วันต่อมา_
"คุณหนูจะไม่ทานอาหารร่วมโต๊ะกับใครนะคะ พอเวลาที่คุณอดิศรออกไปทำงานแล้ว ถึงจะลงมาทานคนเดียวค่ะ" ป้ามลเอ่ยแนะนำกับคาอิล ยามที่ท่านทูตและภรรยาเดินไปสนามบินตามกำหนด ในบ้านจะเหลือแค่ไม่กี่คนแบบที่อยู่แล้วไม่อึดอัดกัน
"ครับ"
"แล้วนี่จะเป็นช่วงเวลานัดของคุณหนูที่ต้องไปโรงพยาบาลนะคะ ป้าจดมาให้หมดแล้ว เมื่อก่อนจะเป็นหน้าที่ลุงกร แต่แกแก่แล้วอ่ะนะอ่านหนังสือไม่ค่อยออก"
"ต้องไปเยอะขนาดนี้เลยเหรอครับ?" คาอิลถึงกับแปลกใจมากขึ้นกว่าเดิม ใบกระดาษมีวันนัดทุกสัปดาห์ ทำคนที่ต้องดูแลรู้สึกเป็นกังวลแทน
"เมื่อก่อนยิ่งกว่านี้อีกนะคะ คุณหนูเป็นคนที่ตกใจกลัวง่ายๆ ตั้งแต่ตอนที่คุณนายเสีย แล้วยิ่งตอนไป.." ป้ามลอย่างคิดหนักว่าจะเล่าเรื่องในอดีตออกไปดีหรือไม่
"ไปไหนครับ ผมเป็นคนดูแลคุณหนูควรจะต้องรู้ทุกเรื่องนะครับ" น้ำเสียงหนักแน่นถาม
"คะคือ..ตอนไปต่างประเทศเมื่อหลายปีก่อนค่ะ คุณหนูไปเจออะไรก็ไม่รู้ ตกใจจนกลัวหนักถึงขั้นช็อคเข้าโรงพยาบาลไปเลยนะคะ พวกป้านะยิ่งสงสารคุณหนูจับใจ" มือเหี่ยวย่นรีบจับมือหนา เผยความเป็นห่วงเพียงขวัญ เต็มใบหน้าของคนที่เลี้ยงดูมาตั้งแต่เกิด
"ป้ามลพอจะทราบไหมว่าคุณเพียงขวัญไปเจออะไรมา?"
"ไม่มีใครทราบเลยค่ะ คุณอดิศรให้ทุกคนปิดปากทั้งหมด ห้ามให้พูดเรื่องนี้อีกไม่งั้นจะโดนไล่ออกค่ะ"
"แล้วแบบนี้รักษาไม่รู้สาเหตุจะหายไหมล่ะครับ?"
"ไม่มีใครกล้าถามหรอกนะคะ กลัวจะโดนกันทั้งนั้น...ยิ่งตัวคุณด้วยต้องระวังให้ดีนะคะ"
"ครับ ผมจะเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับนะครับ เพื่อตัวคุณหนูเอง" เขาพยักหน้าเพิ่มความมั่นใจให้แก่คนเล่าเรื่อง
ตอนแรกเขาคิดว่าสถานที่แห่งนี้คงจะเหมือนเนื้อเรื่องในละครน้ำเน่าสิ้นดี แต่เปล่าเลยหากเพียงขวัญคือตัวละครหลักของเรื่อง...เธอช่างน่าสงสารและเห็นใจ
"ป้าฝากคุณหนูด้วยนะคะ ที่นี่มันมีอีกหลายเรื่องค่ะ คุณอยู่ๆ ไปแล้วก็จะรู้เอง"
ตึก! ตึก! ตึก! เสียงเท้าคู่เรียวเล็กก้าวบันไดจากด้านบน ทำให้คนที่เพิ่งเอ่ยถึงรีบแยกย้ายไปทางอื่น เหลือเพียงแค่คาอิลเดินมาทักทาย
"วันนี้คุณมีนัดไปโรงพยาบาลใช่ไหมครับ?" เสียงเข้มถาม ดึงเก้าอี้ให้ร่างอรชรนั่งตรงตำแหน่งจานข้าว ไม่ว่าจะมองทางไหนทุกอิริยาบถของเธอเหมือนกับตุ๊กตามีชีวิตไม่ต่างกัน ขาดแค่เพียงรอยยิ้มสดใสเท่านั้น
"ไม่ไป" เสียงหวานตอบ จับช้อนอาหารขึ้นตักชิมน้ำซุปร้อนๆ ตัดกับอากาศช่วงฤดูหนาว
"คุณไม่ควรผิดนัดโรงพยาบาลนะครับ เพื่อสุขภาพของคุณเอง"
"อย่ายุ่ง!"
"เดี๋ยวผมจะไปเช็ครถรอนะครับ" ร่างสูงเตรียมจะเดินไปทำอย่างที่เอ่ยบอก เลี่ยงการสนทนาเช่นกัน
"ลาออกไปได้แล้ว ที่นี่ไม่ได้เหมาะกับนาย" สองมือบางวางช้อนอาหารลงทันที มองคู่สนทนาด้วยแววตาจริงจัง
"คุณกำลังดูถูกความสามารถของผมนะครับคุณหนู" ร่างสูงพูดเสียงเข้มแบบไม่เข้าใจ แม้ว่าเมื่อวานอีกฝ่ายจะดูคุยง่ายบางครั้ง
"ฉันไล่นายออก!"
"คงจะทำอย่างนั้นะไม่ได้หรอกครับ เพราะผมเซ็นต์สัญญาว่าจ้างไปแล้วถึงหกเดือน"
"นายต้องการอะไร?" ดวงตาคู่สวยหรี่จ้องจับผิด เสียงของเธอและเขาทำคนใช้ในบ้านเริ่มกังวล มองหน้ากันไปมาจนรีบเดินกลับเข้าในครัว
"ผมมาเพื่อทำหน้าที่ดูแลคุณที่นี่" เขาเดินตรงมาจ้องหน้าสวยใกล้ๆ เห็นความดื้อดึงอยู่แววตากลมคู่นั้น หากลดนิสัยแบบนี้ลงบ้าง เธอจะดูสวยและน่าทนุถนอมจนไม่อยากคาดสายตา
"แต่ฉันไม่ต้องการ" เธอก็จ้องกลับอย่างไม่กลัว
"ผมว่าคุณต่างหากที่กลัวมากกว่านะครับ ไม่อย่างนั้นจะปฏิเสธผมไปซะหมดทุกอย่างเหรอครับ"
"มีอะไรให้กลัว" เธอเริ่มจ้องเขม็งใส่คนตัวสูงกว่า ยกแขนดันบ่ากว้างที่กล้าโน้มตัวลงมาจนจะใกล้เกินไป
"นั่นนะสิคนอย่างผมมีอะไรให้น่ากลัว ทีหลังก็รบกวนพูดกันง่ายๆ หน่อยนะครับ บังเอิญว่าผมอ่อนโยนกับผู้หญิงให้ไม่เป็นซะด้วย" ร่างสูงเหลือบมองมือบางที่บ่า ก่อนจะถอยฝีเท้าออกห่างๆ
"แต่ฉันไม่ไป!" กำปั้นสองข้างวางบนหน้าตักขาเล็ก ยังยืนยันเสียงแข็ง
"งั้นผมก็จะนั่งเฝ้าคุณตรงนี้ ถ้าทานข้าวเสร็จแล้วผมจะได้อุ้มคุณไปขึ้นรถพร้อมๆ กัน!" เขาทำอย่างที่พูดจริงๆ ดึงเก้าอี้มานั่งลงแล้วไม่ละสายตาจากหน้าสวย
"น่ารำคาญ!"
"ทานก่อนนะครับ คุณยังต้องทานยาอีก" มือหนาดึงข้อมือเล็กให้นั่งลงรวดเร็ว เหลือบหางตามองแก้วยาใกล้ๆ จานข้าว มีตัวยาหลายเม็ดในแก้วนั้น
"ปล่อย!"
"งั้นก็ช่วยพูดกันง่ายๆ ได้ไหม ผมไม่อยากทะเลาะกับคุณนะ" มือหนายอมปล่อยข้อมือเล็กให้ พูดด้วยเสียงอ่อนลงเผื่อว่าอีกฝ่ายจะลดทิฐิลงบ้าง
"ไม่ต้องมายุ่งกับฉันอีก!"
"ไม่ยุ่งเป็นไปไม่ได้แน่ๆ ล่ะครับ ผมไม่ชอบบกพร่องต่อหน้าที่!"
"ยุ่งไม่เข้าเรื่อง!!!" น้ำเสียงหวานเอ่ยกระแทก จับช้อนทานข้าวแบบไม่อยากสนใจร่างสูงตรงนั้น แม้ว่าเขาจะจ้องหน้าก่อกวนทางอารมณ์ไม่มีหยุด
"ค่อยๆ เคี้ยวนะครับ เดี๋ยวติดคอ"
..........................