พวกท่านสงบใจก่อน

1440 คำ
ในเมื่อตามความทรงจำเดิมเมื่อภพที่แล้วที่นางได้รับมา หลังจากนี้อีกเพียงไม่กี่เดือนนางกับมารดาและพี่ชายจะต้องถูกขับออกจากตระกูล สู้ตอนนี้คิดหาหนทางให้ตนเองออกจากตระกูลพาทั้งสองไปเริ่มชีวิตใหม่เลยเสียยังดีกว่า แต่จะทำเช่นใดดี ด้วยนางอยากจะเอาคืนสองแม่ลูกให้หนำใจด้วย และออกจากตระกูลอย่างไม่เป็นที่ครหาของผู้ใดด้วย “น้องพี่” เซี่ยหยวนเห็นเปลือกตาของเซี่ยหรูอวี้ขยับ เขาจึงรีบเดินเข้ามาหานางที่เตียง “อืม...ขอน้ำหน่อยเจ้าค่ะ” เสี่ยวจิ่วตกตะลึงไม่น้อยที่คำพูดของนางที่เปล่งออกไปไหลลื่นราวกับว่านางพูดเป็นประจำ แต่เสียงที่แหบพร่าอย่างน่าสงสารก็ทำให้สองแม่ลูกมองข้ามความแข็งกระด้างในน้ำเสียงไปเสีย แล้วรีบร้อนหาน้ำมาให้นางดื่ม “เป็นเช่นใดบ้าง” ตู้เหลียนเอ่ยถามบุตรสาวอย่างเป็นห่วง นางลูบคลำตัวเซี่ยหรูอวี้ เพื่อดูว่าไข้ลดแล้วหรือยัง เมื่อเห็นว่าตัวนางไม่ได้ร้อนดั่งไฟเช่นในตอนแรกแล้ว จึงได้วางใจลง เสี่ยวจิ่วที่ตอนนี้เป็นเซี่ยหรูอวี้แล้ว เงยหน้าขึ้นมองใบหน้าของผู้เป็นมารดา แววตาที่จ้องมองนางด้วยความห่วงใย นางไม่เคยสัมผัสมันเลยสักครั้งในชีวิต น้ำตาที่ไม่รู้มาจากที่ใดก็เริ่มไหลรินออกมามากมาย จนทำให้ตู้เหลียนและเซี่ยหยวนตกตะลึงจนต้องรีบกอดปลอบประโลมนาง “ไม่มีอันใดแล้ว เป็นแม่ที่ไม่อาจปกป้องเจ้าได้ ฮึก...” ตู้เหลียนร่ำไห้ออกมาเสียตัวโยน เมื่อนางคิดว่าตนเองอ่อนแอจนไม่อาจจะช่วยเหลือบุตรสาวได้ทุกครั้งที่นางถูกใส่ร้าย “พี่ไม่ดีเอง ที่ปล่อยให้คนพวกนั้นรังแกเจ้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า” เขาได้แต่โทษตนเองที่เป็นถึงบุรุษ แต่ไม่อาจจะปกป้องน้องสาวและมารดาได้ “...” เซี่ยหรูอวี้นางไม่ได้พูดสิ่งใด เพียงแต่สะอื้นไห้เบาๆ นางได้แต่กัดฟันข่มความทรงจำที่พรั่งพรูออกมา ว่าถูกกระทำมากเพียงใดตั้งแต่เล็ก เพื่อไม่ได้ร้องออกมาเสียงดังไปมากกว่านี้ “ข้าจะเอาคืนทุกคนให้สาสม เจ้าเลิกเอาความรู้สึกเช่นนี้มาใส่ข้าได้แล้ว” นางได้แต่เอ่ยในใจเพื่อบอกเสี้ยวจิตวิญญาณหนึ่งของนาง เหมือนอยากจะฟ้องนางให้ได้รู้ว่าที่ผ่านมาถูกรังแกไว้มากแค่ไหน “ข้าไม่เป็นอันใดแล้วเจ้าค่ะ แต่ข้ามีสิ่งหนึ่งที่อยากจะบอกพวกท่าน” เซี่ยหรูอวี้ดันตัวมารดาออก แล้วจ้องมองทั้งสองอย่างจริงจัง นางคิดดีแล้ว ที่จะบอกกล่าวเรื่องทั้งหมดให้ทั้งสองคนได้รู้ หากทั้งสองคิดเช่นเดียวกับนางที่อยากจะออกจากตระกูลเซี่ย นางก็พร้อมที่จะทำตามความคิดของนางที่ได้วางไว้ เมื่อครู่นี้ทันที “เรื่องอันใด” เซี่ยหยวนลากเก้าอี้มานั่งอยู่ข้างเตียงเพื่อรอฟังในสิ่งที่น้องสาวจะพูด “ตอนที่ข้าตกน้ำ ข้าเหมือนตายไปแล้วเจ้าค่ะ” สองแม่ลูกใจหายวาบ เมื่อเซี่ยหรูอวี้พูดเรื่องความเป็นตายออกมา ตู้เหลียนเริ่มร้องไห้เสียงดังอีกครั้ง เซี่ยหยวนดวงตาแดงก่ำ เขาก็เกือบจะร้องไห้ออกมา สองมือกำแน่นไปด้วยความแค้นใจ ครั้งนี้เล่นกันถึงตายเลยรึ “พวกท่านสงบใจก่อน ฟังสิ่งที่ข้าเล่าต่อจากนี้ ท่านพี่ปิดประตูห้องข้าเสีย ไล่บ่าวออกไปให้ห่างจากห้องข้า อย่าได้เข้ามาเด็ดขาด” ดูเหมือนว่าสิ่งที่น้องสาวจะพูดเป็นเรื่องที่ไม่ดีนัก จึงได้เอ่ยไล่ทุกคนให้ออกไปจากห้อง พร้อมทั้งปิดประตูลงกลอนเสียแน่นหนา “เจ้าพูดเถิด ไม่มีผู้ใดแล้ว แม่ให้แม่นมตู้เฝ้าอยู่ที่หน้าห้องแล้ว” แม่นมตู้คือบ่าวเดิมที่ติดตามตู้เหลียนมาด้วย นางเสียชีวิตลงพร้อมกับทุกคนในวันที่เดินทางออกจากจวนตระกูลเซี่ย เซี่ยหรูอวี้จึงพยักหน้ารับอย่างวางใจ “ท่านแม่ ท่านพี่ พวกท่านอย่าได้ตกใจในสิ่งที่ข้ากำลังจะเล่านะเจ้าคะ” เซี่ยหรูอวี้จับมือทั้งสองคนไว้ ก่อนที่นางจะพาทั้งสองหายเข้าไปในมิติของนาง อย่างไรนางก็คิดว่าภายในมิติของนางปลอดภัยกว่าในห้องที่แทบจะไม่เก็บเสียงเลยสักนิด หากสองแม่ลูกร้องด้วยความตกใจในสิ่งที่นางบอกเล่า จะได้ไม่มีผู้ใดที่สงสัย “ว้าย....” “เฮ้ย...” เซี่ยหยวนและตู้เหลียนร้องออกมาอย่างตกใจ เมื่อสถานที่อยู่ในยามนี้เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ทั้งยังตกตะลึงไม่น้อย เมื่อเห็นความงามที่ไม่เคยได้พบเห็นจากที่ใดมาก่อน “ที่นี่ ที่ใด” เซี่ยหยวนที่ได้สติก่อนเอ่ยถามออกมา “ข้าบอกพวกท่านแล้ว ตอนที่ข้าตกน้ำข้าได้ตายไปแล้ว ที่แห่งนี้เป็นมิติเวลาที่เทพชะตาเกิดเห็นใจข้าจึงได้มอบมาให้” เซี่ยหรูอวี้เดินนำทั้งสองไปที่เรือนพักของนาง ตู้เหลียนไร้สิ้นเรี่ยวแรงที่จะเดิน เมื่อรู้ว่าบุตรสาวของนางได้ตายไปครั้งหนึ่งแล้ว เซี่ยหยวนจำต้องประคองมารดาเดินตามน้องสาวเข้าไปในเรือน ทั้งสองไม่ได้มองสำรวจอย่างที่ควรจะทำ เพราะยังตกใจเรื่องที่หรูอวี้นางพูดเมื่อครู่ไม่หาย พอเข้ามานั่งด้านในเรือนพักจึงได้ตกตะลึงกับข้าวของเครื่องใช้อีกรอบ “ข้าจะบอกสิ่งที่ท่านสงสัย หลังจากที่พวกท่านฟังเรื่องราวทั้งหมดจบ” ทั้งสองพยักหน้ารับอย่างว่าง่าย แม้จะมีความสงสัยในสิ่งต่างๆ ไม่น้อย หรูอวี้เล่าเรื่องจากความทรงจำเดิมที่นางตกลงไปในน้ำ โดยฝีมือของเซี่ยหรันเซียนที่เรียกนางไปเพื่อชมปิ่นเนื้องามที่นางเพิ่งจะได้มา แต่เซี่ยหรูอวี้ไม่คิดว่ามีคุณหนูจวนอื่นอยู่ด้วย ในตอนที่นางเอื้อมมือไปรับปิ่นจากมือของเซี่ยหรันเซียนตามคำสั่งของนาง เซี่ยหรันเซียนก็ร้องขึ้นเพื่อเรียกทุกคนที่อยู่ในศาลาให้มาที่ริมน้ำ โดยทุกคนคิดว่าเซี่ยหรูอวี้จะแย่งของจากมือของเซี่ยหรันเซียนจึงได้เกิดการกระชากผลักตัวกันขึ้น เซี่ยหรูอวี้ก็พลาดท่าตกลงไปในน้ำ กว่าที่สาวใช้ของนางจะเข้ามาช่วยนางขึ้นจากน้ำได้ก็กินเวลาไปนานแล้ว คนอื่นรวมทั้งเซี่ยหรันเซียนก็ตกใจจนได้ถอยกลับไปอยู่ภายในศาลาอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาวกันแล้ว “ช่างเลือดเย็นนัก” เซี่ยหยวนตบโต๊ะเสียงดัง เพียงแค่ฟังเรื่องราวเท่านี้ เขาก็อยากจะออกไปขอความเป็นธรรมให้น้องสาวแล้ว “ท่านพี่อย่าได้มีโทสะ ข้าจะจัดการเรื่องนี้เอง” หรูอวี้ไม่ต้องการให้พี่ชายนางเข้ามายุ่ง ในเมื่อนางมีหนทางให้จัดการกับสองแม่ลูกและคุณหนูจวนอื่นได้อย่างง่ายดาย เซี่ยหรูอวี้เล่าเรื่องต่อหลังจากนั้น ที่นางพบท่านเทพชะตาจนได้มิติแห่งนี้ นางรู้เรื่องภายหลังที่จะเกิดขึ้นในไม่ช้า โดยนำความฝันที่นางเห็นมาเล่าให้ทั้งสองฟัง แต่เรื่องที่นางเป็นนักฆ่า นางไม่ได้เอ่ยถึง ด้วยกลัวว่าทั้งสองจะกลัวนางไปด้วย “หากเป็นที่เจ้าว่า พี่ก็คิดว่าคงต้องเตรียมการแล้ว” เซี่ยหยวนไม่อยากให้เกิดเรื่องร้ายเช่นนั้นอีก เขาเชื่อในคำพูดน้องสาวไม่น้อย เพราะนางมีมิติที่ได้มาจากเทพชะตา แตกต่างจากตู้เหลียนที่ยังอาลัยอาวรณ์ในตัวผู้เป็นสามี ดูเหมือนบุตรของนางทั้งสองคนจะสังเกตเห็นความลังเลในตัวของมารดาเช่นกัน "หากท่านแม่ยังไม่เชื่อในคำข้า ท่านลองขอให้ท่านพ่อสอบสวนเรื่องราวที่เกิดขึ้นในงานเลี้ยงน้ำชาดูก่อนก็ได้เจ้าค่ะ” หรูอวี้เชื่อว่า เซี่ยถงวู่ที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้ตรวจการ จะต้องปล่อยผ่านเรื่องในจวนไปอีกตามเคย
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม