“ผมมาพบคุณมุก รบกวนบอกว่าเพื่อนของอีธานมาพบครับ” ชายหนุ่มบอกพนักงานเสียงเรียบ หลังจากที่เขารีบออกจากบริษัทแล้วตรงมาหาหญิงสาวที่ร้านโดยไม่ได้นัดล่วงหน้า
“สักครู่นะคะ”
พนักงานสาวมองชายหนุ่มแล้วรับคำด้วยความสุภาพ ก่อนจะเดินหายเข้าไปด้านใน เพียงไม่นานก็กลับออกมา ด้านหลังของเธอมีร่างของหญิงสาวเจ้าของร้านเดินตามออกมาด้วย
“คุณเรย์ สวัสดีค่ะ มีอะไรหรือเปล่าคะ” ฟาริดาทักทายเขาด้วยความแปลกใจ
“พอดีมีเรื่องรบกวนคุณหน่อย วันนี้คุณว่างไหม”
“อืม.....ตอนนี้ยังว่างอยู่นะคะ มีงานช่วงบ่าย”
“ไปบริษัทกับผมได้ไหม เดี๋ยวผมอธิบายให้ฟังบนรถ”
“เอ่อ ได้ค่ะ”
ฟาริดามีสีหน้าไม่เข้าใจ แต่เธอก็รับปากเอลเลริคอย่างง่ายดาย เธอรู้สึกว่าเขาไว้ใจได้มากกว่าอีธานที่เธอไม่เคยอยู่ด้วยกันสองต่อสองเลยสักครั้ง สัญชาตญาณของเธอบอกแบบนั้น
“งั้นเชิญครับ” ฝ่ามือหนาผายเชิญให้หญิงสาวเดินไปกับเขาเพื่อตรงไปยังรถที่จอดอยู่
หญิงสาวพยักหน้ารับก่อนจะเดินไปตามที่เขาเชิญอย่างคนไม่คิดมาก พนักงานหลายคนมองไปยังเจ้านายสาวที่เดินกับหนุ่มหล่อรูปร่างสูงใหญ่ด้วยความสนใจ แต่เมื่อดวงตากลมโตกวาดมองไปยังพนักงานของตนเอง สายตาเหล่านั้นก็หลบหายไป
เมื่อมาถึงที่รถ หญิงสาวก้าวขึ้นไปนั่งหลังจากที่ชายหนุ่มเปิดประตูให้เธอ เอลเลริคเองก็ไม่เคยดูแลใครแบบนี้ เขาจึงมีอาการนิ่งขรึมเล็กน้อย
“บริษัทของผมผลิตและจำหน่ายอัญมณี พอดีช่วงนี้ผมกำลังออกแบบอัญมณีคอลเลคชั่นใหม่” หลังจากรถเคลื่อนตัวออกมาได้ไม่นาน เอลเลริคก็พูดทำลายความเงียบ
“ค่ะ แล้วจะให้ฉันช่วยอะไรคะ” ฟาริดาฟังแล้วพยักหน้ารับ
“ผมพูดตามตรงว่าเราติดปัญหาเรื่องการออกแบบมานาน ทั้งภาพลักษณ์และความรู้สึกของอัญมณี แต่เมื่อคืน.....ผมนึกถึงคุณ แล้วเอาภาพลักษณ์ของคุณมาเป็นแบบ ผลมันออกมาดีกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา”
“แล้ว.....ฉันช่วยอะไรได้คะ” หญิงสาวถามเขาด้วยความไม่เข้าใจ
“แค่ให้บรรดานักออกแบบของผมได้เห็นและสังเกตบุคลิกกับภาพลักษณ์ของคุณก็พอ เพราะคอลเลคชั่นนี้ ผมต้องการให้พวกเขานำภาพลักษณ์ของคุณมาเป็นต้นแบบ” เอลเลริคอธิบายให้หญิงสาวฟังอย่างตรงไปตรงมา
“ได้ค่ะ ฉันไม่มีปัญหา”
“ขอบคุณครับ”
หลังจากที่ฟาริดารับคำ เอลเลริคก็มีสีหน้าโล่งใจ ก่อนที่เท้าจะแตะคันเร่งเพื่อเพิ่มความเร็ว มุ่งหน้าตรงไปยังบริษัท
หลังประตูลิฟต์ส่วนตัวเปิดออก พร้อมกับร่างสูงใหญ่ของเอลเลริคก้าวออกมา ตามด้วยร่างของหญิงสาวที่อีริคเพิ่งไปสืบหาข้อมูลให้ผู้เป็นเจ้านายไป เจ้าตัวถึงกับสะดุ้งด้วยไม่คิดว่าผู้เป็นเจ้านายจะออกไปรับหญิงสาวมาที่นี่ เพราะแม้แต่แฟนเก่าของเอลเลริคที่คบกันมาเกือบ 3 ปี ก็ยังไม่เคยแม้แต่จะได้ก้าวเท้าเข้ามาที่นี่แม้แต่ครั้งเดียว
“อีริค เรียกประชุมฝ่ายออกแบบ ด่วน ภายใน 15 นาที” เอลเลริคสั่งระหว่างที่เดินผ่านโต๊ะของผู้ช่วยคนสนิท ก่อนที่เขาจะเดินไปเปิดประตูแล้วส่งสัญญาณให้ฟาริดาเดินนำเข้าไปภายในห้องทำงาน
“คุณไม่ได้กลับบ้านเหรอคะ” ฟาริดาถามเมื่อเดินเข้ามาภาบในห้องแล้วสายตา
“ครับ เมื่อวานส่งคุณแล้วก็เลยมาที่นี่เลย” เอลเลริคมองตามสายตาของหญิงสาวแล้วก็ยอมรับออกมา ฟาริดาเป็นคนช่างสังเกตมากกว่าที่เขาคิด
“ยังไม่ได้นอนเหรอคะ”
“ยังไม่ได้นอนครับ” ชายหนุ่มพยักหน้ารับ
“.....ไม่พักสักหน่อยเหรอคะ”
“ขอประชุมเสร็จก่อน”
เอลเลริคเป็นคนที่อยากจะทำอะไรแล้วจะทำให้ได้ คิดแล้วต้องทำ ถ้าปล่อยเอาไว้หรือรอไปเรื่อยๆแล้วเขาจะหงุดหงิด
ฟาริดาพยักหน้ารับ หญิงสาวหย่อนตัวนั่งลงบนโซฟาตัวใหญ่ ดวงตากลมโตมองร่างสูงใหญ่ของเจ้าของห้องที่เดินไปนั่งลงบนเก้าอี้หลังโต๊ะทำงาน ก่อนจะหลุบตาลงเมื่อโดนเขามองกลับมา
“คุณนั่งรอไปก่อนนะ เดี๋ยวตอนเข้าประชุมผมจะให้คุณเข้าไปด้วย”
“คะ ไม่เป็นอะไรเหรอคะ”
“เป็นอะไร เรื่องอะไร”
“ก็ความลับของบริษัทคุณไม่ใช่เหรอคะ”
“ไม่เป็นอะไร ยังไม่มีการคุยเรื่องแบบ ผมแค่ต้องการให้พวกเขาได้เห็นคุณแล้วออกแบบจากภาพลักษณ์ของคุณ”
“อ๋อ ค่ะ”
“เดี๋ยวรออีริคมาตามคุณก็ลงไปพร้อมผม”
“ค่ะ” ฟาริดารับคำ ก่อนที่เธอจะมองไปรอบๆห้องอย่างคนไม่มีอะไรทำ
ห้องทำงานของเอลเลริคถูกจัดอย่างเป็นระเบียบ ไม่ว่าจะเป็นชั้นหนังสือ ชั้นเก็บเอกสาร หรือแม้แต่โต๊ะทำงาน ทุกอย่างถูกจัดให้เข้าที่เข้าทางจนแม้แต่เธอที่เห็นเพียงแวบเดียวยังรู้สึกได้ว่าเจ้าของห้องเป็นคนมีระเบียบมากแค่ไหน
ไม่นานอีริคก็เข้ามาตามเอลเลริคเมื่อทุกคนมาพร้อมกันแล้ว ฟาริดายกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดูก็แอบเลิกคิ้วแปลกใจ เมื่อมันครบ 15 นาทีเป๊ะ
“คุณมุก เชิญครับ”
เอลเลริคเรียกหญิงสาวก่อนจะลุกขึ้นจากเก้าอี้ เขารอจนหญิงสาวเดินเข้ามาใกล้จึงเดินนำออกจากห้องไป ปิดท้ายด้วยอีริคที่เดินถือแฟ้มเอกสารและไอแพดรุ่นล่าสุดเดินตามหลังสองหนุ่มสาวไป
ภายในห้องประชุม หลังจากที่ผู้เป็นเจ้านายเดินเข้าห้องประชุมไป ท่ามกลางสายตาของเหล่าพนักงานฝ่ายออกแบบที่มองเลยร่างของเจ้านายหนุ่มไปด้วยความแปลกใจ แต่ก็เก็บสีหน้าและท่าทางจนมิด พวกเขาไม่เคยเห็นเจ้านายพาใครเข้ามาที่บริษัทแม้แต่ครั้งเดียว!!
“ผมอยากให้พวกคุณออกแบบคอลเลคชั่นนี้ จากภาพลักษณ์และบุคลิกของเธอผู้นี้ ผลงานชิ้นไหนถูกใจผม ผลงานชิ้นนั้นจะได้เป็นแบบให้กับคอลเลคชั่นนี้ รวมทั้งได้โบนัสจากยอดขายด้วย ผมมั่นใจว่าทีมของพวกคุณมีศักยภาพมากพอที่จะออกแบบได้ถูกใจผมและลูกค้า” เอลเลริคพูดสั่งงานแบบรวบรัดเพราะต้องการให้บรรดานักออกแบบใช้ความคิดและความสามารถในการวิเคราะห์บุคลิกและภาพลักษณ์ของฟาริดาเอาเอง
“ขอพูดอะไรได้ไหมคะ” ฟาริดาหันมาถามเอลเลริคเชิงขออนุญาต
“เชิญครับ” ชายหนุ่มพยักหน้า
“มุกว่า พวกคุณควรกำหนดกลุ่มเป้าหมายเป็นการเริ่มต้นในการออกแบบนะคะ เพราะถ้าคุณเจาะกลุ่มเป้าหมายบุคคลทั่วไปที่กำลังซื้อค่อนข้างน้อย ก็อาจจะทำเป็นข้อมือหรือสร้อยที่มีจี้เส้นเล็กๆ แต่ถ้าเป็นกลุ่มเป้าหมายบรรดาหญิงสาวไฮโซหรือคนมีกำลังซื้อค่อนข้างมาก ควรเน้นไปที่ขนาด แบบที่ค่อนข้างเก๋และหรูหรา ตามวิสัยการชอบแข่งขันของพวกเธอค่ะ” ฟาริดาแสดงความคิดเห็นของเธอ เพราะเธอเองก็คลุกคลีกับผู้คนที่เรียกตนเองว่าไฮโซมาเช่นกัน
เมื่อได้ฟังความเห็นของหญิงสาว บรรดานักออกแบบรีบจดความเห็นของเธอ และภาพลักษณ์ของเธอที่พวกเขามองเห็นกันอย่างรวดเร็ว เพราะเมื่อมองสายตาที่เจ้านายหนุ่มมองหญิงสาวผู้นี้ตอนที่เธอออกแสดงความคิดเห็น มันไม่ได้ดูเย็นชาเหมือนเวลาที่เขาแสดงออกตามปกติ
“เอาล่ะ เลิกประชุม”
หลังจากเห็นว่านานพอสมควร ชายหนุ่มจึงประกาศปิดการประชุมแล้วส่งสัญญาณเป็นเชิงบอกให้ฟาริดาเดินนำออกไป
หญิงสาวพยักหน้ารับ แล้วเดินนำออกจากห้อง ตามด้วยเอลเลริค และมีอีริคเดินปิดท้าย ท่ามกลางสายตาอยากรู้อยากเห็นของพนักงานที่ปิดไว้ไม่มิด
เมื่อมาถึงห้องทำงาน เอลเลริคและฟาริดาเดินเข้าห้องไปด้วยกันเพียงสองคน อีริคตรงไปยังโต๊ะทำงานของเขาและเตรียมทำงานของเขาเหมือนดังเช่นทุกครั้งหลังมีการประชุม
“ขอพักแป๊บนะ เดี๋ยวผมไปส่ง”
“เชิญค่ะ”
ฟาริดามองร่างสูงใหญ่ที่เดินไปเอนกายนอนลงบนโซฟาตัวยาว เธอเดินตามไปนั่งลงบนโซฟาตัวเล็กข้างๆกัน เพียงไม่กี่นาที ชายหนุ่มเจ้าของห้องก็หลับไป
อีริคเปิดประตูเข้ามาเพื่อนำกาแฟมาให้ผู้เป็นเจ้านาย และน้ำผลไม้กับของว่างสำหรับหญิงสาว เขาชะงักไปเมื่อเห็นเจ้านายของตนนอนหลับต่อหน้าหญิงสาวผู้นี้ ทั้งที่ตัวเขาไม่เคยนอนหลับต่อหน้าคนอื่นเลยแม้แต่ครั้งเดียว กระทั่งมีนาผู้เป็นแฟนเก่าของเขาก็ตาม
“ของว่างครับคุณมุก”
“ขอบคุณค่ะ”
“รอนายตื่นก่อนนะครับ นายคงจะเพลียมากจริงๆ”
“ไม่เป็นไรค่ะ เห็นคุณเรย์บอกว่าเมื่อวานหลังจากส่งมุกเสร็จคุณเรย์ก็มาที่นี่เลยค่ะ”
“ส่งคุณมุกเหรอครับ”
“ใช่ค่ะ เมื่อวานคุณอีธานเมาค่ะ คุณเรย์เลยไปส่งมุกแทน”
“อ๋อ ครับ ตามสบายนะครับ ผมไปทำงานก่อน ถ้ามีอะไรก็เรียกผมได้เลยนะครับ”
“ค่ะ ขอบคุณค่ะ”
ฟาริดาพยักหน้าแล้วยิ้มขอบคุณอีริค เธอรอจนเขาออกจากห้องไปจึงหยิบโทรศัพท์ออกมาเล่นเพื่อฆ่าเวลา
เป็นเวลาเกือบชั่วโมง กว่าที่เอลเลริคจะสะดุ้งตื่น เขาแอบสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อนึกขึ้นได้ว่าเขาทิ้งให้ฟาริดาอยู่ในห้องคนเดียว ดวงตาคมดุกวาดมองหาร่างบอบบางของหญิงสาวก็เจอเธอเอนกายหลับอยู่บนโซฟาตัวเล็กข้างๆ
มือหนายันกายลุกขึ้นนั่ง ขยับตัวเข้าไปอุ้มร่างเล็กเข้าสู่อ้อมแขน แล้วค่อยๆวางหญิงสาวลงบนโซฟาตัวยาวที่เขาเพิ่งใช้นอนเมื่อสักครู่ แต่เดิมตั้งใจว่าจะให้เธอได้นอนสบาย แต่ก็พลันได้มองสบกับดวงตากลมโตที่เปิดขึ้นมาเสียก่อน
“ตื่นแล้วเหรอครับ”
“ค่ะ” หญิงสาวรับคำแก้เก้อ เธอเผลอหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้
“ล้างหน้าล้างตาหน่อยไหมครับ จะได้สดชื่น แล้วผมค่อยไปส่งคุณ”
“ได้ค่ะ”
“ใช้ห้องน้ำผมก็ได้ จะได้ไม่ต้องออกไปข้างนอก”
ใบหน้าคมพยักส่งสัญญาณว่าห้องน้ำอยู่ที่ไหน ฟาริดาพยักหน้าแล้วลุกขึ้น เธอเดินหายเข้าไปในห้องน้ำไม่นานก็กลับออกมา มือเล็กใช้ผ้าเช็ดหน้าซับน้ำที่เกาะอยู่บนใบหน้าไปพลางหย่อนกายนั่งลง
“บ่ายแล้ว คุณหิวไหม”
“ไม่ค่อยค่ะ ปกติฉันก็ทานอาหารไม่เป็นเวลาอยู่แล้ว”
“งั้นไปทานที่ร้านคุณแล้วกันนะ”
“ได้ค่ะ”
สองหนุ่มสาวคุยกันแบบเรียบง่ายราวกับรู้จักกันมานาน ก่อนจะพากันเดินออกจากห้องไปท่ามกลางสายตาของอีริคที่มองผู้เป็นเจ้านายด้วยความรู้สึกแปลกใจ