คิ้วได้รูปที่พาดเหนือดวงตาเรียวรีขมวดแน่น ปลายนิ้วชี้มือขวาเคาะลงบนโต๊ะทำงานอย่างเป็นจังหวะ ใบหน้าคมคายเต็มไปด้วยความครุ่นคิด เหมือนมีบางสิ่งที่ยังคงติดค้างในใจของเขา เรื่องระหว่างเขากับแสนรัก เขาคงไม่ใช่คนแรกของแสนรักหรอกใช่ไหม เพราะหากใช่เขาต้องรู้สึกผิดมากแน่ๆ
เป็นครั้งแรกที่ความหนักอึ้งฉายชัดบนใบหน้าหล่อเหลา จีรรัชญ์ไม่เคยต้องรับมือกับปัญหาแบบนี้มาก่อน ไม่เคยเลยสักครั้ง ถึงแม้จะรับปากอีกฝ่ายไปแล้วว่าระหว่างเขากับเธอจะไม่มีการเอ่ยถึงเรื่องนี้อีก ทว่าเป็นเขาเองที่สลัดเรื่องนี้ออกไปจากหัวไม่ได้เลย
ลมหายใจพรืดใหญ่ถูกผ่อนออกมาจากร่างสูง จีรรัชญ์จำความรู้สึกในคืนนั้นไม่ได้เลยสักนิด เขาจำได้แค่ว่าเดินกลับขึ้นห้องนอนที่อยู่ชั้นสองไม่ไหวเลยแวะไปนอนที่ห้องพักแขกที่อยู่ชั้นล่าง ทิ้งตัวลงนอนได้ภาพก็ตัดไปทันที เมาขนาดนั้นเขายัง…กับแสนรักได้จริงๆ อย่างนั้นหรือ ให้ตายเถอะ
เรื่องงานไม่เคยทำให้เขาต้องปวดหัวมากขนาดนี้มาก่อน อดไม่ได้ที่จะยกมือขึ้นคลึงขมับ พรูลมหายใจพรืดใหญ่ออกมาอีกระลอก ส่ายศีรษะเล็กน้อยขับไล่ความคิดฟุ้งซ่านที่อยู่ในหัวก่อนจะคว้าเอกสารกองโตมาเปิดอ่าน
แต่ก็เอาเถอะ ในเมื่อเจ้าตัวยืนกรานแบบนั้น เขาจะเก็บมาคิดให้รกสมองทำไมกัน
แจกันดอกไม้ปลิวออกจากมือของจิลลาไปกระแทกเข้ากับผนังห้องนอน เศษกระเบื้องแตกกระจายกองเกลื่อนกลาดอยู่บนพื้นพรม หญิงสาวไม่ได้ให้ความสนใจกับแจกันกระเบื้องราคาแพงใบนั้นเลยแม้แต่น้อย ใบหน้าของเจ้าตัวฉายชัดถึงความโกรธเกรี้ยว แววตาขุ่นมัวไปด้วยเพลิงโทสะ
“จิลจะไม่ยอมให้ผู้หญิงคนไหนมายุ่งกับพี่จีรเด็ดขาด จิลไม่ยอม”
จิลลาระบายโทสะที่ปะทุอยู่ในอกด้วยการกำผ้าปูที่นอนจนยับย่น วันนี้เธอซื้อคุกกี้ธัญพืชของโปรดของจีรรัชญ์ตั้งใจแวะเอาไปให้อีกฝ่ายที่บริษัท ตอนแรกก็นึกแปลกใจอยู่เหมือนกันว่าเลขาฯ หน้าห้องของพี่จีรหายไปไหน ทำไมถึงไม่นั่งอยู่หน้าห้องทำงานของพี่จีรอย่างที่ควรจะเป็น จนกระทั่งเธอได้ยินบทสนทนาเล็ดลอดออกมาจากห้องทำงานของพี่จีร และบทสนทนาของพวกเขาก็ยังฝังแน่นอยู่ในหัวของเธอ ถึงแม้ว่าบทสรุปสุดท้ายที่แสนรักเอ่ยออกมาก็คือตกลงเป็นแค่เจ้านายกับลูกน้องเหมือนเดิมและให้ลืมเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น แต่เธอก็ยังไม่กล้าวางใจ
“เล่นตัวเพื่อเอาไว้ต่อรองกับพี่จีรทีหลังละสิไม่ว่า”
คิดได้แบบนั้นจิลลาก็ยิ่งกำผ้าปูที่นอนแน่นมากขึ้น เธออยากจะกรีดร้องออกมาเพื่อลดไฟโทสะที่ก่อตัวอยู่ในใจแต่ก็เกรงว่าจะมีใครมาได้ยินเข้าจึงทำได้แค่กลั้นเสียงพลางกำหมัดแน่น
“ฉันคงต้องหาทางกำจัดเธอให้ออกไปจากชีวิตของพี่จีรให้ได้แสนรัก”
จิลลาคิดอย่างมาดหมาย แววตาของจิลลาสะท้อนออกมาถึงความเกลียดชัง ราวกับมีลูกไฟขนาดย่อมปะทุอยู่ในดวงตาของจิลลา
“ไม่ว่าเธอหรือผู้หญิงคนไหนก็จะไม่มีทางได้ใกล้ชิดพี่จีรเด็ดขาดไม่มีวัน”
“เฮ้อ”
แสนรักกลับมาถึงห้องตอนราวๆ ทุ่มเศษ ทิ้งตัวลงนั่งบนเตียงนอนในห้องพักพร้อมกับโยนกระเป๋าสะพายไปที่กลางเตียงอย่างไม่ใส่ใจนัก วันนี้เธอได้คุยกับคุณจีรแล้ว จะว่าโล่งอกก็ไม่ใช่จะว่ายังหนักใจอยู่ก็ไม่เชิง แสนรักไม่เข้าใจความรู้สึกของตัวเองเลยสักนิด
“เราจะเป็นเลขาฯ ของคุณจีรโดยไม่รู้สึกอะไรจริงๆ อย่างนั้นหรือ”
นั่นคือคำถามที่วนเวียนอยู่ในหัวของแสนรักมาค่อนวันและมันก็เกิดขึ้นหลังจากที่เธอได้พูดคุยกับจีรรัชญ์ เดิมทีแสนรักก็ตั้งใจจะตีมึนทำประหนึ่งว่าไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นระหว่างเธอกับจีรรัชญ์ ไม่มีใครรู้ก็เท่ากับไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้นทว่าพออีกฝ่ายรู้เรื่องจากการโป๊ะแตกอย่างไม่ตั้งใจของเธอ แสนรักก็รู้สึกกระอักกระอ่วนใจขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ รู้สึกแปลกๆ ในอกอยู่เหมือนกันตอนที่พูดออกไปแบบนั้น
“ค่ะ รักแน่ใจ ระหว่างรักกับคุณจีรเป็นแค่เจ้านายกับลูกน้องเหมือนเดิม แค่นั้นเลยค่ะ”
ถอนหายใจออกมาอีกระลอกก่อนจะลุกไปอาบน้ำ แสนรักหวังว่าสายน้ำเย็นๆ จะช่วยสลัดเรื่องราวที่กำลังปั่นป่วนความรู้สึกนึกคิดของเธอให้หายไปหรืออย่างน้อยก็ให้เบาบางลงสักหน่อยก็ยังดี
และแสนรักก็รู้ว่าทั้งหมดทั้งมวลคงต้องใช้เวลา และเธอก็แค่ต้องตีมึนต่อไปว่าไม่ได้รู้สึกอะไรเลยแม้แต่กระผีกเดียวทั้งที่ความรู้สึกที่แท้จริงของเธอไม่เหมือนเดิม
ไม่มีอะไรเหมือนเดิมอีกแล้ว