ตอนที่ 5 ด้วยหัวใจไม่พร้อมจะเริ่มต้นใหม่02

1223 คำ
ไม่อยากให้ลูกชายมองลูกสะใภ้ในทางไม่ดีพลางลอบถอนหายใจ เมื่อไรกันหัวใจที่ถูกปิดตายจะเปิดอ้าออก ทำไมต้องมัวแต่จมปลักกับอดีตที่ไม่น่าจดจำ ในครั้นที่อาชาแต่งงานกับพวงชมพูก็หลงคิดไปว่า ทุกอย่างจะดีขึ้น ทว่าสุดท้ายแล้วกลับดำดิ่งลงเหว ยิ่งฉุดรั้งลูกชายให้จมอยู่ในเงามืด ส่วนอาชานิ่งเงียบไปเพราะเดาออกจากท่าทางของบิดา และรู้ว่าท่านนั้นค่อนข้างรักลูกสะใภ้คนนี้ แต่หัวใจของเขาบรรจุด้วยตะปูแห่งความหลังไว้จำนวนมากทำให้ไม่มีพื้นที่พอจะลำเลียงความรักเข้ามาอีก จวบจนเสียงของอารัญดังขึ้นอีกรอบ “ใหญ่เราไปเที่ยวกันไหม พ่ออยากพัก” เขาอยากหลีกหนีจากความเครียด หลบไปพักใจสักสองสามวัน อีกนัยหนึ่งอยากดึงบุตรชายให้ออกห่างจากปีศาจร้าย “ได้สิครับ ถ้าพ่ออยากไป” เขาไม่เคยคิดขัดถ้าเป็นความต้องการของบิดา อีกอย่างท่านแก่ตัวลงมากแล้วจึงอยากจะให้ได้มีความสุข รอยแผลในอดีตก็โหดร้ายไม่ต่างกัน เขารู้ว่าบิดานั้นยังเฝ้าเสียใจพร้อมโทษตนเองเสมอมาว่าเป็นส่วนหนึ่งทำให้เกิดเรื่องร้าย “พาหลานไปด้วยนะ พ่ออยากเจอ” ถึงแม้ชีวิตคู่ของพวงชมพูและอาชาจะจบลง แต่ความรักที่มีให้จันทร์เจ้ายังคงเดิมเสมอและจะยิ่งดีถ้าอาชายอมมีลูกกับลูกสะใภ้ที่ตนหาให้ “คงจะไม่ได้ครับ เพราะชมพูพาหนูเจ้าบินไปอังกฤษด้วย เธอไปถ่ายละคร” อาชาอธิบาย ซึ่งสร้างความสงสัยแก่คนฟัง “ปกติพวงชมพูไม่เคยพาหนูเจ้าไป” “ก็เพราะผู้หญิงคนนั้นตามไปรังควานนะสิครับ พยายามจะขอเจอหนูเจ้า ชมพูเลยกลัวไม่กล้าทิ้งให้อยู่กับพี่เลี้ยง” “มันจะมากไปแล้ว ไม่รู้กลับมาต้องการอะไร” ใจเดือดดาลขึ้นมาอีกเป็นกองพลันตบมือลงบนโซฟาอย่างแรง ไม่รู้และไม่เข้าใจอดีตภรรยาเลยสักนิด กลับมาเพื่อเอาชนะตนใช่ไหม ไม่เห็นบ้างหรือว่ามีหลายคนต้องเจ็บ โดยเฉพาะเลือดในอก “ถ้าใหญ่ไม่ไหว บอกพ่อนะ พ่อจะหาทางจัดการเอง” “อย่าไปยุ่งกับคนแบบนั้นเลยครับ ผมไม่อยากข้องแวะด้วยอีกแล้ว” อาชาพยายามจะหลีกเลี่ยง เขารู้ดีว่าถ้าเดินตามเกมของอีกฝ่ายผลจะออกมาอย่างไร หัวใจที่ด้านชาอาจจะลุกเป็นไฟได้โดยง่ายเพราะเพียงกลับมาเผชิญหน้ากันตนนั้นยังแทบคุมสติไว้ไม่อยู่ อารัญพยักหน้า โดยหวังใจว่าทุกอย่างจะไม่เลวร้ายเหมือนในอดีตพลางเอ่ยบอก “พาหนูข้าวไปด้วยนะ ไปกันสุดสัปดาห์นี้เลย” อยากไปเที่ยวเสียบ้างอาจจะทำให้จิตใจแข็งแรงขึ้นเนื่องด้วยคงยังต้องลงสนามศึกต่อสู้กับอดีตภรรยาไปอีกนาน ฝ่ายอาชาพยักหน้า ภายในอกกรุ่นร้อนเพราะไฟแค้นที่ลามเลีย แม้พยายามจะดับมันกลับไม่เป็นผล ในเมื่อคนจุดเชื้อไฟพยายามจะเติมมันลงมาอีก เขาไม่อาจรู้เลยว่าในอนาคตจะเจอกับอะไร แต่จะพยายามปกป้องทุกคนให้ดีเนื่องจากเชื่อว่าผู้หญิงคนนั้นทำได้ทุกอย่างถ้าต้องการ ด้านอารัญเมื่อพูดคุยธุระเสร็จก็เดินทางกลับไปยังบ้านพัก กระนั้นไม่ลืมสั่งกำชับลูกน้องให้คอยตามดูแลบุตรชายและลูกสะใภ้ เพราะทั้งสองคนน่าจะเป็นเป้าหมายสำคัญของอารดา ----------------- ตกเย็น...เจ้าของร่างแกร่งซึ่งกลับมาถึงบ้านได้กวาดสายตามองหาคนที่ต้องการทันที แม้ใจยังไม่อยากพบเจอ ทว่ามีเรื่องต้องพูดคุยด้วย ซึ่งภายในทรวงนั้นยังแข็งกระด้างและมีเกราะคุ้มกันอย่างดี จะไม่มีวันยินยอมให้เจ้าหล่อนหลุดเล็ดลอดเข้าไปภายในแน่นอน นัยน์ตาโศกคู่นั้นมีผลให้อกสะท้าน แค่เลือกจะมองข้าม พยายามจะไม่ใส่ใจกลัวว่าจะพ่ายแพ้ต่อฤทธิ์ความพยายามที่อีกฝ่ายมี กระทั่งเท้าต้องสืบขึ้นไปด้านบนตรงเข้าห้องนอนของภรรยาซึ่งเขาไม่ต้องการ พลันยกมือขึ้นเคาะประตู ก๊อก ก๊อก “คุณใหญ่” ส่วนเจ้าของห้องออกอาการตกใจไม่น้อย เมื่อประตูถูกแง้มออกแล้วพบกับผู้ชายไร้หัวใจ โครงหน้านั้นราบเรียบ ไม่บ่งบอกความรู้สึกและสังเกตเห็นความหมางเมินในแววตาที่ฉายออกมาอย่างชัดเจน เมื่อไหร่กันเขาจะเลิกใจแข็งเสียที “เก็บกระเป๋าเตรียมไว้ด้วย ฉันกับคุณพ่อจะไปเที่ยวพักผ่อนกันสุดสัปดาห์นี้” น้ำเสียงนั้นทุ้มต่ำไม่อ่อนนุ่ม สำแดงชัดถึงความห่างเหิน ซึ่งภายในใจยังขุ่นมัวกับรอยแผลเป็นในอดีตที่ผู้หญิงตรงหน้าสะกิดให้บาดแผลปริออก พลางหมุนตัวหมายจะเดินไปยังห้องของตนเองเมื่อหมดธุระ “คุณใหญ่คะ” ทว่าเสียงใสซึ่งดังขึ้นกับมือเรียวเล็กที่จับยังข้อมือทำให้ต้องหันมองด้วยนัยน์ตากระด้าง “ปล่อย” น้ำเสียงแสดงชัดถึงความต้องการ พลางสะบัดมือออกยามข้าวหอมส่งสายตาอ้อนวอน เขาไม่ต้องการฟังถ้อยคำอะไรทั้งนั้น “ข้าวไม่ได้รังเกียจแผลที่หลังของคุณ ไม่เคยมีความคิดแบบนั้น” หญิงสาวอธิบายและหวังว่าชายหนุ่มจะเข้าใจ ไม่ใช่เอาแต่ทิฐิ ซึ่งแน่นอนว่าเธอต้องพยายามไม่รู้กี่ครั้ง ต้องหาหนทางพิชิตใจดวงโตและเยียวยาให้ดีขึ้น เพียงแต่ไม่ว่ากี่หนก็ล้มเหลว “ฉันไม่มีทางเชื่อเธอหรอก” “แต่ข้าวพูดความจริง” ทรวงถึงกับสั่นไหวเมื่อพบกับสายตาคมกริบที่มองมาอย่างดูถูก ความเจ็บแผ่ซ่านไปทั่วทุกอณูความรู้สึก ยามใดกันหัวใจด้านชาจะกลับมาเต้นไวและอบอุ่น เมื่อตอนนี้มันคงเย็นยะเยียบราวกับอยู่ขั้วโลกเหนือ ส่วนอาชากระตุกยิ้มแล้วทำบางสิ่ง ชายหนุ่มยกมือขึ้นปลดกระดุมเสื้อแล้วถอดมันออกเผยให้เห็นแผ่นหลังที่มีรอยแผลของความโหดร้าย ก่อนพลิกตัวให้ข้าวหอมได้เห็นอย่างชัดเจน “ดูสิมันคงน่าเกลียด น่าขยะแขยงสำหรับเธอมาก อย่าพยายามฝืนทำเป็นไม่คิดอะไรเลยข้าวหอม ขนาดพวงชมพูยังแทบไม่เคยแตะมัน” อาจเพราะรอยแผลถูกซ้ำเติมเข้ามาจากผู้หญิงที่รักมากอีกคน แม้มีรักด้วยกันกลับไม่สามารถกลบรอยอดีตได้ “แต่ข้าวไม่ใช่คุณชมพู” ข้าวหอมสวนกลับไปทันที หัวใจของเธอแข็งแกร่งพอที่จะมองข้ามสิ่งเหล่านี้ แต่กลับมีถ้อยคำย้อนมาฉับไวเช่นกันทำให้จุกเจ็บไปทั่วทั้งอก “เก็บคำหลอกลวงของเธอไว้เถอะข้าวหอม ถึงถ้อยคำของเธอจะสวยหรูขนาดไหนฉันก็ไม่มีทางหลงกล หัวใจของฉันมันถูกปิดตายไปแล้ว” เขาย้ำเตือนกับเจ้าหล่อนอีกรอบ ไม่อยากให้ทุ่มใจเพราะคนที่เจ็บจะไม่ใช่เขาแน่พลางหมุนตัวเดินหนีไปทันที ปล่อยให้หญิงสาวยืนทอดสายตามองอย่างเศร้าๆ “แต่ข้าวจะเป็นคนเปิดมันเอง”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม