ตอนที่ 12 ดอกกุหลาบช่อใหญ่

1625 คำ
ยี่สิบนาทีต่อมา “ใกล้จะเสร็จแล้วค่ะ เฮียไครอแป๊บนึงนะคะ” นอตตัวสุดท้ายถูกใส่กลับเข้าไปที่ล้อรถยนต์เหมือนเดิมโดยฝีมือของร่างบาง ก่อนที่เธอจะหันไปถอดแม่แรงที่ยกตัวรถเอาไว้ในตอนนี้ออก “เฮียไค ช่วยหยิบบล็อกขันนอตให้จัสทีได้มั้ยคะ” จัสมินเอ่ยขึ้นหลังจากที่เธอจัดการถอดแม่แรงออกเสร็จเรียบร้อย ซึ่งหลังจากนี้จะเป็นขั้นตอนสุดท้ายคือใช้บล็อกขันนอตเพื่อให้มันแน่นขึ้นกว่าเดิม “เฮียไคคะ!!” เสียงใสที่ดังขึ้นอีกครั้งเรียกสติของคนที่เอาแต่ยืนยิ้มให้กลับมา เพราะก่อนหน้านี้เขาเอาแต่มองการกระทำของเธอจนเพลินไปหน่อย เลยไม่ทันได้ฟังว่าเธอพูดอะไร “จัสว่าไงนะ?” “ช่วยหยิบอันนั้นที่อยู่ใกล้ๆ กับเท้าเฮียไคให้จัสทีค่ะ” จัสมินพูดขึ้นอีกครั้งโดยที่ชี้นิ้วไปยังบล็อกขันนอตที่วางอยู่ใกล้ๆ กับที่คนตัวสูงยืนอยู่ ซึ่งพอไคโรเห็นแบบนั้นเขาก็รีบส่งเครื่องมือให้กับร่างบางในทันที การกระทำของจัสมินที่ดูคล่องแคล่วยังคงอยู่ในสายตาของไคโรตลอดเวลา เขาไม่คิดว่าผู้หญิงตัวแค่นี้ จะเก่งขนาดนี้ เก่งกว่าเขาที่เป็นผู้ชายอกสามศอกซะอีก “แค่นี้ก็เสร็จแล้วค่ะ เรากลับบ้านกันได้” รอยยิ้มที่สดใส ชวนให้หลงใหลปรากฏขึ้นบนใบหน้าเรียวสวยได้รูปของจัสมิน จนคนมองถึงกับใจเต้นแรงขึ้นมาอีกครั้ง เขาเผลอมองหน้าเธอนานอีกแล้ว นานซะจนจัสมินถึงกับต้องเอ่ยถามออกมา “หน้าจัส มีอะไรติดหรือเปล่าคะ?” “เอ่อ แค่เลอะนิดหน่อยน่ะ มาเดี๋ยวเฮียเช็ดให้” พูดจบไคโรก็เดินเข้าไปใกล้กับร่างบางที่หยัดตัวลุกขึ้นยืนพอดี แล้วตอนนี้เขาก็ก้มหน้าลงมาจนใบหน้าของเขาและเธออยู่ห่างกันเพียงคืบเท่านั้น นิ้วมือข้างนึงยกขึ้นไปเช็ดคราบฝุ่นที่เลอะบนใบหน้าเนียนใสอย่างแผ่วเบา ก่อนที่สายตาของเขาจะเลื่อนไปหยุดอยู่ที่ริมฝีปากสีแดงอมชมพูที่จู่ๆ เขาก็อยากจะลิ้มลองมัน ปี้น!! ปี้น!! เสียงบีบแตรรถทำให้ไคโรหลุดออกจากภวังค์อีกครั้ง ก่อนจะหันไปมองตามเสียงแล้วพบว่ามีรถสปอร์ตคันคุ้นตามาจอดอยู่ด้านหน้ารถของตัวเอง “นั่นกำลังจะทำอะไรกันคะ?” ไคโรแทบอยากจะหายตัวไปจากตรงนี้ เพราะคนที่กำลังลงจากรถมาคือคนที่เขาพยายามหนีหน้ามาตลอดหลายวัน ไม่ใช่สิ ต้องบอกว่าหลายอาทิตย์เลยต่างหากถึงจะถูก “เพนนี!! คุณมาทำอะไรแถวนี้” “เพนนีนัดเพื่อนเอาไว้แถวนี้น่ะค่ะ แล้วเผอิญเห็นคุณเข้าพอดี” หญิงสาวผู้มาใหม่เอ่ยขึ้น ก่อนจะมองไปยังร่างบางที่ยืนอยู่ข้างๆ ไคโรด้วยสายตาที่ไม่ค่อยจะเป็นมิตรสักเท่าไหร่ “งั้นคุณก็ไปหาเพื่อนคุณเลยครับ ผมกำลังจะกลับบ้านพอดี” “กลับบ้าน? ไม่ยักรู้ว่าเดี๋ยวนี้คุณชอบเด็กกะโปโลแบบนี้แล้ว ถึงว่าพักหลังๆ คุณปฏิเสธฉันตลอดเลย สงสัยยัยเด็กนี่คงจะลีลาดีกว่าฉันสินะคะ” “เพนนี คนนี้น้องสาวผม กรุณาให้เกียรติเธอด้วย” ไคโรพูดขึ้นเสียงดุ เพราะว่าผู้หญิงตรงหน้าชักจะล้ำเส้นเขาเกินไปแล้ว “น้องสาว? หน้าไม่เห็นเหมือนกันเลยค่ะ พี่น้องท้องชนกันหรือเปล่าคะ” “ขึ้นไปรอเฮียบนรถก่อนนะ เดี๋ยวเฮียตามไป” ชายหนุ่มเจ้าของความสูงหนึ่งร้อยเก้าสิบเซนติเมตร หันไปพูดกับจัสมินที่ยืนอยู่ข้างๆ เขา ซึ่งเธอเองก็พอจะรู้สถานการณ์ว่าตอนนี้เกิดอะไรขึ้น เธอจึงเลือกที่จะเข้าไปอยู่ในรถรอ โดยแอบมองกระจกมองข้างอยู่ตลอดเวลา มองจนกระทั่งผู้หญิงคนนั้นเดินกลับไปที่รถของตัวเองด้วยท่าทางไม่ค่อยพอใจ ก่อนที่รถสปอร์ตคันนั้นจะแล่นออกไปด้วยความเร็วสูงเหมือนต้องการหาที่ระบายอารมณ์ยังไงยังงั้น ส่วนไคโรเองหลังจากที่ไล่ตะเพิดเพนนีให้กลับไป เขาก็จัดการเก็บเครื่องมืออุปกรณ์และยางรถยนต์กลับไปไว้ท้ายรถที่เดิม ก่อนจะพาตัวเองมานั่งอยู่หลังพวงมาลัยตามเดิม “เมื่อกี้เฮียขอโทษแทนเพนนีด้วยนะ” ประโยคแรกที่ไคโรพูดขึ้นหลังจากที่ขึ้นมานั่งบนรถ “ไม่เป็นไรค่ะ พี่คนนั้นเค้าคงจะหวงเฮียมาก” “หึ!! กฎของการนอนกับเฮีย คือห้ามหึง ห้ามหวง ห้ามล้ำเส้น ซึ่งผู้หญิงทุกคนรู้ดี เมื่อกี้เพนนีเขาคงจะโกรธเรื่องที่เฮียปฏิเสธที่จะไปนอนกับเขาน่ะ” “อ่อ แล้วทำไมเฮียไคถึงปฏิเสธเขาละคะ เขาก็ดูสวยดีนี่นา” “เบื่อแล้วไง สองสามครั้งก็เบื่อแล้ว หาใหม่เอาดีกว่า” “ไม่สงสัยเลยค่ะ ว่าทำไมเฮียไคถึงบอกให้จัสหนี เวลาที่เจอผู้ชายแบบเฮีย” หลายวันต่อมา @มหาวิทยาลัย คณะบริหารธุรกิจ 10.30 น. “จัสมินจ๋า วันนี้เลิกเรียนแล้วเราไปกินปิ้งย่างกันไหม ไม่ได้กินนานแล้วอ่า” ฉันหันไปมองหน้ายัยคริสตัลทันทีที่มันพูดจบ ขนาดกำลังนั่งเรียนกันอยู่ สมองของมันยังคิดแต่เรื่องของกินอะคิดดู “งั้นก็ไม่กินข้าวเที่ยงแล้วนะ” เพราะถ้ากินข้าวเที่ยง ท้องฉันคงจะรับปิ้งย่างไม่ไหวแล้วแน่ๆ “หิวตายกันพอดีสิถ้าไม่กินอะ กว่าจะเรียนเสร็จบ่ายสามเลยนะ” “ก็กินขนมอะไรรองท้องไปก่อนไง แต่ถ้าจะกินข้าวเที่ยงก็ได้นะ แต่เลิกเรียนเสร็จก็ตรงกลับบ้านกันเลย” “โอเค ไม่กินก็ไม่กิน ลูกๆ จ๋าอดทนรอกันไปก่อนนะ เดี๋ยวแม่จะพาไปกินของอร่อยๆ” ฉันได้แต่ส่ายหัวไปมา ให้กับความบ๊องของยัยคริสตัล ที่ชอบบอกว่าพยาธิที่อยู่ในท้องคือลูกๆ ของมัน ครืด!! ครืด!! เสียนสั่นของโทรศัพท์มือถือ ทำให้ฉันจำต้องหยิบมันขึ้นมาดูด้วยความรวดเร็ว เพราะเผื่อว่าจะเป็นข้อความจากแม่ของฉันที่ส่งมา แต่เปล่าเลย กลับกลายเป็นข้อความของดินที่ส่งมาแทน ดิน : จัส ดิน : เรียนอยู่ไหม? จัสมิน : อืม กำลังเรียน จัสมิน : มีไรป่ะ? ดิน : เรียนเสร็จทักมานะ ดิน : เดี๋ยวไปหาที่คณะ จัสมิน : โอเค ฉันเปิดอ่านข้อความของดิน ก่อนจะพิมพ์ตอบเขากลับไป ช่วงนี้ดินทักมาคุยทุกวันเลย แล้วก็มาหาที่คณะแทบจะทุกวันด้วย จนคนในคณะต่างพากันเม้าท์ว่าฉันกับดินกำลังคบกันอยู่ “ใครอะ?” “ดิน” ฉันตอบยัยคริสตัลไปทันที พร้อมกับยื่นโทรศัพท์ไปให้มันดู “มาอีกละ คือถ้าแกไม่อยากคุยกับมันฉันแนะนำให้บอกมันไปตรงๆ เลยดีกว่า” “ฉันก็บอกเขาไปแล้วนะ ว่าคุยกันแบบเพื่อนอะ” “เพื่อนจ้า ทักมาเกือบจะยี่สิบสี่ชั่วโมงขนาดนี้ เหอะ!!” “เอาน่า มีเพื่อนผู้ชายเอาไว้ก็ไม่เห็นจะเสียหายเลยนี่นา ว่าแต่แกเถอะ เมื่อไหร่จะยอมใจอ่อนให้พี่ออสตินสักที” “ชาติหน้าตอนสายๆ จ๊ะ” ยัยคริสตัลมันพูดขึ้นก่อนจะสะบัดหน้าหนีจากฉันไป แล้วหันไปเขี่ยโทรศัพท์เล่นอีกเช่นเคย พักเที่ยง “ยัยจัส มาโน่นแล้ว” ฉันหันไปมองตามที่ยัยคริสตัลบอก ก่อนจะเห็นดินเดินถือช่อดอกไม้มา ช่อดอกไม้งั้นเหรอ? เอามาทำไมกันนะ!! อย่าบอกนะว่า…. พรึ่บ!! ช่อดอกไม้ช่อใหญ่ถูกยื่นมาตรงหน้าของฉันทันทีที่ดินเดินมาถึง และ... “สุขสันต์วันวาเลนไทน์นะ” จริงสิฉันลืมไปเลยว่าวันนี้เป็นวันแห่งความรัก เพราะปกติฉันไม่ค่อยจะสนใจอะไรพวกนี้อยู่แล้ว “เอ่อ ดินให้เราเหรอ?” ทุกคนที่อยู่ใต้ตึกคณะแห่งนี้ต่างพากันกรี๊ดกร๊าดยกใหญ่ ก่อนจะหันไปกระซิบกระซาบกัน ซึ่งฉันก็พอจะรู้ว่าหัวข้อที่พวกเขาสนทนากันตอนนี้คือความสัมพันธ์ระหว่างฉันกับดิน หรือว่าฉันควรจะบอกดินไปตรงๆ เลยดีไหม ว่าถึงยังไงฉันก็ไม่คิดที่จะคบเขาเป็นแฟน ด้านไคโร ติ้ง!! ติ้ง!! เสียงแจ้งเตือนโทรศัพท์ที่ดังขึ้นในตอนนี้ปลุกให้ชายหนุ่มที่กำลังนอนหลับใหลอยู่ในห้วงนิทรานั้นลืมตาตื่นขึ้นมา เขาหันไปหยิบมันขึ้นมาดู ก่อนจะเห็นว่าเป็นข้อความจากคริสตัล น้องสาวของเขาเอง คริสตัล : เฮียไค คริสตัล : สวยมั้ย คริสตัล : ส่งรูปภาพ (ดอกกุหลาบช่อใหญ่) ไคโร : ใครหน้ามืดเอามาให้ คริสตัล : แรงมากอะเฮีย คริสตัล : น้องเฮียออกจะสวยขนาดนี้ ไคโร : สรุปใครให้มา แฟน? คริสตัล : คริสไม่มีแฟน เฮียก็รู้ ไคโร : แล้วของใคร? คริสตัล : ของยัยจัสค่ะ คริสตัล : วันนี้มีแต่ผู้ชายเอาดอกไม้มาสารภาพรัก ไคโร : เฮียแพ้เกสรดอกไม้นะ ไคโร : บอกจัสมินด้วย ว่าอย่าเอาเข้าบ้าน หลังจากที่เปิดอ่านข้อความไคโรก็พิมพ์ตอบกลับน้องสาวของเขาไป ก่อนที่ข้อความถัดมาจะทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก หงุดหงิดจนอยากจะโยนช่อดอกกุหลาบในรูปนั้นทิ้งลงถังขยะไปให้รู้แล้วรู้รอด
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม