หลังจากอาชาเดินหนีออกจากห้องทำงานเขาก็ขลุกตัวอยู่แต่ในห้องนอนทำให้ข้าวหอมแสนจะเป็นห่วง ไม่รู้ว่าจิตใจของเขาจะเป็นเช่นใดบ้าง ในเมื่อต้องกลับมาเผชิญหน้ากับความทรงจำซึ่งเจ็บปวดราวกับย้อนไปในเหตุการณ์วันนั้น ถึงเธอจะไม่ใช่คนที่ร่วมผ่านความทุกข์นั้นมาก็รู้สึกเจ็บปวดไปด้วย
ชั่วอึดใจเจ้าของร่างบอบบางทนกับความเป็นห่วงไม่ไหวจึงขยับตัวออกจากห้องนอนแล้วเดินลงไปยังชั้นล่างเพื่อทำบางอย่าง
ก๊อก ก๊อก!
มือเรียวเล็กเคาะประตูเพื่อขออนุญาตเจ้าของห้อง ทว่ากลับมีแต่ความเงียบเชียบตอบกลับมา หญิงสาวจึงถือวิสาสะหมุนลูกบิดเข้าไป แต่เพียงแค่ก้าวแรกเท่านั้นกลับโดนตวาดดังกึกก้อง
“เข้ามาทำไม ฉันไม่ได้ต้องการเธอ” นัยน์ตาของอาชากร้าวกระด้าง ถึงอย่างนั้นกลับปรากฏความเศร้าอยู่พร้อมขยับตัวลุกขึ้นจากเตียงตรงไปหา
“ข้าวเป็นห่วง เห็นคุณใหญ่ยังไม่ได้กินอะไรเลย ข้าวเลยเอานมมาให้ค่ะ” หญิงสาวต้องสูดลมหายใจเข้าปอดรวบรวมความกล้าพร้อมทั้งก้าวเท้าเข้าไปภายใน ก่อนนำนมอุ่นๆ ซึ่งอยู่ในแก้วไปวางไว้บนโต๊ะเล็กๆ จากนั้นพลิกตัวกลับไปจดจ้องโครงหน้าของชายที่มีแต่ความเย็นชามอบให้
“เอาออกไป”
อาชาบอกเสียงหนักรู้สึกเหมือนหญิงสาวกำลังท้าทายอำนาจของเขา
“แต่คุณใหญ่ยังไม่ได้กินอะไรเลยนะคะ เดี๋ยวจะเป็นโรคกระเพาะเอาได้” คนฟังถอนหายใจ อย่างไรนั้นไม่ถอยหลังหนีกลับขยับเท้าไปเผชิญหน้า
“ห่วงฉันเหรอ เก็บความห่วงใยของเธอไปซะ เพราะฉันไม่ได้ต้องการแถมยังจะขยี้มันให้จมดิน” วาจาเผ็ดร้อนนั้นกระทบใจอย่างรุนแรง แถมยังส่งผลให้มันสั่นคลอนราวกับเขานั้นเอาหัวใจดวงน้อยมาขยี้ลงบนพื้นดังคำกล่าว
ชายหนุ่มจ้องประจันดวงหน้าหวาน เวลานี้เขาอยากอยู่กับตัวเองมากกว่าที่จะมีร่างน้อยเคียงข้าง ทว่าอย่างไรผู้หญิงคนนี้ก็ยังคงดื้อด้านจึงต้องขยับเท้าไปคว้าแก้วที่มีนมบรรจุอยู่ขึ้นมาแล้วเดินตรงไปยังถังขยะ ก่อนจะเทมันทิ้งอย่างไม่ไยดี
“คุณใหญ่”
ความห่วงใยที่ไร้ค่าถึงกับทำให้ข้าวหอมครางเสียงสั่น นัยน์ตาตัดพ้อคนตัวโตทันที
“ที่ยังไม่ยอมออกไปเพราะต้องการให้ฉันพาขึ้นเตียงหรือเปล่า” น้ำเสียงเข้มข้นนั้นถามอย่างดูแคลน สายตาปรายมองหญิงสาวตรงหน้า ก่อนแวบหนึ่งรู้สึกเหมือนความเสียใจปะทะใส่กลางอก เพียงแต่อาชาเลือกจะมองผ่านมันไป
ข้าวหอมกำมือเข้าหากันเพื่อข่มระงับอารมณ์ จากนั้นเปลี่ยนมันเป็นความเห็นใจ ในเมื่อเธอบอกว่าจะช่วยเยียวยาก็ต้องทำให้ได้
“เอาสิ ทำหน้าที่ ‘เมีย’ เสียหน่อย ไหนๆ เราก็แต่งงานกันแล้ว” ชายหนุ่มกระซิบชิดริมหูสะอาด ปากได้รูปเหยียดออกอย่างกุมชัยชนะแล้วรวบรัดกายนวลเข้ามาไว้ในวงแขน
สาวเจ้ากัดปากแน่น แต่ไม่ถอยหนีเพราะเชื่อว่าคนที่จะรู้สึกปวดร้าวจะไม่ใช่เธอเพียงคนเดียว
“เดินไปขึ้นเตียงสิ ถ้าอยากจะเจ็บปวดไปด้วยกัน” เหมือนกับอาชาสามารถอ่านความคิดหญิงสาวได้ จากนั้นเฝ้ามองการตัดสินใจ สีหน้ายังคงความว่างเปล่าพร้อมสำแดงกิริยาไร้ใจ ไม่นานเลือดในกายต้องไหลซู่สู่หัวใจยามข้าวหอมพลิกตัวเดินขึ้นเตียงจริงๆ
หญิงสาวไม่ได้จะท้าทาย แต่เจ้าหล่อนอยากจะรู้ความรู้สึกของชายหนุ่มว่า เขาจะเป็นคนไร้หัวจิตหัวใจจริงหรือไม่
อาชานั้นยืนนิ่งราวกับปูนปั้น สองมือกำเข้าหากันแน่นพลางทอดสายตามองไปยังเจ้าของกายบอบบางพร้อมตัดสินใจขยับเท้าขึ้นเตียงไป
“ถ้าเธอเจ็บจะมาโทษฉันไม่ได้”
อาชาส่งยิ้มหยันไปให้ กระนั้นความเศร้ากลับผุดขึ้นในแววตา ทว่าด้วยอารมณ์ที่อยู่เหนือการควบคุมทำให้เลือกจะแสดงมุมร้ายๆ สองมือยกขึ้นดึงเสื้อออกทางศีรษะขณะจับจ้องดวงหน้าหวานไปด้วย
ใจที่มีรอยแผลต่อให้มีคนพยายามจะช่วยเยียวยา แต่เจ้าของไม่เต็มใจรักษามันก็สูญเปล่าเหมือนกับสิ่งที่ร่างระหงกำลังพยายามอยู่ในตอนนี้
นิ้วโป้งของบุรุษผู้มีแต่ความเย็นชาเคลียแก้มนวลแล้วไล่ปลายนิ้วไปเรื่อยๆ ไปแตะยังเรียวปากอิ่ม
“เธออยากจะเจ็บเพราะฉันหรือไง” อาชาเอ่ยถามและพยายามควบคุมอารมณ์ โดยน้ำเสียงบ่งบอกถึงความเกรี้ยวกราดของความรู้สึก
“แล้วคุณใหญ่ต้องการให้ข้าวเจ็บหรือเปล่าล่ะคะ” คำที่ย้อนถามทำให้เจ้าของกายกำยำชะงักพร้อมต้องมองผ่านแววตากลมโต แล้วยกเอาทิฐิในใจมาเป็นที่ตั้ง เนื่องด้วยไม่อยากให้ตนเองต้องใจอ่อน กลัวในความผิดหวังเหมือนในอดีต
“ฉันต้องการให้เธอเจ็บ”
หลังถ้อยคำได้พ้นปากออกมากระทบใจดวงน้อย การจู่โจมของริมฝีปากหยักลึกเริ่มต้นขึ้นทันทีอย่างหนักหน่วง ไม่สนใจในแววตาไหวระริกของคนตัวเล็กพร้อมขยับตัวไปขึ้นคร่อม
ข้าวหอมไม่ต่อต้าน ไม่ปลดปล่อยน้ำตาให้รินไหลเนื่องด้วยครานี้ไม่ใช่เวลาจะมาอ่อนแอ หากอยากจะเข้าไปในหัวใจดวงโตเพื่อหยิบยื่นความรักไปสมานแผล เธอต้องแข็งแกร่งและอดทน แถมยังไม่หลบสายตา แล้วค่อยๆ ตอบรับจูบหนักๆ ของอาชา
ความร้อนรุ่มภายในกายแทบจะไม่โชนขึ้น มีแค่ภายในทรวงซึ่งกำลังแผดเผาเจ้าของให้มอดไหม้ กระนั้นชายหนุ่มยังเดินหน้าต่อสู้กับความรู้สึก
ชั่วนาทีคนตัวโตขยับกายขึ้นมาส่งยิ้มหยันให้กับร่างเล็ก เพียงแค่รอยยิ้มของเขาต้องวูบหายยามพบว่าข้าวหอมพยายามส่งยิ้มมาให้ มันไม่ใช่การสมเพช แต่เป็นความเห็นใจที่ไม่ได้มาจากการเสแสร้งทำให้ฝ่ามือใหญ่กำเข้าหากันโดยอัตโนมัติ
ปากได้รูปกระแทกจูบลงไปอีกหนเพราะรอยร้าวในหัวใจที่คอยย้ำเตือนว่าไม่มีความจริงใจจากผู้หญิงพวกนี้ ความหลังหนเก่าทำให้เลือกจะหลีกหนีจากความเป็นจริงอกนั้นร้อนระอุด้วยพิษรัก แต่ใบหน้ากลับคุกรุ่นด้วยความเศร้าซึ่งบัดนี้ปกปิดไว้ไม่มิด
ทุกภาพเหตุการณ์ได้ย้อนเข้ามากระแทกทรวงให้คนช้ำเจ็บยิ่งกว่าเดิม อาการเสียใจเริ่มรั่วไหลออกมา ความกลัวเริ่มโถมเข้าหา แถมยังมีหนึ่งคำถามแล่นปราดมาให้ต้องหยุดชะงักพร้อมต่อสู้กับความรู้สึก ทั้งในด้านดีและร้าย ก่อนรู้ว่าตัวเองกำลังจะไม่ไหว ยิ่งเห็นแววตาของผู้หญิงใต้ร่างยิ่งส่งผลให้ทุกอย่างทลายลงในพริบตา
“คุณใหญ่” ข้าวหอมต้องครางเสียงสั่นเมื่อสัมผัสได้ถึงการสั่นไหวของลำตัวแกร่ง ไม่นานมีน้ำใสๆ หยดลงบนพวงแก้ม ขณะอาชาค่อยๆ ลดความรุนแรงของการจูบลงแล้วเปลี่ยนเป็นนิ่งงัน