เปิดเทอมวันแรก
วันนี้กันต์ธีร์ตื่นตั้งแต่เช้าทั้งที่คณะของตัวเองยังไม่เปิดเรียนแต่เพราะต้องการไปส่งเด็กสาวหน้ามนคนแก้มตุ่ยอย่างแก้มใสที่มหาลัยเขาจึงเกียจคร้านไม่ได้ เธอเปิดประตูห้องนอนออกมาเจอพี่ชายนั่งจิบกาแฟอยู่ในห้องนั่งเล่นก็นึกประหลาดใจ สองวันมานี้อย่าว่าแต่ตื่นเช้าเลย ขนาดตะวันขึ้นอยู่กลางหัวแล้วกันต์ธีร์ยังไม่ตื่นเลย มิหนำซ้ำยังปาร์ตี้หนักหน่วงทั้งสองวันอีก เมื่อคืนยังทิ้งเธอให้อยู่ห้องแล้วตัวเองออกไปเที่ยวกลางคืนอยู่เลย
กลับมาก็ลำบากเธอต้องลากพี่ชายจอมวุ่นวายที่เมาแอ๋แผ่ร่างอยู่บนพื้นกลับเข้าห้องอีก
“เฮียมีธุระเหรอ”
“หื้อ?” คนนั่งจิบกาแฟเล่นโทรศัพท์เงยหน้ามองน้องสาวด้วยแววตาสงสัยก่อนจะคลี่ยิ้มในเวลาต่อมาหลังจากเห็นเสื้อผ้าที่เธอสวมใส่
เขากระดิกปลายนิ้วเรียก “มานี่มา” แก้มใสเดินไปนั่งลงบนโซฟาข้างพี่ชายคนกลางอย่างว่าง่าย ซึ่งหลังจากเธอนั่งลงได้แค่ครู่เดียวกันต์ธีร์ก็รู้สึกมันเขี้ยวจึงยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาบีบแก้มนุ่มเล่น
“พอใส่ชุดนักศึกษาแบบนี้แล้วดูโตขึ้นเยอะเลยนะตัวเล็กของเฮีย งู้ยยยน่ารักอ่าา”
“เฮียกันต์!!” คนน้องถลึงตาโตพลันทำหน้าบู้บี้ใส่พี่ชาย
กันต์ธีร์เห็นสีหน้าน้องสาวดูไม่พอใจก็หลุดหัวเราะเอ็นดูรีบหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายรูปแก้มใสตอนเผลอส่งให้คนในครอบครัวดู แต่เขากลับไม่ทันระวังกดส่งผิดเข้าแชทกลุ่มของเพื่อนแทน
Group ตัวร้ายที่เธอไม่รัก
ริว : งื้ออแฟนกูน่ารักจัง ดูแก้มป่องๆ นั่นสิน่าหยิกชะมัด
กันต์ธีร์ : เก็บปากมึงไว้แดกข้าวซะไม่งั้นกูจะส่งไอ้ล่าคลื่นไปกระทืบ
กันต์ธีร์ยกเลิกการส่งข้อความ
ริว : ยกเลิกก็ไม่ทันแล้วจ้ากูเซฟรูปน้องมึงไว้เรียบร้อยแล้ว
ริว : แนบรูปภาพ
กันต์ธีร์ : ไอ้ริว! ลบเลยนะ
ไนน์ : พวกคุณมึงช่วยไปทะเลาะกันไกลๆ ได้ไหมครับ กูจะนอน!
อชิ : น้องมึงน่ารักจัง
สกาย : อืมกูเห็นด้วย ใส่ชุดนักศึกษาแล้วแปลกตาดี
กันต์ธีร์ : พวกมึงแต่ละคนเลิกชมน้องกูเดี๋ยวนี้เลยนะ กูหวง!
ขณะที่ข้อความในกลุ่มมีความเคลื่อนไหวกันอย่างดุเดือด กลับมีหนึ่งคนที่ซุ่มอ่านข้อความอยู่เงียบๆ เขาไม่ได้สนใจสิ่งที่เพื่อนคุยกันเลยสักนิดหากแต่กำลังนั่งเพลิดเพลินอยู่กับรูปถ่ายของเด็กสาวแก้มป่องตัวน้อยที่ดูท่าน่าจะดื้อเอาเรื่อง
มหาวิทยาลัย คณะแพทยศาสตร์
“เดี๋ยวตอนเย็นเฮียมารับนะ”
“หนูกลับเองได้เฮียไม่ต้องลำบากมารับหรอก”
“ลำบากอะไร ต่อให้ต้องมาจากดาวอังคารเฮียก็นั่ง UFO มารับได้”
“เว่อร์” เธอหลุดหัวเราะขบขันอย่างอารมณ์ดี เฮียกันต์มักชอบทำให้เธอโกรธไม่ลงอยู่เสมอโกรธทีไรเขาก็ทำให้เธอยิ้มได้ทุกที
“อีกเรื่องสำคัญ ห้ามอยู่กับเด็กผู้ชายสองต่อสองเด็ดขาดเข้าใจไหม”
“เฮียอย่าพูดเหมือนหนูเพิ่งเข้าปอหนึ่งสิ นี่หนูอยู่ปีหนึ่งแล้วนะอะไรควรหรือไม่ควรหนูรู้หรอก”
“ดีมาก เฮียก็แค่ไม่อยากให้ตัวเล็กเจอพวกนิสัยไม่ดี แต่ถ้ามีคนที่ชอบจริงๆ ก็มาบอกเฮียก่อนนะให้เฮียเช็กก่อนว่าผ่านไหม”
“รับทราบค่า เฮียพูดเหมือนพี่ล่าคลื่นเลย”
“ไอ้คลื่น?”
“อื้มเมื่อวานพี่ล่าคลื่นก็พูดแบบนี้เหมือนกัน”
“เออเฮียว่าจะถามอยู่พอดี เมื่อวานออกไปกับไอ้ล่าคลื่นได้ไง” กันต์ธีร์อดรู้สึกประหลาดใจไม่ได้ที่น้องสาวยอมออกไปกับเพื่อนสนิทของตัวเองสองต่อสอง ทั้งที่ปกติแก้มใสไม่ชอบไปไหนมาไหนกับคนแปลกหน้า
“ก็โทษเฮียนั่นแหละ หนูปลุกจนไม่รู้จะปลุกยังไงแล้วแต่เฮียก็ไม่ยอมตื่นสักที หนูก็เลยกะว่าจะออกไปหาอะไรกินคนเดียวแต่ก็บังเอิญเจอพี่ล่าคลื่นออกมาจากห้องพอดี พี่เขาก็เลยพาไปเลี้ยงข้าว”
กันต์ธีร์ไม่ได้เอ่ยตอบอะไรทำเพียงมองหน้าแก้มใสอย่างพิจารณา
“เฮียเป็นอะไรรึเปล่า ทำไมมองหน้าหนูแบบนั้นล่ะ”
“ไอ้ล่าคลื่นมันคงไม่ได้จีบแก้มใช่ไหม”
คำถามของกันต์ธีร์ทำให้แก้มใสเหวอไปชั่วขณะก่อนจะหลุดหัวเราะขบขัน “นี่เฮียหวงหนูจนเพี้ยนไปแล้วหรือไง จะเป็นไปได้ยังไง”
“ทำไมจะเป็นไปไม่ได้”
“ก็พี่ล่าคลื่นบอกหนูเองว่าไม่ชอบผู้หญิง”
“มันไม่ได้ไม่ชอบผู้หญิง มันแค่ยังไม่เจอผู้หญิงที่ชอบต่างหากยัยเพี้ยน”
ว่าแล้วก็มะเหงกหัวน้องสาวเบาๆ หนึ่งทีก่อนจะเอ่ยพูดกับเธอต่อ
“แต่ดูแล้วมันก็คงไม่ได้คิดอะไรจริงๆ นั่นแหละ คนอย่างไอ้ล่าคลื่นไม่น่าจะหวั่นไหวกับเด็กน้อยแบบนี้”
“ว่าใครเด็กน้อยไม่ทราบ”
“ยังจะถามอีก”
“หนูโตแล้วนะไม่ใช่เด็กน้อยสักหน่อย”
“ค้าบๆ โตแล้วก็ห้ามดื้อห้ามแอบไปมีแฟนนะ” พูดไปพูดมาก็วนเข้าเรื่องเดิม แก้มใสฟังจนสลักไว้ในใจได้แล้วว่าห้ามมีแฟนจนกว่าพี่ชายจะอนุญาต
หลังจากบอกลาพี่ชายและลงจากรถ แก้มใสในชุดนักศึกษาถูกระเบียบก็มวยผมขึ้นเป็นก้อนดังโงะอยู่กลางหัว เสร็จแล้วก็เดินสะพายกระเป๋าสีขาวที่มีพวงกุญแจหน้าตาน่ารักห้อยเต็มไปหมดเข้าไปในอาคาร
เธอกวาดสายตามองหาโต๊ะลงทะเบียนกระทั่งไม่นานก็เจอเป้าหมาย เด็กสาวเดินตรงดิ่งไปยังโต๊ะตัวยาวที่มีป้ายขนาดใหญ่แปะไว้หน้าโต๊ะว่า ‘จุดลงทะเบียน’
“สวัสดีจ้ะ” พี่สาวผมยาวหน้าตาสะสวยเอ่ยทักทาย “ชื่อจริงว่าอะไรเอ่ย”
“กิรณาค่ะ”
“โอ้วชื่อแปลกจังแต่หาง่ายมากเลย” ว่าจบเธอก็หันแผ่นรายชื่อแผ่นหนึ่งหมุนให้แก้มใสเซ็น “เซ็นชื่อตรงชื่อของตัวเองเลยนะ”
ในระหว่างที่แก้มใสกำลังก้มหน้าเซ็นชื่อพี่สาวคนสวยที่จุดรับลงทะเบียนก็เอ่ยชวนเธอคุย “กิรณาแปลว่าอะไรเหรอ”
“ผู้มีรัศมีเรืองรองค่ะ”
“โหดีอ่า ความหมายดีเว่อร์” เธอไม่ได้เอ่ยตอบอะไร เซ็นชื่อเสร็จก็ยกยิ้มบางให้พี่สาวคนนั้น
“พี่ขอชื่อเล่นด้วยจ้ะ”
“แก้ม...”
“ก้อน...”
แก้มใสยังพูดชื่อตัวเองไม่ทันจบก็มีเสียงทุ้มเสียงหนึ่งดังแทรกขึ้นจนทำให้พี่คนสวยที่กำลังเขียนชื่อเธอใส่คำว่าก้อนลงไปด้านหลังคำว่าแก้มจนกลายเป็น ‘แก้มก้อน’ แทน ‘แก้มใส’
“ไอ้พิท! ฉันเขียนชื่อน้องผิดเลย”
“อ้าวเกี่ยวไรกับฉันล่ะ”
“ก็แกมาก้อนอะไรแถวนี้เล่า ดูสิจากแก้มใสกลายไปเป็นแก้มก้อนเลยเนี่ย”
“ก็ฉันหาก้อนแป้งอยู่” กล่าวจบผู้ชายที่ชื่อพิทก็หันหน้ามามองแก้มใส “น่ารักจัง” เขาหลุดพึมพำออกมาเบาๆ
“มองจนตาจะถลนออกมาอยู่แล้วพ่อคุณ”
“อะแฮ่ม! ไร้สาระ แกเขียนผิดก็เขียนชื่อให้น้องใหม่สิไม่เห็นยาก”
“ไม่เป็นไรค่ะ แก้มก้อนก็ได้” แก้มใสเห็นเพื่อนนักศึกษาคนอื่นยังต่อแถวยาวเหยียดอยู่ด้านหลังเธอจึงไม่อยากทำให้เสียเวลา อย่างไรเสียมันก็เป็นแค่ชื่อจะเรียกอะไรก็เหมือนกัน
แก้มใสรับป้ายชื่อแผ่นดังกล่าวมาสวมไว้บนคอพลางมองหาที่นั่ง ขณะนั้นเองพี่ผู้ชายที่ทำให้ชื่อเธอกลายเป็นแก้มก้อนก็เดินมาหยุดเท้าอยู่ข้างๆ
“สวัสดีครับน้องแก้ม...ก้อน พี่ชื่อพิทนะเรียนอยู่คณะแพทย์ปีสอง”
“ค่ะ” เธอตอบยิ้มๆ
“หาที่นั่งอยู่ใช่ไหมเดี๋ยวพี่พาไป”
แก้มใสพยักหน้าลงก่อนจะเดินตามรุ่นพี่ผู้ชายคนนั้นไปยังที่นั่งรวมตัวของเด็กใหม่ ส่งเธอเสร็จพี่เขาก็มอบลูกอมให้เธอหนึ่งเม็ดเป็นการขอโทษก่อนจะเดินจากไป
แก้มใสรับลูกอมเม็ดดังกล่าวใส่กระเป๋าแบบงงๆ ในระหว่างที่กำลังนั่งรอเวลาเริ่มกิจกรรมหัวไหล่ของเด็กสาวก็ถูกมือคู่หนึ่งสะกิดเรียก เมื่อหันหลังไปมองก็พบว่าคนที่สะกิดไหล่แก้มใสคือเด็กสาวหน้าตาหมดจดคนหนึ่ง
ดวงหน้าเรียวรีรูปไข่ คิ้วโก่งสวยได้ทรงรับกับดวงตาเฉี่ยวคู่งาม เธอเผยฟันขาวสะอาดยิ้มให้แก้มใสพลันเอ่ยทักทาย
“เราชื่ออิงอิงนะ” ชื่อน่ารักจัง แก้มใสคิดในใจก่อนจะคลี่ยิ้มทักทายกลับ “เราชื่อแก้ม...”
“แก้มก้อน!” เพื่อนใหม่โพล่งขึ้นจนแก้มใสแทบสำลัก
“ชื่อแปลกแต่น่ารักจังเหมือนแก้มกลมๆ นั้นเลยน่างับชะมัด” ดวงตาคู่สวยจ้องแก้มทั้งสองข้างของแก้มใสตาลุกวาว ราวกับเห็นขนมโมจิก้อนนุ่มฟูแปะอยู่บนนั้น
“อย่าคิดจะงับเด็ดขาดนะ”
“รู้ด้วยเหรอ”
“นี่มันแก้มไม่ใช่มาร์ชเมลโล่สักหน่อย”
“แต่มันขาวๆ นุ่มๆ เหมือนกันเลย”
“อิงอิง” พอถูกแก้มใสกดเสียงเข้มเอ่ยชื่อเธอ อิงอิงก็แสร้งหัวเราะกลบเกลื่อน “แฮะๆ ไม่เห็นเป็นขนมก็ได้ แต่ถ้ามีโอกาสขอลองงับดูหน่อยได้ไหม”
“ถ้าหิวก็เอานี่ไปกินฆ่าเวลานะ” ว่าแล้วแก้มใสก็หยิบลูกอมในกระเป๋าที่เพิ่งได้มายื่นให้อิงอิง เธอรับไปด้วยท่าทางกระดี๊กระด๊าดีใจก่อนจะแกะลูกอมเม็ดนั้นเข้าปากทันที
“หวานจัง”
“แล้วอร่อยไหม”
“อื้ม”
ในขณะที่กำลังคุยเล่นอยู่กับเพื่อนใหม่ โทรศัพท์ในกระเป๋าแก้มใสก็ดังขึ้นเป็นกันต์ธีร์ที่โทรเข้ามา
“ฮัลโหล”
(เย็นนี้เดี๋ยวเฮียให้ไอ้คลื่นไปรับนะ)
“อ้าวแล้วเฮียไปไหน”
(เฮียมีเรื่องด่วนต้องไปต่างจังหวัดนิดหน่อย)
“ไปทำไมอะ”
(เรื่องของผู้ใหญ่ เอาเป็นว่ารอไอ้คลื่นไปรับด้วยนะเสร็จแล้วก็กลับคอนโดเลยห้ามไปเตร็ดเตร่เล่นที่ไหนตอนกลางคืน)
“ไม่เป็นไรเดี๋ยวหนูกลับเองก็ได้เกรงใจพี่ล่าคลื่น”
(มันรับปากแล้ว และอีกอย่างเฮียก็ไม่วางใจให้แก้มกลับคนเดียวเอาเป็นว่าอยู่กับไอ้ล่าคลื่นนั่นแหละเฮียฝากมันไว้แล้ว)
“แล้วเฮียจะไปกี่วัน”
(สองสามวัน มีอะไรก็โทรหาเฮียนะแต่ถ้าเงินหมดให้โทรหาเฮียกัปแทน)
เรื่องนั้นถึงไม่บอกแก้มใสก็รู้อยู่แล้ว ทุกวันนี้ขนาดเฮียกันต์มีเงินเยอะแยะยังโทรไปไถเงินเฮียกัปตันอยู่เลย
“งั้นเฮียก็รีบทำธุระแล้วรีบกลับมานะ”
(อื้ม เป็นเด็กดีอย่าดื้อกับไอ้คลื่นล่ะเดี๋ยวมันจะกินหัวเอา)
“รู้แล้วน่า หนูไม่ดื้อกับพี่คลื่นหรอก”
(โอเคงั้นรับน้องให้สนุกนะ บะบาย)
“บะบาย”
วางสายได้ไม่นานแก้มใสก็ได้รับข้อความจากเพื่อนสนิทพี่ชาย เธอแปลกใจเล็กน้อยที่เห็นเขาส่งข้อความมาหาเธอเพราะจำได้ว่าเรายังไม่เคยแลกช่องทางติดต่อกัน แต่พอคิดได้ว่าอาจจะได้เบอร์และไลน์ของเธอมาจากพี่ชายแก้มใสก็ปัดข้อสงสัยทิ้งไป
ล่าคลื่น : เลิกกี่โมง
แก้มใส : ยังไม่แน่ใจเลยค่ะ
ล่าคลื่น : งั้นเสร็จแล้วก็โทรมานะ นี่เบอร์พี่ 065381xxxx
แก้มใส : OK