4. หวง หรือแค่ ห่วง

1744 คำ
จากวันนั้นแพรไหมก็หลบหน้าทิวากรจนเขาไม่ได้เจอเธอเลยถึงสี่วัน ทั้งที่อยู่คอนโดเดียวกันแท้ๆ นั่นเพราะอีกฝ่ายกลัวใจตัวเองมันจะทนเก็บความรู้สึกเอาไว้ไม่ไหว แต่สุดท้ายเธอก็หนีไม่พ้นจนได้ เพราะวันนี้เป็นวันเกิดของเขาที่ยังไงแพรไหมก็ต้องไปร่วมงาน 20:00 ทิวากรนั่งนิ่งรอเพื่อนสาวที่บอกว่าจะมา แต่ป่านนี้ก็ยังคงเงียบไม่เห็นหน้าสักที ตลอดสี่วันเขาพยายามที่จะลงมาให้เร็วที่สุดแต่ก็ไม่เจออีกฝ่ายเลย จนคิดว่าแพรไหมคงไม่ได้นอนที่นี่แน่ เขาไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงหายไปดื้อๆ จะคิดว่าอีกฝ่ายหลบหน้าก็หาเหตุผลที่สมควรไม่ได้เลย ทั้งที่ควรจะเป็นเขามากกว่าที่ทำแบบนั้น เพราะดันคิดไม่ซื่อกับเธอซะได้ ยิ่งได้เข้าใกล้มันก็ยิ่งห้ามตัวเองไม่อยู่ ก่อนนี้อยู่ห่างกันก็พอทำใจได้ คิดว่ายังไงก็ยังสามารถจัดการกับความรู้สึกตัวเองได้ แต่พอกลับมาเจออีกครั้งทุกอย่างมันก็ยิ่งชัดเจนขึ้น เขาชอบแพรไหมและคงชอบมานานตั้งแต่เรียนมัธยมอยู่ด้วยกันแล้ว จนบางทีเขาคิดว่ามันอาจมากกว่านั้นไปแล้วก็ได้ ถึงไม่เสียใจเรื่องที่รมิตาถอนหมั้นเมื่อปีก่อน “รอไอ้ไหมอยู่ล่ะสิ” อาทิตย์ถามขึ้นเมื่อเห็นว่าเพื่อนยังนั่งเงียบอยู่ที่เดิม ทั้งที่ควรจะไปสังสรรค์กับเพื่อนคนอื่นที่มาร่วมงาน ทั้งยังมีดารานางแบบสาวสวยอีกหลายคน “อืม มึงเจอมันบ้างหรือเปล่า กูส่งข้อความหามันก็ตอบแค่ว่ากำลังฝึกงาน ยุ่งมาก” “มันบอกมึงแบบนั้นเหรอ” อาทิตย์ถามเพื่อนพร้อมกับคิ้วขมวดเข้าหากัน เพราะดูเหมือนทิวากรจะไม่รู้ว่าเพื่อนสาวฝึกงานที่บริษัทตัวเอง “เออ ฝึกงานอะไรจะยุ่งขนาดนั้นวะ” “สงสัยบริษัทมึงคงโยนงานให้เด็กฝึกแหง” “อะไรนะ นี่ไหมฝึกงานที่บริษัทกูเหรอ ที่ไหนวะ” “เหอะ! คนรวยก็งี้เปิดบริษัทเยอะแยะจนไม่รู้ว่าเพื่อนฝึกงานที่ไหน กูบอกให้เอาบุญก็ได้ T.w. กรุ๊ป” ยิ้มร้ายผุดขึ้นทันที ไม่แปลกที่เขาจะไม่รู้ เพราะบริษัทในเครือมีมากกว่าห้าแห่งที่เขาบริหาร “แหม คุณทิวากรทำไมมานั่งอยู่ตรงนี้ล่ะคะ เพียงตามหาตั้งนาน สุขสันต์วันเกิดนะคะ” เพียงฟ้าดาราสาวสวยเดินเข้ามานั่งข้างหนุ่มหล่อพร้อมกับยกแก้วเชิญชวนอีกฝ่ายทันที เป็นจังหวะเดียวกันที่เพื่อนสาวมาถึง และกำลังเดินตรงมาหาทั้งคู่ ทำเอาสองหนุ่มอดที่จะมองเพื่อนสาวอย่างตะลึงไม่ได้ เพราะวันนี้เธอแต่งตัวด้วยเสื้อเอวลอยสีดำรัดรูป โชว์หน้าท้องขาวเนียนน่าสัมผัส และหน้าอกที่มันอึ๋มจนน่าฟัด บอกเลยว่าเธอน่ามองกว่านางแบบและดาราสาวสวยในห้องนี้ซะอีก ผมที่เคยมัดกระจุกด้านบนก็ถูกปล่อยลงมาแล้วม้วนปลายเซ็กซี่กระชากใจ ปากอิ่มถูกแต่งแต้มด้วยลิปสติกสีแดงจางๆ เพราะแพรไหมไม่ชินถ้าจะทาจนแดงแป๊ด “ขอโทษที่มาช้านะทิว พอดีไหมมัวแต่หามือถืออยู่” แพรไหมพูดขึ้นอย่างสำนึกผิด พร้อมกับยื่นของขวัญให้เพื่อนสนิทอย่างทิวากร แล้วถอยออกมานั่งข้างอาทิตย์ แต่สายตาก็ไม่ได้มองไปที่เจ้าของงานเลยสักนิด “แหม! มิยักรู้ว่าคุณทิวากรจะมีเพื่อนเป็นผู้หญิงด้วยนะคะ แบบนี้ขอพื้นที่ให้เพียงด้วยได้ไหม” เสียงหวานเอ่ยออดอ้อนจนแพรไหมนึกหมั่นไส้ไม่ได้ แต่ก็จำต้องยิ้มและหันมาพูดคุยกับอาทิตย์แทน “เป็นไงฝึกงานยุ่งมากเหรอ เห็นไอ้ทิวบอก” “ก็นิดหน่อย คืนนี้คงอยู่ดึกไม่ได้นะ พรุ่งนี้ต้องเตรียมเอกสารประชุมช่วยพี่อุษา” “อ่อ งั้นเหรอ” อาทิตย์พูดขึ้นพร้อมกับเหล่ไปที่เพื่อนสนิท ซึ่งมันยังคงนั่งทำหน้านิ่งอยู่เหมือนเดิม ถึงดาราสาวจะคลอเคลียจนไม่อายสายตาของคนอื่น บางคนก็ยกมือถือขึ้นมาถ่าย เพราะเธอถือว่าเป็นดาราดังคนหนึ่ง “ถ้ารีบขนาดนั้นจะกลับเลยก็ได้นะ กูไม่ว่า” ทิวากรพูดขึ้นเสียงเรียบ ทำเอาคนฟังถึงกับชะงักไป ก่อนจะหันกลับมาหาคนที่ตอนนี้กลับมาสนใจคนข้างๆ แล้ว เขาเอามือลูบขาเรียวขาวของเพียงฟ้าพร้อมกับบีบ “อ่ะ!! คุณทิวากรอย่าสิคะ เดี๋ยวเพียงมีอารมณ์” “มีก็ดีสิครับ ผมจะได้รีบแกะของขวัญซะที” เขาพูดขึ้นอย่างที่คิด เพราะอีกฝ่ายเป็นคนเสนอเองว่าจะแต่งชุดวันเกิดเพื่อมอบให้เป็นของขวัญ ทำเอาแพรไหมถึงกับสะอึกเมื่อได้ยินคำพูดจากปากของคนที่เธอแอบชอบ แต่จะทำอะไรได้ล่ะ ในเมื่อทุกอย่างเธอคิดเองฝ่ายเดียว “อืม งั้นกูกลับเลยแล้วกัน ของขวัญก็ให้แล้วนี่” แพรไหมลุกขึ้นจากโซฟา อาทิตย์รั้งมือเรียวเอาไว้อย่างที่เขาไม่เคยทำมาก่อน ทำให้แพรไหมขมวดคิ้วเข้าหากันด้วยความสงสัยในพฤติกรรมเพื่อนทันที “เดี๋ยวกูไปส่ง แต่งตัวแบบนี้คงลงไปไม่ถึงไหนแน่” “เฮ้ย! ไม่เป็นไรตอนมายังมาได้ ขากลับก็ต้องได้ไหมมึง อีกอย่างกูจะลงไปหาพวกพี่ที่แผนกข้างล่างด้วย พี่เอ็มมาเลี้ยงวันเกิดเหมือนกัน” “เอ็มไหน!!” เสียงประสานดังขึ้นทันทีเมื่อเพื่อนสาวพูดจบ ทำเอาแพรไหมอดไม่ได้ที่จะหันไปมองเพื่อนทั้งสองคน ซึ่งนั่งอยู่กันคนละฝั่ง แต่เธอก็ต้องรีบหันกลับมาที่อาทิตย์ เพราะไม่อยากเห็นภาพบาดตา ซึ่งดาราสาวนั่งตัวติดกันกับทิวากรจนแทบจะสิงกันอยู่แล้ว “พี่ที่บริษัทนั่นแหละ กูไปล่ะ” “ถ้ามึงก้าวออกไป กูจะยกเลิกงานเลี้ยง” เพียงเท่านั้นร่างเพรียวก็ชะงัก พร้อมกับหันมาจ้องเจ้าของงานซึ่งนั่งมองมามิว่างตา แพรไหมหันกลับมาที่เพื่อนสนิทอีกคน ซึ่งมันก็พยักหน้าให้เป็นเชิงเห็นด้วยกับความคิดของทิวากร “อะไรของพวกมึงเนี่ย” แพรไหมบ่นออกมาก่อนจะนั่งลงตามเดิม ทำให้เห็นรอยยิ้มของคนตรงข้ามเผยออกมาอย่างชอบใจ อย่างน้อยเพื่อนสาวก็ไม่ได้เดินหนีไปอย่างไม่แคร์ ตอนแรกก็กลัวจะเป็นแบบนั้น แต่พอเห็นเธอนั่งลงก็รู้สึกเบาใจขึ้น ก่อนจะหันมาสนใจคนข้างตัวต่อ โดยไม่รู้ว่ามีสายตาของใครบางคนมองอยู่อย่างเจ็บปวด “หิวหรือเปล่า เดี๋ยวกูไปตักอะไรให้กิน” “กูไปด้วยไม่อยากอยู่ตรงนี้” แพรไหมลุกตามอาทิตย์ แต่ยังไม่พ้นมุมโซฟาเลยสักนิด ก็ถูกเสียงเข้มทักขึ้นอีก “มึงสองคนจะไปไหนกัน” “กูหิว จะไปหาอะไรกิน อีกอย่างไม่อยากดูหนังสด” เป็นเสียงของแพรไหมที่ตอบอีกฝ่าย พร้อมกับเดินหนีไปยังโซนที่มีอาหารอยู่ แต่ก็แค่เล็กน้อยเพราะภายในห้องไม่ได้มีแขกมางานมากนัก นับได้ก็ไม่ถึงสามสิบคนด้วยซ้ำ เพราะเจ้าภาพเชิญมาแค่นี้ แม้จะมีหลายคนที่อยากเข้ามายังห้อง vip นี้ก็เถอะ ทิวากรนิ่งไปเพราะไม่คิดว่าจะได้ยินคำตอบนี้จากเพื่อนสาว มันทำเอาใจเขาวูบไหวยังไงไม่รู้ แต่ก็นั่นแหละเขาคิดว่าเธอแค่หมั่นไส้เท่านั้น แต่ถึงอย่างนั้นสายตาเขาก็ยังคงจับจ้องที่เธอไม่ลดละ แม้คนข้างกายจะสอดมือเข้าไปในเสื้อเชิ้ตแล้ว “ดูคุณอาทิตย์จะเป็นห่วงเพื่อนมากเลยนะคะ” “ไหม เธอไม่มีใครนอกจากผมกับไอ้ซัน เราโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก 4-5 ขวบ คุณคิดว่ายังไงล่ะครับ” “อุ๊ย! ดีจัง แบบนี้ก็รักกันมากกว่าพี่น้องอีกสิคะ เพียงไม่แปลกใจแล้วว่าทำไมพวกคุณถึงดูแลเธอดีขนาดนี้” เพียงฟ้าพูดขึ้น แม้ในใจจะนึกอิจฉาอยู่มากก็เถอะ เพราะได้เป็นเพื่อนสนิทกับทายาทหมื่นล้านทั้งคู่ หากเป็นเธอสองคนนี้คงไม่รอดมือแน่ ไม่รู้ว่าแพรไหมโง่หรือบื้อถึงได้ยอมเป็นแค่เพื่อนแบบนี้ ทั้งที่สวยหน้าตาดีกว่านางเอกละครบางคนเสียอีก “ไหมเป็นเพื่อนที่ดี ก็ต้องดูแลดีธรรมดาครับ” “เคยคิดวอกแวกบ้างไหมคะ เธอสวยขนาดนี้” ทิวากรเงียบไปเมื่อเจอคำถามนี้ ทำเอาเพียงฟ้ายิ่งอยากรู้คำตอบเข้าไปอีก เพราะเธอเห็นว่าอาทิตย์ดูท่าจะใส่ใจเพื่อนสาวเอามากๆ จนไม่น่าจะคิดแค่เพื่อนแล้ว “เราสามคนเป็นเพื่อนกันมานาน คงไม่มีวันเป็นอย่างอื่นไปได้หรอกครับ แค่ดูแลกันแบบนี้ก็พอ” “แหม!! แต่เพียงว่าเพื่อนอีกคนของคุณคงไม่คิดแบบนั้นมั้ง ดูสิถ้าเคี้ยวอาหารป้อนได้คงทำไปแล้ว” เธอส่งสายตาให้ทิวากรมองเพื่อนทั้งสองคน ที่ตอนนี้ทั้งคู่ยืนหัวเราะต่อกระซิกกัน และมีเก่งและภพภูมิยืนอยู่ในกลุ่มด้วย มันทำเอาเขารู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาดื้อๆ คงเป็นเพราะทุกคนทิ้งเขาไว้คนเดียวล่ะมั้ง นั่นคือสิ่งที่ทิวากรยกขึ้นมาค้านความรู้สึกในตอนนี้ “ก็เป็นปกตินะครับ เพราะบางทีเราก็นอนห้องเดียวกันด้วยซ้ำ ไม่แปลกที่คุณจะเห็นพวกเราสนิทกันขนาดนี้” ทิวากรตอบโดยไม่ได้มองหน้าคนที่นั่งอยู่ข้างตัวสักนิด ปกติเขาจะไม่พูดเยอะกับคนอื่นแบบนี้ แต่พอพูดถึงเพื่อนสาวขึ้นมา ก็มักจะควบคุมตัวเองไม่อยู่ประจำ “ถ้าไงผมขอตัวก่อนนะครับ อ่อ แล้วก็ของขวัญไม่ต้องแล้วนะผมไม่ต้องการ” ทิวากรตอบก่อนจะเดินตรงไปหากลุ่มเพื่อน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม