First start
ฉันนั่งหาวอยู่บนเก้าอี้ทำงาน ในขณะที่นั่งมองดาวยั่วชายจากโฮสต์คลับชื่อดังกำลังเต้นโยกท่อนลำไปมา
เปล่านะ ฉันไม่ได้บอกให้พวกเขาถอดกางเกง แต่พวกเขาดันทำเอง!!! เพื่อแลกกับแบงก์เทาเป็นปึกที่กองอยู่ตรงหน้า
ฉันคือ แพรี่ พิมพิสา รอยด์ นักวิทยาศาสตร์สาวคนดัง ฉันอายุ 18 ปี แต่จบด็อกเตอร์ทางพันธุวิศวกรรม เธออ่านไม่ผิดหรอก แล้วตาของพวกเธอก็ไม่ได้สวดออกจากเบ้า ฉันอายุสิบแปด แต่เรียนจบป.เอก
คุณพ่อนักวิทยาศาสตร์สติเฟื่อง ตัดต่อพันธุกรรมของคนฉลาดจีเนียสไม่ต่ำกว่าร้อยคนยัดเซลล์ประสาทแบบพัฒนาเข้าในสมองฉันตอนเกิดมาใหม่ ๆ คุณพ่อตัดแต่งยีนส์ความสวยของผู้หญิงรัสเซียผสมญี่ปุ่นผสานเกาหลีแอบใส่มาในยีนส์ของฉันด้วย
ถึงจะเกิดมาจากไข่กับน้ำเชื้อของพ่อและแม่ แต่มีรูปร่างหน้าตากับสติปัญญาราวกับพระเจ้าสร้าง
คำว่าเบ้าหน้าฟ้าประทานยังน้อยไป ต้องบอกว่าเบ้าหน้าของฉันถูก generate จาก AI จะดีกว่า และหากเทียบกับระบบประมวลผลจากเซลล์ประสาทชั้นเยี่ยมกับคนที่ฉลาดที่สุดในโลก ถือว่าฉันฉลาดระดับสูสีกินกันไม่ลง
ฉันมองหนุ่มหล่อจากโฮสต์คลับเต้นด้วยท่าเดิม ๆ โยกแบบเดิม ๆ ขนาดก็งั้น ๆ ลีลาก็เบ ๆ (basic ที่แปลว่าโคตรอ่อนหัด โคตรพื้นฐาน และโคตรไม่เร้าใจ)
"เบื่อชะมัด เต้นให้มันดี ๆ หน่อย ยิ่งเต้นยิ่ง 49 เข้าไปทุกวัน"
"ก็คุณแพรี่สั่งท่านี้นี่ครับ" ดาวยั่วชายสองคนบ่นอุบ พวกเขากำลังเต้นท่ากระเด้งกระเด้ากลางอากาศให้ฉันดู
"หัดคิดเองหน่อยได้ไหมคะ ว่าเต้นท่าไหนให้ฉันดูแล้วน่าจับพวกคุณกดติดโต๊ะทำงาน ไม่ใช่ดูแล้วน้ำแห้งเหมือนแผ่นดินหน้าแล้งในภาคอีสาน"
"คุณสั่งเองนะครับว่าให้พวกผมเต้นท่าเฮลิคอปเตอร์" พวกเขากำลังหมุนควงเอวเป็นวงกลมแบบไม่ค่อยสมูทเท่าไหร่
"F***" ฉันพ่นคำหยาบบวกสวนสัตว์ออกมาคำหนึ่งด้วย F เวิร์ด
ติ๊ด! เสียงเปิดประตูแบบสแกนม่านตา ฉันหันไปเห็นคุณพ่อเดินเข้ามาในห้องทำงานของฉัน
"Hello Daddy"
"วันนี้ไม่ไปเที่ยวไหนเหรอ เสร็จสิ้นโปรเจกต์งานตัดต่อพันธุกรรมถั่วแปบแล้ว"
คุณพ่อพูดถึงการตัดต่อพันธุกรรมถั่วแปบให้กลายเป็นถั่วรสชาติเหมือนวอลนัทผสมกับพิสตาชิโอ แถมทนแล้งได้สามร้อยปีโดยไม่ต้องรดน้ำ เติบโตได้ด้วยไนโตรเจนจากอากาศ เป็นถั่วแบบถูกทอดทิ้งที่ปลูกทิ้งไว้ที่ไหนก็...แม่ง...โตเองตามใจคนปลูก แมลงไม่แดก ปุ๋ยไม่ต้องใส่ รอเก็บเกี่ยวอย่างเดียวก็พอ แถมอายุการเก็บเกี่ยวแค่ไม่ถึงสัปดาห์ด้วยซ้ำ
"หนูอยากไปเที่ยวยุคจีนโบราณอ่ะ"
"ไปทำไม" คุณพ่อไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด
"ก็สมัยนั้นผู้หญิงร่าX ดีไงคะ มีผัว เอ่อ หมายถึงแต่งงานได้ตั้งแต่อายุสิบห้า เรียกว่าวัยคัน อืม...วัยปักปิ่นอะไรนี่แหละ" เติมคำในช่องว่างเอาเอง เพราะฉันกลัวโดนแบนจากการใช้คำที่ไม่สุภาพ
"หนูก็ไม่ได้ซิงแล้วนี่ลูก" คุณพ่อกลอกตามองเพดาน
"แล้วหนูต้องทนอยู่กับเลข 49 ตลอดไปเหรอคะ หนูเบื่อการขี่ดิลโด้ไซส์ 56 ละนะ" ฉันกลอกตาไปมา มองท่อนลำที่กำลังส่ายเด้งตามจังหวะเพลง นั่นมันเลข 49 ชัด ๆ ฉันเบื่อ!
"ไทม์แมชชีนของพ่อยังว่างอยู่ แต่พ่อไม่อยากให้ไปหรอก หนูยังเด็กเพิ่งฉลองวันเกิดครบสิบแปดไปหมาด ๆ"
"สิบแปดถือว่าโตแล้ว ที่สำคัญคือหนูอยากไปนี่คะ ขอขับไทม์แมชชีนของแดดดี้ไปเที่ยวยุคจีนโบราณสักครั้งเถอะ อย่างน้อยคุณแม่ก็มีเชื้อสายจีน" ฉันอ้อนวอนบิดานักวิทยาศาสตร์เชื้อสายอิตาเลียน อย่างน้อยแม่ของฉันก็เป็นลูกเสี้ยวเชื้อสายจีน
"จะไปคนเดียวเหรอ"
"เปล่าค่ะ หนูจะชวนเด็บเบอร์ร่าไปด้วย"
เด็บเบอร์ร่าหรือเด็บบี้ เป็นแพทย์สาว(หื่น) ปฏิบัติงานให้กับกองทหาร CSIA ของสหรัฐอเมริกา มีความรู้เรื่องการแพทย์ และมีปริญญาโทสองใบ ใบหนึ่งด้านการแพทย์ อีกใบหนึ่งเรื่องพันธุวิศวกรรมเหมือนกับฉัน
พวกเราเป็นเพื่อนรักกันตั้งแต่สมัยอนุบาล รักกันมาก รักแบบที่ไม่หยุมหัวกัน แบ่งของเล่นกันเสมอ และแบ่งผู้ชายใช้ด้วยกันถือเป็นเรื่องที่ normal ธรรมดามาก
ที่สำคัญพ่อของเด็บเบอร์ร่าเป็นนักวิทยาศาสตร์สติเฟื่องเหมือนคุณพ่อของฉันด้วย ฝีมือการวิจัยเรื่องประหลาด ๆ จัดอยู่ในอันดับต้น ๆ ของโลก
ฉันกับเด็บเบอร์ร่าถูกฝังชิพมายด์บลูทูธในสมอง พวกเราสามารถสื่อจิตคุยกันได้โดยไม่ต้องอ้าปาก เป็นการร่วมมือวิจัยระหว่างพ่อของฉันกับพ่อของเด็บเบอร์ร่า
มันมีประโยชน์มากนะ..ในการนินทาคนอื่นแบบไม่อ้าปาก อิ ๆ ๆ ๆ
"เด็กผู้หญิงสองคนจะขับไทม์แมชชีนไปเที่ยวยุคจีนโบราณตามลำพังได้ไง อันตรายออก จะกินจะอยู่ยังไงกัน ยุคโบราณคร่ำครึจุดตะเกียงขนาดนั้น" ศาสตราจารย์ด็อกเตอร์เฟลลินถอนหายใจดังเฮือก
"ไปแป๊บเดียวเองค่ะ ถ้าไม่มีอะไรใหญ่ ๆ ก็กลับเลยทันที ไปเที่ยวแบบเสียวเฉย ๆ แบบวันไนท์สแตนด์"
"โอเค งั้นพ่อให้แหวนมิติไปด้วยละกัน แหวนปรภูมิเวลาบวกการบรรจุทุกสิ่งทุกอย่างไว้ในรูปของโมเลกุลแอสปาย คงทำให้ลูกท่องเที่ยวได้สนุกขึ้น"
"ใส่อะไรให้หนูบ้างล่ะ"
"สถาบันปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ที่มีครบทุกอย่าง ทั้งอาหาร น้ำดื่ม ที่อยู่อาศัย อาวุธเล็กใหญ่ ยันอาวุธนิวเคลียร์ พลังงานไฟฟ้าแบบแห้งใช้ได้อย่างน้อยสามหมื่นปี อ่อ แล้วก็อุปกรณ์เสริมความงามเหมือนยกคลินิกมาไว้ที่บ้านเลยล่ะ"
"แล้วเซ็กส์ทอยล่ะคะ"
"ไม่ได้ใส่ให้นะ เพราะลูกบอกว่าจะไปเสาะหาจรวดบิ๊กไซส์"
"โธ่ หนูต้องรอบคอบสิ เผื่อเจอไซส์จิ๋วเหมือนฮอทดอกมินิเหมือนที่นี่"
คุณพ่อยื่นแหวนมิติให้ฉัน ฉันรีบจับดิลโด้แบบอุ่นกับไข่สั่นชนิดสั่นรุนแรงเสร็จได้ในสามวินาที จับยัด ๆ ใส่ในแหวนมิติทันที
ฉันไม่สนใจอย่างอื่น เพราะฉันมีชีวิตอยู่ได้เพราะอุปกรณ์หรรเสียว เอ๊ย หรรษา
"Hello เด็บบี้ ออกไปท่องโลกโบราณกันเถอะ" ฉันใช้อุปกรณ์มายด์บลูทูธ เทเลพาธีส่งโทรจิตหาเด็บเบอร์ร่าเพื่อนรัก
"ไปไหนอ่ะ"
"ไปหากินผู้ชายโบราณไง"
"โอเค น่าสนุก เธอเตรียมบิกินี่ไปรึยัง เราไปยั่วพวกผู้ชายโบราณกันดีกว่า"
"พ่อฉันใส่ให้ทุกอย่างแหละ เหลือแต่เธอที่ต้องรีบมา"
"ใหญ่แน่นะ ไม่ใช่หลอกให้ฉันไปเสียเที่ยว" เด็บเบอร์ร่าย้ำเพื่อความแน่ใจ
"ฉัน study มาแล้วว่า ดี ไอ ซี เค ของผู้ชายจีนโบราณช่วงก่อนคริสตกาลเป็นช่วงระยะเจ้าโลกใหญ่และยาวที่สุด"
"ตกลงจ้า ฉันเอากระเป๋ามิติไปด้วยอีกใบ เผื่อใส่ผู้ชายโบราณกลับมาด้วย"
"ไปหาขี่กระบองผู้ชายยุคโบราณกันดีกว่า เพราะฉันเบื่อสิ่งเล็ก ๆ ตะมุตะมิเต็มทนแล้ว"
ฉันมองดาวยั่วชายทำหน้าไม่พอใจเมื่อพวกเขาได้ยินผ่านหูว่าอะไรสักอย่างเล็ก
"ผมไม่เล็กนะครับ!" พวกเขาตะโกนขึ้นมาพร้อมกัน แล้วยังเต้นท่าเดิมต่อไป
"ชิ! พวกฮอตดอกมินิที่ไม่ยอมรับความจริง"
ฉันคว้าแหวนมิติแล้วเดินออกไปทันที มันจะมีพวกท่านอ๋องพวกแม่ทัพเหมือนที่เคยอ่านในนิยายสายควายหวานรึเปล่านะ
ฉันต้องไปค้นหาคำตอบเรื่องวิวัฒนาการทำให้เจ้าโลกของผู้ชายเล็กลง ....
เรื่องนี้ยังไม่มีใครทำ study project อย่างจริงจัง ฉันจะทำเป็นคนแรก ว่าแล้วฉันก็ตั้งสมมุติฐานการวิจัยเรื่องวิวัฒนาการอันถดถอยของอวัยวะเพศชายซึ่งแปรผันตรงกับวิทยาการและความเครียด
อาห์ เป็นโปรเจกต์ที่เข้าท่ามาก ๆ