ตอนที่ 4 กำแพงทิฐิ

1080 คำ
ตอนที่ 4 กำแพงทิฐิ อาจเพราะวันนี้เป็นวันหยุดของข้าวหอม เธอจึงตื่นสายเป็นพิเศษ กว่าจะลงมาด้านล่างก็ร่วมสิบโมงเช้าเข้าไปแล้ว ทว่าเท้าต้องชะงักเมื่อสายตาไปสะดุดกับร่างน้อยซึ่งกำลังก้มหน้าก้มตาทำอะไรสักอย่างอยู่ “ทำอะไรอยู่คะหนูเจ้า” หญิงสาวสืบเท้าเข้าไปหาพร้อมส่งยิ้มเป็นมิตรไปให้ ถ้าหากเป็นอาชาเขาคงลุกเดินหนีไป ไม่มานั่งปั้นยิ้มหวานให้เช่นนี้หรอก นึกถึงแล้วเสียดสึกในอก ไม่รู้ว่าต่อให้เอาค้อนไปทุบเกราะที่ห่อหุ้มหัวใจดวงโตอยู่แล้วมันจะสามารถกะเทาะเปลือกออกได้หรือไม่ รึว่าจะแข็งจนเป็นหินไปแล้ว “วาดลูประบายซี” จันทร์เจ้าเอ่ยบอกพร้อมยกกระดาษที่ถูกระบายไว้ขึ้นอวด “ว้าวหนูเจ้าวาดรูปสวยจังค่ะ งั้นวาดรูปน้าข้าวให้มั่งสิคะ เดี๋ยวน้าข้าวทำคุกกี้ให้ทาน” เด็กตัวเล็กๆ ทำท่าขบคิด ก่อนพยักหน้า จากนั้นเจ้าของร่างบอบบางจึงหมุนตัวเข้าไปในห้องครัว แต่ถึงแม้จันทร์เจ้าจะปฏิเสธเธอก็ตั้งใจจะทำขนมให้อยู่แล้ว เมื่อเท้าเรียวเล็กย่างก้าวเข้าไปในห้องครัวก็มีรอยยิ้มเป็นมิตรส่งมาให้ ทุกคนภายในบ้านล้วนชื่นชอบเจ้านายคนใหม่ ในเมื่อข้าวหอมไม่เคยถือตัวแถมยังเป็นคนจิตใจดี อ่อนโยนแต่ก็มีความเข้มแข็งอยู่ในที “หนูเจ้าแพ้อะไรบ้างหรือเปล่าคะ ข้าวว่าจะทำคุกกี้ให้แกทาน” เจ้าของร่างเล็กเอ่ยปากถามหัวหน้าแม่บ้านซึ่งอาชาให้ความเคารพ “ไม่ค่ะ หนูเจ้ากินได้แทบทุกอย่าง” สายใจบอกเสียงเรียบ แล้วอมยิ้ม คราแรกนั้นกังวลเรื่องปัญหาแม่เลี้ยง ลูกเลี้ยง ระแวงไปว่าผู้หญิงคนใหม่ของนายจะทำให้บ้านหลังนี้ลุกเป็นไฟอีกหน ทว่าเมื่อลองได้รู้จักกลับกลายเป็นน้ำเย็นๆ มาชโลมไปทั่ว ทำให้ความมืดมนจางลงไปบ้าง หลังจากนั้นข้าวหอมได้ลงมือทำคุกกี้รสช็อกโกแลตให้กับลูกสาวของสามีไร้หัวใจ โดยฝ่ายชายก็ได้เดินลงมาจากห้องทำงาน “ทำอะไรอยู่คะลูก” น้ำเสียงของอาชาอ่อนลงมากยามพูดกับลูกสาวหัวแก้วหัวแหวน “วาดลูป” จันทร์เจ้าตอบบิดาเสียงใสพร้อมยิ้มจนเห็นฟันซี่ขาว เด็กเปรียบเสมือนผ้าขาวซึ่งอยู่ที่การสั่งสอนและเลี้ยงดูว่า ผ้าขาวผืนเล็กๆ นี้จะกลายไปเป็นผ้ากระดำกระด่างหรือไม่ ซึ่งเชื่อได้ว่าทั้งอาชาและพวงชมพูจะไม่ทำให้ลูกต้องกลายไปเป็นเช่นนั้น “หนูเจ้าวาดรูปใครอยู่คะ” พอเห็นภาพวาดของจันทร์เจ้าชายหนุ่มจึงเอ่ยถามด้วยความอยากรู้ ถึงแม้จะไม่ค่อยเป็นรูปเป็นร่าง กระนั้นเขาก็พอจะเดาออกว่า คงจะเป็นใครสักคนหนึ่ง “น้า...ข้าว” คำตอบของบุตรสาวทำเอาอาชาปั้นหน้าไม่ถูก “ออกไปนั่งที่สวนกันไหมคะ” พอมีโอกาสได้หยุดแถมอยู่กับลูกจึงอยากจะใช้เวลาด้วยกันให้มากที่สุด ซึ่งส่วนใหญ่นั้นจันทร์เจ้าจะอยู่กับพวงชมพู โดยชายหนุ่มไม่ได้คัดค้านอะไร เขาไว้ใจอดีตภรรยาในเรื่องนี้ บางมุมอีกฝ่ายอาจจะร้าย ทว่าในเรื่องของลูกกลับใจเย็นและไม่เคยทำให้ต้องหวาดระแวง ประมาณห้านาทีต่อมาชายหนุ่มก็โน้มตัวไปอุ้มลูก ก่อนพาออกไปนั่งเล่นยังสนามหญ้าหน้าบ้าน ซึ่งไม่ลืมหยิบสมุดภาพติดมือไปด้วย รวมถึงเสื่อเอาไว้ปูนั่ง ด้านหญิงสาวที่กำลังขะมักเขม้นทำคุกกี้อยู่นั้นคงไม่รู้ว่า จะมีบางอย่างทำให้เจ้าหล่อนต้องเดินถอยออกมา เพราะกำลังมีคนคนหนึ่งเดินยิ้มกว้างเข้าไปหาคู่พ่อลูก “หนูเจ้า” “แม่” เสียงอันคุ้นเคยทำให้จันทร์เจ้าหันไปมองแล้วรีบลุกพรวดวิ่งไปหา แสดงอาการดีใจเป็นอย่างมาก ส่วนพ่อคนตัวโตยังนิ่งเฉยและไม่ได้รู้สึกอะไรทั้งสิ้น “ช่วงเช้าชมพูไม่มีคิวงานเลยแวะมาหาลูก” คนที่ปรากฏตัวขึ้นไม่ใช่คนอื่นไกล อดีตภรรยาของอาชานั่นเอง และพวงชมพูก็อุ้มลูกไปทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ สามี ด้านคนฟังนั้นทำเพียงพยักหน้าก่อนมุ่งความสนใจไปอยู่ที่จันทร์เจ้า ซึ่งคนทั้งสองพยายามจะไม่แสดงถึงรอยร้าวต่อหน้าแม่ตัวเล็ก ทั้งอาชาและพวงชมพูทำหน้าที่พ่อกับแม่ได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง มีแค่บางหนที่สายตาของดาราสาวตวัดค้อนอดีตสามี เพราะยามนี้อีกฝ่ายเฉยชาต่อหล่อนเหลือเกิน หัวใจของพวงชมพูเริ่มอึดอัดและถูกรุมเร้าด้วยความรู้สึกกลัว เธออยากจะกลับไปเป็นภรรยาของอาชา แต่มันไม่ง่ายนัก พลางช้อนสายตาไปมองบุตรสาวแล้วมีกำลังใจขึ้นมามากโข เพราะเชื่อว่าลูกจะเชื่อมสายรักให้ถักทอขึ้นมาอีกรอบ ส่วนภรรยาใหม่ของพ่อคนไร้หัวใจเดินถือจานใส่คุกกี้ออกมาจากห้องครัว หัวคิ้วขมวดมุ่นยามไม่พบกับคนที่ต้องการ พลางต้องหันไปถามหัวหน้าแม่บ้าน “หนูเจ้าไปไหนแล้วล่ะคะ” “ออกไปนั่งเล่นกับคุณใหญ่ค่ะ” สายใจบอกแล้วทำสีหน้าไม่สู้ดี ข้าวหอมไม่ทันสังเกตเห็นเพราะเท้าก้าวเดินออกไปเสียก่อนพร้อมรอยยิ้ม ไม่รู้ว่าจันทร์เจ้าจะชอบกินหรือเปล่า กระนั้นแค่สองนาทีถัดมาใบหน้าก็แสดงถึงความเศร้าเล็กๆ รู้สึกโหวงหวิวในใจ ชั่วพริบตาต่อมาข้าวหอมคลี่ยิ้มมีความสุขกับภาพที่เห็น เธอแค่รู้สึกอิจฉาเท่านั้นเนื่องด้วยเคยวาดฝันอยากจะได้ครอบครัวที่อบอุ่น แต่ความเป็นจริงก็โหดร้ายไม่น้อย “ป้าสายใจช่วยเอาคุกกี้ไปให้หนูเจ้าหน่อยนะคะ” หญิงสาวได้ถอยเท้ากลับเข้าบ้านแล้วไหว้วานคนที่ดูแลทุกอย่าง “ทำไมคุณข้าวไม่ไปเองล่ะคะ ไม่ต้องไปกลัวคุณชมพูหรอกนะคะ” สายใจส่ายหน้าไปมาเพราะไม่เห็นด้วย “ข้าวไม่ได้กลัวค่ะ แต่ข้าวอยากให้หนูเจ้ามีความสุข คงไม่ง่ายนักหรอกค่ะกับการที่พ่อแม่แยกทางกันแล้วจะกลับมานั่งอยู่ด้วยกันแบบนี้”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม