ลองนึกสภาพผู้หญิงสองคนที่ถูกจับมัดเป็นดักแด้ นอนกองก้นอยู่ในรถม้า ตรงหน้าของพวกเราคือเจิ้งฟงหมิงกำลังแทะไก่ย่างหนังเหลืองกรอบแกล้มเหล้า นั่งหรี่ตามองพวกเราในสภาพสุดโทรม
ท้องฉันร้องโครกคราก อยากจะด่าเขาว่าไอ้ลูกเต่า ฉันมองอีตาอ๋องปากมันแผล่บ กำลังกัดน่องไก่ย่างสีเหลืองทอง ตอนกัดได้ยินเสียงหนังไก่ดังกร๊อบบบบบบ กินต่อหน้าฉันโดยที่ไม่ได้เสนอว่าจะแบ่งปันให้สักคำสองคำ
"เหตุใดจึงกล้าผิดนัดกับเปิ่นหวาง พวกเรานัดกันตั้งแต่ยามเหม่า"
"ฉันไม่อยากไปพบเมียคุณนี่ ทำไมฉันต้องไปด้วยล่ะ"
"ข้าถือสัตย์ยิ่งชีพ" เขาชะงักจากน่องไก่ในมือ สายตามองจ้องหน้าฉันสื่อความอย่างที่เขาพูด ดูเป็นการเป็นงานไม่ได้ล้อเล่นสักนิดเดียว
"ค่ะ ฉันตอบไปแล้วว่าไม่ต้องการพบภรรยาของท่านอ๋อง และฉันขอยกเลิกสัญญาสยิวที่เคยทำกับคุณ"
"แต่เจ้าเกี่ยวก้อยสัญญากับข้าแล้ว และข้าก็ให้สัตย์คำว่าดีล"
นั่น!!! จำคำว่าดีลได้ด้วยโว้ย เอาสิ
"พูดอีกก็ถูกอีก แต่ฉันอยากเปลี่ยนพันธะสัญญา หากพวกเราขุดแหล่งน้ำให้คุณอ๋องได้ ขอแลกกับทองคำแล้วก็บ้านเล็ก ๆ สักหลัง" ฉันกำลังคิดถึงเงินและที่อยู่อาศัย ถึงคุณพ่อจะใส่สถาบันวิจัยพันธุ์พืชมาให้ในแหวนมิติ แต่สถาบันวิจัยมีเพียงสามห้อง ส่วนใหญ่เป็นห้องเครื่องมือแล็บและห้องสำหรับตัดต่อพันธุวิศวกรรม ที่ทำงานคือเหมาะสำหรับทำงาน ไม่เหมาะกับการอยู่อาศัย
"พวกเจ้าสามารถพักในตำหนักเล่อจิ่วของข้าได้"
"ไม่สะดวกค่ะ พวกเราไม่ชอบอยู่บ้านผู้ชาย รู้สึกตกอยู่ในสภาวะพึ่งพิง" ฉันตอบอย่างฉะฉาน
"แต่พวกเจ้าตกลงเป็นสตรีอุ่นเตียงของข้า" เขาเถียง
"กรุณาทวนสัญญาดี ๆ ค่ะ พวกเราบอกว่ากินกันแล้วก็จบ ไม่ผูกมัด"
"ซึ่งข้ายังไม่ได้กินพวกเจ้าตามสัญญา" เขาหรี่ตามองด้วยสายตาเพลย์บอยนักเชือด
"โว้ยยยยย ทำไมเข้าใจยากจังเพคะ" ฉันแดกดัน
เขาอาจมี EQ and IQ เท่าสัตว์ชั้นต่ำอย่างพวกเพรียงหัวหอมหรือ amphioxus
"สัจจะคือสัจจะ" เขาย้ำ
"โอเค ไม่ว่าพวกเราจะอยากไปหรือไม่อยากไปพบเมียคุณ แต่พวกเราก็ถูกจับใส่รถม้ามาแล้วนี่คะ"
"แพรี่นอนไม่หลับเพราะคิดเรื่องท่านอ๋องทั้งคืน ฉันผิดเองที่ชวนแพรี่ดื่มหนักจนตื่นสาย" เด็บเบอร์ร่าเอากระโถนอึไปคว่ำใส่หัวตัวเองแทนฉัน
"หมายความว่าอย่างไร"
"หมายความว่าแพรี่ไม่ได้จงใจผิดสัญญากับคุณอ๋องนะคะ"
"พอเถอะเด็บบี้ เธอจะแก้ตัวให้ฉันทำไม"
"ก็ฉันเห็นเธอคิดเรื่องผู้ชายเป็นครั้งแรกในชีวิตนี่"
"จุ๊ ๆ ๆ ๆ เบา ๆ สิ จะพูดมากให้เขารู้ทำไมล่ะ" ฉันเลิ่กลั่ก
ตอนนี้เด็บเบอร์ร่าทำตัวเหมือนอยากออกจากลีกเซ็กส์ เหมือนนักเตะที่จงใจเบี้ยวลีกฟุตบอล หล่อนกำลังพยายามทำหน้าที่คิวปิดกามเทพสายเด้า แผลงศรรักปักจิ๊โม๊ะของฉันเข้ากับแท่งลำของท่านอ๋อง
"จะชงเข้มทำไมล่ะ" ฉันมองค้อน
"เธอคิดถึงท่านอ๋องทั้งคืน ทำไมไม่บอกเขาตามตรงล่ะ" เด็บเบอร์ร่าพูดเสียงดัง
เขาหูผึ่ง!!
เจิ้งฟงหมิงวางน่องไก่ลงในจาน จิบสุราล้างปากแล้วทำท่ากระหยิ่มใจ เมื่อได้ยินว่าฉันคิดถึงเขาทั้งคืน ริมฝีปากสีระเรื่อยิ้มบาง ๆ ที่มุมปาก ท่านอ๋องสายโหดจ้องฉันไม่วางตา
"เจ้าคิดถึงข้าจริงรึแพรี่" เขาพยายามออกเสียงชื่อแพรี่ด้วยภาษาจีนโบราณ ฟังดูตลกมาก
"ไม่ค่ะ เด็บบี้พูดจาเหลวไหลเอง"
"จริงค่ะ ฉันขอยืนยัน นอนยัน ยืดอกยันด้วยนมสองเต้า แพรี่คิดถึงท่านอ๋องจริง ๆ นะคะ" ยัยเพื่อนรักกำลังชงเข้มแบบไม่พัก
"โอเค๊ ฉันคิดถึงคุณค่ะ แต่เป็นเรื่องสำคัญที่ฉันเผอิญไปตกลงกับคุณเรื่องขึ้นเตียงทั้งที่ไม่รู้มาก่อนว่าคุณมีภรรยาแล้ว"
"ขอบใจที่คิดถึงเปิ่นหวาง ไม่มีใครบอกรัก บอกคิดถึงข้านานแสนนานแล้ว" เจิ้งฟงหมิงทอดสายตามองนอกหน้าต่างรถม้า ทำอารมณ์เหมือนพระเอกมิวสิคสายดิ่งผู้ผิดหวังจากนางเอกสายร่าน
"ชิ๊ มีเมียอยู่แล้ว เมียไม่เคยบอกรักบอกคิดถึงรึไง" ฉันพูดด้วยเสียงเบาระดับมดยังไม่ได้ยิน
"อย่าคิดว่าข้าไม่ได้ยินที่เจ้าพูด" เขาถลึงตาใส่
"ฉันไม่ได้พูดอะไรสักหน่อย" ฉันรีบปฏิเสธ
"ข้าเกลียดสตรีขี้โกหก" เขาคำราม
หมับ!! พรวด!! สวบ!!
เจิ้งอ๋องเอาน่องไก่ยัดปากฉันกับเด็บเบอร์ร่าคนละน่องเพื่อให้เราเงียบเสียงลง
แม่เจ้า! ฉันอยากจะร้อง What the fuXX?
ไอ้คนไร้อารยธรรม จับพวกเรามัดไว้แล้วยังเอาน่องไก่ยัดปากอี๊กกก
ฮึ ๆ ๆ ๆ ๆ
คิดเหรอว่าพวกฉันจะร้องไห้เหมือนนางเอกในนิยายน้ำเน่า
ด้วยสกิลการอมขั้นเทพ คอลึกขั้นเซียน ลิ้นพลิ้วแบบลูกรักพระเจ้า พวกเราใช้ลิ้นตวัดน่องไก่ เคี้ยวกินเนื้อแบบเพลิน ๆ เสียงดังซ๊วบ ๆ ม๊วบ ๆ บ๊วบ ๆ
แท่งหรรษาไซส์ยักษ์เรายังอมไหว ด้วยสกิลชั่วโมงบินสูงยิ่งกว่าเด็กอ่างเบอร์ตอง เอาน่องไก่ยัดปากฉันกับเด็บเบอร์ร่าถือเป็นการป้อนอาหารให้พวกเราค่ะ
ฉันกับเด็บบี้โชว์สกิลการกินไก่แบบไม่ใช้มือให้เจิ้งฟงหมิงดูเป็นขวัญตา
ไม่นานนักเราก็พ่นกระดูกไก่ออกจากปาก
ฮิ ๆ กำลังหิวอยู่พอดี
"นี่พวกเจ้า กินน่องไก่โดยไม่ใช้มือได้อย่างไร"
"พวกเราลีลาการใช้ลิ้น ใช้ปากขั้นเง็กเซียนฮ่องเต้จ่ะ" ฉันเบ้ปากเล็กน้อย
"ได้รองท้องพอดีเลยค่ะ" เด็บเบอร์ร่าเลียปากแผล่บ ๆ
เจิ้งอ๋องอึ้งไปเลยกับท่ากินไก่โดยไม่ใช้มือ ฉันมองหน้าหล่อ ๆ อยู่พักใหญ่ จึงหลับไปอีกครั้งหลังกินน่องไก่เสร็จ เขาจะพาฉันไปพบชะนีที่ไหนก็ไปเหอะ ฉันขอกินอิ่มนอนหลับก็พอ
*************
รถม้าเดินทางมาถึงหุบเขาห่างไกลผู้คน ได้ยินเพียงเสียงรถม้าบดทางหินกรวด รถม้าพร้อมคนขับหยุดตรงสถานที่แห่งหนึ่งซึ่งสวยงามเหมือนภาพฝัน
ฉันมองเห็นเนินหญ้าเขียวขจี ดอกไม้สีชมพูดอกเล็กขึ้นแซมพื้นหญ้าดูน่ารัก เนินเขาเบื้องหน้ามีสายน้ำไหลผ่าน เห็นปลาในลำธารแหวกว่ายอย่างร่าเริง ฝูงวัวเล็มหญ้าอย่างมีความสุขท่ามกลางกลิ่นหอมของดอกไม้ป่าลอยมาตามลม
เจิ้งฟงหมิงแก้มัดให้พวกเราเป็นอิสระ
"เดินตามข้ามา" ท่านอ๋องฉวยช่อดอกมู่ตานหรือดอกพีโอนีสีชมพูอ่อนมาถือไว้
เขาคงกำลังจะเอาดอกไม้ไปให้เมียเขาสินะ
ฉันรู้สึกเจ็บจี๊ดไล่ตั้งแต่หัวหน่าวไปถึงหัวใจ!!!!
เราเดินตามเขาไปต้อย ๆ เห็นเพียงเนินดินเขียวขจีที่เบื้องหน้ามีแม่น้ำไหลผ่าน
"นี่อย่างไร ภรรยาของข้า" เจิ้งอ๋องยืนอยู่หน้าเนินดินสลักชื่อเนี่ยหนิง ป้ายนั้นทำจากหยกขาวชั้นดีมีราคา
ฉันกวาดสายตามองโดยรอบ สมองไอคิวกว่า 300 ประมวลผลทันที
พวกเรากำลังยืนอยู่ที่ฮวงซุ้ย สถานที่ฝังศพแบบจีนโบราณ เป็นสถานที่อันสดชื่น สว่าง สงบ เกี่ยวกับลมและน้ำอย่างสมบูรณ์
เจิ้งฟงหมิงบรรจงวางช่อดอกมู่ตานลงหน้าสุสานของภรรยา(เก่า) สายตาที่เขาทอดมองหลุมศพ..บ่งชัดว่าเขารักนางผู้นั้นสุดหัวใจ เหมือนให้หมดแบบไม่มีอะไรเหลือไว้ ให้ไปแบบ with all his heart
"พวกนางให้สัตย์ว่าจะดูแลข้า เนี่ยหนิงจงรับรู้ว่าต่อจากนี้ไปข้าจะไม่เดียวดายอีกแล้ว"
เขาบอกวิญญาณเมียเก่าให้รับรู้ว่าฉันกับเด็บเบอร์ร่าจะดูแลเขาต่อ
"ห๊าาา ฉันให้สัญญาตอนไหนกันว่าจะดูแลคุณ"
"นั่นน่ะสิ" เด็บเบอร์ร่าทำหน้างงเหมือนฉัน
"ชู่วววว ฟังเสียงลมนั่นสิ เนี่ยหนิงรับรู้และอนุญาตให้ข้าแต่งพวกเจ้าเป็นภรรยา"
เจิ้งอ๋องกล่าวออกมาอย่างขี้ตู่พร้อมบอกให้พวกเราฟังเสียงลมพัดใบไม้แห้ง
เฮอะ!! แผนสูงนัก