ข้าวหอมพึมพำเบาๆ หัวใจยังฮึดสู้เพราะลึกๆ เชื่อว่ารอยแผลของชายหนุ่มยังพอจะเยียวยาได้ แต่คงจะยากเสียหน่อยเมื่ออีกฝ่ายเอาแต่ปิดกั้น แถมยังพาตัวเองจมลงไปในเหวลึกแห่งความทรงจำอันเจ็บปวด
-----------------
เสี้ยวหน้าหวานของข้าวหอมมีความสงสัยปรากฏชัดเมื่อเช้าวันใหม่มาถึง เมื่อเดินทางมายังร้านดอกไม้แล้วไม่พบกับพริมรตา ลูกน้องที่ไว้ใจ ปกติอีกฝ่ายค่อนข้างเป็นคนตรงต่อเวลาและทำงานดี ขยันขันแข็ง พลางไขกุญแจเข้าไปภายใน
หญิงสาวเตรียมจัดร้านและดอกไม้ตามที่ลูกค้าประจำได้สั่งไว้พร้อมปรายตามองไปรอบๆ นี่คือหนึ่งความภูมิใจของเธอ แม้จะเป็นร้านเล็กๆ แต่ก็มาจากน้ำพักน้ำแรง ร่วมกับความช่วยเหลือของอารัญ
มือเล็กหยิบดอกไม้ขึ้นมาจัดเรียง สิ่งเหล่านี้ช่วยบรรเทาหลุมดำภายในจิตใจให้เบาบางไปได้ แต่ไม่อาจลบล้างให้หมดเนื่องด้วยยังติดตราตรึงอยู่ในห้วงความทรงจำไม่ว่าจะยามหลับหรือยามตื่น เพียงข้าวหอมจะไม่นำมันมาเป็นตัวดึงให้จมลึกไปในเหว
กระทั่งดวงหน้าหันมองตามเสียงอันคุ้นเคยที่ดังขึ้น
“พริมขอโทษนะพี่ข้าวที่มาสาย”
พริมรตาพนมมือขึ้นไหว้และไม่ได้ตั้งใจจะมาทำงานช้า พลางก้มหน้าลงหลบซ่อนความช้ำของนัยน์ตาซึ่งแดงก่ำไปหมดจากฤทธิ์ของน้ำตา เรื่องบางเรื่องยากนักจะอธิบายออกไปเพราะเธอกำลังตกเป็นจำเลย
“ไม่เป็นไรจ้ะ แต่เราเป็นอะไรหรือเปล่าทำไมตาแดงๆ” ข้าวหอมสังเกตเห็นความผิดปกติ เรียวปากสวยจึงเอ่ยถามด้วยความห่วงใย
“พริมไม่เป็นอะไรค่ะ” คนกำลังตกอยู่ในภวังค์แห่งความเศร้าส่ายหน้าโป้ปด ทั้งที่น้ำเสียงนั้นสั่นเครือ ไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะเจอกับเหตุการณ์เช่นนี้ ไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใครเมื่ออกกว้างซึ่งเคยปกป้องบัดนี้กลับผลักไสจึงรู้สึกเคว้งไม่น้อย
“มีอะไรบอกพี่ได้นะ” เธอพร้อมจะเป็นที่พึ่งเสมอหากพริมรตาต้องการ ส่วนคนเศร้าที่กำลังจะกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่พยักหน้า สองเท้าก้าวเดินไปด้านหลังร้านทันทีเพราะอยากจะปลดปล่อยน้ำตาให้รินไหล หัวใจที่ถูกเชือดมาแผลยังหมาดๆ
สองมือยกขึ้นมาปิดหน้าเพื่อลดเสียงสะอึกสะอื้น หัวใจราวถูกบีบ มวลอากาศรอบตัวลดน้อยลงในทันทีและไม่ว่าพยายามเอื้อนเอ่ยอย่างไรก็ไม่มีผลตอบกลับ เมื่อจำเลยอย่างเธอไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะอธิบายเพราะโจทก์นั้นไม่ยอมรับฟัง แถมยังเชื่อฝังใจ
ร่างบอบบางโยกไหวไปมาเล็กน้อย จากที่เคยเข้มแข็งกลายเป็นอ่อนแอโดยง่ายและยังเหมือนลูกนกที่ปีกหัก ไม่รู้เลยว่าบุรุษที่จ้องจะหักปีกน้อยๆ อีกนั้นกำลังก้าวเดินเข้ามาในร้าน
“ต้องการดอกไม้แบบไหนคะ”
ข้าวหอมรีบประดับยิ้มให้ลูกค้าพร้อมกวาดสายตามองเล็กน้อย เนื่องชายตรงหน้ารูปร่างสูงใหญ่ ผิวแทน ใบหน้าหล่อเหลา แค่ดูจะดุไปหน่อยเท่านั้น
“กุหลาบสีขาว” ชายที่มายืนหยุดเท้าพิจารณาดอกไม้สีขาวบอกเจตจำนง ใบหน้าเก็บซ่อนอารมณ์คุกรุ่นไว้ภายใน ถึงเวลาชำระความเมื่อใดจะปล่อยออกมาเป็นพลังทำลายล้างและนึกเจ็บแค้นกับความไว้เนื้อเชื่อใจซึ่งเคยมีให้
“แล้วต้องการให้จัดแบบไหนคะ”
รายละเอียดถูกบอกผ่านริมฝีปากไปอย่างลวกๆ ราวกับไม่ได้สนใจนักทำให้เจ้าของร้านดอกไม้มองอย่างประหลาดใจ
บุรุษคนนั้นหมุนตัวเดินไปนั่งลงยังโซฟาพร้อมหยิบหนังสือพิมพ์ฉบับของเช้าวันนี้ขึ้นมาพิจารณา ซึ่งเฝ้ารอเวลาจะลงทัณฑ์เหยื่อที่มีพิษสงไม่น้อย ส่วนข้าวหอมรีบจัดแจงตามความต้องการของลูกค้า สายตาแอบมองอยู่ชั่วนาทีเพราะยังไม่อาจคลายความสงสัย
กุหลาบสีขาวถูกหยิบออกมาเพื่อจัดเข้าช่อ ข้าวหอมเลือกใช้ริบบิ้นสีชมพูและเธอมีความสุขทุกครั้งที่ได้ทำในสิ่งที่รัก จนสายตาต้องเสไปมองตามเสียงซึ่งดังขึ้น
“มีลูกค้ามาสั่งดอกไม้หรือคะพี่ข้าว เดี๋ยวพริมช่วยค่ะ” พริมรตาก้าวเท้าออกจากหลังร้าน ใบหน้าไร้คราบน้ำตา แม้ยังพบร่องรอยความหมองหม่นพร้อมยื่นมือเข้ามาช่วยคนเป็นนายทันที
ไม่นานเท่าไรดอกกุหลาบช่อใหญ่ก็ถูกเนรมิตออกมาอย่างสวยงาม น่าจะถูกใจผู้รับทำให้พริมรตาแอบอิจฉาสาวรายนี้เหลือเกิน พลางหันไปมองลูกค้าที่นั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ และจากการที่อีกฝ่ายยกมันขึ้นมาปิดหน้าทำให้รู้เพียงแค่ชายผู้นั้นรูปร่างสูงใหญ่พลันก้าวเท้าเข้าไปหา
“เสร็จแล้วค่ะ”
มือน้อยยื่นดอกไม้ไปให้กับลูกค้า คิดว่าเขาน่าจะชอบพร้อมรอยยิ้มถูกประดับอย่างเป็นมิตร หารู้ไม่ว่าแค่วินาทีเดียวเท่านั้นเจ้าตัวจะราวกับถูกผลักให้ตกลงไปในเหวลึก ไม่มีใครสามารถช่วยได้เพราะคนตรงหน้ามีอำนาจเหนือกว่าหลายขุม
เมื่อเสียงใสมาดังอยู่ใกล้ รอยยิ้มมาดร้ายปรากฏขึ้นอย่างชัดเจนพร้อมกับลดระดับหนังสือพิมพ์ลง ก่อนลำตัวจะยันขึ้น ในทันใดนั้นหัวใจของพริมรตาได้ร่วงหล่นไปอยู่บนพื้น มือไม้สั่นแทบจะทำให้ช่อดอกกุหลาบร่วงหล่นตาม
“คุณเพลิง”
เธอไม่คิดว่าจะพบเขาที่นี่
“จำชื่อฉันเสียขึ้นใจเชียวนะพริมรตา” บุรุษที่ชื่อเพลิงเหยียดปากมอง นัยน์ตากร้าวกระด้างขึ้นและราวมีกองไฟมาสุมอยู่ มือยื่นออกไปรับช่อดอกไม้
“คะ...คุณเพลิงมาที่นี่ต้องการอะไรคะ”
นัยน์ตาที่เพิ่งจะผ่านการเสียน้ำตามาหยกๆ ส่งไปยังโครงหน้าคมคาย แม้รับรู้อยู่ว่าชีวิตของตนจะไม่มีวันสงบสุขเหมือนเดิม แถมยังไม่มีวันได้ความอบอุ่นจากชายผู้นี้กลับมา ต่อไปคงจะมีแต่ความเกลียดชังสาดเข้าใส่
“ฉันจะออกไปรอด้านนอก” เพลิงบอกความต้องการของตนเอง
“แต่พริมทำงานอยู่” เธอบอกเสียงสั่น
“เลือกเอาระหว่างออกไปกับฉันหรือว่าให้ฉันสั่งลูกน้องพังร้านนี้ซะ” เพลิงไม่ได้ขู่พร้อมจะทำจริงเสมอ ยิ่งเป็นคนที่ทำให้เขาเจ็บด้วยแล้วยิ่งไม่มีความปรานี โดยเฉพาะผู้หญิงหน้าซื่อใจคด
“อย่านะคะ”
พริมรตาส่ายหน้าเร็วไวพลางส่งสายตาอ้อนวอน น้ำตานั้นเริ่มจะรื้นขึ้นมาอีกรอบ ทำไมเธอต้องมาเจอกับเหตุการณ์แบบนี้ด้วย ไยความอบอุ่นที่เคยมีต้องถูกกระชากออกไปด้วยฝีมือเธอคนนั้น คนที่พริมรตาแสนจะเชื่อใจ
คนฟังกระตุกยิ้มร้าย คนตรงหน้าไม่ต่างจากลูกไก่ในกำมือ โดยในตอนนี้จะบีบให้แหลกสลาย เอาให้สาสมกับการที่เขาต้องสูญเสียพลางยื่นธนบัตรไปให้เป็นค่าดอกไม้ช่อโต เพียงแค่จุดประสงค์ของเพลิงอยู่ที่เจ้าของนัยน์ตาโศก
พริมรตาพยายามจ้องมองลึกเข้าไปในแววตาคู่กระด้าง เธอจะไม่มีวันได้ ‘คุณเพลิง’ ผู้ชายที่อบอุ่นกลับคืนมาแล้วใช่ไหม
“ฉันจะไปรอด้านนอก” เพลิงบอกอีกรอบแล้วส่งสายตาสะใจไปให้ ไม่ได้สนใจในความรู้สึกของร่างอรชรเลยสักนิด เมื่อเจ้าหล่อนทำให้เขาเจ็บ ผลที่ตอบแทนกลับไปจะทบทวีจนแทบกระอักเลือด ยิ่งนึกถึงใจยิ่งคิดแค้น ไม่คิดว่าตนเองจะมาพลาดท่าเสียทีให้เด็กคนนี้
“คนใจร้าย”