ตอนที่ 4 กำแพงทิฐิ03

741 คำ
“ที่นี่ไม่มีใครต้อนรับ กลับไปซะ” น้ำเสียงและถ้อยคำบ่งบอกได้ว่าเจ้าของบ้านไม่ต้อนรับแขกซึ่งไม่ได้รับเชิญ สีหน้าก็แสดงชัดเจน โดยเจ้าตัวไม่รู้เลยว่าอีกฝ่ายจะกลับมาทำไม ในเมื่อหายไปได้ตั้งนานจนแผลของเขาเริ่มสมานกัน ทว่าในตอนนี้มันกลับฉีกขาดอีกรอบ “ของขวัญถูกใจไหมใหญ่” ถ้อยคำและน้ำเสียงนั้นดูเหมือนไม่แคร์ในวาจาของเจ้าของบ้านเลยสักนิด แถมยังปั้นยิ้มกว้างๆ ส่งไปให้ราวไม่รู้สึกรู้สากับท่าทางรังเกียจ “ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันคืออะไร เพราะผมวางมันไว้ในถังขยะ เป็นที่ที่เหมาะกับมันดี” วาจานั้นช่างกระแทกใจเสียจริง อาชานอกจากไม่สนแล้วยังไม่คิดจะเปิดดู เพราะไม่ว่าจะเป็นอะไร มันก็คือสิ่งน่าขยะแขยงสำหรับเขาพลางกระตุกยิ้มสื่อให้รู้ว่า มันไม่มีความสำคัญ “ใหญ่” อารดาแผดเสียงกร้าวทันที ไม่คิดว่าลูกชายจะร้ายไม่เบาทำให้อารมณ์เริ่มคุกรุ่นขึ้นมา โดยเสียงนั้นทำให้จันทร์เจ้าเกิดอาการหวาดกลัว “พ่อใหญ่” เด็กตัวเล็กๆ ถึงกับเรียกร้องหาพ่อทันทีเพราะต้องการอ้อมกอดคอยปกป้อง ขณะพวงชมพูเองจับมือลูกสาวไว้แน่น วันนี้ได้มีโอกาสเจอปีศาจร้ายในความทรงจำของอดีตสามีทำให้รู้ว่า อีกฝ่ายช่างน่ากลัวไม่ต่างคำปรามาสของชายหนุ่ม สายตาเรียวแหลมถึงกับปราดมองตามเสียงเรียกนั้น ไม่นานประดับยิ้มเต็มกรอบหน้า หน้าตาช่างเหมือนลูกของตนยิ่งนัก ก่อนจะนั่งยองๆ ลงราวต้องการจะสื่อสารกับจันทร์เจ้า “ลูกของใหญ่น่ารักดี” เพียงแค่เสียงเอ่ยออกมา คนเป็นแม่อย่างพวงชมพูรีบคว้าบุตรสาวเข้ามากอด ส่วนข้าวหอมซึ่งเร่งฝีเท้าเดินเข้าไปหาหยุดเท้าลงเคียงข้างอาชา หัวใจของเจ้าหล่อนพรั่นพรึงทุกหนเมื่อต้องพบหน้าผู้หญิงใจร้าย กระนั้นแล้วอารดากลับไม่ได้สนใจ หล่อนกวักมือเรียกหลานสาว เพียงแต่น้ำเสียงนั้นไม่ได้นุ่มนวล ออกไปในทางสั่ง “เดินเข้ามาหายายสิลูก” “ชมพูพาลูกกลับบ้านก่อนดีกว่า” ส่วนดาราสาวเมื่อเห็นว่าสถานการณ์เริ่มคุกรุ่นมากขึ้นจึงอยากนำพาบุตรสาวออกห่าง พลางหันไปบอกกับอดีตสามี ด้านอาชานั้นเห็นด้วยจึงพยักหน้า ทว่าอารดาก็พยักหน้าให้ลูกน้องเดินเข้ามาขวาง “อย่ามายุ่งกับลูกของผม” ชายหนุ่มคำรามกึกก้อง มีท่าทางปกป้องลูกสาวเป็นอย่างมาก ในเมื่อบุคคลตรงหน้าช่างอันตรายนัก จิตใจถูกปีศาจร้ายครอบงำ ก่อนเนื้อตัวจะเริ่มสั่นเพราะทำให้เขานึกถึงอดีตอันโหดร้าย อารดาเหยียดปากออกแล้วปรายตามองบุตรชาย ก่อนส่งสายตาให้ลูกน้องถอย เจ้าหล่อนก็แค่อยากจะแสดงถึงอำนาจที่มีราวต้องการให้อาชาหยุดต่อต้าน พวงชมพูรีบพาจันทร์เจ้าตรงไปขึ้นรถ โดยมีคนของอาชาตามไปส่งด้วย จากนั้นอารดาจึงหันมาสนใจเป้าหมายใหม่ “แล้วเธอสบายดีไหมข้าวหอม” “ข้าวสบายดีค่ะคุณหญิง” หญิงสาวตอบรับด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ แอบซ่อนความกลัวเอาไว้ในอกพร้อมนึกห่วงอาชาไม่น้อย “ทำไมเธอไม่เรียกฉันว่าแม่” อารดาตวาดเสียงหนัก นัยน์ตาฉาดฉายถึงความโกรธ เพราะไม่ชอบให้ใครมาขัดคำสั่ง “ก็เพราะคุณไม่ใช่แม่ของผม” เสียงทุ้มต่ำเค้นลอดไรฟัน อาชาหวังว่ามันจะทำให้ผู้หญิงใจมารเข้าใจและยอมล่าถอย “ใหญ่อย่าใจร้ายกับแม่นักสิลูก” คำที่ปลิวกระทบหูทำให้อารดาปราดตัวเข้าไปแตะต้นแขนของลูกชาย ต้องการให้อาชาเห็นใจตนบ้าง ทั้งที่การกระทำของเจ้าตัวไม่ได้สื่อถึงความรักกลับบ่งบอกถึงการอยากจะเอาชนะมากกว่าทำเอาชายหนุ่มสะดุ้งตัวพลางถอยเท้าออกห่าง ฝั่งข้าวหอมรีบขยับตัวไปยืนข้างอาชาแล้วคว้ามือแกร่งมากุมเพราะสังเกตเห็นรอยเศร้าในแววตาคม ถึงสีหน้านั้นจะพยายามแอบซ่อนมันไว้ลึกสุดหัวใจ แต่ความห่วงใยเล็กๆ กลับถูกปัดทิ้งจนแทบตกขอบเมื่อคนตัวโตไม่ต้องการ แถมปัดมือนุ่มออก “พาผู้หญิงคนนี้ออกไปจากบ้านของฉัน”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม