BOY FRIEND PART_8

1278 คำ
เวลา 08:00 น. หลังจากที่ออสตินกลับไป พวกเราก็นั่งดื่มกันต่อจนเผลอหลับ พอตื่นขึ้นมาอีกทีก็แปดโมงเช้าแล้ว ฉันมองดูสภาพของแต่ละคนที่นอนอยู่แล้วส่ายหน้าไปมา รับไม่ได้กับสภาพของเพื่อนแต่ละคน ฉันรีบขับรถกลับคอนโดตัวเองทันที อยากจะอาบน้ำ แล้วนอนพักบนเตียงนุ่มๆ สบายๆ ซักที โชคดีที่คอนโดฉันกับไทเกอร์อยู่ไม่ไกลกันเท่าไหร่ ก็เลยใช้เวลาขับรถไม่นาน พอมาถึงห้องฉันก็หยิบผ้าเช็ดตัวแล้วเดินตรงดิ่งเข้าห้องน้ำทันที ดื่มมาทั้งคืนพึ่งจะได้นอนแค่ไม่กี่ชั่วโมงเอง ทรมานร่างกายสุดๆ “ปวดหัวๆ ไม่น่าห้าวไปดื่มเยอะแบบนี้เลย” หลังจากอาบน้ำเสร็จฉันก็เดินบ่นออกมาจากห้องน้ำ ด้วยสภาพที่ใส่แค่ผ้าเช็ดตัวเพียงผืนเดียว แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่อฉันเจอออสตินนั่งหน้าบูดเหมือนตูดลิงอยู่บนโซฟากลางห้อง มาตั้งแต่ตอนไหนฉันยังไม่รู้ด้วยซ้ำ อยู่ๆ ก็เข้ามาในห้องฉันแบบนี้ โดยที่ไม่บอกไม่กล่าวกันเลยซักคำ ฉันไม่ได้ตกใจที่ออสตินเข้ามาได้ยังไง เพราะเขาเป็นเพื่อนที่รู้รหัสเข้าห้องของฉัน แต่ตอนนี้ฉันงงมากกว่าว่ามาทำไม “มาทำไม” ฉันถามแบบส่งๆ ไม่ได้สนใจออสตินเท่าไหร่ มีเพียงความเงียบ ไร้การตอบรับ ก่อนที่ออสตินจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูงแล้วเดินไปหยิบไดร์เป่าผมมาให้ฉัน ยิ่งทำแบบนี้ก็ยิ่งทำให้ฉันนึกถึงตอนที่ออสตินยังไม่มีแฟน เมื่อก่อนออสตินชอบมานอนที่คอนโดฉันในตอนที่ฝนตก เพราะฉันกลัวเสียงฟ้าร้อง และไม่ชอบบรรยากาศตอนที่ฝนตกเลยซักนิด และวันนี้บรรยากาศข้างนอกก็ดูครึ้มฟ้าครึ้มฝน ถ้าเป็นเมื่อก่อนฉันคงจะหาคำพูดหวานๆ อ้อนให้ออสตินอยู่เป็นเพื่อน แต่มาตอนนี้ฉันกลับไม่กล้าที่จะพูดอะไร “คิดจะทำอะไร” ออสตินถามขึ้นท่ามกลางความเงียบ ฉันถึงกับขมวดคิ้วเป็นปมเพราะงงกับคำถาม มันต้องเป็นฉันไม่ใช่เหรอที่จะต้องถามแบบนี้มากกว่า “กูต้องถามมึงมากกว่า ว่ามาทำอะไร” จริงๆ ฉันก็ไม่เข้าใจในสิ่งที่ออสตินถามหรอก แต่ฉันไม่ได้สนใจก็เลยถามกลับไปตามที่ตัวเองสงสัย “โพสต์แบบนั้นต้องการอะไร!” หลังจากที่ยืนมองหน้าฉันเงียบๆ อยู่ซักพัก ออสตินก็ถามขึ้นมา ประโยคนี้ทำเอาฉันเข้าใจทันทีว่าออสตินมาเพราะเรื่องอะไร “ก็โพสต์ไปเรื่อยแหละ ทำไม ใครมีปัญหาอะไรเหรอ” ฉันตอบกลับไปแบบกวนๆ เพื่อกลบเกลื่อนความผิดของตัวเอง “ไม่มีปัญหาหรอกถ้าคนโพสต์ไม่ใช่มึง” ออสตินยังคงพูดนิ่งๆ แต่ประโยคนี้ทำเอาคนฟังอย่างฉันเจ็บปวดสุดๆ ไปเลย “ทำไม จะต้องให้กูไปขอโทษแฟนมึงเลยมั้ยที่ทำให้เข้าใจผิดกัน” ฉันถามกลับอย่างเหลืออด “อย่ามาประชด!” ออสตินเริ่มขึ้นเสียงใส่ฉัน ทั้งๆ ที่ไม่เคยพูดขึ้นเสียงกับฉันมาก่อน “ไม่ได้ประชด ต่อไปกูจะไม่โพสต์อะไรเกี่ยวอีก พอใจรึยัง” ฉันพูดไปนิ่งๆ แต่ในใจตอนนี้แทบจะร้องไห้ ทำได้เพียงแค่บอกตัวเองว่าต้องอดทน แล้วฉันก็หันไปเป่าผมตัวเอง ไม่ได้สนใจที่ออสตินเดินออกไปเลยสักนิด ไม่รู้ว่าฉันจะทนกับเรื่องนี้ไปได้อีกนานแค่ไหน ยิ่งรู้ว่าฉันรัก ฉันก็ยิ่งเจอกับความเจ็บปวดมากขึ้นทุกวัน ตอนนี้ฉันเหนื่อยจนแทบจะไม่มีแรงเดินต่อไปแล้ว… .. ฉันได้แต่นั่งคิดถึงเรื่องเพื่อนสนิทตัวเอง ทั้งๆ ที่ใจพยายามลบ พยายามลืมเรื่องราวเก่าๆ แต่ฉันก็ทำไม่ได้ ยิ่งฉันพยายามลืม ใจฉันมันกลับยิ่งจำ ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน แต่ใจฉันมันก็ยังรู้สึกเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนหรือตอนนี้ใจฉันมันอาจจะรู้สึกมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ นี่ก็ผ่านมาหลายวันแล้วนะที่ฉันไม่ได้ออกจากคอนโดไปไหน ไม่ได้ออกไปเจอเพื่อน ไม่ได้เจอใคร ฉันพยายามทำตัวออกห่างจากทุกคน เพราะฉันไม่อยากจะทำให้ทุกคนอึดอัด โดยเฉพาะออสตินที่ดูจะอึดอัดกว่าทุกคน ฉันก็เลยไม่อยากจะเป็นตัวปัญหา ก็เลยเลือกที่จะไม่ไปเจอเพื่อน กริ๊งงง~ กริ๊งงง~ เสียงกริ่งหน้าห้องของฉันดังขึ้น ทำให้ฉันต้องรีบหยุดคิดเรื่องของออสติน แล้วหันมาสนใจเรื่องตอนนี้ทันที “มึงเป็นอะไรรึป่าว” ทันทีที่ฉันเปิดประตูเสียงของยัยฮันน่าก็ถามฉันขึ้นอย่างไม่รอช้า “ป่าว…กูไม่ได้เป็นอะไร” ฉันตอบไปแล้วเดินกลับเข้ามานั่งบนโซฟาตัวเดิม ก่อนที่เพื่อนสาวทุกคนจะเดินตามเข้ามานั่งกับฉันด้วย “ทำไมมึงถึงไม่ไปหาพวกกูหรือว่ามึงตั้งใจจะหลบหน้าไอ้ติน” ยัยเดียถามพร้อมมองหน้าฉันอย่างรอฟังคำตอบ โชคดีที่ไอรินเอาแต่นั่งเงียบไม่ค่อยจะถามอะไรเซ้าซี้เหมือนกับยัยเดียกับยัยฮันน่า ไม่งั้นฉันคงจะต้องปวดหัวมากกว่านี้แน่ “ป่าว…กูแค่จะกลับไปอยู่บ้านก็เลยไม่ได้ไปหาใคร อีกไม่นานก็จะเปิดเทอมแล้ว” ฉันตอบไปพร้อมรอยยิ้มบางๆ แต่ความจริงแล้วเรื่องที่จะกลับไปอยู่บ้านมันก็เป็นเพียงข้ออ้างเท่านั้นแหละ ปิดเทอมเกือบสามเดือนฉันก็เอาแต่คิดถึงเรื่องออสติน พอคิดแล้วก็เข้าไปดูไอจีออสตินกับแฟนอยู่ตลอด จนฉันแทบจะไม่ได้ทำอะไร เพราะมัวแต่คิดเรื่องของคนอื่นอยู่แบบนี้ “เอาน่าาา…มึงอย่าไปคิดอะไรมาก เดี๋ยววันนี้กูจะพาไปคลายเครียดเอง” ยัยฮันน่ารีบเปลี่ยนเรื่องคุยทันที “จะไปไหน…กูไม่อยากไป” ฉันรีบปฏิเสธไป เอาจริงๆ ฉันไม่อยากไปไหน อยากนอนอยู่ห้องเงียบๆ คนเดียวมากกว่า “ไม่ได้! วันนี้มีกระเป๋าคอลเลคชั่นใหม่มา ของมันต้องมีมึงรู้มั้ย” ยัยเดียพูดขึ้นอย่างตื่นเต้น “เออใช่…จะเปิดเรียนมันต้องมีกระเป๋าคอลฯใหม่ จะใช้ใบเดิมไม่ได้” ตามด้วยเสียงของยัยฮันน่าที่ดูตื่นเต้นไม่ต่างกันเมื่อได้พูดถึงกระเป๋าคอลเลคชั่นใหม่ “กูเห็นร้านโพสต์ลงไอจี สวยๆ ทั้งนั้น” ยัยเดียพูดพร้อมกับยกโทรศัพท์ที่มีรูปกระเป๋าแบรนด์ดังโชว์อยู่ “อร๊ายยย~ เงินในบัญชีกูสั่นไม่ไหวแล้ว” ยัยฮันน่าดูดี๊ด๊าขึ้นมาทันที “แล้วใครไปบ้าง” ฉันถามขึ้นด้วยความสงสัย “ก็ไปกันแค่นี้แหละ พวกผู้ชายจะไปทำไมให้เกะกะ” ยัยเดียตอบแบบไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่นัก “ไป! ลุก! รีบไปแต่งตัวเลยมึงอะ” ยัยฮันน่าหันมาเร่งฉันอย่างเร็ว คงจะรีบไปใช้เงินแหละ “เออ…ไปก็ไป” สุดท้ายแล้วฉันก็ต้องใจอ่อน ยอมไปกับพวกมันอยู่ดี ปฏิเสธไม่ได้เลยจริงๆ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม