ตอนที่ 10 ผัวเมียการละคร
เกือบตีสองแล้วที่อีวานกลับมาถึงบ้าน ในสภาพร่างกายครบถ้วน ไม่มีส่วนหนึ่งส่วนใดบุบสลายเสียหาย นอกจากลมหายใจมีกลิ่นเหล้า กลิ่นบุหรี่ลอยกรุ่นๆ ออกมา ทำให้ผมพอเดาได้ว่า เมื่อช่วงค่ำอดีตสามีคงไปดื่มมา
“กลับมาแล้ว” เตียงยวบขยับไหว เป็นสัญญาณให้รู้ว่ามีใครบางคนกำลังคลานเข้ามาหาผมในระยะประชิดตัว
“คุณกลับบ้านช้า” ผมเปิดเปลือกตาขึ้นมาภายในห้องนอนที่มีเพียงความสลัว เงาเลือนรางจากเตียงทารกอยู่ห่างไปพอให้เห็นลูกชายเป็นก้อนกลมปุ๊กปิ๊กนอนกระปุ๊กลุกหลับสนิทอยู่ภายใน
“ขอโทษที คุยธุระ...ติดพันนิดหน่อย” จูบอุ่นแตะลงมาตรงซอกคอ พร้อมกันท่อนแขนค่อยๆ เอื้อมล้วงลงไปภายใต้ผ้าห่มผืนใหญ่
“แล้วตอนนี้ คุยงาน...เสร็จเรียบร้อยแล้วเหรอครับ” ผมเน้นคำว่า งาน ให้มันชัดเจน รู้ดีว่าอีวานเข้าใจในความหมาย ว่าผมพูดถึงสิ่งใดอยู่
“เรียบร้อยแล้ว...จุ๊บ”
ประโยคคำตอบฟังสบายๆ เหมือนไม่มีอะไรผิดปกติ ตามสไตล์ มาเฟียเลือดเย็น อย่างอีวาน คนอย่างอีวานสามารถกระดิกนิ้วลั่นไกระเบิดสมองใส่ใครสักคนได้โดยไม่รู้สึกผิด หรืออาจสั่งลูกน้องให้ปลิดชีวิตใคร เพียงคำพูดขัดหูเพียงไม่กี่คำ จากนั้นเดินกลับมานั่งจิบไวน์สบายๆ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ต่อให้วุ่นวายโกลาหลแค่ไหน อีวานคือคนที่สามารถรักษาสีหน้าแววตา อันเฉยเมยเย็นชาอันเป็นเอกลักษณ์นี้ไว้ได้อย่างสงบราบเรียบ แต่ถึงอย่างนั้นอีวานก็มีจุดอ่อน เพราะใครอย่าได้ไปกระตุกต่อมความหงุดหงิดเขาเข้าทีเดียว เพราะผลลัพธ์มันอาจน่ากลัวเกินกว่าจะคาดคิด
“รู้หรือเปล่าว่า ลูกรอฟังนิทานจากคุณ คุณผิดนัดกับคาลวิน ปล่อยให้ลูกนั่งชะเง้อคอรอให้คุณกลับมาเล่านิทานให้ฟัง”
“ขอโทษที่ผิดนัด ฉันขอโทษจริง ๆ”
“ผมไม่ชอบคนผิดนัด ไม่ชอบให้ใครมาสาย ไม่ชอบให้ใครผิดสัญญา”
“เมียจ๋าโกรธอีกแล้วสินะ” มือหนารั้งหัวไหล่ผมให้พลิกหันกลับไปสบตา ทั้งที่แสงสว่างภายในห้องนี้แทบไม่มีเลย เนื่องจากผมต้องการให้คาลวินหลับสนิทตลอดคืน แต่ห่างไปไม่ถึงคืบ เค้าโครงรูปหน้าหล่อคมคายสไตล์หนุ่มรัสเซีย ขยับเคลื่อนเข้ามาหา
“สมควรให้โกรธมั้ยล่ะ” ผมจ้องตอบประกายตาวับวาวสองจุดนั้นนิ่ง น้ำเสียงเปลี่ยนเป็นแข็งไม่ได้นุ่มนวลน่าฟังเหมือนอย่างเคย
“ถ้าอย่างนั้น...เดี๋ยวคืนนี้ฉันจะง้อนายให้หนักๆ เลย ดีหรือเปล่า”
“คุยงานมาตั้งแต่เช้าจนค่ำ คุณไม่เหนื่อยหรือไง” ฝ่ามือลูบไล้ไล่ไปตามแผงอกกว้าง
ภาพร่างเปลือยอล่างฉ่างนอนถ่างแข้งถ่างขาในกล้องวิดีโอคอลเมื่อหัวค่ำยังติดตา ท่อนขาขยับยกหัวเข่าสูงขึ้นมาสัมผัสท่อนเนื้อรูปทรงกระบอกแข็งๆ ที่มันห้อยแกว่งเป็นลำยาว
“นายก็รู้ว่าต่อให้ฉันเหนื่อยแทบตาย แต่พอกลับมาบ้านเห็นหน้านาย นอนรอฉันอยู่บนเตียงอย่างนี้ ฉันก็กลับมีแรงขึ้นมาทันที ยิ่งถ้าเห็นนายโกรธ ไม่พอใจ...ฉันต้องรีบง้อสิจริงมั้ย” มือดึงขอบกางเกงนอนแบบยางยืดร่นลงไป พร้อมควักท่อนเนื้อใหญ่ออกมาอวดให้เห็นเป็นเพียงเงาตะคุ่มๆ ในความมืด
“ฮึ คุณรู้ว่าผมขี้โมโห ขี้หงุดหงิด คุณก็ยังขยันทำให้ผมโกรธ”
“ถ้าเป็นคนอื่นฉันจะไม่ทำให้โกรธ เพราะฉันเปิดโหมดฆ่าทิ้งเลย มันหงุดหงิดน่ารำคาญ เกะกะลูกตา แต่พอเป็นนาย...เวลาเห็นนายโกรธ ฉันรู้สึกว่ามันเซ็กซี่ดี ปกติ...ฉันง้อคนไม่เป็น เน้นยิงทิ้ง...แล้วโยนลงบ่อจระเข้อย่างเดียว”
“แล้วคิดจะโยนผมลงไปวันไหนล่ะ”
“อย่างนาย ฉันโยนลงเตียง...จากนั้นก็จับกิน” ริมฝีปากนุ่มหยุ่นประกบลงมาคลึงทับกลีบปากของผม รสชาติบรั่นดีขมเฝื่อนติดกลิ่นชะเอมเทศจางๆ เคล้ามากับลมหายใจ ลิ้นนุ่มล้วงผ่านเข้ามาในโพรงปาก ผ่านความหอมหวานอันนุ่มนวลและหนักแน่น
“คืนนี้ฉันจะง้อ จนกว่านายจะพอใจ”
“ห้ามทำลูกตื่น...โอเคมั้ย”
“ครับ”
มือขยับถลกชายเสื้อของผมร่นจากเอวขึ้นมากองอยู่ตรงคอหอย กลีบปากเม้มขบบดขยี้บี้ไตเนื้อแข็ง พร้อมกับออกแรงดูดหนักๆ สลับกับลากลิ้นกวาดเลียไปทั่วแผงอกจนจรดซอกคอ ติ่งหู ท่อนล่างอีวานเริ่มขยับปรับองศาร่างกายให้มันพอเหมาะพอดีที่เราสองคนจะกดร่างกายเชื่อมสายสานสัมพันธ์ผัวเก่ากับอดีตเมียให้แนบแน่น
“อีวาน” เสียงพร่าเปล่งออกมาตามอารมณ์กระสัน ความรู้สึกครามครั้นครั่นเสียวเพราะรสมือ แตะสัมผัสในจุดต่างๆ อันถูกกระตุ้นอย่างรู้จุด รู้ใจ
“จีน ที่รัก...” เสียงกระซิบชิดติ่งหูเบาๆ
“อีวาน เอาเข้าไปให้ลึกอีก...ตรงนั้น” ท่อนขาค่อยๆ ขยับแยกออกห่างเปิดทางให้สิ่งแข็งสอดแทรกดันลึกผ่านเข้าภายในร่างกาย
“จ๋า ลึกพอมั้ย”
“เอาเข้าไปอีก”
“ตรงนี้ใช่หรือเปล่าที่รัก”
“อืม...”
“วันนี้นายดู...หวานจังเลย” เสียงทุ้มกระซิบเบาๆ ลงมา อาจเพราะคืนนี้เราตกลงกันว่าจะไม่ทำให้ลูกตกใจตื่น ทั้งสุ้มเสียงสำเนียงเรียก แม้แต่จังหวะกอด จังหวะรัดมันถึงได้นุ่มนวลบางเบาไปเสียหมด
“วันนี้พูดเพราะจัง” ฝ่ามือยกขึ้นมาประคองกรอบหน้าคมในความสลัวของผัวเก่า ท่อนขายาวยกขึ้นมาพันเอว สะโพกผายกระดกยกลอยขึ้นไปในอากาศ
“ไม่ดีเหรอ”
“มันก็ดี แต่ฟังแล้วมันขัดหู...ผมชอบให้คุณหยาบคายมากกว่า...จุ๊บ” จุ๊บเบาๆ แตะลงไปบนปลายจมูกโด่ง
“คาลวินแยกห้องนอนเมื่อไหร่ ฉันจะหยาบคายใส่นายทุกคืนเลย”
“นั่นมันเรื่องของอนาคต แต่คืนนี้ถ้าคุณทำให้ลูกตื่น คุณตายแน่” มือคว้าลำคอแกร่งแข็งแรงแล้วออกแรงบีบเบาๆ
“ถ้าอย่างนั้นคืนนี้เรามาเล่นเกมผัวบ้า กับเมียใบ้กันดีกว่า”
“คืนนี้ผมจะถ่างแค่ขา แต่จะไม่อ้าปากโอเคมั้ย”
“นายเป็นอย่างนี้ แล้วฉันจะเบื่อนายลงได้ยังไงกันละเนี่ย”
คืนนี้ผมกับอีวานเราเล่นเกมคนใบ้ในเงามืด ไม่มีเสียงร้อง เสียงเร่งเปล่งออกมาเป็นคำ ทุกอย่างถูกสื่อสารผ่านภาษากายอันคุ้นเคย มีเพียงเสียงลมหายใจหอบถี่กับเสียงที่นอนเนื้อแน่นยามเมื่อมันรับแรงกระแทกลั่นดังพั่บๆ เท่านั้น
กรี๊ดดดดดด เจ้าตัวเล็กลุกขึ้นมากรีดร้องด้วยความดีใจเมื่อตื่นขึ้นมายืนเกาะขอบคอกเตียงนอนเห็นพ่อนอนแผ่อยู่บนเตียง พี่เลี้ยงสองคนจึงอุ้มขึ้นมาส่ง เจ้าอ้วนวิ่งมากระโดดทับปีนป่ายไปตามร่างกายพ่ออย่างกับไม่ได้เจอกันมานาน
“อะไรจะดีใจขนาดนั้นลูก” ผมถอนหายใจส่ายหัวให้กับลูกชายที่ติดพ่อมากเสียเหลือเกิน
“ไงคาลวิน คิดถึงจังเลยลูก” อีวานปรือตาตื่นขึ้นมาหอมแก้มลูกในทันทีอย่างไม่มีอิดเอื้อน
“พ่อ”
“ครับ พ่อกลับมาแล้ว”
“วิ่น” ก้นอวบกลมคลานไปบนที่นอนเอื้อมมือไปหยิบหนังสือนิทานมายื่นส่งให้พ่อ
“โอ้ คาลวินอยากฟังนิทานเหรอลูก”
“ทาน...” นิ้วสั้นจิ้มลงไปบนหน้าปกหนังสือก่อนเจ้าตัวกลมกลิ้งจะขยับลงไปนอนพิงอยู่ในซอกรักแร้พ่อเหมือนนอนรอให้พ่ออ่านให้ฟัง
“คาลวินลูก...เรามาตกลงกันก่อนนะครับ เดี๋ยวให้พ่ออ่านนิทานให้ฟังแค่เรื่องเดียวนะครับ แล้วเดี๋ยวคาลวินต้องไปอาบน้ำนะลูก” ผมวางมือลงไปบนหน้าปกหนังสือนิทานแล้วสบตากับลูกชายเพื่อทำข้อตกลง แม้คาลวินจะอายุไม่เต็มขวบแต่ฉลาด ความจำดีมาก ดังนั้นทุกอย่าง ทุกการกระทำของผมและอีวานในช่วงนี้จะถูกคาลวินจดจำแล้วเลียนแบบทำตามแทบทุกอย่าง
“เราอ่านเรื่องนี้จบ แล้วไปอาบน้ำนะครับลูก” อีวานช่วยย้ำคำของผม ดวงตากลมมองสลับไปมาระหว่างหน้าพ่อแม่กับหนังสือนิทาน ก่อนจะคลานไปหยิบหนังสือมาเพิ่มอีกเล่มเหมือนต้องการต่อรอง
“คาลวินจะฟัง สองเรื่องเลยเหรอครับ”
“ทาน” มือน้อยตบลงบนหนังสือเล่มใหม่ ผมเงยหน้ามองไปทางห้องน้ำ ที่มีพี่เลี้ยงกับพยาบาลกำลังช่วยกันเตรียมน้ำในอ่างไว้รอ ก่อนจะหันมาสบตาเว้าวอนของอีวานและคาลวิน ผมรู้ว่าอีวานเองนั้นคงรู้สึกผิดที่เมื่อคืนนี้ไม่ได้กลับมาอ่านนิทานให้ลูกฟัง และเจ้าลูกฝรั่งติดพ่อนี่ก็ชื่นชอบนิทานที่พ่อเล่าเหลือเกิน
“โอเคครับ สองเรื่องเท่านั้นนะ”
ผมขยับลงไปนอนซบไหล่เปลือยของอีวาน เจ้าก้อนอ้วนก้าวขาสั้นเป็นปล้องๆ ย่ำหน้าท้องของพ่อลงมานอนซุกอยู่ตรงช่องว่างเล็กๆ ตรงกลางระหว่างเราสองคน ตากลมจ้องลงไปยังหน้าหนังสือนิทานอันมีรูปภาพสีสวยสดใสเป็นรูปสัตว์น้อยสัตว์ใหญ่โดยมีเสียงของมาเฟียเป็นผู้เป็นพ่อภาคบรรยายให้ฟัง
บ่อยครั้งที่อีวานจะหยุดเว้นจังหวะเมื่อเด็กน้อยวัยเรียนรู้เหมือนมีสิ่งสงสัยแต่ไม่สามารถพูดออกมาเป็นคำได้แล้วใช้ภาษากายด้วยการหันมาหาผมหรืออีวานแล้วจิ้มนิ้วลงไป อีวานกับผมจะช่วยกันอธิบายอย่างช้าๆ แม้ไม่รู้ว่าสิ่งที่พูดไปลูกชายจะเข้าใจหรือไม่ก็ตาม
“แล้วนี่ เฮมิซไปไหนซะล่ะ ทำไมไม่ลงมาทานมื้อเช้า”
อีวานยกแก้วกาแฟขึ้นมาจิบ มือหยิบขนมปังนุ่มๆ วางลงไปบนโต๊ะรองหัดทานอาหารสำหรับเด็กของคาลวิน สีหน้าแววตาเรียบเฉยเย็นชาตามแบบฉบับ
“ไม่รู้สิครับ...ผมไม่เห็น” ผมเหลือบตายกขึ้นมาสบตากับอดีตสามี
“นายไม่รู้ ไม่เห็น อย่างนั้นเหรอ” อีวานยิ้มบางๆ แล้วก้มลงไปหอมแก้มลูกชายที่พยายามยื่นแครอทต้มสุกป้อนใส่ปากพ่อ
“ผมเห็นเขาครั้งสุดท้าย ตอนอยู่ในบ่อจระเข้ ส่วนตอนนี้ไม่รู้หายไปไหนแล้ว บางทีอาจจะกลับไปแล้วก็ได้มั้งครับ”
“ว้า...น่าเสียดายจัง ฉันยังไม่ได้บอกลาเขาเลย” อีวานอ้าปากงับแครอทชิ้นในมือลูกก่อนจะหยิบฟักทองต้มชิ้นหนึ่งป้อนให้ลูกบ้าง
“ผมคิดว่าเขาคงไม่ถือสาอะไรหรอก เพราะปกติผมเห็นเขาไปไม่ลา มาไม่บอกอยู่จนเป็นปกตินี่ครับ”
“ก็จริง”
ผมรู้จักอีวาน ดีพอๆ กับที่อีวานรู้จักผม เราสองคนมีอะไรหลายอย่างที่แตกต่างจากคนอื่น และในขณะเดียวกัน ความแตกต่างนั้นมันเป็นความสอดคล้องระหว่างเราสองคน สายตาของเราประสานกันอย่างรู้ความหมายเพียงแต่เลือกที่จะไม่พูดทุกอย่างออกมาเท่านั้น
“อ้ามมมม” มือเล็กจับแครอทอีกชิ้นยื่นมาทางผม
“ขอบคุณครับ คาลวินก็กินเยอะๆ นะลูก” ผมโน้มตัวลงไปอ้าปากกินผักต้มรสชาติจืดสนิทแล้วหยิบผักต้มชิ้นใหม่ใส่ลงไปในจานแทนชิ้นที่อีวานและผมแย่งลูกกินไป เพราะกลัวลูกได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ
“แล้วครูซล่ะครับ เขาออกไปคุยงานกับคุณไม่ใช่เหรอครับ”
“อ๋อ เราไปดื่มด้วยกัน จากนั้นฉันแยกตัวกลับมาก่อน ก็เลยไม่รู้ว่า...เขาหายไปไหน”
“คนพวกนี้...ไม่มีมารยาทเอาซะเลย คิดจะมาก็มา...คิดจะไปก็ไป”
“ปายยยย” หน้าอ้วนกลมขยับปากมอมแมมขึ้นมาแหงนคอมองผม
“ครับ...เขาไปแล้วลูก จุ๊บ” จูบแห่งความปลอดโปร่งโล่งใจแตะลงไปบนหน้าผากกลม ผมคงนอนหลับไม่สนิทหากเฮมิซและครูซยังอาศัยอยู่ใต้ชายคาเดียวกัน