ตอนที่ 9
คนคุ้นเคย
ปลายฝัน ใช้เวลาพูดคุยต่อกับ หลิน เพื่อนสนิทอีกสักพัก เพื่อให้แน่ใจว่า ทีมของวีเคกรุ๊ปและใครคนนั้นกลับไปแล้ว ด้วยตอนนี้เธอไม่อยากจะเผชิญกับเขาตรงๆเท่าใดนัก ยิ่งนึกถึงสายตาคมเข้มภายในแว่นตาที่คาดยังใบหน้าหล่อเหลาที่จ้องมองมาตลอดในห้องประชุมนั้น ก็ทำเธอหายใจเริ่มจะติดขัด
“ฉันไม่รู้เลยนะเนี่ยว่าความจริงลูกค้าแก จะเป็นวีวินบริษัทที่พี่เป้ทำงานอยู่”
หญิงสาว บ่นเล็กน้อย ขณะเปิดดูแคทตาล็อคสารพัดสินค้าต่างๆที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เซ็กซ์ทอย พลันสองแก้มของเธอก็ผ่าวร้อนขึ้นมา
แต่ละอย่าง! จะต้องบรรยายกันขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย!
“ตอนแรกฉันก็ไม่รู้ เพราะคุณปานวาดเป็นคนดีลติดต่อมาผ่านทีมการตลาดของฉันน่ะ แต่พอมารู้โจทย์แบบนี้ฉันนึกถึงคนอื่นไม่ได้เลย ว่างานเขียนร่วมแนวนี้กับทีมพีอาร์ยังไงก็ต้องเป็นแกว่ะปราย!”
“อือ ขอบใจนะที่คิดถึงฉัน”
แม้จะเขียนนิยายอีโรติกมาหลายเรื่อง แต่บทความเชิงธุรกิจในลักษณะนี้ เธอก็ยังไม่เคยทำเหมือนกัน นับว่าเป็นงานที่ท้าทายอยู่พอสมควร
“ไม่ต้องเครียดน่า นัดดูเลย์เอ๊าทอีกทีเดือนหน้าเลย เรายังมีเวลาครีเอทงานได้ แต่ยังไงข้อมูลทั้งหมดนอกเหนือจากนี้ฉันจะส่งให้ แกจะได้ครีเอทงานเขียนออกมาได้”
หลิน คุยต่อกับเธอสักพัก ก่อนจะขอตัวเพื่อประชุมกับทีมงานต่อ ปลายฝันจึงต้องเดินออกจากห้องประชุม ด้วยคิดว่าคงต้องรีบกลับบ้าน เพื่อไปทำสมาธิหลายอย่างสำหรับงานเขียนที่ยิ่งใหญ่นี้
และป่านนี้ ทีมวีเคกรุ๊ปคงน่าจะกลับไปแล้ว
เธอจึงเดินปรี่มายังลานจอดรถด้านข้าง เพื่อตรงไปยังรถอีโคคาร์คันเล็กของตัวเอง
ทว่าหญิงสาวก็ต้องประหลาดใจ จนกุญแจรถแทบจะหล่นจากมือ เมื่อเห็นร่างหนาของประธานวีเคกรุ๊ป ยืนเอามือกอดอกพิงกับรถคันเล็กของเธอ หน้าหล่อเหลานั้นสว่างเจิดจ้าเมื่อจ้องมองเธอด้วยแววตามีเลศนัย
“คะ..คุณปุณณ์”
“ครับ”
“อะ..คือ มีอะไรจะคุยกับปรายรึป่าวคะ พอดีปรายต้องกลับบ้านแล้วค่ะ คือรถคันนี้เป็นรถปรายเองค่ะ”
ปลายฝัน บอกเขาอย่างสุภาพ เมื่อกดรีโมทเปิดรถจนดังปิ๊บๆแล้ว ทว่าร่างหนานั้นก็ยังคงยืนพิงกับประตูรถฝั่งคนขับ โดยไม่คิดจะขยับออกแม้แต่น้อย ทำให้เธอไม่สามารถจะเปิดประตูรถได้
“อ้าวเหรอครับ”
หน้าหล่อเหลาทำหน้าฉงนเล็กน้อย แม้จะขยับตัวทว่าก็ยังบังประตูรถอีโคคาร์คันเล็กของเธอจนมิดอยู่ดี จนคิ้วเรียวสวยของหญิงสาวต้องย่นเข้าหากัน
“คุณปุณณ์คะ”
เธอต้องส่งสายตาเตือนเขาอีกรอบ จนมุมปากหยักได้รูปของปุณณ์ยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย
“จะกลับบ้านเลยเหรอครับ?”
“ใช่ค่ะ”
“งั้นผมขอติดรถกลับบริษัทด้วยได้มั้ยครับ เป็นทางผ่านไปบ้านคุณพอดี วันนี้ผมไม่ได้เอารถมา”
เขาพูดหน้าตาเฉย จนปลายฝันต้องขมวดคิ้วเข้าหากัน
ระดับประธานบริษัทวีเคกรุ๊ปนี่นะ! ถึงเขาไม่ได้เอารถมา แต่เขาก็มีรถกับคนขับที่พร้อมจะบริการให้เขาตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงอยู่แล้ว อย่าบอกนะว่ะเขารอเธอเพื่อจะนั่งรถกระป๋องเล็กๆนี่กลับ
ไม่ใช่ละ! “คุณปุณณ์รอปราย เพื่อจะกลับรถปรายเหรอคะ”
“ใช่ครับ”
ปุณณ์ ตอบเสียงราบเรียบ ดวงตาคู่สีนิลเข้มหรี่มองคนตรงหน้าอย่างลุ่มลึก นึกขอบคุณความบังเอิญหลายอย่างที่แสนจะโชคดี จนเขารู้สึกดีใจที่เลือกจะมาบรีฟงานที่ดับบลิวอาร์ด้วยตัวเองในวันนี้
“ระ..รอปราย”
คนตัวเล็กเหมือนจะติดอ่างชั่วขณะ เมื่อได้ฟังคำตอบของเขา จนปุณณ์ต้องอมยิ้มมุมปากกับท่าทีของเธอ
“ทำไมละครับ วันนั้นผมยังไปส่งเป้ที่บ้านได้เลย คุณปรายจะไม่กรุณาไปส่งผมที่บริษัทหน่อยเหรอครับ ในเมื่อวันนี้ผมไม่มีรถกลับ”
เสียงพูดเอื่อยเฉื่อยนัก ทว่าเขาไม่รอให้เธออนุญาต ชายหนุ่มขยับตัวแล้วเดินอ้อมไปอีกฝั่ง ก่อนจะเปิดประตูรถด้านที่นั่งข้างคนขับแล้วเข้าไปนั่งอย่างรวดเร็ว “เข้ามาซิครับ สตาร์ทรถแล้วเปิดแอร์ด้วย ด้านนอกมันร้อน ผมยืนรอคุณตั้งนาน”
ใครบอกให้เขารอกันเล่า!
อีกอย่างเธอเห็นมินิแวนคันหรูของวีเค เพิ่งจะเคลื่อนตัวออกไป ทำไมเขาจะต้องมายืนรอเพื่อจะนั่งรถเธอ แต่เมื่อนึกถึงวันที่เขาไปส่งพี่ชายเมื่อวันก่อน เธอก็จำต้องรีบเข้ามานั่งหลังพวงมาลัยและสตาร์ทรถทันที
“ก็ได้ค่ะปรายจะไปส่งคุณปุณณ์ที่ออฟฟิศวีเค”
เธอบอกเขาก่อนจะหรี่ไปมอง เมื่อเห็นท่อนขายาวในกางเกงชิโนเนื้อดีนั่งงอเป็นตัวกุ้ง จนเธอต้องกลั้นยิ้มออกมา
“เลื่อนเบาะไปข้างหลังก็ได้ค่ะ จะได้นั่งสบายรถของปรายคันเล็ก ปกติไม่ค่อยมีใครมานั่งตำแหน่งนี้ค่ะ”
“ดีจัง ผมเป็นคนแรกของคุณ”
ถ้อยคำของเขา ทำเอาสองแก้มของเธอผ่าวร้อนขึ้นมา
คนแรกของเขา คงไม่ได้หมายถึงเรื่องนั้นหรอกนะ!
“ปะ...เปล่าค่ะ บางทีพี่เป้หรือเพื่อนๆก็มานั่งบ้าง”
“ผมไม่ได้หมายถึงเรื่องนี้สักหน่อย”
แล้วเขาหมายถึงเรื่องอะไรกันเล่า!
“คุณปุณณ์คะ”
“ครับ”
“คือปรายไม่รู้ว่าวีวินคือบริษัทในเครือของคุณ และไม่คิดว่าจะต้องมาทำงานร่วมกันกับคุณ”
เธอสูดหายใจเข้าปอดลึกๆ กลั้นใจที่จะเอ่ยเจรจากับเขาตรงๆ เพราะในเมื่อเซ็นต์สัญญาทำงานแล้ว เธอต้องเดินหน้าต่ออย่างมืออาชีพเท่านั้น
“ผมก็ไม่ทราบมาก่อน”
“เพราะฉะนั้นเราจะทำงานกันอย่างมืออาชีพ โดยไม่เอาเรื่องส่วนตัวมาปะปนเด็ดขาด และคาดว่าคุณปุณณ์จะไม่ลืมสัญญาที่คุยกันไว้เมื่อวันก่อนนะคะ”
หน้าหล่อเหลานิ่งไปสักพัก
“ผมไปสัญญาอะไรกับคุณตอนไหนครับ?”
ว่าละ!! เขามันหมาป่าหุ้มหนังแกะห่อทับด้วยมายองเนสเคลือบน้ำตาลอีกที
แค่หน้าตาและแววตากรุ่มกริ่มก็เชื่อใจไม่ได้แล้ว
“เรามาตกลงกันดีกว่าค่ะ ว่าเราจะไม่พูดถึงเรื่องคืนนั้น และจะต้องไม่มีใครรู้ความสัมพันธ์คืนนั้นของเรา”
ปลายฝันพูดในสิ่งที่ต้องการจะสื่ออย่างชัดเจน
คิ้วหนาของ ปุณณ์ เลิกสูงขึ้น
“ทำไมถึงกลัวคนอื่นจะรู้ขนาดนั้นกัน”
ที่ผ่านมาผู้หญิงที่เคยขึ้นเตียงกับเขาล้วนอยากจะเปิดเผยตัวตนแทบทั้งสิ้น แล้วแม่เสือสาวในร่างแมวน้อยนี่ทำไมถึงดูรังเกียจเขานัก
“คือปรายบอกไปแล้วว่าไม่อยากให้ใครรู้ หวังว่าคุณจะทำตามความต้องการของปราย และเพื่อให้งานของเราเดินต่อไปได้อย่างราบรื่นไม่ติดขัด”
“ก็ได้ครับ”
เขาเอ่ยเสียงราบเรียบ นั่นทำให้ปลายฝันค่อยใจชื้นขึ้นมา
ทว่าหน้าหล่อเหลากลับโน้มมาใกล้ จนปลายจมูกโด่งแทบจะชนกับปรางแก้มเนียนของเธอ พร้อมกระซิบเสียงต่ำพร่า
“ผมทำตามนั้นก็ได้ ...แต่ต้องมีข้อแลกเปลี่ยน”
***********