพราะความโง่ของซูเหมยฮวาที่คิดอยากจะแย่งท่านแม่ทัพจากนาง การที่จวนเสนาบดีซูโดนโทษประหารเพราะถูกใส่ร้ายจากเสนาบดีหลัน บิดาของ หลันเฟยหย่า หลังจากจวนเสนาบดีซูถูกประหารได้ สามวัน หลันเฟยหย่าให้มือสังหารมาจัดการกับซูเหมยฮวา จิตสุดท้ายก่อนตายซูเหมยฮวา วิงวอนต่อสวรรค์ขอโอกาสกลับมาอีกครั้งนางจะไม่โง่เลือกเซี่ยซีฮั่นแน่นอน ซูเหมยฮวา "ข้าแต่สวรรค์ ข้าขอโอกาสอีกสักครั้ง ข้าทำผิดต่อตระกูลซูนัก ผิดต่อท่านพ่อ ท่านแม่ ท่านพี่ทั้งสอง ข้าผิดที่เลือกเซี่ยซีฮั่น ข้าขอโอกาส" "เซี่ยซีฮั่น แม้กระทั่งเกิดเรื่องกับตระกูลข้า ท่านไม่เคยถามความรู้สึกข้าสักคำ จนวันที่ข้าจะตายหน้าท่านข้าก็ไม่ได้พบ ถ้าได้โอกาสกลับมาอีกครั้ง ขออย่าได้พบกันอีกเลย" "หลันเฟยหย่าผู้ใจบุญ ถ้าขอได้โอกาสกลับมา ขอสาบานว่าข้าจะฉีกหน้ากากใจบุญของเจ้าออกมาให้คนทั้งแคว้นฉีได้รู้"
like
bc
หวนคืนฐานะเดิม
อัปเดตเมื่อ Jan 20, 2025, 09:03
จ้าวเหยียนหญิงสาวที่ใช้ชีวิตอย่างปกติเหมือนเพื่อนวัยเดียวกัน เธอมีครอบครัวที่อบอุ่นเรียนจบเป็นพยาบาลในโรงพยาบาลชั้นนำ แต่ในชีวิตเธอเหมือนขาดสิ่งใดไป ตั้งแต่ยังเด็กเธอจะฝันเห็นบุรุษยุคโบราณที่กำลังเรียกหาเธอด้วยเสียงที่สั่นเครืออย่างเศร้าสร้อย เมื่อเธอตื่นทุกครั้งจะมีน้ำตาที่เปื้อนอยู่บนใบหน้า พอเธอเริ่มโตขึ้น เธอก็มักจะฝันเห็นเด็กผู้หญิงและผู้ชายที่เรียกหาเธออย่างน่าสงสาร มันเป็นความฝันที่กวนใจเธออย่างมาก จนเธอได้อ่านนิยายเรื่อง 'ตกหลุมรักแม่สื่อตัวร้าย' ตอนที่ร่างเดิมของนางเอกตายลง เธอก็เหมือนหัวใจของเธอถูกบีบจนล้มลงไปนอนที่เตียงอย่างไร้เรี่ยวแรง ยิ่งอ่านเรื่องที่นางเอกฟื้นมาเปลี่ยนเป็นคนละคน และโดนทำร้ายจากคนที่เรียกว่าลุงและป้าสะใภ้ จ้าวเหยียนก็เจ็บปวดจนนางร้องไห้โฮออกมา เหมือนเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของเธอเอง พออ่านจนจบแม่ของนางเอกที่มีชื่อเหมือนเธอ และเรื่องราวที่เหมือนกับความฝันของเธอทุกประการก็ทำให้สติของเธอแทบหลุดลอย เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นไม่อาจเล่าให้ใครฟังได้ ทุกคนคงได้คิดว่านางเป็นบ้าไปแล้วแน่ จึงได้เก็บไว้เอง หลังจากนั้นเรื่องในความฝันก็ยิ่งเด่นชัดเหมือนเธอยืนมองเหตุการณ์ต่างๆด้วยตัวเอง แต่ไม่มีใครเห็นเธอ วันหนึ่งเมื่อจ้าวเหยียนไปเบิกยาและอุปกรณ์ที่ต้องใช้ ตอนที่เธอยกกล่องเพื่อกลับวอร์ดของตนเอง มีคนวิ่งด้วยความเร็วมาชนจ้าวเหยียนจนเธอล้มไปข้างถนนที่มีรถกำลังจะออกจากโรงพยาบาลพุ่งชนเธอจนเธอหมดสติไป
like
bc
วิญญาณพาวุ่น
อัปเดตเมื่อ Jan 18, 2025, 03:35
เจียอี หญิงสาวที่เติบโตมาในชนบทกับคุณตาคุณยาย เธอมีช่องในโซเซียลถ่ายทอดชีวิตชนบท การทำไร่ ทำนา ทำสวน ทำอาหาร จนมีผู้ติดตามเกือบล้านคน แต่แล้วในหนึ่งที่เธอถ่ายทำตอนขึ้นเขาหาของป่า เธอพลัดตกจากเขาจนวิญญาญหลุดไปอีกมิติ เมื่อเธอลืมตาขึ้นอีกครั้งก็พบว่าตนเองอยู่ในร่างของเด็กสาวอายุสิบสี่หนาว นามว่าหลันเจียอี เพราะความจนทำให้หลันเจียอีต้องยอมเดินเข้าไปในส่วนลึกของเขาเพื่อหาอาหารมาประทังชีวิต หลันเจียอีอาศัยอยู่กับบิดามารดาและน้องชายวัยสิบหนาว บิดาของนาง นามว่า หลันหวงกุ้ยก่อนหน้านี้ถูกเรียกตัวไปเป็นทหาร ทำให้จากที่เคยมีหัวหน้าครอบครัวหาเงินเข้ามาใช้จ่ายในบ้านกลับไม่มีเสาหลักแล้ว มารดาของนาง นามว่า เยว่เลี่ยง ก่อนจะพบกับหลันหวงกุ้ยนางประสบอุบัติจากการหนีโจรป่าจนความทรงจำขาดหายไปมีเพียงหยกพกของนางที่สลักชื่อเยว่เลี่ยงไว้ หลังจากนั้นก็เจ็บป่วยบ่อยครั้งจนไม่อาจทำงานหนักได้ งานทั้งหมดจึงตกเป็นของหลันเจียอีและน้องชายแทน หลันลู่เสียน น้องชายวัยสิบหนาวของหลันเจียอี เฉลียวฉลาดกว่าเด็กวัยเดียวกัน หากบิดาไม่ต้องไปเป็นทหารเขาคงได้เข้าเรียนที่สำนักศึกษาเช่นสหายคนอื่น แต่เพราะต้องคอยดูแลมารดาจึงทำให้เขาไม่ได้เล่นหรือใช้ชีวิตเช่นเด็กวัยเดียวกันจึงมีความสุขุมเหมือนผู้ใหญ่คนหนึ่ง เมื่อเจียอีรู้ตัวว่าตนได้ทะลุมิติมาในยุคจีนโบราณแล้ว นางก็พยายามปรับตัวให้เข้ากับยุค แต่เรื่องทั้งหมดจะไม่ยุ่งยากเลยหากไม่ใช่ว่านางเห็นวิญญาณคนที่เสียชีวิตไปแล้ว คอยมาก่อกวนให้นางช่วยเหลือเรื่องที่ยังติดค้างอยู่ในใจ แต่ยังดีที่มีลู่เสียนน้องชายคอยช่วยเหลือนางอีกแรง
like
bc
ตกหลุมรักแม่สื่อตัวร้าย
อัปเดตเมื่อ Jan 18, 2025, 02:47
"ฮัลโหล" จือลู่งัวเงียตื่นขึ้นมารับโทรศัพท์ "ลู่ลู่ เธอถึงไหนแล้ว อย่าบอกนะว่าเพิ่งตื่น" เสียงตวาดอย่างโมโหดังทะลุออกมาจากโทรศัพท์ จือลู่ที่หรี่ตามองเวลาที่โทรศัพท์ก็ลุกพรวดขึ้นจากที่นอน "หลันหลัน ฉันถึงทันเวลาแน่เธอไม่ต้องห่วง" วันนี้เธอมีนัดแต่งหน้าให้เพื่อนสนิทที่ต้องไปถ่ายพรีเวดดิ้ง แล้วเธอยังต้องรีบกลับมาแต่งหน้าให้ลูกค้าในตอนเย็นอีกด้วย จือลู่แทบจะโยนโทรศัพท์ในมือทิ้งแล้ววิ่งอย่างเร็วเพื่อไปอาบน้ำ ก่อนจะรีบร้อนออกจากบ้าน ยังดีที่เครื่องมือแต่งหน้าทั้งหมดเพียงยกกระเป๋าใบใหญ่ขึ้นรถก็ออกเดินทางได้เลย กว่าจือลู่จะแต่งหน้าให้เพื่อนสนิทเสร็จเธอยังต้องอยู่ช่วยเปลี่ยนชุด และแต่งหน้าเพิ่มให้ว่าที่เจ้าสาวอีกสองรอบถึงจะกลับไปงานในตอนเย็นได้ จะทิ้งเพื่อนกลางคั่นก็ไม่ได้ เพราะทั้งคู่เป็นเพื่อนสนิทของเธอและเป็นเธอที่แนะนำให้ทั้งสองคนรักกัน เวลาที่กระชั้นชิดทำให้ลู่จือขับรถด้วยความเร็วเพราะกลัวจะไปงานในตอนเย็นไม่ทัน ระหว่างทางรถของเธอเสียหลักตกลงไปข้างทาง เมื่อเธอฟื้นขึ้นอีกครั้งก็พบว่าอยู่ในร่างของ จางจือลู่ หญิงสาววัยสิบสี่ปี ที่กำลังจะถูกท่านลุงกับท่านป้าสะใภ้จับให้แต่งงานกับชายวัยกลางคนที่เป็นพ่อหม้าย จางจือลู่ บิดามารดาของนางเสียชีวิต ต้องอาศัยอยู่กับน้องชายวัยสิบสองหนาวเพียงลำพัง แต่ท่านลุงท่านป้าสะใภ้ที่เพิ่งจะรับพวกนางมาอยู่ด้วยหลังจากบิดามารดาเสียชีวิตก็คิดจะขายนางออกไปเพื่อลดค่าใช้จ่าย แล้วจือลู่จะใช้ชีวิตเช่นไร นางจะทนแต่งออกไปกับพ่อหม้ายหรือไม่
like
bc
จองจำรักร้าย
อัปเดตเมื่อ Jan 16, 2025, 00:43
จินเยว่ ตำรวจสาว เธอได้รับภารกิจให้เข้าจับกุมพ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ ที่สายข่าวได้แจ้งเข้ามาวันนี้จะมีการเจรจาซื้อขายครั้งใหญ่เกิดขึ้น ผู้บังคับบัญชาให้จินเยว่ที่ตอนนี้เป็นถึงหัวหน้าสายสืบ พาลูกน้องไปสำรวจพื้นที่ก่อน อย่าเพิ่งเข้าปะทะเพราะเขาจะส่งกองกำลังเข้าไปช่วยเหลือ แต่ลูกน้องของจินเยว่เห็นโอกาสที่จะเข้าจับกุมได้แล้ว เลยไม่รอกองกำลังพิเศษที่กำลังเดินทางมาช่วยเหลือ ตอนแรกคิดว่าพ่อค้ายาเสพติดจะพาคนมาฝ่ายละไม่เกินยี่สิบคน แต่กลายเป็นว่าเธอโดนซ้อนแผนเสียแล้ว จะถอยก็ไม่ทัน จินเยว่เข้าช่วยลูกน้องจนเธอได้รับบาดเจ็บสาหัส ระหว่างความเป็นกับความตาย สติของเธอเริ่มพร่ามัว เสียงเรียกที่ได้ยินแยกไม่ออกว่าเป็นใครเรียก แต่เธอจำได้ว่ากองกำลังพิเศษมาช่วยไม่ทัน ตอนที่เธอถูกยิงไม่ใช่ว่าจะโดนแค่นัดเดียวทางรอดย่อมไม่มี แต่ตอนนี้ใครกันที่เรียกเธอ หากเป็นหมอก็รักษาเลย ฉันขอนอนต่อก่อน แต่หากเป็นยมทูตรอสักครู่ฉันไม่ได้นอนเต็มตาเช่นนี้มาหลายคืนแล้ว "จินเยว่ ลูกรัก ตื่นเถิดลูก" "จินเยว่ อย่าเงียบเช่นนี้ เจ้าอย่าทำให้แม่กลัว"
like
bc
ท่านแม่บิดาข้าอยู่ที่ใด
อัปเดตเมื่อ Jan 13, 2025, 21:46
“คุณหนู ท่านพร้อมแล้วใช่ไหมครับ” จางอวี่หรันเดินออกมาจากห้องรับรอง เพื่อเข้าไปในห้องประชุม ที่ตอนนี้ทุกคนในองค์กรอยู่ด้านในกันครบหมดแล้ว คุณพ่อของเธอที่เป็นประธานองค์กร ล้างมือในอ่างทองคำ แล้วส่งเธอขึ้นนั่งตำแหน่งประธานแทน ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าไม่เหมาะสม แต่เธอก็จัดการทำให้คนพวกนั้นปิดปากลงได้ องค์กรของคุณพ่อเธอเป็นผู้มีอิทธิพลใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศจีน ตัวเธอก็ถูกเลี้ยงดูมาเพื่อเป็นนายหญิงเช่นวันนี้ ทั้งศิลปะการต่อสู้ที่แขนง ความโหดเหี้ยมที่ถูกหล่อหลอมมาตั้งแต่เด็ก อวี่หรันจึงมีใบหน้าที่นิ่งเรียบ เย็นชาตลอดเวลา คนแรกที่เธอสังหารตอนนั้นเธอมีอายุเพียงสิบขวบเท่านั้น เธอเข้าไปเรียนรู้เรื่องการในองค์กร การค้า ธุรกิจทั้งด้านมืดและด้านสว่างของบิดาตั้งแต่อายุได้เพียงสิบหกปี เธอเป็นบุตรเพียงคนเดียวของตระกูล เรื่องทั้งหมดเธอไม่อาจหลีกหนีได้พ้น เมื่อประตูห้องประชุมถูกเปิดออก แสงไฟก็สาดมาส่องที่ร่างของเธอ อวี่หรันในชุดเดรสยาวสีดำ ใบหน้างดงามราวกับนางจิ้งจอก แต่ความเย็นชาที่เป็นเอกลักษณ์ของเธอขับให้กลายเป็นเสน่ห์ที่น่าหลงใหลได้อย่างไม่น่าเชื่อ อวี่หรันเดินไปตามพรมแดงอย่างไร้ความรู้สึก เหมือนเรื่องที่น่ายินดีของผู้อื่น เป็นสิ่งที่เธอไม่ได้ต้องการ “ขอบคุณทุกท่านที่มาร่วมแสดงความยินดีกับฉันในวันนี้ หึ คุณหาน รอยยิ้มของคุณดูจอมปลอมเหลือเกิน คุณหวังอย่าทำหน้าเช่นนั้นสิคะ มันดูตลกเกินไป” เสี่ยวตงต้องเดินเข้ามาขวางอวี่หรันที่กำลังพูดขอบคุณแขกบนเวที เพราะสิ่งที่เธอพูดมันไม่ตรงกับที่พวกเขาคุยกันไว้ “คุณหนู” “ฉันพูดผิดหรอ นายดูสิ ใบหน้าของแต่ละคนช่างตลกเสียจริง” อวี่หรันเงยหน้าขึ้นหัวเราะ ก่อนจะเดินลงจากเวที พร้อมทั้งหยิบขวดแชมเปญเดินออกจากงานไป ท่ามกลางสายตาตกตะลึงของแขกเหรื่อในงาน บิดาของอวี่หรัน โบกมือ ให้ลูกน้องของเธอทั้งหมดที่กำลังจะตามเธอไปหยุดไม่ต้องตาม เพราะเขารู้ว่าบุตรสาวของเขาไม่ได้ยินดีกับตำแหน่งที่เธอได้ในวันนี้ อวี่หรันเธออยากชีวิตที่สงบสุข โดยไร้คนติดตามข้างกายดั่งเงาเช่นนี้ “คุณหนูจะไปที่ไหนครับ” “ไม่ต้องฉันจะขับไปเอง บอกคุณพ่อ เสี่ยวตง ทำได้ดีมาก” อวี่หรันหัวเราะน้อยๆ ให้คนขับรถของเธอ ก่อนจะขึ้นไปนั่งแทนที่คนขับแล้วขับออกไปด้วยความเร็วสูง เธอรู้ดีว่าเสี่ยวตงเป็นคนขององค์กรอื่น แฝงตัวเขามาอยู่ข้างกายเธอตั้งแต่เด็ก เพราะความที่เธอไว้ใจเรื่องเล็กใหญ่ทั้งคนของเธอเขาล้วนรับรู้ทั้งหมด ก่อนที่เธอจะเดินทางมางานในวันนี้ เขาพูดกับเธอแปลกๆ แต่อวี่หรันเธอบังเอิญเห็นข้อความที่มือถือของเขา จึงได้รู้ว่าวันนี้เสี่ยวตงต้องกำจัดเธอให้ได้เท่านั้น หากเขาไม่ทำพ่อแม่ของเขาจะถูกกำจัดแทนเธอ อวี่หรันหัวเราะน้อยๆ ให้กับโชคชะตาที่เล่นตลกของเธอ แม้จะมีพร้อมทุกอย่างแต่ก็ต้องแลกมากับการที่เธอต้องเสียสละความสุขในชีวิต ต้องเดินตามเส้นที่ตระกูลขีดเอาไว้ เสียงโทรศัพท์ของอวี่หรันดัง เป็นเสี่ยวตงที่โทรเข้ามาหาเธอ เพราะรู้จากคนขับรถว่าอวี่หรันขับออกไปเพียงผู้เดียว “คุณหนู ท่านจอดรถเดี๋ยวนี้” เสี่ยวตงตะโกนเข้ามาอย่างร้อนร้น “หึหึ เสี่ยวตง ฉันหวังว่าสิ่งที่นายเลือก จะเป็นทางที่ถูกต้อง” “ไม่ ไม่ คุณหนู รถคันนั้นมีไว้ให้ผม ไม่ใช่ให้คุณ ได้โปรดจอดรถ” “ฉันว่า น่าจะช้าเกินไปแล้ว” สิ้นคำของอวี่หรัน รถคันงามก็ระเบิดขึ้น เสี่ยวตงตะโกนออกมาจนสุดเสียง เธอไม่ได้รับรู้สิ่งใดอีกแล้ว “จะ เจ็บ” อวี่หรันรู้สึกตัว ร่างกายของเธอปวดร้าวราวกับจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ
like
bc
ชะตารักลิขิตด้ายแดง
อัปเดตเมื่อ Jan 13, 2025, 21:41
ใบฟาง นักโจรกรรม เธอโดนทิ้งไว้ในบ้านเด็กกำพร้าตั้งแต่เมื่อไหร่ตัวเธอก็ไม่ทราบ อาจจะพูดได้ว่าเมื่อเธอจำความได้เธอก็คิดว่าที่นี่คือบ้านของเธอแล้ว เมื่ออายุได้ห้าขวบ มีสองสามีภรรยาชาวจีนรับตัวเธอไปเลี้ยงดูในฐานะบุตรบุญธรรม ทั้งคู่เป็นนักธุรกิจที่เดินทางไปทั่วโลกเพื่อทำการค้า แต่ใช้ชีวิตอยู่ในประเทศจีนเป็นส่วนใหญ่ นี่คือสิ่งที่คนภายนอกรับรู้ผ่านเอกสารที่ปลอมแปลงมาเรียบร้อยแล้ว แต่ความจริงทั้งคู่คือนักโจรกรรมที่ตำรวจทั่วโลกต้องการตัว ทุกครั้งที่ออกทำภารกิจสองสามีภรรยาจะปลอมแปลงหน้าตาและบุคลิกของตนเองทุกครั้ง ทำให้ไม่มีใครจับผิดทั้งคู่ได้ แม้กระทั่งลายนิ้วมือทั้งคู่ก็สามารถเปลี่ยนได้ทุกครั้ง เมื่อใบฟางถูกรับมาเลี้ยงดูแล้ว ทั้งคู่สอนทุกสิ่งที่ตนรู้และเล่ห์เหลี่ยมที่ตนมีให้กับใบฟางทั้งหมด ใบฟางที่เป็นเพียงเด็กน้อยที่ยังไม่เข้าใจโลกที่โหดร้าย หลังจากที่ถูกฝึกจนพอจะเริ่มทำภารกิจได้ ในวัยเพียงหกขวบงานแรกของเธอคือ ขโมยกระเป๋าสตางค์ ซึ่งเธอก็ทำให้ทั้งคู่ได้เห็นความเร็วและความสามารถของเธอ ในวัยเจ็ดขวบเธอเริ่มชำนาด้านการขโมยของเล็กของน้อย จนหลอกล่วงคนอื่น วัยแปดขวบเธอแสดงความสามารถโดยการเข้าร่วมงานประมูลกับพ่อแม่บุญธรรมและได้ขโมยแหวนเพชรมูลค่าเกือบสิบล้านหยวนมาได้ ทุกครั้งที่เธอได้รับภารกิจเธอตั้งใจทำอย่างมากเพราะคิดว่านี่คือสิ่งที่จะทำให้ทั้งคู่รักเธอ เพียงแค่ได้รับคำชื่นชมจากทั้งคู่เธอจึงคิดเสมอว่านี่คือคนที่เป็นพ่อแม่ของเธอ การแสดงความรักของเธอคืองานที่ได้รับจะต้องไม่มีสิ่งใดผิดพลาดเพื่อให้พ่อแม่บุญธรรมรักเธอ แต่สิ่งที่เธอคิดเป็นสิ่งที่ผิดมาตลอด เมื่ออายุได้ยี่สิบปีเธอทำงานพลาดครั้งแรก เกือบจะถูกตำรวจจับตัวได้ พ่อแม่บุญธรรมที่เธอคิดเสมอว่าคือคนในครอบครัวได้หลบหนีทิ้งเธอไว้โดยไม่หันกลับมามอง จนเมื่อเธอซ่อนตัวจนตำรวจคิดว่าเธอหนีออกนอกประเทศไปแล้ว ข่าวตามล่าเธอเงียบหายไป ทั้งคู่จึงได้ติดต่อกลับมา เธอรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าหากจวนตัวต้องเอาตัวรอดให้ได้ แต่เธอหวังเพียงอยากให้ทั้งคู่รักเธออย่างที่เธอรักพ่อแม่บุญธรรมสักนิดก็ยังดี เมื่อเบื่อที่ต้องใช้ชีวิตหลบหนีตำรวจ รวมทั้งองค์กรใต้ดินที่ตามล่าค่าหัวเธออย่างหนัก ทั้งคู่จึงขอให้เธอทำงานสุดท้ายให้ คือขโมยหยกเหอเถียนที่เพิ่งค้นพบเจออายุราวๆสามพันปี งานนี้ไม่ง่ายแต่หากจะแลกมาด้วยอิสระภาพที่ทั้งคู่จะยอมปล่อยเธอไป เธอจึงตกลงรับงานนี้ เธอใช้เวลาดูสถานที่ ทางหนีทีไล่อยู่สองสัปดาห์ เมื่อมั่นใจว่าเตรียมทุกอย่างพร้อมแล้วก็เริ่มออกปฏิบัติการ หยกเหอเถียน ที่เธอต้องขโมยเป็นเพียงกำไลข้อมือเท่านั่น ระบบนิรภัยที่แน่นหนาไม่เกินความสามารถของเธอ เมื่อนำออกมาได้ก็เตรียมหลบหนี แต่ใครจะรู้ว่าพ่อแม่บุญธรรมที่แสนน่าเคารพรักนั้นได้ขายข้อมูลให้กับองค์กรใต้ดินเพื่อชิงของจากเธอ พร้อมทั้งฆ่าเธอเพื่อรับค่าหัวที่มูลค่าสูง แม้การต่อสู้ที่ถูกฝึกมาอย่างชำนาญ อาวุธในมือ มีดสั้น ปืนถูกนำออกมาใช้ ถึงจะฆ่าคนฝุ่นนั่นไปเยอะเพียงใด แต่เธอคนเดียวจะสู้คนที่เตรียมพร้อมมาถึงสามสิบคนได้อย่างไร ใบฟางหัวเราะให้กับความโง่ของเธอ แม้แต่ผู้ที่ได้ชื่อว่าพ่อแม่บุญธรรมก็ยังขายเธอได้ เธอเย้ยหยันให้กับชีวิตที่บัดซบ สาปแช่งเทพแห่งโชคชะตาที่ให้เธอมาเกิดกับพ่อแม่แท้ๆที่ไม่ต้องการเธอ แล้วยังส่งพ่อแม่บุญธรรมที่ทำให้ชีวิตของเธอต้องพบจุดจบเช่นนี้
like
bc
จากนางแบบสู่สตรีอ้วนหมู่บ้านโจวตง
อัปเดตเมื่อ Jan 11, 2025, 01:33
"สวัสดีค่ะ วันนี้หลิงหลิงจะมานำเสมอการออกกำลังกายเพื่อให้คุณมีหุ่นเหมือนหลิงหลิงค่าาาา" ทุกวันของซิงหลิงนอกจากงานถ่ายแบบเดินแบบที่เธอยึดเป็นอาชีพหลักแล้ว ก็คงเป็นอีกอย่างคือการถ่ายทอดชีวิตในแต่ละวันของเธอลงโซเซียลให้คนติดตาม ตั้งแต่ตื่นนอนตอนเช้า เธอเริ่มตั้งกล้องเพื่อให้ทุกคนได้เห็นว่าเธอดูแลตนเองเช่นไร ตั้งแต่ยาสีฟันที่ใช้เพื่อทำให้ฟันของเธอขาว (แต่ความจริงเธอก็เข้าคลินิกเพื่อทำวีเนียร์) หรือจะเป็นมาร์คหน้าที่ใช้ก่อนจะลงครีม ขั้นตอนการลงเซรั่มไปจนถึงครีม แม้แต่การแต่งหน้าที่ดูธรรมชาติจนเหมือนไม่ได้แต่ง เรื่องอาหารการกินเธอก็ทำเองทุกขั้นตอน ตั้งแต่การเลือกซื้อผัก เนื้อสัตว์ไปจนถึงปรุงสำเร็จ การออกกำลังกายควรออกท่าไหน เพื่อให้ส่วนใดกระชับ ชิงหลิงเธอทั้งตั้งกล้องตัดต่อด้วยตนเองทั้งสิ้น ทุกคลิปของเธอสร้างรายได้มหาศาลมากกว่าเงินค่าจ้างเดินแบบเสียอีก หากผู้ติดตามเบื่อคลิปรูปแบบเดิมๆ เธอก็ออกไปถ่ายสิ่งต่างๆ เพิ่มเติมอยู่เสมอ แม้กระทั่งการขุดรากบัวขึ้นมาทำแป้งรากบัวเพื่อสุขภาพ หรือจะเป็นสบู่ล้างหน้า อาบน้ำแบบออแกนิค เธอก็ถ่ายทำทุกขั้นตอนให้ได้ชม คนยุคใหม่ชื่นชอบคลิปของเธอมากนักจนมีคนทำตามวิธีของเธอจนสามารถเปลี่ยนรูปร่างได้จริง จนทำให้ชื่อเสียงของเธอเพิ่มขึ้นอีกมาก วันนี้ก็เช่นกัน ชิงหลิง ตื่นขึ้นมาตั้งกล้องทำทุกอย่างเช่นปกติ ทั้งยังพูดแนะนำไปตามแบบของเธอ จนเมื่อถึงตอนที่ไลฟ์สดกินอาหารเพื่อให้ทุกคนได้ดู ชิงหลิงอ่านทุกคอมเม้นและโต้ตอบกับผู้ติดตามเช่นปกติ “พี่หลิงหลิง ไม่กลัวอาหารติดคอหรือคะ พูดไปกินไป” “ฮ่า ฮ่า ไม่ค่ะ ทุกครั้งหลิงหลิงก็ทำแบบนี้ แต่ต้องเคี้ยวให้ละเอียดก่อนกลืนนะคะ” เธอขยิบตาให้กล้องอย่างซุกซน แต่แล้วเหตุการณ์ที่เธอไม่เคยคิดว่าจะเกิดขึ้นก็เกิด เนื้ออกไก่ชิ้นใหญ่หลุดเข้าไปในหลอดลมของเธอ คอมเม้นจากผู้ติดตาม กระหน่ำถามรัวๆ ว่าเธอเป็นอะไร ตอนนี้ชิงหลิง เธอหลบออกจากกล้อง เพราะเริ่มหายใจไม่ออก เธอพยายามล่วงคอเพื่อเอาเศษอาหารออกแต่ก็ไม่เป็นผล เธอใช้ท้องกระแทกกับพนักพิงของเก้าอี้อยู่หลายครั้ง แต่ที่ไม่ออกเสียที เพราะเธอไม่กล้าออกแรงมาก กลัวท้องจะเป็นรอยช้ำ เมื่อใส่เสื้อออกกำลังกายแล้วคนจะเห็น ครั้งนี้ชิงหลิงคิดน้อยไปเสียหน่อย เพราะมันไม่โชคดีเหมือนครั้งก่อนๆ เธอลืมหายใจไม่ออกจนล้มไปนั่งกลับพื้น เธอพยายามคลานไปที่โทรศัพท์เพื่อขอความช่วยเหลือจากผู้ติดตามที่กำลังดูไลฟ์สดอยู่ เพียงอีกแค่ช่วงมือเดียวที่เธอจะเอื้อมถึง แต่กลับหมดเรี่ยวแรงเสียก่อน เธอใช้แรงเฮือกสุดท้ายทุบไปที่โต๊ะทานอาหารเพื่อส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือ มีหนึ่งในผู้ติดตามพบความผิดปกตินี้ แล้วโทรตามรถพยาบาลให้เธอ แต่อนิจจา ไม่มีผู้ใดรู้ที่อยู่ของเธอ เพราะเธอหวาดกลัวพวกโรคจิตที่ชอบส่งข้อความแปลกมาหาเธอ ทุกครั้งที่ถ่ายคลิปหรือไลฟ์สด เธอจะไม่ถ่ายมุมกว้างเพื่อให้ผู้อื่นรู้ที่อยู่ของเธอ ชิงหลิงสิ้นใจลงในห้องพักของเธอในเช้าวันนั้น กว่าผู้จัดการของเธอจะรู้เรื่องก็เกือบจะถึงเวลานัดเพื่อไปถ่ายงาน แต่เธอไม่มาเสียทีเขาจึงมาดูที่ห้อง ไลฟ์สดของเธอก็ยังเปิดอยู่พร้อมทั้งคอมเม้นที่ยังเด้งไม่หยุดเพื่อถามว่าเธอเป็นเช่นไรกันแน่
like
bc
อีกด้านของนางร้าย
อัปเดตเมื่อ Dec 27, 2024, 04:06
ซูมี่หญิงสาวที่เป็นสตรีร้ายกาจของหมู่บ้าน นางมีสัญญาหมั้นหมายอยู่กับ ชิงฉางบัณฑิตหนุ่ม แต่แล้ววันหนึ่งเขาก็กลับมาพร้อมสตรีอ่อนหวานแล้วยกเลิกงานหมั้นกับนาง เมื่อนางจบชีวิตลงได้ไปเกิดที่ภพใหม่และเพราะมีความทรงจำเดิมทำให้นางรู้ว่านางเป็นเพียงตัวร้ายในนิยายที่มีบทบาทเพียงไม่กี่หน้าเท่านั้น ซูมี่ได้แต่ถามตัวเองว่านางผิดเรื่องอะไร อีกจะบอกว่านางร้ายกาจ นางร้ายเรื่องอะไร ถ้าไม่ใช่ว่าเป็นเพราะชิงฉางที่เขาให้ความหวังหญิงสาวในหมู่บ้านไปทั่ว จนมาหาเรื่องนาง นางจะกลายเป็นสตรีที่ร้ายกาจได้อย่างไร "เหอะ ผู้ชายสารเลวเช่นนั้น หากย้อนกลับไปได้ข้าไม่มีทางชายตามองเด็ดขาด" เมื่ออ่านนิยายจบเธอก็เขวี้ยงทิ้งลงถังขยะอย่างโมโห แต่ซูมี่ไม่รู้คือ นางจะได้ย้อนเวลากลับไปจริง และการย้อนกลับไปของนางครั้งนี้มิใช่เพื่อแก้แค้น แต่เพื่อทำให้ผู้ชายเสียดายนางแทน
like
bc
วาสนานี้ข้ามิอยากได้
อัปเดตเมื่อ Dec 27, 2024, 01:35
ซินหยาน นักฆ่าสาวที่ใช้นามแฝงว่า สืออี เธอถูกพาตัวมาจากสถานสงเคราะห์ตั้งแต่อายุเพียงเจ็ดปี เพื่อฝึกให้เป็นนักฆ่าขององค์การใต้ดิน เพราะความสามารถของเธอ รวมถึงความเฉลียวฉลาดจากการเอาตัวรอด ทำให้เธอได้รับภารกิจเสี่ยงอันตรายอยู่เสมอ จนวันหนึ่งที่องค์กรยื่นข้อเสมอสุดพิเศษให้ หากทำภารกิจครั้งนี้เสร็จสิ้นเธอจะสามารถไปใช้ชีวิตตามที่เธอต้องการได้ แต่เรื่องมันจะง่ายถึงเพียงนั้นได้อย่างไร ซินหยาน แม้จะรู้ดีว่านี้เป็นภารกิจสุดท้ายก่อนที่เธอจะถูกสั่งเก็บแต่ก็รับงานมาอย่างเต็มใจ แต่ที่องค์การคิดไม่ถึงคือ ซินหยานเลือกที่จะจบชีวิตลงพร้อมกับภารกิจสุดท้ายที่สูญหายไปพร้อมกับเธอด้วย ซินหยานเมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้งก็พบว่าเธออยู่ในร่างของเด็กสาววัยสิบสองหนาว จางซินหยาน ชื่อนี้ช่างคุ้นหูนัก และยิ่งคุ้นมากขึ้นเมื่อชื่อของบิดามารดาของซินหยานก็คือนิยายเรื่องหนึ่งที่เธอได้เคยอ่านเมื่ออยู่ภพที่แล้ว หลังจากที่จางซินหยานอายุได้สิบหกหนาว นางตกหลุมรักท่านแม่ทัพจ้าว ที่ได้รับบาดเจ็บและจางซินหยานเป็นผู้ช่วยไว้ ถ้าหากท่านแม่ทัพจ้าวมิได้มีสตรีที่ตบแต่งไปแล้วเรื่องนี้ก็คงจบอย่างสวยงาม แต่เพราะเขารับจางซินหยานไปเป็นได้เพียงอนุเท่านั้น จางซินหยานก็ยังคิดว่าถึงจะเป็นเพียงอนุนางก็ยังหวังว่าท่านแม่ทัพจะรักนางเช่นกัน แต่เปล่าเลย ในสายตาของท่านแม่ทัพมีเพียงฮูหยินเอกเท่านั้น จนตายจางซินหยานก็ไม่เคยได้ยินคำว่ารักจากปากของท่านแม่ทัพ ซินหยานเมื่อมาอยู่ในร่างของจางซินหยานแล้วนางจะยอมให้เกิดเหตุการณ์นี้ได้อย่างไร แต่เหมือนโชคชะตาชอบเล่นตลก เพราะเรื่องที่นางไม่อยากยุ่งเกี่ยวดันเข้าไปยุ่งเต็มๆ
like
bc
นางร้ายของท่านเสนาบดี
อัปเดตเมื่อ Dec 24, 2024, 03:45
ซูหนี่ นักแสดงสาวเจ้าบทบาท จะให้เธอเป็นนางเอกเจ้าน้ำตาหรือนางร้ายที่ร้ายเหลือแสน ก็ตีบทแตกได้ทุกเรื่อง จนวันหนึ่งเธอได้รับบทนางร้ายชื่อเดียวกับเธอ นั่นคือจุดเริ่มต้นของเรื่องทั้งหมด
like
bc
ข้ามเวลามาสู้ชีวิต
อัปเดตเมื่อ Dec 24, 2024, 03:28
รลิน หมอศัลยแพทย์ทั่วไป เธออายุ 27 แต่ความสามารถของเธอนั้นเป็นที่ยอมรับโดยประจักษ์ เธอยังชำนาญด้านแพทย์แผนจีน เรื่องพิษ คนทั่วไปทั้งในโรงพยาบาลและนอกโรงพยาบาลที่รู้จักเธอ รับรู้แค่เธอเป็นหมอลินที่ทั้งสวยและเก่ง แต่ตัวตนที่แท้จริงของเธอนั้น เธอคือนักฆ่าขององค์กรใต้ดิน เธอต้องเรียนรู้และเข้าให้ถึงทุกอาชีพตามที่องค์กรสอน เมื่อได้ภารกิจต้องเข้าให้ถึงทุกบบทบาท
like