“กรี๊ด!!”
“แกเป็นอะไรมิลา” แตงกวาลุกออกจากที่นอนด้วยความตกใจเมื่ออยู่ดี ๆ เพื่อนเปิดประตูเข้ามาแล้วกระโดดกรีดร้องรอบห้อง
“พี่โทมัสเขาคือดีมากเลย หล่อมากด้วย สุภาพบุรุษอีก”
“โอ๊ย! ฉันก็หลงคิดว่าโจรเข้าบ้าน”
“โจรขโมยใจไง” มิลาตอบหน้าซื่อและเข้านั่งกอดเพื่อนทำตาใสแป๋ว
“อะไรของแกอีก”
“ฉันตกหลุมรักเขา”
“โอ๊ย! มิลาแกตกหลุมรักเขารอบที่ล้านได้แล้วมั้ง”
แตงกวาพูดไปพลางส่ายหัวไปกับความคลั่งรักของเพื่อน คลั่งรักหรือไม่คลั่งให้ดูได้จากหอบผ้าหอบผ่อนมาอยู่ใกล้ผู้ชายเอา พ่อแม่รู้คงได้ช็อกลูกสาวที่แสนดีหนีเรียนมาตามผู้
“คนอะไรก็ไม่รู้หล่อมาก หล่อแล้วแถมยังเป็นสุภาพบุรุษอีก”
“แรก ๆ ผู้ชายก็สุภาพแบบนี้แหละมิลา ระวังตัวเอาไว้พวกผู้ชายที่ดูสุภาพอ่อนโยนนี่แหละมักจะร้ายที่สุด”
“เอาอะไรมาพูดตลอดสองปีมานี้พี่เขาก็ยังน่ารักไม่เคยเปลี่ยน”
“จ๊ะ แม่สาวคลั่งรัก รีบไปอาบน้ำนอนเถอะ เช้าต้องไปรายงานตัวที่มหาลัย”
ช่วงเช้าเมื่อสองสาวเข้ามารายงานตัวเสร็จจึงเริ่มเรียนคาบแรกทันที ตอนแรกแอบตื่นเต้นเล็กน้อยแต่พอได้มาเรียนจริง ๆ ก็แอบหายตื่นเต้น เพราะคนที่นี่ไม่ได้สนใจอะไรคนอื่นมากมายนักส่วนมากเรียนใครเรียนมันมากกว่า
“เรียนวันแรกก็โอเคอยู่นะ แกว่าไหมมิลา” แตงกวาหันมาถามเมื่อทั้งคู่เรียนคาบเช้าเสร็จและกำลังหาอะไรทานระหว่างกลับหอพัก
“ใช่” มิลาเธอตอบโดยมือกำลังส่งข้อความหาใครไม่หยุด
“โอ๊ย! ยัยมิลาถ้าฉันเป็นพี่โทมัสนะ ฉันจะหนีไปให้ไกลเลย ส่งข้อความหาเขาถี่ ๆ แบบนั้นฉันรับรองพี่เขาต้องเบื่อแกเร็ว ๆ นี้แน่”
“อะไร มาแช่งกันทำไม พี่เขาส่งมาหาต่างหากว่าทานข้าวยัง”
“เหรอคะ รีบเดินมาเดี๋ยวรถก็ชนตายเข้าสักวัน ถนนหนทางไม่มองบ้างเลยมองแต่โทรศัพท์กับหวานใจ”
“คิก คิก ค่ะแม่” มิลาหัวเราะและรีบเก็บโทรศัพท์เดินเข้ามาจับมือของแตงกวาที่ยื่นออกมารอให้เธอจับเดินข้ามถนน
“หึ ทำนิสัยน่ารัก แบบนี้ก็ง่ายนะสิ” ปากหยักคลี่ยิ้มและหันมาแสยะยิ้มให้กับผู้ชายข้างหน้าที่นั่งไม่สติจากการซ้อมของตน
“ตอบสิวะ ลูกพี่มึงอยู่ไหน” เสียงเดือดดาลตวาดถามเพราะเริ่มทนไม่ไหว อารมณ์พลุ่งพล่านอยากจะฆ่าคนมันเริ่มปะทุออกมา
“หึ ตอบไม่ได้ใช่ไหมว่ะ” โทมัสแสยะยิ้มและมองผู้ชายวัยกลางคนที่นอนเลือดท่วมอยู่บนพื้น จึงหยิบมีดขึ้นมาและก้าวเดินจ้วงแทงไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งด้วยความโกรธ
“อ่อก แค่ก” เสียงหายใจรวยรินครั้งสุดท้ายร้องออกมาและค่อยขาดใจตายลงไป
“เอามันไปโยนให้ไอ้เข้กิน” เสียงเยือกเย็นเอ่ยสั่งลูกน้องที่ยืนอยู่ไม่ไกล
“ครับนาย” ลูกน้องรีบเข้ามาหามร่างไร้วิญญาณที่ตอนนี้มีสามศพได้แล้วที่นายปลิดชีวิตทิ้ง
“มึง...แต่นายแม่งก็โหดไปตัดลิ้นมันแล้วมันจะพูดได้ยังไงวะ เป็นกูกูก็พูดไม่ได้”
“อย่าปากมากถ้ามึงไม่อยากเป็นรายต่อไป” ลูกน้องคนสนิทชื่อเคนเอ่ยออกมาท่ามกลางความมืด เขาเป็นลูกน้องที่ซื่อสัตย์และอยู่ข้างกายของโทมัสมานานตั้งแต่โทมัสเข้าสู้วงการมืด
“ครับ” ทั้งสองจึงรีบเร่งหามคนออกไปเมื่อคนโหดอันดับสองเดินออกมาสั่ง
“ทุกอย่างเป็นไปตามแผนครับนาย”
“ดีมากเคน อยากให้มันง่ายเราก็ต้องทนอีกสองปี มึงว่ากูจะรอได้ไหม”
“รอได้ครับ เพราะหลังจากเสร็จสิ้นการรอคอยพวกมันจะต้องเจ็บปวดที่สุด”
“ถูกต้องเคน กูจะให้บทเรียนกับพวกมันจนแทบไม่อยากมีชีวิตเลยล่ะ”
โทมัสหัวเราะเสียงขรึมและมองเลือดที่ติดฝ่ามือของตัวเองและแสยะยิ้มเหี้ยมออกมา
“ถ้าเป็นเลือดของเธอคนนั้นกูจะมีความสุขมากแค่ไหนกันวะ”
“ที่สุดครับ นายจะมีความสุขที่สุด” เคนตอบรับและแสยะยิ้มออกมาเช่นกัน
“กูจะรอถึงวันนั้นคงสนุกน่าดู” โทมัสหัวเราะกับสิ่งที่ตนจินตนาการบนหัว พลางนึกคิดจินตนาการเสียงร้องโหยหวนของคนที่เขาต้องการทรมานให้เธอปางตาย แค่คิดก็มีความสุขใบหน้าจึงเผยยิ้มออกมาและหัวเราะในลำคออย่างถูกใจ
****************************
ยัยมิลาตอนนี้เธอบอกว่าเขาแสนดี เธออย่ามาเปลี่ยนใจทีหลังนะ
เพราะพี่โทมัสของเธอมันจิตมาก