“คุณใหญ่ใจร้าย” ข้าวหอมบริภาษสั้นๆ ออกมา เมื่อรถคันที่อาชานั่งมาไม่แม้แต่จะเหลียวแลหรือให้ความช่วยเหลือ กลับเคลื่อนตัวผ่านไปโดยไว
หญิงสาวผ่อนลมหายใจออกมาช้าๆ สงสัยคงต้องใช้บริการแท็กซี่มิเตอร์ ส่วนพี่เต่าก็คงต้องโทรเรียกอู่ซ่อมรถมาเอาไปซ่อม แต่ไม่นานกลับมีรถคันหนึ่งแล่นเข้ามาจอดข้างๆ
“ขึ้นรถเถอะครับคุณข้าว” เสียงพร่าสั่นของชายชราดังขึ้น ทำให้ข้าวหอมต้องประดับยิ้มมอบให้
“ค่ะ” หญิงสาวรีบก้าวเท้าขึ้นรถคันโตที่อาชาเป็นเจ้าของ เจ้าหล่อนทำหน้ารู้สึกผิดที่แอบค่อนขอดคนตัวโตไปเมื่อครู่ ไม่เช่นนั้นลุงบุญมี คนเก่าคนแก่ของบ้านคงไม่ขับรถมารับเช่นนี้คงเป็นอาชาที่สั่งให้มา
“เดี๋ยวลุงโทรบอกคนที่บ้านให้มาเอารถของคุณข้าวไปเข้าอู่ให้นะครับ” บุญมีกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ขอบคุณค่ะลุง” หญิงสาวพนมมือขึ้นขอบคุณ ก่อนรถจะค่อยๆ เคลื่อนตัวออก เวลานี้บนท้องถนนก็แออัดไปด้วยรถราจำนวนมาก มีทั้งเก่าและใหม่ ทุกคนต่างมีจุดหมายแตกต่างกัน กว่าข้าวหอมจะไปถึงร้านดอกไม้ก็ใช้เวลาไปเกือบหนึ่งชั่วโมงเต็ม
แต่ในวันนี้มีบางอย่างแปลกไป เมื่อหน้าร้านมีรถยนต์คันหนึ่งจอดอยู่ ขณะผู้เป็นเจ้าของยืนหน้าตึงอยู่ด้านข้างทำให้สาวเจ้าต้องผ่อนลมหายใจช้าๆ ออกมา เธอคงต้องเตรียมรับมือกับปัญหาอีกแล้วใช่ไหม
“คุณมีอะไรกับข้าวหรือคะ”
หญิงผู้เป็นเจ้าของร้าน ‘SECRET LOVE’มาดมั่นว่าคนตรงหน้ามีธุระจะมาพูดคุย ไม่ใช่ต้องการมาหาซื้อดอกไม้และคิดว่าไม่พ้นในเรื่องของอาชา ซึ่งไม่นานก็ได้ยินประโยคจากอีกฝ่ายแถมยังเป็นไปตามคาดทุกอย่าง
“ฉันแค่มีเรื่องจะมาตกลงกับเธอ เรื่องของใหญ่” แขกผู้มาเยือนคงไม่พ้นอดีตภรรยาของคนตัวโต
จากนั้นข้าวหอมจึงผายมือเชิญดาราสาวเข้าไปด้านใน เรื่องนี้อาจต้องพูดคุยกันยาว ซึ่งไม่ว่าอย่างไรเธอจะไม่ยอมถอยแน่นอน
“ฉันอยากได้สามีคืน” พวงชมพูบอกด้วยน้ำเสียงหนักๆ สื่อถึงความต้องการ เธอนั้นก็เหมือนพวกมีเพชรอยู่กับมือแต่ดันไม่เห็นค่า ไปคว้าก้อนกรวดมาถือไว้ กว่าจะรู้ตัวก็สายเกินไป ‘ไม่สิ ไม่มีอะไรสายไปหรอก’ และเจ้าหล่อนคิดว่าจะทำให้อาชากลับมารักได้ไม่ยาก แต่มันก็ไม่ง่ายนักหรอก
“ถ้าอย่างนั้นคุณชมพูคงต้องไปบอกคุณใหญ่ เพราะข้าวช่วยอะไรไม่ได้” หนทางนี้คือทางตันแน่นอนสำหรับพวงชมพูถ้าจะมาร้องบอกให้ตนนั้นก้าวเท้าถอยหลัง จะมีแค่วิธีเดียวเท่านั้นที่ดาราสาวจะบรรลุเป้าหมายนั่นคือการกลับไปคืนดีกับสามี
จนใจดวงน้อยชาวาบขึ้นมา ใช่ว่าไม่กลัวในถ่านไฟเก่าของคนทั้งสอง ในเมื่อหญิงตรงหน้าก็เป็นคนที่อาชาเคยรัก ไม่เหมือนกับเธอ ที่แม้แต่ปรายตามองเขานั้นยังไม่อยากจะทำ
“ได้สิ ทำไมเธอจะช่วยไม่ได้ ระหว่างที่ฉันกำลังตามง้อสามีอยู่นั้น เธอก็ช่วยอยู่ห่างๆ ใหญ่ไว้ ทำได้ไหมล่ะ” เรื่องของอดีตสามีเธอเตรียมรับมือไว้แล้ว ถึงกระนั้นก็อยากจะให้หญิงตรงหน้าถอยออกห่างจากอาชาเพราะกลัวในความหวั่นไหวของความรู้สึก
“ข้าวคงรับปากไม่ได้ เพราะตอนนี้ข้าวอยู่ในฐานะภรรยาของคุณใหญ่ ถ้าจะไม่ให้ใกล้ชิดคนที่เป็นสามีเลยมันคงเป็นไปไม่ได้” หญิงสาวอธิบายตามความเป็นจริง
“ช่างพูดคำว่า สามี ได้อย่างเต็มปากนะเธอ ไม่รู้บ้างหรือไงว่าใหญ่ไม่ได้รักเธอเลยสักนิด” ดาราสาวย้ำเตือนความทรงจำ ไม่รู้ภรรยาใหม่ของอดีตสามีทำไมถึงแลดูสงบนิ่งนัก เจ้าหล่อนไม่โวยวาย หรือแม้จะร้องไห้ฟูมฟายก็ยังไม่มีให้เห็น แต่อย่างไรจะไม่มีทางล้มเลิก
“ข้อนั้นข้าวรู้ดีค่ะ แต่อย่างไรตอนนี้หน้าที่ภรรยาก็เป็นของข้าวแล้ว” ใจของข้าวหอมเย็นวาบเสมือนถูกแช่อยู่ในน้ำแข็ง คำว่า ‘ไม่รัก’ ช่างสะท้านสะเทือนในอกและเริ่มส่งผลให้ใจนั้นกลัดหนอง
คนฟังต้องกำมือแน่นพร้อมเริ่มรับรู้ว่า การออกศึกในครั้งนี้ของตนเองดูท่าจะเป็นงานยากเสียแล้ว
“จ้ะแม่ภรรยาคนใหม่ของสามีฉัน แต่อย่างไรเธอช่วยรู้ไว้ด้วยนะว่า ฉันกำลังจะทวงสามีคืน อีกอย่างอย่าคิดทำร้ายหรือรังแกลูกสาวของฉันเป็นอันขาด ไม่งั้นฉันเอาเธอตายแน่”
ถึงจะอยากคืนดีกับอาชาเพียงใด แต่คนที่พวงชมพูรักมากที่สุดคือจันทร์เจ้าและไม่มีทางดึงลูกสาวมาร่วมเกมมากเกินจำเป็น ไม่เคยคิดใช้ลูกให้เป็นเครื่องมือเกินกว่าเด็กตัวเล็กๆ คนหนึ่งจะรับได้ แต่อีกนัยหนึ่งที่ให้ลูกไปอยู่กับอาชาก็เพราะต้องการย้ำเตือนว่า คนที่ฝ่ายชายต้องรักและดูแลสมควรเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขมากกว่าภรรยาใหม่
ด้านข้าวหอมไม่มีทางทำร้ายจันทร์เจ้าอย่างแน่นอน เธอไม่ใช่พวกคนใจยักษ์ใจมาร ซึ่งมีความเอ็นดูมอบให้ ลูกของอาชาก็เป็นเสมือนลูกของเธอด้วยเช่นนั้นและไม่เคยคิดเข้าไปแทนที่พวงชมพู
ไม่นานนักรอยยิ้มน้อยๆ ต้องประดับบนกรอบหน้าอีกหนยามพวงชมพูขยับตัวลุกขึ้นแล้วเดินออกจากร้านไป ก่อนจะเห็นพริมรตาเดินเข้ามาแทน
ถือว่าเป็นโชคดีที่มีลูกน้องอย่างหญิงสาวร่างเล็กแสนบอบบาง แต่เชื่อไหมว่าพริมรตาเคยผ่านงานหนักๆ มาแล้วหลายอย่าง เนื่องด้วยชีวิตของเจ้าหล่อนต้องต่อสู้มาโดยตลอด ถึงแม้จะอาศัยอยู่ในคฤหาสน์หลังใหญ่โต แต่ก็เจียมเนื้อเจียมตัวอยู่ทุกเวลาว่าเป็นแค่ผู้อาศัย
ด้านพริมรตาต้องยกยิ้มอมขมไปให้คนเป็นนาย ซึ่งตัวของข้าวหอมนั้นเอ็นดูเธอไม่ต่างจากน้องสาว ก่อนแววตาจะจมดิ่งอยู่กับความเศร้า บางทีสิ่งที่กำลังแบกอยู่ก็เจียนจะทำให้ร่างน้อยล้มลงกับพื้น ถึงจะมีสายตาเอ็นดูจาก‘เพลิง’มอบให้เสมอ แต่ก็ยังทำให้รู้สึกเหน็บหนาวไปทั่วกาย
ความรักที่อยู่สูง ดอกหญ้าต้นเล็กๆ อย่างเธอคงไม่มีสิทธิ์เอื้อมมือไปคว้า และไม่มีวันที่รักนั้นจะเป็นจริง ในเมื่อเขาคนนั้นมีคู่ครองอยู่แล้ว ก่อนต้องสะบัดศีรษะแรงๆ ไล่ความฟุ้งซ่านแล้วหันกลับมาช่วยพี่สาวแสนใจดีจัดร้าน
การทำงานในแต่ละวันของข้าวหอมเป็นไปด้วยความสุข เนื่องด้วยเป็นสิ่งที่รัก แต่บางครั้งบางหนสีหน้ากลับเจือด้วยความขมขื่น เนื่องจากมีรอยแผลอยู่ในใจแต่เจ้าหล่อนไม่เคยปริปากบอกใครๆ ไม่นานหัวใจเต้นไวยามนึกถึงบุรุษตัวโตซึ่งชอบวางหน้าเรียบเฉย
ก่อนหน้าจะได้มาเป็นภรรยาของใหญ่ อาชา นักธุรกิจหนุ่มไฟแรง เธอรู้จักเขาจากการบอกเล่าของอารัญ ผู้มีพระคุณที่ยื่นมือเข้ามาช่วยลูกนกตัวน้อยๆ ซึ่งปีกหัก
ความเศร้าได้ถูกทอดผ่านเข้าแทรกซึมในหัวใจพร้อมเกิดความเห็นใจต่อคนที่เป็นสามีอย่างท่วมท้นและมันก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้หญิงสาวยินยอมตอบตกลงทำตามคำขอร้องของชายชรา พลันดึงสายตากลับมาสนใจเจ้าดอกไม้กลิ่นหอมตรงหน้า
กระนั้นหญิงสาวก็ถอนหายใจเฮือกโตออกมา เพราะไม่รู้ว่าเมื่อใดรอยแผลเป็นในใจของชายหนุ่มจะเจือจาง ในเมื่อพยายามยื่นมือไปรักษา อีกฝ่ายก็ปฏิเสธเรื่อยมาและเมื่อถึงเวลาปิดร้าน ข้าวหอมก็หันไปพยักหน้าบอกกับพริมรตา
คนทั้งสองใช้เวลาอยู่ประมาณหนึ่งชั่วโมงก็แยกย้ายกันกลับบ้าน สองเท้าเล็กของข้าวหอมก้าวไปยังท้องถนนกว้างที่ดูน่าอึดอัดไปถนัดตาเมื่อเทียบกับปริมาณรถยนต์
“คิดถึงพี่เต่าจัง” ถึงแม้เจ้ารถโฟล์คจะชอบเกเรบ่อยครั้งแต่ข้าวหอมก็ยังมีความผูกพัน ซึ่งวันนี้สาวเจ้าต้องใช้บริการรถแท็กซี่มิเตอร์เพื่อกลับบ้านพัก
ทว่าเมื่อกลับมาถึงก็พบกับอารัญมานั่งรออยู่ทำให้สาวเจ้ารีบเดินเข้าไปนั่งประจำตำแหน่งบนเก้าอี้ในห้องอาหารพร้อมก้มศีรษะลงอย่างลุแก่โทษที่ทำให้ผู้ใหญ่ต้องรอ โดยไม่วายดึงสายตามองอาชาซึ่งนั่งหน้านิ่งอยู่ฝั่งตรงข้าม ก่อนประดับยิ้มมอบให้แก่จันทร์เจ้า
ความเฉยชาที่ทอดผ่านสายตาของชายหนุ่มมาทำให้ข้าวหอมรู้สึกปวดหนึบในหัวใจ เขาทำราวเธอคืออากาศธาตุที่มองไม่เห็น
“ใหญ่ตักอาหารให้หนูข้าวบ้างสิลูก” กระทั่งอารัญเริ่มทนไม่ไหวต้องเอ่ยปาก หลังเห็นบุตรชายละเลยหน้าที่สามีที่ดี
ทว่าทุกอย่างยังคงเดิม อาชาไม่ให้ความสนใจหรือตักอาหารให้กับภรรยา คนตัวโตยังสนใจเพียงลูกสาว
“จะไม่สนใจเมียตัวเองเลยหรือไง อย่าใจดำ” อารัญเอ่ยปากอีกรอบพร้อมส่งสายตาตำหนิ ไม่คิดว่าหัวใจของอาชาจะถูกปิดผนึกแน่นหนาเท่านี้ แต่อย่างว่าสิ่งที่บุตรชายเจอมาก็หนักใช่ย่อย สองครั้งสองคราที่ถูกผู้หญิงที่รักทำร้าย ความศรัทธาในความรักจึงย่อมหมดลง