ไทม์อินน์ ไนต์คลับ
“แหม…จะชวนกันมาดื่มทั้งทีหนูดีก็ไม่ติดอะไรหรอกนะ ติดอยู่อย่างเดียวก็คือ…ทำไมต้องมาดื่มที่ไทม์อินน์ด้วย อาทิตย์ถึงศุกร์หนูดีก็ต้องอยู่ที่นี่ คืนวันเสาร์หนูดีก็ยังอยู่ที่ไทม์อินน์อีก ใจคอรักกับหวานจะไม่ให้หนูดีไปเปิดโลกกว้างที่อื่นบ้างเลยเหรอ”
“ก็ที่นี่ได้ลดราคาสิบเปอร์เซ็นต์สำหรับพนักงานนี่นา”
“หวานน่ะ” แสนดีย่นจมูก กะพริบตาถี่ๆ มองแสนหวานอย่างคนที่กำลังแง่งอนทำเอาคนถูกมองอย่างแสนหวานหัวเราะอย่างชอบใจ “ว่าแต่รักเถอะชวนมาดื่มแบบนี้มีอะไรไม่สบายใจหรือเปล่า”
ขอบแก้วใสก้านสั้นที่ด้านในบรรจุน้ำสีอำพันที่ถูกเจือจางจากการผสมด้วยโซดาจรดอยู่ที่ริมฝีปากล่างของแสนรัก ทว่าเมื่อได้ยินประโยคคำถามของแสนดี มือที่เคยถือแก้วก็ค่อยๆ ลดลง
“รักแค่นึกครึ้มอยากดื่มขึ้นมาบ้างไม่ได้หรือไงกัน”
แสนรักบอกปัด เดิมทีก็ตั้งใจจะปรึกษาเรื่องที่กำลังรบกวนจิตใจเธออยู่เหมือนกัน แต่พอเอาเข้าจริงๆ มันก็ค่อนข้างเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนและเธอเองก้รู้สึกกระดากอายขึ้นมา ดังนั้นจำต้องพับเก็บโครงการปรึกษาปัญหากับเพื่อนสนิทเอาไว้ก่อน
“ได้อยู่แล้ว” แสนดีไหวไหล่ก่อนจะหยิบแก้วที่วางตรงหน้าขึ้นมาจิบบ้าง “ในเมื่อดื่มนี้รักเป็นคนจ่าย หนูดีก็ไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้วแหละ”
“รักพูดแบบนั้นเหรอ”
“อื้อ รักพูด รักบอกว่าให้พวกเรามาดื่มเป็นเพื่อนที่เหลือรักจัดการเอง นี่หวานอุตส่าห์บอกปัดดินเนอร์กับคุณเมษฐ์เพื่อมาดื่มกับรักเลยนะ”
แสนหวานกล่าวถึงบารเมษฐ์ที่เป็นทั้งสามีและเจ้านายของเธอ
“งั้นก็โอเค”
แสนรักที่สติสัมปชัญญะกับจิตใจที่ไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัวเท่าไรนักรับคำอย่างง่ายดายทำเอาแสนหวานกับแสนดีลอบอมยิ้มตอนที่หันมาสบสายตากัน
“แต่รักแน่ใจจริงๆ ใช่ไหมว่าไม่ได้มีเรื่องเครียดอะไร”
“ไม่มีสักหน่อย คนอย่างแสนรักจะมีเรื่องอะไรให้เครียดอะ เงินเดือนก็เยอะ วันหยุดก็โอเค รักจะเอาอะไรมาเครียดได้ล่ะ”
แสนรักตอบคำถามของแสนหวานก่อนที่เจ้าตัวจะส่งเครื่องดื่มในแก้วลงคอพลางทำหน้าเหยเกเพราะรสชาติที่ค่อนข้างบาดคอ ทว่าคราวนี้แสนรักตั้งใจจะแค่ดื่มเพื่อให้ลืมเรื่องที่ขุ่นมัวในใจชั่วคราว ไม่ได้ตั้งใจจะดื่มจนเมามายไม่ได้สติจนเหมือนคืนนั้น แค่ผิดพลาดครั้งเดียวก็เกินพอแล้ว
“งั้นก็โอเค หนูดีไม่เกรงใจแล้วนะ”
“เต็มที่เลย ถ้าตังค์รักไม่พอ เดี๋ยวจะขอแปะโป้งเอาไว้ก่อนก็แล้วกัน”
“ไม่ได้สิ แบบนั้นคุณครีย์เอาหนูดีตายแน่” แสนดีเอ่ยถึงชาครีย์เจ้าของไทม์อินน์ ไนต์คลับซึ่งเป็นเจ้านายของเธอ
“เอาตายเลยเหรอ”
“เอ๊ะ หนูดีเอ๊ะเลยนะรัก”
แสนดีว่าพลางหรี่ตามองแสนรักคล้ายจับผิด ในขณะที่แสนหวานกำลังอมยิ้มนิดๆ ระหว่างที่มองแสนรักสลับกับแสนดี
“เอ๊ะอะไรอะ รักพูดผิดตรงไหน ก็ไม่นะ”
แสนรักตอบหน้าตาย แสร้งทำเป็นมองไม่เห็นสายตาที่มองมาคล้ายกำลังจับผิดกันของแสนดี รวมถึงสายตาของแสนหวานที่กำลังมองมานั่นก็ด้วย
“แสนรักไม่ใสนั่นคือเรื่องจริง” แสนดีแสร้งว่า
แสนรักมองเพื่อนทั้งสองก่อนจะอมยิ้มแล้วเอ่ยออกมา
“สามแสนไม่ใสนั่นก็เรื่องจริง”
“อื้อ เคยปฏิเสธที่ไหนล่ะ”
แสนดีหัวเราะคิกคักอย่างชอบใจ รับคำพูดของแสนรักอย่างไม่มีข้อโต้แย้ง
“งั้นมา ชนแก้วกัน ดื่มเพื่อลืมเธอ”
“หวานอยากลืมใครอะ ลืมคุณเมษฐ์เหรอ”
แสนรักแสร้งถามแสนหวานแบบหน้าซื่อตาใส
“รักตอบตัวเองให้ได้ดีกว่าว่าที่ชวนกันมาดื่มแบบนี้เพราะอยากลืมใครหรือลืมอะไรหรือเปล่าน้า”
“นั่นสิๆ หนูดีก็อยากรู้เหมือนกัน อิอิ”
“นี่รุมกันเหรอ” แสนรักแสร้งถามเสียงตัดพ้อ
“เขาเรียกว่าจู่ๆ ก็นึกอยากจะสามัคคีกันขึ้นมาต่างหากล่ะ” แสนหวานว่า
“โดนเพื่อนรังแกฟ้องใครได้บ้าง”
“ฟ้องคุณจีรสิ เจ้านายของรักน่ะ หน้าหล่อ ใจป๋าจะตาย ไม่งั้นจะจ้างรักเป็นเลขาฯ ด้วยเงินเดือนสูงลิ่วขนาดนั้นเหรอ”
แสนดีแซวก่อนจะหันไปยิ้มให้แสนหวาน ทว่าครู่เดียวสองสาวก็ต้องหุบยิ้มฉับ สีหน้าเต็มไปด้วยความงุนงงเมื่อเห็นแสนรักเริ่มเบะปาก
“รัก เป็นไรอะ โกรธพวกเราเหรอ ขอโทษนะ”
“อื้อๆ”
แสนดีรีบสนับสนุนคำพูดของแสนหวาน บางทีพวกเธออาจจะแซวแสนรักแรงไป แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมคราวนี้แสนรักถึงได้ดูอ่อนไหวง่ายนัก พวกเธอแค่กล่าวถึงเจ้านายของแสนรักและสิ่งที่เอ่ยออกไปก็ล้วนเป็นเรื่องจริงทั้งนั้น
“ฮืออออ รักไม่ได้โกรธ”
คราวนี้แสนรักไม่ได้แค่เบะปาก แต่น้ำสีใสยังเอ่อท้นออกมาจากดวงตากลมโตของเธอด้วย แบบนั้นทั้งแสนหวานและแสนดีก็ยิ่งแตกตื่น
“แล้วรักเป็นอะไรบอกพวกเราได้ไหม”
คราวนี้ทั้งแสนหวานและแสนดีต่างมานั่งขนาบข้างซ้ายขวาแสนรัก ต่างลูบที่แผ่นหลังของแสนรักที่กำลังสะอึกสะอื้น
“รัก รักไม่ได้เป็นอะไร แต่ๆ อย่าเพิ่งพูดถึงคุณจีรตอนนี้ได้ไหม รักว่ารักไม่ไหว”
แสนหวานกับแสนดีสบสายตากัน แววตาสะท้อนถึงความคลางแคลงใจอยู่มาก แต่ทั้งคู่ก็เลือกจะทำตามความต้องการของแสนรัก
“ได้สิ พวกเราสัญญาเลย”
“ใช่ๆ”
แสนดีสนับสนุนคำพูดของแสนหวานด้วยท่าทางกระตือรือร้น เมื่อให้สัญญากันอย่างเป็นมั่นเป็นเหมาะ อาการสะอึกสะอื้นของแสนรักจึงค่อยๆ เบาบางลง
“งั้นก็มาดื่มกัน”
“โอเค”
สามสาวต่างยกแก้วขึ้นมาชนกัน แสนดีกับแสนหวานนั้นไม่ได้ดื่มหนักเท่าแสนรัก เพราะทั้งคู่ตั้งใจเอาไว้ว่าคืนนี้ต้องเป็นตัวแบกแสนรักไปส่งที่ห้อง เห็นสภาพของคนที่นอนฟุบหน้ากับท่อนแขนที่วางไปตามแนวยาวของโซฟาไปเรียบร้อยแล้ว แสนหวานจึงหันไปบอกแสนดี
“หนูดี เช็คบิลเถอะ แล้วไปส่งรักที่ห้องกัน”
“โอเค”