6
[PUNPANG]
หนึ่งความโชคดี คือมีคนรับฟัง
ฉันนั่งสะอื้นระหว่างที่พี่จิตแพทย์คอยอยู่ข้างๆ
"ทุกอย่างกำลังจะดีแล้วนะคนเก่ง พี่ชื่อปีใหม่ นะคะเรียกพี่ใหม่ก็ได้ ต่อไปนี้พี่จะรับฟังน้อง... เอ...ว่าแต่ชื่ออะไรนะคะ"
"ปะ ปั้นแป้งค่ะ"
"ค่ะ พี่จะรับฟังน้องปั้นแป้งอีกคน ไม่ต้องกลัว ดูสิตอนนี้มีคนอยากอยู่ข้างๆปั้นแป้งเยอะเลยนะ"
ฉันมองลูกน้องของคุณภาคิณที่ยืนอยู่สี่ห้าคนในห้อง และเมื่อทุกคนเห็นว่าฉันมองก็ก้มคำนับเล็กน้อยพร้อมกับรอยยิ้มบางๆ พวกเขาไว้ใจได้จริงเหรอ? ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคนมีอิทธิพลที่ซื้อฉันเหมือนพวกนั้นจะยื่นมือมาช่วย
เพราะโลกใบนี้มืดมนจนน่ากลัว มีแต่คนเห็นแก่ตัว ขี้อิจฉา รักผลประโยชน์ของตัวเอง หนึ่งเดือนก่อนฉันเจอมันครบเลยล่ะ
'แกร๊ก' คุณภาคิณกับพี่ชายคนนั้นกลับเข้ามาแล้ว เขามองหน้าฉันครู่หนึ่งก่อนจะเดินมาเลื่อนเก้าอี้นั่งเหมือนเดิม แต่สายตาที่มองฉันครั้งนี้ดูนิ่งเรียบและแฝงไปด้วยประกายมุ่งมั่นเด็ดขาด
"พี่พร้อมฟังต่อแล้วครับ..."
"เรื่องของหนู... ยังเหลืออีกเยอะเลยนะคะ" เขาพยักหน้าเบาๆแล้วยิ้มให้ฉัน
"ครับ อีกเยอะแค่ไหนก็พร้อมรับฟัง"
"ค่ะ หลังจากที่ป้าเล็กชวนอยู่ด้วยหนูก็ไม่ได้อยู่กับป้าเขาหรอก เลือกอยู่บ้านตัวเองแต่ไปกินข้าวเย็นที่นั่น ส่วนเงินไปโรงเรียนก็ยังไม่ได้ยืมป้า เพราะหนูยังพอมีติดบัญชีอยู่ เว้นแต่ค่าเทอม... หนูคิดว่าหนูต้องขอทุน"
•••
สามอาทิตย์ก่อนหน้า...
โรงเรียนเอกกรุณ
"น้ำฝนแกไปกินข้าวก่อนเลย เดี๋ยวฉันไปห้องพักครูก่อน"
"อ้าวไปทำไม? มีอะไรเหรอแก?" ฉันยังไม่ได้บอกน้ำฝน ไม่ใช่อายหรอกแต่ยังวุ่นๆและเครียด อยากจัดการอะไรให้เรียบร้อยซะก่อน
"ไว้เดี๋ยวเล่าให้ฟังนะ เจอกันที่โรงอาหาร"
"โอเคๆ"
"อุ๊ย ทายสิ...เมื่อเช้าฉันเห็นใครขึ้นรถเมล์มา" ฉันกับเพื่อนยังไม่ทันแยกจากกัน ลูกปลากับกลุ่มของเธอก็เดินกอดอกมาหาฉันกับน้ำฝนที่หน้าห้องเรียน
"อะไรลูกปลาจะมาหาเรื่องกันทำไม?" น้ำฝนถาม
"หาเรื่องบ้าอะไร ฉันแค่มาแซวนางฟ้าเอกกรุณซะหน่อย ไงปั้นแป้งคนสวยและรวยมาก เดี๋ยวนี้พ่อไม่พาเอสคลาสมารับมาส่งแล้วเหรอ ฉันเห็นแกขึ้นรถเมล์กลับบ้านมาสองวันแล้วอ่ะ" น้ำฝนมองหน้าฉันทันที
"จริงเหรอแก?"
"อื้ม... จริง ฉันนั่งรถเมล์มาเรียนน่ะ"
วันแรกที่นั่งรถเมล์ฉันหัวหมุนมาก ดีที่ป้าเล็กสอนนั่งและบอกสายที่ผ่านหน้าโรงเรียนให้ แถมยังเขียนวิธีขึ้นลงใส่กระดาษให้อย่างละเอียด
"แล้วพ่อแกไปไหนอ่ะ?"
คำถามน้ำฝนทำให้ฉันหน้าชามองหน้าลูกปลาที่ยิ้มเยาะสลับกับเธอ
"คือ... คือพ่อฉันไม่อยู่อ่ะ ไปต่างจังหวัดกับแม่"
"แปลกจัง ปกติแกไม่เคยห่างครอบครัว ปกติไปต่างจังหวัดแกหยุดเรียนไปด้วยตลอด" ฉันยิ้ม ไม่ได้อธิบายอะไรกับน้ำฝนต่อ จนลูกปลาเดินมาใกล้ๆ จับเปียฉันขึ้นไปดูแล้วเบ้ปาก
"ความสวยของแกมันน่าหมั่นไส้จริงๆ ปั้นแป้ง สวย รวย เก่ง ขอให้รักษาคำพวกนี้ให้นานๆนะ ไม่งั้นจะสมน้ำหน้าให้"
ลูกปลาปล่อยผมเปียฉันอย่างรังเกียจแล้วเดินชนไหล่ผ่านไปกับพวกของเธอ เมื่อก่อนฉันไม่ถือสาเลย ไม่ว่าจะโดนพวกนั้นบังคับขอลอกการบ้าน ลอกข้อสอบ ฉันจะไม่ยอมและกล้าเชิดหน้าชูตายิ้มเย้ยกลับไปสวยๆ แต่ตอนนี้ฉันหวาดหวั่น ฉันไม่อยากให้ลูกปลารู้เรื่องของฉันเลย ยิ้มสู้ยังยิ้มไม่ออก ได้แต่ยืนเงียบและอดทนไว้
จนน้ำฝนตบไหล่เบาๆ
"อย่าถือสาเลย อย่างแกยังไงก็สวยรวยพร้อม มันขี้อิจฉามันก็พูดไปทั่วแหละ"
ฉันพยักหน้าเบาๆ
"งั้นฉันไปห้องพักครูนะ"
"อื้อ รีบตามไปกินข้าวด้วยล่ะเดี๋ยวรอ"
ฉันหันหลังให้น้ำฝนแล้วเดินลงบันไดไปชั้นล่างซึ่งเป็นห้องพักครู ตอนแรกตั้งใจจะไปหาครูแนะแนว แต่เคยจำได้ว่าใครจะขอทุนเรียนดีครูแนะแนวจะให้ครูที่ปรึกษาคัดกรองมาอีกที
ฉันด้อมๆมองๆผ่านกระจกสีชา และเมื่อเห็นว่าครูนนท์ คุณครูที่ปรึกษาแสนใจดีนั่งตรวจงานอยู่จึงเคาะประตูขออนุญาตเข้าไป
"คุณครูคะ..."
"ไงปัณณรา มีเรื่องอะไรรึเปล่า?" ฉันเดินเบาๆไปยืนข้างโต๊ะครูแล้วก้มหัวลงเล็กน้อย
"หนูอยากสอบถามเรื่องทุนค่ะ เทอมนี้ครูคัดเด็กทุนห้องเรารึยังคะ"
"ทุน?... ทุนเรียนดีโรงเรียนสนับสนุนน่ะเหรอ?" ฉันพยักหน้า
"ค่ะ"
"คุณมาถามให้เพื่อนเหรอปัณณรา?"
"เปล่าค่ะ ถามให้ตัวเองค่ะ" ครูนนท์วางปากกาลงแล้วขมวดคิ้วมองหน้าฉัน
"มีเรื่องอะไรรึเปล่า ทำไมเด็กเรียนดีบ้านมีเงินอย่างคุณมาถามถึงทุนนี้" ฉันเขี่ยนิ้วตัวเองไปมามองหน้าครูบ้างมองมือตัวเองบ้าง จะบอกยังไงดี ฉันไม่มีเงินเหมือนเมื่อก่อนแล้ว
"คือหนู..."
"ผมเป็นครูที่ปรึกษาคุณหากมีอะไรพูดกับผมตรงๆดีกว่านะ ผมช่วยได้ผมจะช่วย เรื่องทุนของคุณด้วย ผมต้องถามเหตุผลที่ชัดเจนจะได้บอกฝ่ายแนะแนวถูก"
"ค่ะๆ"
ใช่... ฉันเล่าทุกอย่างให้ครูนนท์ฟัง เรื่องที่ถูกทิ้งในบ้าน เรื่องที่พ่อแม่หนีเรื่องยา ครูนนท์ตกใจจนชะงัก แต่สุดท้ายก็ขยับแว่นและเผยยิ้มออกมาที่มุมปาก
"เข้าใจแล้ว ถ้าอย่างนั้นผมจะเสนอชื่อของคุณ แต่..."
"ตะ แต่อะไรเหรอคะ"
"เย็นนี้หลังเลิกเรียน... ไปหาผมที่บ้านพักครู" ฉันมองหน้าครูทันที
"ตกใจอะไร? ผมจะคุยเรื่องทุนกับคุณอย่างละเอียด เพราะตอนนี้พักเที่ยงผมต้องไปกินข้าวแล้ว อีกอย่างอย่าลืมว่าทุกคนในโรงเรียนนี้คิดว่าคุณรวย มีเงินพร้อม เห็นชื่อคุณอาจจะปัดตกเลยก็ได้ ถ้าคุณไม่เตรียมพร้อมให้ดีเรื่องกรอกใบสมัครและตอบคำถามกรรมการ คุณจะพลาดทุนนะ เพราะโรงเรียนให้ทุนนี้ชั้นปีละหนึ่งคนเท่านั้น"
จริงด้วย การแข่งขันสูงมาก
"นานไหมคะ พอดีหนูต้องรีบกลับบ้านค่ะ"
"สักชั่วโมงก็น่าจะเสร็จแล้ว"
บ้านพักครูอยู่หลังโรงเรียนและมียามเฝ้าอยู่ตลอดเวลาคงไม่เป็นอะไร อีกอย่างครูนนท์มีครอบครัวมีลูกแล้วภรรยาครูคงอยู่ที่บ้าน คงไม่น่าเกลียดถ้าฉันจะไปที่นั่น
ฉันคุยเรื่องทุนเสร็จก็ลงไปกินข้าวเที่ยงกับน้ำฝน เธอถามตามประสาแต่ฉันยังไม่ได้บอกเรื่องทุน บอกแค่สงสัยในวิชาที่ครูนนท์สอนเท่านั้น จนตกเย็นเลิกเรียนฉันก็รอให้น้ำฝนกลับก่อน ก่อนที่จะหาจังหวะเดินอ้อมไปประตูหลังโรงเรียนเพื่อไปที่บ้านพักครู
บ้านครูนนท์อยู่หลังแรกติดกับป้อมยาม โอเคปลอดภัย... และพอมาถึงก็สบายใจขึ้นอีกชั้น เพราะมีพี่เลี้ยงเด็กอยู่ที่บ้านด้วย
"สวัสดีค่ะ หนูมาหาครูนนท์ค่ะ" ฉันบอกพี่เลี้ยงที่กำลังเล่นกับลูกสาวครูอยู่
"เข้าไปได้เลยค่ะ ห้องแรกฝั่งขวาครูนนท์รออยู่ในห้องทำงานค่ะ"
"ขอบคุณค่ะ" เมื่อก้มหัวขอบคุณ และยิ้มให้ลูกสาวครูที่นั่งเล่นงึมงำๆคนเดียว ฉันก็ถอดรองเท้าแล้วเดินเบาๆไปตามที่พี่เลี้ยงบอก พอเห็นว่าประตูห้องถูกเปิดทิ้งไว้และครูนั่งทำงานอยู่ จึงตัดสินใจเคาะประตูขออนุญาต
'ก๊อก ก๊อก ก๊อก'
ครูนนท์เงยหน้าขึ้นทันที
"เข้ามาสิปัณณรา ปิดประตูห้องด้วย"
ฉันเข้าไปแล้วดึงประตูห้องปิด ก่อนจะนั่งลงที่โซฟามุมห้องที่ครูนนท์ผายมือบอก ห้องไม่ใหญ่มากเอกสารเต็มไปหมด และเมื่อครูนนท์รวบเอกสารบนโต๊ะมาหย่อนกายนั่งข้างๆ เขาก็ส่งเอกสารให้ฉันดู
"ใบสมัครทุน กรอกให้เสร็จนะ พรุ่งนี้ผมจะไปยื่นเสนอฝ่ายแนะแนวแต่เช้า"
"ขอบคุณค่ะ"
ฉันรับมาแล้ววางไว้ที่โต๊ะกลาง ก่อนจะเปิดกระเป๋านักเรียนหยิบปากกามากรอกข้อมูลส่วนตัวลงไป ระหว่างนั้นครูนนท์ก็คอยแนะนำไปด้วย เพราะมีหนึ่งข้อที่ฉันต้องเขียนคล้ายเรียงความบอกเล่าชีวิตตัวเอง
ครูนนท์จะคอยหยิบไปอ่าน และบอกว่าต้องเขียนอะไรถึงจะเข้าตากรรมการ
"ผมว่า... ตรงนี้แก้ดีไหมบอกว่าครอบครัวล้มละลายดีกว่า ส่วนคำนี้คุณเขียนผิดนะ..." ครูนนท์ถือเอกสารและชี้ให้ฉันดู ซึ่งฉันพยายามมองตามนิ้วครูแล้วแต่มองไม่เห็น
"คำไหนเหรอคะ"
"คำนี้ไงการันต์ควรอยู่ตรงร.เรือ"
ฉันเพ่งตามอง แต่ยิ่งมอง... ยิ่งรู้สึกว่ากระดาษถอยออกไปเรื่อยๆจนเผลอโน้มไปตาม แต่เมื่อหันไปสบตากับครูเท่านั้นฉันก็ถอยออกห่างทันที และรีบขยับจนชิดพนักวางแขนอีกฝั่ง
"ขอโทษค่ะ หนูขอกระดาษหน่อยค่ะจะแก้คำผิด"
ครูนนท์ยื่นให้แต่เมื่อฉันยื่นมือไปรับ ครูก็จับมือฉันหมับ! แล้วดึงเข้าไปหาตัวเอง
"ครูทำอะไรคะ! ปล่อยหนูนะ" ฉันดิ้นและพยายามผลักออก
"อยากได้ทุนไม่ใช่เหรอ ผมจะช่วยไง" ครูนนท์พยายามจะกอดฉันให้ได้ แต่ฉันรวบรวมแรงและผลักอกออกไปสุดแรงเกิด
'พลั่ก!'
ฉันยืนขึ้นคว้ากระเป๋านักเรียน
"หนูผิดหวังในตัวครูมากนะคะ! เอาเป็นว่าหนูจะไม่บอกเรื่องนี้กับใคร แต่ครูต้องลาออก" ครูนนท์ลุกขึ้นเดินมาหาฉันพร้อมทำหน้าท้าทาย
"หลักฐานเห็นๆอยู่... ว่าใครเป็นฝ่ายมาอ่อยใครถึงที่ ถ้าอยากได้ทุน และมีชีวิตอย่างสงบสุขในโรงเรียนเอกกรุณ... เป็นของครูสิปัณณรา เผลอๆครูส่งคุณเรียนได้นะ แลกกับนอนกับครูแค่นี้เอง"
ทุเรศที่สุด ทุเรศจนฉันพูดไม่ออกเลย นอกจากโลกของฉันจะแตกสลายเพราะครอบครัว ฉันยังเจอเรื่องน่าผิดหวังซ้ำซ้อน ฉันคิดว่าครูจะเอ็นดูและพร้อมช่วยเหลือ แต่ไม่เลย... เขาฉวยโอกาสในช่วงเวลาที่ยากลำบากเอาเปรียบฉัน
ร่างสูงเดินมาประชิด พร้อมมือหนาค่อยๆโอบเอว ฉันบีบกระเป๋านักเรียนแน่นกัดฟันมองหน้าครูน้ำตาคลอเบ้าเสียดายมือที่เคยไหว้ เสียดายปากที่เคยชื่นชม
"จะถอดเอง หรือให้ครูถอด... สวยๆอย่างคุณครูชักอยากเห็นแล้วสิว่าข้างในเป็นยังไง" ฉันรังเกียจอะไรแบบนี้ที่สุด เกลียดมาก!
'ผัวะ!'
ฉันฟาดกระเป๋านักเรียนไปที่หน้าครูนนท์สุดแรงจนครูหน้าหัน
"ไปตายซะไอ้บ้าตัณหากลับ!!"