บทที่ : ๐๗ แค้นใจ

1323 คำ
กลางดึกคืนวันไหว้ผี ชาวบ้านพากันเข้าหลับนอน จะเหลือเพียงบางส่วนเท่านั้นที่ยังคงนั่งซดเหล้าต้มกันอยู่ รวมถึงไอ้นนท์และลูกสมุนของมันด้วยที่ยังอยู่ "อึก พวกมึงคอยดูนะ กูจะเอาอีทองกวาวมาเป็นเมียให้ได้เลย พวกมึงคอยดูไว้" ไอ้นนท์พูดกับกลุ่มเพื่อนที่กำลังก๊งเหล้าด้วยกัน "แล้วพี่จะไปทำอะไรได้ นั่นเมียพ่อหมอสมิงเชียวนะ" ไอ้จ๊อยลูกน้องมือขวาพูดขึ้น "หมอผีก็หมอผีเถอะเว้ย แย่งของกูไป คิดว่าจะให้กูเคารพอีกหรือวะ ถุย!" เพราะคิดว่าการดูตัวครั้งนั้นมันหมายความว่าทองกวาวเป็นของตัวเองแล้ว จึงได้ผูกใจเจ็บจนถึงตอนนี้ และไม่ว่าจะเป็นยังไงจะต้องเอาทองกวาวกลับมาเป็นของตัวเองดังเดิมให้ได้ และไม่สนใจคำทัดทานของใครด้วย "มันจะดีเร้อพี่นนท์ พ่อหมอเอาจริงขึ้นมาเราจะซวยนา" "มึงกลัวหรือวะ มันจะมีอะไรกับมัน ผีเผอไม่มีหรอก มีจริงป่านนี้โผล่ออกมาให้เห็นหัวละ นี่อะไรกูเกิดมาจนโตป่านนี้ ยังไม่เห็นผีสักตัว!" ว่าแล้วไอ้นนท์ก็กระดกเหล้าเข้าปากรวดเดียวและกลืนลงคอราวกับน้ำเปล่า "ลูกพี่อย่าพูดอย่างนั้นสิ" ไอ้ยมรีบเขยิบเข้ามาชิดตัวของลูกพี่ด้วยความกลัว สายตาของมันกรอกมองรอบๆ ตัวเองเหมือนระแวง เพราะตรงที่กินเหล้ากันอยู่เป็นไอ้ถุนบ้านไอ้นนท์ แต่ก็มีแค่กองไฟเล็กๆ เท่านั้นที่ให้แสงสว่าง "อะไรของมึง?" "ผีน่ะ อย่าไปพูดถึง พ่อฉันว่ามีจริงนะ ผีบ้านผีเรือนไม่ทำอะไรเราก็จริง แต่ผีป่าผีไพร หากเราพูดลบหลู่เขาจะมาหลอกเราได้"​ "ปั๊ดโถ่! ไอ้ควาย กลัวก็กลับบ้านมึงไป เดี๊ยะๆ" ไอ้นนท์ยกเท้าขึ้นทำท่าเหมือนจะถีบลูกน้อง แต่คงเป็นเพราะความเมาบวกกับตกใจ ไอ้ยมหงายหลังตกแคร่ไปก่อนเรียบร้อยแล้ว "โอย~" "แล้วพี่คิดจะทำไง เรื่องอีทองกวาวน่ะ อีนี่แม่งปากดีฉิบหาย น่าจับทำเมียซะจริง" ผัวะ!!! ฝ่ามือของไอ้นนท์ประเคนไปตรงท้ายทอยของไอ้จ๊อยอย่างแรงเมื่อมันพูดจบ เล่นเอาหัวคะมำไม่เป็นท่าเหล้าในมือหกไม่เหลือสักหยด "อีทองกวาวของกู อย่าเสือก!" "จ้ะๆ ฉันก็แค่คิดแทนน่ะ มันปากดีน่าจับทำเมียให้สิ้นเรื่อง" "เรื่องนั้นกูทำแน่นอนอยู่แล้วล่ะ แค่ต้องรอเวลา รอโอกาสก่อน อีทองกวาวมันต้องเป็นของกูคนเดียวเท่านั้น" "จะว่าไป โตขึ้นมาอีทองกวาวเนี่ยสวยซะจริงนะพี่นนท์ แต่ตอนเด็กๆ แก่นแก้วฉิบหาย" ไอ้ยมพูด "แบบนี้แหละกูชอบ เป็นม้าพยศแบบนี้ เวลาอยู่สองต่อสองคงจะแรงดีไม่น้อย" เพราะเหล้าที่ดื่มกันเข้าไป ทำให้ทั้งสามเริ่มเมามายไม่ได้สติ ไอ้นนท์เริ่มนึกฝันไปถึงตอนที่มันได้เป็นผัวเป็นเมียกับทองกวาว เพราะเธอสวย สวยกว่าผู้หญิงที่มันไปได้มา สวยกว่าใครๆ ในหมู่บ้าน ผิวพรรณงามผุดผ่องเนียนสวย สมกับที่แตกเนื้อสาว ตอนเด็กๆ ตีกันแทบตาย ทองกวาวเปรียบเสมือนม้าพยศไม่เกินจริง แก่นแก้วปากจัดใครเทียบไม่ติด แถมยังตีต่อยกับพวกไอ้นนท์ได้ทุกวี่ทุกวัน ตัวเล็กสู้ไม่ได้แต่ก็ไม่ยอมแพ้หรอก เพราะทองกวาวมันไม่ชอบให้ใครมารังแกตัวเองหรือเพื่อนอย่างก๊อ คงได้เห็นดีกันไปข้างแหละ เพราะแบบนี้ ทองกวาวถึงได้ไม่ชอบหน้าของไอ้นนท์เลย ถึงมันจะหน้าตาดี มีพ่อที่มั่งมี แต่มันก็ไม่ได้อยากได้เลยสักนิด "อึก พี่นนท์แล้วพี่จะไปแย่งอีทองกวาวมายังไง?" ไอ้จ๊อยถามขึ้นมา "กูก็ต้องทำให้มันเป็นหมาจนตรอกสิวะ เอาให้มันต้องมาขอร้องกูให้ช่วยเหลือ" พูดอย่างมั่นอกมั่นใจ "ยังไงรึพี่นนท์ คนอย่างอีทองกวาวเนี่ยนะจะจนตรอก ถึงมันจะจนตรอกฉันว่ามันคงไม่มาหาพี่หรอก" ไอ้ยมเริ่มพูดไม่เข้าหูอีกแล้ว แต่คราวนี้ไม่ได้โดนประเคนฝ่ามือ "งั้นก็ทำให้มันจนตรอกจนต้องมาหากูสิวะ" "???" ลูกน้องคนสนิทสองคนมองหน้ากันโดยที่ไม่ได้นัดหมาย "กูคิดออกแล้ว" "ยังไงรึพี่นนท์" ไอ้จ๊อยถาม "พวกมึงสองคนไปบ้านพ่อหมอแล้วเผาซะ เดี๋ยวกูจะทำทีไปอยู่แถวๆ นั้น บ้านไฟไหม้คงได้วิ่งมาขอให้กูช่วย พอบ้านไหม้หมดหลังมันก็จะไร้ที่อยู่ เดี๋ยวมันก็มาหากูเองแหละ" ไอ้นนท์มันคิดไปเรื่อยตามประสาคนเมา แต่คิดว่าตัวเองรอบคอบแล้ว เลยไม่ได้ไตร่ตรองอะไรให้มันดีกว่านี้ คิดตื้นๆ สมกับเป็นคนเมา "จะดีรึพี่ เผาบ้านพ่อหมอเลยรึ" "นั่นสิ พ่อชุดรู้เรื่องขึ้นมา เราสามคนตายได้เลยนะ" "งั้นก็อย่าให้รู้สิวะ ไอ้พวกโง่ พวกมึงนี่ควายล้วนๆ เลยนะ" พอตกลงกันได้แบบหยาบๆ ตามประสาคนเมา ทั้งสามก็พากันลัดเลาะไปตามป่าที่เป็นทางเดินของชาวบ้าน โดยที่ไอ้ยมเป็นคนเดินนำทางพร้อมกับคบไฟ ไอ้จ๊อยเดินตามหลังและก็ถือคบไฟด้วยเช่นกัน ส่วนไอ้นนท์นั้นเดินอยู่ตรงกลาง เมามายเดินเซจนแทบจะไม่ตรงทางอยู่แล้ว นี่ถ้าสะดุดอะไรขึ้นมาคงได้ล้มหัวคะมำอยู่กันแถวๆ นี้ล่ะ "ถึงยังวะไอ้ยม ไกลฉิบหาย กูเดินจนขามีแต่รอยหนามข่วนละ" "โหยพี่ บ้านของพ่อหมออยู่ท้ายป่าโน่นนะ กลางค่ำกลางคืนแบบนี้ฉันเองก็กลัวเหมือนกัน" "มะ มันจะดีเหรอพี่นนท์ ฉะ ฉันกลัวพ่อหมอทำของใส่" ไอ้จ๊อยพูดเสียงสั่น กลัวโดนผีหลอกก็กลัว แต่ก็กลัวลูกพี่นั้นประเคนฝ่าเท้าหนักๆ ให้เช่นกัน "มึงนี่โง่อีกละ ถ้าคนอย่างมันดีจริงทำไมไม่ทำให้ตัวเองสุขสบายล่ะวะ นอกจากหลอกตาชาวบ้านไปวันๆ" "แต่ตระกูลพ่อหมอนี่มีมาตั้งแต่บรรพบุรษเราเลยนะ" "ก็หลอกตาชาวบ้าน มาตั้งแต่โคตรเหง้าเลยไง" "จริงจ้ะพี่นนท์ พ่อฉันบอกว่าวิชาอาคมของตระกูลพ่อหมอเนี่ยขลังมากเลยนะ ใครโดนของมาให้พ่อหมอแก้ หายชะงักกันทุกราย" "กูไม่เชื่อ" ทั้งสามเดินตามหลังกันมาตามทางของชาวบ้าน มาเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงเรือนหลังใหญ่ที่เป็นเรือนของพ่อหมอสมิง ด้วยความที่อยู่ไกลจากตัวหมู่บ้าน อยู่ติดกับป่ามากที่สุด อากาศรอบๆ ตัวจึงได้เย็นยะเยือกเล่นเอาไอ้จ๊อยและไอ้ยมถึงกับขนลุกขนพองไปตามๆ กัน "ซี๊ด~ ทะ ทำไมเย็นเข้ากระดูกงี้วะ" ไอ้ยมพูดเสียงสั่นๆ "จริงด้วย หนาวฉิบหาย" ไอ้จ๊อยพูดตาม "พวกมึงรีบเข้าไปกันได้แล้ว กูจะยืนรออยู่ตรงนี้" ไอ้นนท์ออกคำสั่งกับลูกสมุนของตัวเอง บ้านของพ่อหมอสมิงตอนกลางวันใครผ่านไปผ่านมาก็นึกเกรงอยู่แล้ว พอตกกลางคืนแบบนี้แล้วมันน่ากลัววังเวงจนบอกไม่ถูก เหมือนจะเป็นบ้านร้างก็ไม่ใช่ เงียบเชียบผิดวิสัยบ้านคน เสียงจิ้งหรีดเรไรที่เคยร้องก็พากันเงียบราวกับว่าพวกมันกลัวอะไรอยู่งั้นแหละ 'เอาวะ เผาก็เผา' ดีกว่าโดนลูกพี่กระทืบจมตีนเป็นไหนๆ อีกอย่างตกกลางคืนแบบนี้ จับมือใครดมไม่ได้หรอก ไม่ยอมรับซะอย่างจะเอาผิดอะไรได้วะ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม