บทที่ 5 นางร้ายยังไม่หายแค้น

1586 คำ
ซูจิ้งหนานยังอยู่ในรถยนต์ที่หรูหรามาก ๆ ในใจคิดว่าเจ้าของร่างคนเก่าโง่งมมากแท้ ๆ มีขาทองคำอย่างคุณยายอยู่ยังไปทนให้พ่อเฮงซวยทุบตีเพราะเห็นโจรเป็นพ่อ เห็นคนชั่วเป็นคนดีไปได้อย่างไรกัน ‘นางร้ายก็ไม่ควรโง่นะ’ บางทีนักเขียนก็ใจร้ายกับซูจิ้งหนานเกินไป แต่การที่ต้องตายไร้คนเหลียวแลมันก็ไม่ทำให้เธอที่มาใช้ชีวิตแทนซูจิ้งหนานหายแค้นหรอกนะ แต่ว่าเรื่องราวทั้งหมดก็ควรจะเป็นหลังจากนี้ หลังจากที่เธอควรมีชีวิตต่อ ไม่ได้ตายก่อนนางเอกของเรื่องจะสมหวัง ขณะที่ซูจิ้งหนานคิดถึงความแค้นของนางร้ายในนิยาย มือที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นของคุณยายพร้อมกับเสียงหวานเอ่ยออกมาอย่างปลอบใจเธอ “หลานอย่าได้กังวลใจไปหากหลานไม่อยากอยู่บ้านที่ชานเมือง ยายมีบ้านอีกหลังเป็นของแม่ของหนู จะไปอยู่ที่นั่นก็ได้” ซูจิ้งหนานที่อยู่ ๆ ก็รู้สึกถึงความอุ่นวาบจากมือที่เหี่ยวเฉาตามกาลเวลาแต่กลับพร้อมจะโอบอุ้มยามเธอหกล้ม กับเสียงนุ่มที่เปล่งออกมาปลอบใจราวกับต้องการโอ๋ให้เธอให้หายเจ็บปวด จนทำให้จมูกเล็กเชิดรั้นของเธอแสบ นิด ๆ คล้ายกับจะร้องไห้ กับม่านตาที่อยู่ ๆ ก็มีหยาดคลอด้วยน้ำใส “คุณยายคะ” ซูจิ้งหนานโผร่างเข้าหาคุณยายหลิว หรือสวี่เซียนหรู ที่ชอบความเรียบง่าย และไม่ชอบเข้าสังคม ใช้ชีวิตอยู่ในชนบทชานเมืองพร้อมกับโรงงานทอผ้าที่ใหญ่ที่สุดในเมืองเซี่ยงไฮ ร่างเดิมนักเขียนให้นางร้ายรังเกียจกลิ่นดิน กลิ่นสีย้อมผ้า แต่ทว่าจิ้งหนานคนนี้ไม่ใช่ “หนูอยากอยู่กับคุณยายที่ชานเมืองค่ะ อยากอ่านหนังสือสอบเข้ามหาวิทยาลัยให้ได้ อยู่ที่บ้านพ่อวุ่นวายมาก ห้องหนูแม่บ้านไม่ได้ทำความสะอาดเป็นเดือน ๆ ต้องนอนกับฝุ่น แถมกินข้าวก็ต้องกินคนเดียวไม่มีใครอยากกินด้วย” เมื่อได้โอกาสเธอก็ฟ้อง...ใช่สิต้องฟ้อง นางร้ายคนเดิมน่าสงสารจะตายไป ทำไมคนเอาแต่ว่าร้ายซูจิ้งหนาน แต่คนที่ทำให้ซูจิ้งหนานต้องร้ายไม่เห็นมีใครประณามเลยสักนิด มันยุติธรรมกับเธอที่ไหนกัน “ได้สิหลานยาย...ยายต้องทำให้หลานสบายใจที่สุด อยากสอบเข้าที่ไหนบอกยายเลยนะ” “ได้ค่ะคุณยาย” ยุคนี้สตรีต้องพึ่งสามี ส่วนมากเรียนจบมัธยมก็ต้องแต่งงาน เดิมซูจิ้งหนานที่ไม่อยากโดนกดขี่อยู่ในบ้านของพ่อ ที่แม่เลี้ยงเป็นใหญ่ จึงพยายามตะเกียกตะกายคบหาคนที่มีหน้ามีตา เพื่อที่จะกดข่มลูกของแม่เลี้ยง แต่เธอไม่ใช่...ต่อให้เธอคิดจะเล็งนายพลเย็นชาคนนั้นเอาไว้ก็จริง แต่ว่าเธอก็ต้องมีสมองด้วย เพื่อที่แต่งงานไป เธอจะได้ไม่ต้องก้มหัวอย่างเดียว แล้วอีกอย่างก็คือไม่แน่ว่านายพลคนนั้นจะสนใจเธอด้วยซ้ำ ดังนั้นเธอไม่ประมาทดีที่สุด “แวะที่ตระกูลอวิ๋น” เสียงเฉียบขาดของคุณยายสั่งคนขับรถให้เข้าไปทางตระกูลอวิ๋น ซึ่งเป็นตระกูลการค้าผ้าไหม ใบชา สมุนไพร อีกอย่างยังเป็นเจ้าของห้างที่ใหญ่และโด่งดังอีกด้วย ซูจิ้งหนานจำได้ว่าตระกูลที่ควบคุมเมืองเซี่ยงไฮประกอบด้วยสี่ตระกูลใหญ่ โดยมีตระกูลอวิ๋น คือตระกูลการค้าและห้างสรรพสินค้า มีคุณชายใหญ่ อวิ๋นไห่เฉินจะเป็นผู้นำตระกูลรุ่นถัดไป ตระกูลที่สองคือ ตระกูลหลี่ เป็นตระกูลที่เกี่ยวข้องกับการทหารและตำรวจ รวมถึงพรรคเก่ามีเส้นสายในหน่วยข่าวกรองระดับประเทศ ผู้นำตระกูลทุกรุ่นล้วนเป็นนายพลทั้งนั้น และนายพลรุ่นใหม่คือ หลี่เหวินอวี้คุณชายใหญ่หลี่ ซึ่งอีกสามวันเธอต้องตายเพราะเขา ตระกูลซ่ง เป็นตระกูลที่เป็นเจ้าของสำนักพิมพ์ที่ใหญ่และเจ้าของสถานีวิทยุ รวมถึงโรงเรียนชื่อดังและมหาวิทยาลัย เรียกได้ว่าครอบคลุมทั้งการศึกษาและสื่อรวมทั้งข่าวต่าง ๆ ที่ถูกสร้างที่นี่และเผยแพร่ออกมาให้ประชาชนรับรู้ โดยมี ซ่งเยี่ยนซิน คุณชายรองซ่งเป็นผู้สืบทอด ซึ่งแน่นอนว่าทั้งเธอและซูเหยียนหลิงต่างหมายปอง และซูจิ้งหนานก็ขยันสร้างข่าวกับคุณชายซ่ง ซึ่งแน่นอนว่าเขาเกลียดซูจิ้งหนานที่สุด ตระกูลสุดท้ายคือ ตระกูลหาน เป็นเจ้าของท่าเรือและระบบขนส่งทั้งหมด ทั้งบนดิน บนน้ำ หรืออากาศ เรียกได้ว่าเป็นตระกูลที่ค่อนข้างยิ่งใหญ่รวมถึงฐานะการเงินก็ไม่ด้อยอีกด้วย แต่ทว่าค่อนข้างลึกลับ ว่ากันว่ามีคุณชายใหญ่กับคุณชายรองเป็นหัวเรือของคนรุ่นใหม่ แต่คุณชายใหญ่ผู้นั้นกลับไม่เคยปรากฏตัว และทุกครั้งที่ออกงานมักจะเป็นคุณชายรอง หานอวี้เฉิง ที่ออกหน้าแทน แต่ใบหน้าที่เรียบเฉยและไม่ค่อยเป็นมิตรนัก รวมทั้งดวงตาแข็งกร้าวบวกกับประกายเย็นชายามมองไปที่ผู้ใด ส่งผลให้เขามักไม่มีคนคอยไปทำความรู้จักเท่าไหร่นัก รวมทั้งซูจิ้งหนานด้วย แต่ทั้งสี่ตระกูลเหล่าผู้นำคนรุ่นใหม่ล้วนเป็นสหายกันและมักเห็นทั้งสี่ปรากฏตัวด้วยกันในงานเลี้ยง มักพูดคุยกันเพียงเท่านั้น แต่ก็เรียกสายตาของทั้งงานได้ เพราะเป็นเทพบุตรที่หล่อเหลาที่สุดในยุคนี้ ขณะที่เธอคิดไปเรื่อยเปื่อยเรื่องเหล่าสี่ตระกูล รถยุโรปสีดำสนิทก็ตบไฟเลี้ยวหักเข้ามาในคฤหาสน์ตระกูลอวิ๋น แต่แล้วกลับไม่ได้จอดที่หน้าคฤหาสน์ ยังมุ่งตรงไปยังเรือนหลังใหญ่ที่อยู่ลึกเข้าไป เป็นเขตหวงห้ามก็ว่าได้ เพราะครั้งหนึ่งเธอเคยมางานเลี้ยงตระกูลนี้กับพ่อและแม่ เกือบจะวิ่งซนไปยังเขตหวงห้าม หากไม่ใช่อวิ๋นไห่เฉินลากตัวเธอออกมาเสียก่อน จำได้ว่าเขาโกรธเธอมาก แต่เมื่อแม่ของเธอมารับตัว ทุกคนต่างก้มหัวให้ราวกับเกรงใจ ตอนนั้นยังเด็กไม่รู้ว่านั่นคืออะไรและความทรงจำนั้นกลับมาทำให้เธอเริ่มสงสัยความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลอวิ๋นและตระกูลหลิว นักเขียนไม่ได้เล่ารายละเอียดเอาไว้ ดังนั้นเธอต้องรู้มันด้วยตนเอง ในตอนนั้นแม้ยังเด็กมาก แต่เธอก็สงสัยมาตลอดว่ามีอะไรกันที่อยู่ตรงนั้น แต่ก็ลืมเลือนไปแล้วจนกระทั่งวันนี้ วันที่เธอได้ก้าวเข้ามาในตระกูลอวิ๋นอีกครั้ง แต่ในฐานะหลานคุณยาย ไม่ใช่ลูกสาวของตระกูลซู ใบหน้าของเธอเกร็งเล็กน้อย พลันคิดว่าเธอร้องไห้จนใบหน้าทรุดโทรมเกินไปไหม จนคิดได้ว่าในห้วงมิติที่เธอเปิดหนังสือสามารถหยิบของอะไรก็ได้นี่นา จนกระทั่งเธอนึกขึ้นได้ “คุณยายคะ หนูน่าเกลียดหรือเปล่าคะ” แน่นอนว่าอาการรักสวยรักงามของเธอเกิดกำเริบ เพราะเธอทำงานด้านแฟชั่น ยามอยู่ด้านนอกลุคที่ปรากฏตัว ต่อสาธารณะย่อมสำคัญกับเธอ แต่คุณยายกลับลูบหัวของเธอเบา ๆ ก่อนจะเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “หนูสวยเหมือนแม่หนูมาก ๆ” น้ำเสียงนั้นสั่นเครือเล็ก ๆ ทำให้ซูจิ้งหนานรับรู้ได้ทันทีว่า คุณยายรักคุณแม่แค่ไหน “ถ้าอย่างนั้นคุณยายต้องรักหนานหนานเยอะ ๆ นะคะ รักให้มากกว่าคุณแม่ด้วย” ร่างเล็กโผเข้าออดอ้อนอย่างน่ารักเพื่อให้คุณยายหลงรักเธอมาก ๆ อย่างน้อยก็ชดเชยในสิ่งที่เจ้าของร่างเคยทำไม่ดีเอาไว้ “แน่นอนอยู่แล้ว ตระกูลหลิวต่อไปจะเป็นของหลาน” ซูจิ้งหนานยิ้มทันที หากตระกูลหลิวเป็นของเธอเท่ากับกิจการทอผ้าและโรงทอทั้งหมดก็เป็นของเธอน่ะสิ ‘ว้าว เธอนี่มันนกกระจอกที่จะได้เลื่อนเป็นหงส์แล้ว แท้ ๆ ให้ตายเถอะ ฉันจะไม่ทำให้คุณยายผิดหวังเลยทีเดียว’ แต่ขณะที่กำลังออดอ้อนคุณยายอยู่ที่เบาะหลังอย่างน่าเอ็นดู ด้านนอกพลันมีเงาดำเงาหนึ่งโน้มเข้ามาใกล้กระจกจากหน้าต่างด้านข้าง แสงอาทิตย์ยามบ่ายทอดผ่านเงานั้นลงมาพอดิบพอดี… และในจังหวะนั้นเอง ใบหน้าคมคายราวสลักจากหยกดำก็ปรากฏขึ้นในกรอบสายตาของซูจิ้งหนาน เขาไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากยืนนิ่ง แต่ความหล่อเหลาของเขากลับสะท้อนเข้าตาเธอราวกับมีแรงกระแทกบางอย่างพุ่งใส่ เส้นผมสีดำขลับรับกับโหนกแก้มเด่น ดวงตาคู่นั้นทอประกายนิ่งราวกับรู้ทุกอย่างแต่ไม่จำเป็นต้องพูด แต่คนนอกมองเข้าไปกลับเห็นแต่เพียงความลึกลับ ไม่สามารถอ่านออก ขณะที่รอยแดงจาง ๆ ที่ข้างแก้มกลับไม่ได้ทำให้เขาดูดุ…หากยิ่งเพิ่มความน่าค้นหาเสียยิ่งกว่าเดิม แต่ไม่รู้รอยนั้นได้มาอย่างไร และในวินาทีนั้นเอง หัวใจของซูจิ้งหนานเหมือนถูกหยุดไว้หนึ่งจังหวะกับความครบเครื่องในความหล่อที่อยู่ ๆ ก็มาปรากฏตรงหน้าอย่างไม่ได้ทันตั้งตัว หล่อบ้าอะไรขนาดนี้…เธอเกือบลืมไปด้วยซ้ำว่ากำลังเล่นบทหลานที่น่ารักอยู่ต่อหน้าคุณยาย หากเป็นโลกปัจจุบันสาบานว่าเธอกรี๊ดจนแก้วหูแตก!
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม