ปัจจุบัน
เป็นหนึ่งอันเดียวกันอย่างกับผีนะสิ มิลานึกถึงช่วงเวลาหลายปีก่อนที่ผ่านมา และคิดว่าผู้ชายคนนั้นเป็นคนที่รักเธอหมดใจ แต่เธอกลับคิดผิด เพราะตั้งแต่เธอเรียนจบและได้เดินทางไปร่วมงานแต่งงานของพี่ชาย และบินกลับมาอเมริกาอีกครั้งเพื่อจะเริ่มทำงานบริษัทของชายหนุ่ม แต่ทุกอย่างกลับเป็นเรื่องหลอกลวง
ทันทีที่เธอเดินทางกลับมาถึงกลับโดนชายหนุ่มริบข้าวของทุกอย่างแม้แต่หนังสือเดินทางเขาก็ริบเอาไป และตอนนี้เธอถูกจับมัดไว้ที่ไหนก็ไม่รู้ เพราะทุกอย่างมันมืดไปเสียหมด
“หึ ฟื้นแล้วเหรอ” เสียงทุ้มโมโนโทนที่คุ้นเคยเอ่ยถามราบเรียบ ดวงตากลมโตรี่มองว่าเขานั่งอยู่ตรงไหน “อ๋อ ลืมไปว่าพูดไม่ได้”
ใช่เธอพูดไม่ได้เพราะโดนมัดปากเอาไว้ ตอนนี้ไม่รู้ว่าผ่านมากี่วันได้แล้ว เธอรู้สึกเหนื่อยล้าเหลือเกิน หิวข้าวหิวน้ำจนหมดเรี่ยวแรง ถ้ามือไม่โดนมัดติดกับอะไรสักอย่างไว้ตัวเธอคงหล่นไปกับพื้นไปนานแล้ว
“ฉันเองก็อยากเปิดให้นะ แต่ทนเห็นหน้าของเธอไม่ไหวนะสิ ตลอดหลายปีที่ผ่านมาฉันต้องทนมองเห็นหน้าทุกวันเอียนจนไม่รู้จะเอียนยังไงแล้ว ให้มาทนมองอีกฉันคงอดใจไม่ไหวต้องฆ่าเธอแน่เลยมิลา”
ชายหนุ่มพูดอย่างไม่สะทกสะท้าน และดูเขาจะชอบใจที่ได้พูดออกมาเสียด้วยซ้ำ เพราะได้ยินเสียงสะอื้นมาจากหญิงสาวคนที่เขาเกลียดแสนเกลียดเขากลับยิ้มออกมาด้วยสีหน้ามีความสุข
“แต่ฉันจะใจดีเปิดให้เธอเห็นหน้าของคนที่เธอรักอีกสักครั้งก็แล้วกัน”
พรึ่บ! แสงไฟสว่างจ้าขึ้น ดวงตากลมโตสวยต้องกะพริบถี่ ๆ หลายครั้งเพื่อปรับโฟกัสการมองเห็น และได้ยินเสียงฝีเท้าที่เดินเข้ามาเรื่อย ๆ
“หิวน้ำใช่ไหม”
ซ่า~~
“แค่ก แค่ก!” มิลาสำลักน้ำออกมาทันทีเมื่อคนใจร้ายจงใจเทน้ำกรอกใส่ปากลงมาให้เธอ และไม่ยอมดึงกลับ
“คุณทำแบบนี้ทำไม ฉันไปทำอะไรให้” เสียงแหบแห้งเอ่ยถามด้วยสีหน้าที่อิดโรย
“ไม่เรียกพี่แล้วเหรอ เมื่อก่อนยังพูดเสียงอ้อนอยู่เลยนิ หึ” โทมัสพูดเสียงล้อเลียนและแสยะยิ้มพึงพอใจเมื่อเห็นดวงตาหญิงสาวสั่นไหวพร้อมที่จะร้องไห้
“คุณมันเลว เล่นกับใจคนมันสนุกมากไหม”
“สนุกสิ สนุกมากด้วย ยิ่งเห็นใบหน้าเคลิ้มฝันของเธอมันยิ่งน่าขัน”
โทมัสหัวเราะและมองใบหน้าหญิงสาวที่มองเขาด้วยสายตาโกรธแค้น จะไม่ให้เธอโกรธก็คงไม่ได้เพราะหลายปีมานี้เขาหลอกใช้เธอตั้งหลายอย่าง หลอกถามเกี่ยวกับธุรกิจฝั่งครอบครัวของเธอมามากโขจนสามารถทำให้อีกฝ่ายย่อยยับได้เลย ไม่น่าแปลกที่เธอจะโกรธจะเกลียด
“มาทำแบบนี้กับฉันทำไม ฉันไปทำอะไรให้คุณ” เสียงสะอื้นเอ่ยถามและจ้องชายหนุ่มเขม็งด้วยความแค้น ทั้งแค้นและรักในเวลาเดียวกัน
“แค่เธอเกิดมาเป็นลูกไอ้เวรนั้นก็ผิดแล้วมิลา” เสียงเย็นยะเยือกเปล่งออกมา และแสยะยิ้มเดินเข้ามาบีบคางเล็กจนเธอต้องนิ่วหน้าไปด้วยความเจ็บ
“แล้วใครล่ะ ครอบครัวฉันไปทำอะไรให้คุณเจ็บปวด”
“พ่อเธอไง ไอ้ลูคัส กับพวกลุงของเธอ”
“.......” มิลานิ่งเมื่อรู้ถึงความโกรธที่เขามีต่อครอบครัว แต่เธอไม่รู้จริง ๆ ว่าครอบครัวของเธอไปทำอะไรให้
“เธอคงไม่รู้สินะว่าพ่อกับพวกลุงของเธอทำให้พ่อของฉันตาย เพราะแบบนั้นแม่ของฉันถึงได้ตรอมใจตายตามตอนที่รู้ข่าว ไอ้พวกครอบครัวสารเลว”
“ครอบครัวฉันไม่มีทางทำเลว ๆ ระยำเหมือนคุณหรอก อย่าเอาตัวเองมาเปรียบเทียบกับครอบครัวของฉัน”
หล่อนย้อนถามและพยายามกลั้นน้ำตาของตัวเองไว้ เมื่อเห็นใบหน้าหล่อเหลาของผู้ชายตรงหน้าที่เธอโง่หลงรักเขาหัวปักหัวปำจนต้องบินมาเรียนถึงที่นี่
“ปากดี” โทมัสแสยะยิ้มและปลดเชือกที่พันธนาการข้อมือเล็กออก และกระชากผมของหญิงสาวอย่างแรงเพื่อให้เธอเดินตาม
“ไอ้เลว กล้าทำร้ายผู้หญิงไม่มีทางสู้คุณก็สวะดี ๆ นี่เอง”
เผียะ!
หน้าสวยหันไปตามแรงตบของฝ่ามือหนา เธอตกใจเพราะไม่เคยมีใครกล้าตบเธอมาก่อน ขนาดตอนเป็นเด็กพ่อแม่แทบไม่ลงไม้ลงมือกับเธอเลย แต่ไอ้นี่มันเป็นใครกันถึงได้ทำกับเธอได้แบบนี้
“ถุย! ไอ้หน้าตัวเมีย”
โทมัสกัดฟันกรอดเมื่อคนโดนตบไม่ได้สะทกสะท้านหรือหวาดกลัวกับความเจ็บเลย ยังมีหน้ามาถ่มน้ำลายใส่หน้าของเขาอีก
“เธอนี่มันวอนตีนฉันจริง ๆ” เสียงกร้าวกัดฟันกรอดพูดออกมา และกระชากผมนุ่มสลวยลากให้ตัวเธอไถลไปกับพื้นอย่างไม่แคร์ว่าเธอจะเจ็บ
ร่างเล็กหวีดร้องและพยายามสู้เท่าที่จะสู้ได้ แต่ด้วยแรงหญิงจะไปสู้แรงผู้ชาย ทั้งตัวเจ็บระบมไปหมดกับการโดนลากไปกับพื้น ไหนจะหัวที่รู้สึกเจ็บรวดร้าวถึงไปกระดูก
ตุบ!
ร่างเธอกระแทกเข้ากับฟูกแข็ง ๆ เต็มแรงเมื่อร่างแกร่งจับเธอโยนลงมา
มิลานิ่วหน้าไปด้วยความเจ็บ ใช้สองมือสองข้างของตัวเองลูบปลอบโยนแขนและลำตัวพยายามปลอบใจว่าเธอนั้นไม่เป็นไร เดี๋ยวเรื่องทุกอย่างก็จบ ถ้าเธอไม่ได้ติดต่อครอบครัวเป็นเวลานานพ่อต้องมาช่วยเธอแน่ พ่อลูคัสไม่เคยปล่อยให้เธอลำบากแม้แต่น้อย ไม่เคยยอมให้ใครหน้าไหนมาทำให้เธอเจ็บตัว
**************************************
คนดีของเธอลายมันออกแล้ว
ร่างที่แท้จริงโผล่แล้วจ๊ะ เขาเป็นสุภาพบุรุษ เขาอ่อนโยน มันคือซานตานดี ๆ นี่เอง