ไอยดารีบเข้าไปแต่งตัว เธอสวมชุดนักศึกษาพอดีรูปร่างไม่ได้สั้นโป๊เสมอน้องสาวหรือเสื้อสั้นกระดุมแทบดีดตาเหมือนชุดนักศึกษาล่าสวาทแบบสมัยนิยมชอบใส่
ชุดของเธอเหมือนชุดนิสิตที่ควรจะเป็น กระโปรงสีดำทรงสอบยาวเลยเข่าขึ้นมาเล็กน้อย กับเสื้อนักศึกษาติดกระดุมปั๊มตรามหาวิทยาลัย เธอเรียนมหาวิทยาลัยปิดของรัฐ คณะมนุษยศาสตร์ เอกภาษาอังกฤษ จะให้ใส่ชุดสั้นเสมอกะปิ๋มได้ยังไง คนมันต้องขึ้นรถเมลล์ไปเรียนประจำ แต่งตัวให้ถูกกาลเทศะก็ดีแล้ว ส่วนคนที่แต่งสั้นส้นสูงสี่นิ้วมันก็เรื่องของเขา เพราะเขามีรถขับไปเรียนหนังสือ
ไอยดาใกล้จบปีสองแล้ว เหลือเวลาอีกตั้งสองปีกว่าจะจบการศึกษา แม่ก็มาเป็นแบบนี้อีก
ร่างเล็กคว้ากระเป๋าสะพายข้างขนาดเล็กสีชมพูขึ้นมาสะพายบนไหล่ มองความเรียบร้อยของผมเผ้าตัวเองในกระจก เธอเปิดกระเป๋าดูเงินจำนวนไม่ถึงพันบาทในกระเป๋าสตางค์
ไอยดาเดินไปเปิดลิ้นชักตรงตู้ข้างเตียงนอน เอาบัญชีสามเล่มออกมากางดูเงินที่เหลือในบัญชี ทั้งสามบัญชีรวมกันมีเงินไม่ถึงแสนบาท
เฮ้อ! เสียงถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง เด็กสาวนั่งจุกอยู่นาน
แม่จ๋าผู้เปรียบเหมือนร่มไทรก็นอนป่วยอยู่ในโรงพยาบาล ชะตาชีวิตของเธอนั้นก็ช่างแสนดีเหลือเกิน กงล้อโชคชะตาอันบิดเบี้ยวพาดวงกุดๆ ของเธอเลี้ยวมาเจอหมอ (เถื่อน) เธียร จะว่าเป็นความโชคดีในความโชคร้าย หรือนับว่าเป็นความโชคร้ายในความโชคร้ายกันแน่
ไอยดาก้มมองเช็คที่คุณหมอให้มา ตัวเลขห้าแสนบาทจะว่ามากก็มากจะว่าน้อยก็น้อยสำหรับการรักษาในโรงพยาบาลเอกชน ถ้าแม่ดีขึ้นเธอจะพาแม่ไปรักษาโรงพยาบาลรัฐใกล้บ้าน เงินห้าแสนสำหรับโรงพยาบาลเอกชนจะรักษาได้กี่วันกัน
ยิ่งโรงพยาบาลเอมเมอร์ราจของตระกูลกิตติรัตนสุวรรณ เป็นโรงพยาบาลไฮโซเรียกว่าแพงตั้งแต่เดินเข้าประตู มีแต่พวกดารา นักการเมือง ผู้ดีเงินหนาเข้าไปนอนรักษา แค่คลอดลูกก็ปาเข้าไปเป็นแสนสองแสนแล้ว ราคาผ่าตัดสมองโดยศัลยแพทย์เนศินทร์คงไม่ต้องพูดถึงว่ามันจะแพงขนาดไหน
เมื่อนึกถึงเรื่องแม่ป่วยเธอน้ำตารื้นขึ้นมา น้ำตาหยดใสไหลอาบแก้มขาวเนียน มือเรียวยกมือขึ้นปาดน้ำตา จัดหนังสือสมุดใส่ในกระเป๋าย่ามผ้าสีขาวที่เธอตัดเย็บเอง ร่างเล็กเดินออกมารอแท็กซี่หน้าปากซอย
ปกติเธอจะตื่นเช้ามารอรถเมล์ แต่วันนี้คงต้องเจียดเงินไปแท็กซี่เพราะเวลากระชั้นชิด ถ้าคุณหมอ (หื่น) มาส่งเธอเร็วกว่านี้อาจจะไปรถเมล์ทัน
นี่อะไรมัวแต่เอาหน้ามาสีนมเธอในรถ แทบจะปล้ำเธออยู่รอมร่อ
ไอยดาเดินไปที่ร้านขายยา แวะซื้อยาคุมฉุกเฉิน แกะยาเม็ดแรกจากแผงยาสองเม็ด กินพร้อมดื่มน้ำในกระเป๋าผ้า เธอคิดอย่างถี่ถ้วนเรื่องป้องกันการตั้งครรภ์ ถึงนับวันแล้วว่าอยู่ในช่วงระยะปลอดภัย แต่ชีวิตเด็กทารกคนหนึ่งไม่ใช่เรื่องล้อเล่น เธอตัดสินใจกินยาคุมฉุกเฉินป้องกันไว้ เพื่อกันความผิดพลาดที่จะเกิดขึ้น
เด็กสาวเดินไปเรื่อย ๆ ตรงไปหน้าปากซอยเพื่อรอแท็กซี่
หมอเธียรขับรถออกจากร้านไก่ย่าง หมอเธียรมองนาฬิกา ใกล้เวลาเรียนของยัยตัวเล็กแล้วด้วย ถ้าปล่อยให้ไปเองคงไปเรียนไม่ทัน
ชายหนุ่มควักแพนตี้ขาดวิ่นที่เขาเก็บเป็นที่ระลึก หมอเธียรแอบฉกเอามาจากกระเป๋ายัยเด็กเนิร์ด กะจะเก็บไว้ดูเล่นซะหน่อยเนื่องในโอกาสวันเสียซิงของเธอ เขามองแพนตี้ตัวนั้นแล้วขับรถเลียบฟุตบาทมาช้า ๆ
หมอ (เถื่อน) เปิดกระจกเรียกไอยดาขึ้นรถ เขาเลื่อนกระจกลง ตะโกนเรียกเธอ
"ขึ้นมาสิ ขายิ่งสั้น ๆ อยู่"
เธอหันมาตามเสียงกร้านของหมอ
"เอ๊า? หมอเธียร เห็นขับรถออกไปแล้วนี่คะ" ไอยดาหยุดเดิน หันมาก้มคุยกับเธียรไทย
"เธอลืมไอ้นี่ไว้" เขานั่งในรถ มือชูกางเกงชั้นในตัวที่เธอสวมเมื่อคืนขึ้นมา แพนตี้ที่ขาดไปครึ่งตัวเหมือนโดนหมากัด
"คนโรคจิต เอาคืนมานะ"
"มันใส่ไม่ได้แล้ว จะเอาคืนไปทำไม ผมเอามาจากกระเป๋าเสื้อผ้าของสไมล์เมื่อเช้า"
"หมอบ้า!"
"ยัยเตี้ย ขึ้นมาสิ จะใช้ขาสั้น ๆ เดินไปถึงไหน นี่มันเกือบเก้าโมงละ จะไปส่ง"
ไอยดาหันซ้ายหันขวา เปิดประตูขึ้นนั่งในรถยุโรปสีดำเงาวับของหมอ เขาขับรถเหยียบเต็มอัตรามุ่งหน้าไปมหาวิทยาลัยของเธอ รถวิ่งเร็วมากเหมือนพวกนักแข่งรถในภาพยนตร์ฮอลลีวูด
"ว๊ายยย ไม่รีบขนาดนั้น" หลังเล็ก ๆ เอนกายนั่งหลังติดเบาะ ภาวนาพุทโธ ธัมโม สังโฆ ไปสุดทาง
"ว่าง ๆ ผมชอบแข่งรถ ผมเป็นนักแข่งด้วยนะ" หมอเธียรขยิบตาให้ทีหนึ่ง
ไอยดานั่งใจเต้นอยู่ในรถ จนรถจอดหน้าคณะแบบแทบจะกลายเป็นดริฟรถ ทุกคนใต้ตึกต่างหันมามองรถที่เข้ามาจอดด้วยความเร็ว
"ไหนกางเกงใน เอาคืนมานะ"
"ก็มันขาดแล้วจะเอาไปทำไมล่ะ" หมอเธียรซุกกางเกงในของเธอเข้ากระเป๋ากางเกงสแลค
"ของส่วนตัว"
"ส่วนตัวแบบไหน ของอยู่ใต้กางเกงในก็เห็นหมดแล้ว ไม่ใช่แค่เห็นนะได้ลงลิ้......"
"พอ ๆ ไม่ต้องพูดละ คนอะไร ชิ!" เธอรีบพูดตัดบทสนทนา ก่อนที่จะถูกหมอลวนลามทางวาจา
"เลิกกี่โมง"
"สี่โมงเย็น จะกลับเอง"
"ถามเฉย ๆ ไม่มารับหรอก ไม่สำคัญขนาดนั้น" หมอตอบ
"...." ไอยดาอึ้ง หมออะไรกวนทีนฉิบหายเลย
เธอเปิดประตูรถเดินตัวลีบลงไปจากรถ นักศึกษาคนอื่นที่เดินอยู่ใต้คณะต่างหันมามองไอ้รถหรูราคาแพงขับซิ่งของหมอเธียร
เพื่อนสนิทของไอยดาชื่อมะเหมี่ยวรีบเดินเข้ามาหา
"ใครมาส่งเหรอสไมล์" มะเหมี่ยวทำสายตาวิบวับแบบล้อเลียนเพื่อน
"คนรู้จักน่ะ รีบเข้าห้องเรียนเหอะ คลาสนี้อาจารย์ดุมากด้วย" ไอยดาตอบเฉไฉไปเรื่องอื่น
"แม่เป็นไงมั่งล่ะ" มะเหมี่ยวบีบมือเพื่อนรักให้กำลังใจ
"ย้ายไปรักษาที่โรงพยาบาลเอมเมอร์ราจ ผ่าตัดเสร็จแล้ว ตอนเย็นจะไปดูแม่"
"โรงพยาบาลนั้นมันแพงไม่ใช่เหรอ"
"มีคนใจดีช่วยเราน่ะ ขอบใจที่เป็นห่วง"
"มีอะไรไม่สบายใจก็เล่าให้ฟังได้นะ" มะเหมี่ยวกอดปลอบเพื่อน
"ขอบใจมาก ยืมเลคเชอร์ลอกก่อนเลยเป็นอันดับแรก" ไอยดายิ้ม นอกจากพี่แดนก็มีมะเหมี่ยวนี่แหละเป็นเพื่อนรักคอยให้กำลังใจ โตมาด้วยกันตั้งแต่เรียน ม.1
เธอเข้าไปเรียนจนครบทุกวิชา ตกเย็นก็ขึ้นรถเมล์กลับบ้าน เมื่อถึงป้ายรถเมล์ก็กดกริ่งลงรถตรงหน้าปากซอยตามเดิม เด็กสาวเดินใจลอยเข้ามาถึงบ้าน เห็นรถคุณแดนสรวงจอดอยู่หน้าบ้าน
ไอยดายิ้ม แต่เจอพี่แดนทีไร ไม่รู้ทำไมน้ำในตามันเอ่อล้นขึ้นมาทุกที
เธอเชิดหน้าขึ้นสูง ปาดน้ำตาที่กำลังจะไหลลงมา
ร่างเล็กยิ้มกว้างรีบเดินเข้าไปหาคุณแดนสรวง